เห็นจั่วหัวแบบนี้อย่าเพิ่งคิดในใจว่า เขียนโพสไรแว๊?? เค้าก็แต่งงานกันเหมือนคนทั่วไปอ่ะดิ จัดงานที่โรงแรม ซื้อรถ ซื้อบ้าน ไม่เห็นต่างกะคนไทยเล้ย จะมาเขียนโพสทำมั๊ยยย???
ป่าวค่าาา…จขกท.ไม่ได้จะเล่าแบบนั้นหรอกจ้าา เพราะอยากจะเล่าเรื่องประเพณีการแต่งงานของคนจีนที่เราอาจจะไม่เคยรู้จัก เช่น ฉุดไปแต่ง!!! (กรี๊ดด..แนวตบจูบ เก๊าชอบ!!) เลี้ยงมาแต่เด็กกะให้โตมาแต่ง (ว่าที่สะใภ้แบบในหนังจีนประมาณนั้น) เอาเมียน้องมาแต่ง (ไม่ช่ายเมียน้อยนะตัวว์..อย่าอ่านผิด) และอีก ฯลฯ
ต้องเล่าก่อนว่าการแต่งงานของคนจีนแบบทั่วๆ ไป ในสมัยก่อนจะอยู่ในกฏเกณฑ์ประมาณนี้ค่าา
1.同姓不婚 [Tóngxìng bù hūn] = แซ่เดียวกันไม่แต่งงานกัน
ข้อนี้ก็ตามความหมายโลดเลยจ้า คือเน้นว่าไม่แต่งงานกัน ถ้าสายเลือดทางพ่อเป็นสายเลือดเดียวกัน พูดง่ายๆ คือแซ่เดียวกัน เพราะคนจีนเค้าใช้แซ่ตามพ่อเป็นหลักนะ ส่วนแซ่เดียวกันแม่ถือว่าหยวนๆ พอยอมรับกันได้
2.门当户对 [Méndānghùduì] = จขกท.ว่าใกล้เคียงภาษาไทยว่า “กิ่งทองใบหยก”
ทำไมถึงแปลว่างี้ล่ะ?? เกี่ยวไรกะประตูล่ะนี่??
จขกท.ขออธิบายให้เข้าใจง่ายๆ แบบนี้ว่าทั้งคำว่า 门 และ 户 ต่างมีความหมายเชิงนัยยะหมายถึง “ครอบครัว” ค่า ส่วน 当 มาจาก 相当 [xiāngdāng] = เท่ากันและ 对 มาจาก 相对 [xiāngduì] = เกี่ยวข้องหรือเกี่ยวพันกัน
ดังนั้น 门当户对 จึงเป็นสุภาษิตที่ใช้สำหรับการแต่งงานซึ่งหมายถึงบ่าวสาวทั้ง 2 ฝ่ายต้องมาจากครอบครัวที่ใกล้เคียงกัน ฐานะทางสังคมคล้ายๆกัน การงานหรือความมีตังค์ก็ต้องพอๆกัน จะชนชั้นสูงก็ต้องสูงเหมือนกันเป็นต้น ซึ่งคนจีนเชื่อกันว่าแบบนี้จะทำให้การแต่งงานราบรื่นและมีความสุข ซึ่งแต่ก่อนซีเรียสกันมากๆนะคับ จะเห็นว่าคนชนสูงเค้าไม่มีทางเลยจะมาแต่งงานกับคนธรรมดาเลยนะ เพราะชนชั้นมันผิดกัน สำหรับสมัยปัจจุบันนี้ประโยคนี้ก็ยังใช้อยู่นะจ๊ะ ไว้พูดเวลาที่คู่บ่าวสาวแบบว่าเหมาะกั๊น เหมาะกันประมาณนี้จ้าา
3. 父母之命,媒妁之言。[Fùmǔ zhī mìng, méishuò zhī yán.] = พ่อแม่เป็นคนจัด (การ) แม่สื่อเป็นคนดำเนินการ
ประโยคนี้เป็นการสะท้อนอุดมคติการแต่งงานคนจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัยโบราณนะคะว่าผู้ชายผู้หญิงไม่มีโอกาสมาทำความรู้จักกันเอง รักกันเอง ชอบกันเองแล้วค่อยแต่ง หมดสิทธิ์เด็ดๆ เพราะสมัยก่อนคือพ่อแม่ต้องเป็นคนเลือกให้เท่านั้น เวลาเลือกก็ต้องเลือกให้เป็น 门当户对 พอดูแล้วว่าเหมาะสมกันก็ต้องให้ “แม่สื่อ” ของทั้ง 2 ฝ่ายไปคุยกัน ตกลงกัน ไม่ช่ายจะมานัดกันเองไม่ได้ๆๆ ผิดธรรมเนียม บ่าวสาวบางคู่เจอกันครั้งแรกคือวันแต่งงานค่า TT และเพราะเป็นอย่างงี้ถึงเกิดโศกนาฏกรรมความรักขึ้นบ่อยๆ เพราะคนที่รักไม่ได้แต่ง คนที่แต่งไม่ได้รักซะงั้น
