ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับลูกสาวแบบคร่าวๆก่อนนะคะ
เราพบความผิดปกติของน้องตอนน้องอายุ2ขวบค่ะ น้องพูดช้า ไม่มองหน้าไม่สบตา อารมณ์เสียหงุดหงิดค่อนข้างเยอะ กล้ามเนื้อมัดเล็กไม่แข็งแรง คุณหมอที่ดูแลเรื่องฉีดวัคซีนแนะนำให้เราปรึกษาคุณหมอพัฒนาการ สรุปว่าน้องเป็นออทิสติก ตอนนั้นเราเครียดมาก แต่ก็ยังมีความโชคดีที่เราได้คิวคุณครูสอนพัฒนาการเร็ว
เวลา1ปีเราพาลูกไปฝึกที่โรงพยาบาลอาทิตย์ละ4วัน วันละ1ชั่วโมง ยอมรับว่าค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ต้องยอมกัดฟันสู้ค่ะ อยากให้น้องพัฒนาให้ได้มากที่สุด
พอน้องอายุ3ขวบ เรากับคุณครูสอนพัฒนาการเห็นเหมือนกันว่าน้องพัฒนาขึ้นมาก สามารถไปโรงเรียนได้ อยากให้เค้าเข้าสังคมได้เรียนรู้จากเด็กปกติ เราตะเวนหาโรงเรียนย่านฝั่งธนหลายโรงเรียน จนได้โรงเรียนอนุบาลเล็กๆแถวสวนผักที่ยินดีรับน้องเข้าเรียน เราให้น้องเริ่มเรียนระดับเตรียมอนุบาลก่อน น้องเลยมีอายุมากกว่าเด็กคนอื่น1ปี ยังไปฝึกที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
น้องยังเขียนไม่คล่องเพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กไม่แข็งแรง จับดินสอแบบกำมือจนถึงอนุบาล1 เราจะคอยupdateกับคุณครูบ่อยๆว่าตอนนี้น้องเป็นยังไง ฝึกอะไรบ้าง อะไรที่ทำได้หรือยังทำไม่ได้ น้องยังไม่ค่อยเล่นกับเพื่อน ยังชอบเล่นคนเดียวหรืออยู่กับคุณครู อาจเพราะน้องยังพูดไม่คล่อง สื่อสารยังไม่ตรงความหมาย อารมณ์ขึ้นลงง่าย มีกรี๊ดโวยวายแต่ไม่ทำร้ายใครนะคะ ฝึกพูดเพิ่มเติมกับคุณครูฝึกพูดโดยตรง
น้องพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ ผลการเรียนค่อนข้างดี ต้องยกความดีความชอบให้คุณครูทุกๆคนที่ช่วยดูแลน้องเลยค่ะ ตอนนี้อยู่อนุบาล2 อายุ5ขวบ กล้ามเนื้อมัดเล็กแข็งแรงขึ้น จับดินสอถูกต้อง เขียนหนังสือได้ ชอบวาดรูป พูดและสื่อสารดีขึ้นมาก
เรื่องที่เรากังวลตอนนี้คือโรงเรียนประถมค่ะ เท่าที่เราหาข้อมูล โรงเรียนส่วนใหญ่รับเด็กโดยดูจากอายุ ถ้าน้องเรียนจบอนุบาล3น้องจะอายุ6ขวบกว่า ใจเราอยากให้น้องเรียนจนจบอนุบาล แต่ก็กลัวหาโรงเรียนประถมเรียนต่อไม่ได้ เราจึงอยากขอคำแนะนำคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านช่วยแนะนำเราหน่อยค่ะว่าควรทำอย่างไรดี และมีโรงเรียนเรียนร่วมที่ไหนดี บ้านเราอยู่แถวปิ่นเกล้า แต่เราสามารถเดินทางได้ทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนค่ะ
ขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้านะคะ สำหรับคำแนะนำ
รบกวนเพื่อนๆช่วยแนะนำโรงเรียนเรียนร่วมระดับประถมศึกษาค่ะ
เราพบความผิดปกติของน้องตอนน้องอายุ2ขวบค่ะ น้องพูดช้า ไม่มองหน้าไม่สบตา อารมณ์เสียหงุดหงิดค่อนข้างเยอะ กล้ามเนื้อมัดเล็กไม่แข็งแรง คุณหมอที่ดูแลเรื่องฉีดวัคซีนแนะนำให้เราปรึกษาคุณหมอพัฒนาการ สรุปว่าน้องเป็นออทิสติก ตอนนั้นเราเครียดมาก แต่ก็ยังมีความโชคดีที่เราได้คิวคุณครูสอนพัฒนาการเร็ว
เวลา1ปีเราพาลูกไปฝึกที่โรงพยาบาลอาทิตย์ละ4วัน วันละ1ชั่วโมง ยอมรับว่าค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ต้องยอมกัดฟันสู้ค่ะ อยากให้น้องพัฒนาให้ได้มากที่สุด
พอน้องอายุ3ขวบ เรากับคุณครูสอนพัฒนาการเห็นเหมือนกันว่าน้องพัฒนาขึ้นมาก สามารถไปโรงเรียนได้ อยากให้เค้าเข้าสังคมได้เรียนรู้จากเด็กปกติ เราตะเวนหาโรงเรียนย่านฝั่งธนหลายโรงเรียน จนได้โรงเรียนอนุบาลเล็กๆแถวสวนผักที่ยินดีรับน้องเข้าเรียน เราให้น้องเริ่มเรียนระดับเตรียมอนุบาลก่อน น้องเลยมีอายุมากกว่าเด็กคนอื่น1ปี ยังไปฝึกที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
น้องยังเขียนไม่คล่องเพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กไม่แข็งแรง จับดินสอแบบกำมือจนถึงอนุบาล1 เราจะคอยupdateกับคุณครูบ่อยๆว่าตอนนี้น้องเป็นยังไง ฝึกอะไรบ้าง อะไรที่ทำได้หรือยังทำไม่ได้ น้องยังไม่ค่อยเล่นกับเพื่อน ยังชอบเล่นคนเดียวหรืออยู่กับคุณครู อาจเพราะน้องยังพูดไม่คล่อง สื่อสารยังไม่ตรงความหมาย อารมณ์ขึ้นลงง่าย มีกรี๊ดโวยวายแต่ไม่ทำร้ายใครนะคะ ฝึกพูดเพิ่มเติมกับคุณครูฝึกพูดโดยตรง
น้องพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ ผลการเรียนค่อนข้างดี ต้องยกความดีความชอบให้คุณครูทุกๆคนที่ช่วยดูแลน้องเลยค่ะ ตอนนี้อยู่อนุบาล2 อายุ5ขวบ กล้ามเนื้อมัดเล็กแข็งแรงขึ้น จับดินสอถูกต้อง เขียนหนังสือได้ ชอบวาดรูป พูดและสื่อสารดีขึ้นมาก
เรื่องที่เรากังวลตอนนี้คือโรงเรียนประถมค่ะ เท่าที่เราหาข้อมูล โรงเรียนส่วนใหญ่รับเด็กโดยดูจากอายุ ถ้าน้องเรียนจบอนุบาล3น้องจะอายุ6ขวบกว่า ใจเราอยากให้น้องเรียนจนจบอนุบาล แต่ก็กลัวหาโรงเรียนประถมเรียนต่อไม่ได้ เราจึงอยากขอคำแนะนำคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านช่วยแนะนำเราหน่อยค่ะว่าควรทำอย่างไรดี และมีโรงเรียนเรียนร่วมที่ไหนดี บ้านเราอยู่แถวปิ่นเกล้า แต่เราสามารถเดินทางได้ทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนค่ะ
ขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้านะคะ สำหรับคำแนะนำ