เช่น อมตะนิยายตลอดกาลของจีนเรื่อง 梁山伯与祝英台 [Liáng Shānbó yǔ Zhù Yīngtái] ภาษาไทยเรียกว่า “ม่านประเพณี” หรือ “ตำนานรักเหลียงซานป๋อและจู้อิงไถ” เรื่องย่อก็ว่ากันง่ายๆ คือโรมิโอจูเลียตภาคภาษาจีนค่า จู้อิงไถ (นางเอก) ปลอมตัวเป็นผู้ชายไปเรียน เพราะแต่ก่อนผู้หญิงไม่ได้เรียนหนังสือเนาะ เจอกันพระเอกของเราเหลียงซานป๋อ สนิทสนมรักใคร่เป็นพี่น้องร่วมสาบานกันดี (ทำไมพระเอกซื้อบื้อ ไม่ยักรู้แฮะว่านางเอกปลอมตัวมาฟร่ะ?) ต่อมานางเอกต้องกลับบ้านเพราะที่บ้านส่งข่าวมาว่าแม่ป่วยหนัก จึงบอกพระเอกมาให้ตามมา แล้วขอน้องสาวตัวเองแต่งงานซะ (ซึ่งก็คือตัวเองนั่นล่ะค่า)
แต่ปรากฏว่ากลับมาบ้านแล้วที่บ้านจับนางเอกแต่งงานกับคนที่คู่ควร เหมาะสมไว้แล้ว เข้าทำนอง 门当户对 เพราะว่า 父母之命,媒妁之言。งัยครัช พระเอกรู้ความจริงเลยตรอมใจตาย นางเอกเลยตามไปฆ่าตัวตายที่หลุมศพของพระเอก จากนั้นทั้งคู่เกิดใหม่ก็กลายเป็นผีเสื้อคู่บินเคียงคู่กันตลอดไป คนจีนบางทีเห็นผีเสื้อบินกันเป็นคู่ๆ มีพูดเล่นๆ กันว่า “โอ๊ะ! นั่น เหลียงซานป๋อและจู้อิงไถแหงมๆ เลย” และเพราะทั้งคู่ไปเกิดใหม่เป็นผีเสื้อ ฝรั่งเลยเรียกนิยายเรื่องนี้ว่า The Butterfly Lovers ค่า เดวจะงงว่าผีเสื้อมาจากไหนหว่า??
จบเรื่องเศร้ามาเข้าเรื่องแปลกนะ ที่นี้ลองมาดูประเพณีแต่งงานแบบแปลกๆ สำหรับเรากันนะคะ ต้องเล่าก่อนว่าประเพณีนี้พวกนี้ ปัจจุบันถ้ายังมีอยู่ก็จะเป็นประเพณีของชนกลุ่มน้อยในเมืองจีน 少数民族 [shǎoshùmínzú] หาใช่ชนชาติฮั่นที่เราคุ้นเคยกันไม่ จริงๆแล้วก็มีหลายแบบเลยนะ จขกท.ขอคัดอันที่รู้สึกว่าแปลกดีเราไม่รู้จักมาเล่าสู่กันฟังค่าา
1.抢婚 [qiǎnghūn]
แปลตรงตัวว่า “ไปฉุดมาแต่ง” (แอบกรี๊ดเบาๆพองาม แบบไม่ให้ผู้ชายตกใจอ่ะนะ) อย่างจขกท.เล่าคือเป็นประเพณีที่เกิดขึ้นในครอบครัวชนบทที่ห่างไกลและอาจมีฐานะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ วิธีการคือจะกำหนดให้มีวันนึงที่อนุญาตให้ฉุดกันได้ เป็น official นะ ไม่ใช่นึกอยากฉุดวันไหนก็ฉุด แล้วผู้หญิงที่จะโดนฉุดก็พอจะรู้แล้วว่าจะโดนฉุดเพื่อแต่งงาน ก็มีการขัดขืนเล็กน้อยพองาม ผู้ชายฉุดไปสักพักก็กลับมาทำพิธีแต่งงานแบบเป็นเรื่องเป็นราวกันจ้า แบบว่าพอมีความตื่นเต้นเล็กน้อยเป็นน้ำจิ้มกรุบกริบ อิ อิ
2.童养婚 [tóngyǎnghūn]
หมายถึง “เลี้ยงให้โตเป็นสะใภ้” วิธีการคือเลี้ยงดูเด็กสาวบ้านอื่น แบบว่าหมายมั่นปั้นมือว่า โตมาก็ไว้เพื่อแต่งงานกับลูกชายที่บ้าน ประมาณว่าจองล่วงหน้าน่ะค่ะ จขกท.สงสัยว่าถ้าโตมาแล้วไม่สวยจะยังจองมั๊ย??
3.指腹婚 [zhǐfùhūn]
ใกล้เคียงกับ “หมั้นตั้งแต่ในท้อง” วิธีนี้คือคนรวย มีฐานะของจีนสมัยก่อนชอบทำกัน คือเมีย 2 บ้านท้องพร้อมกัน หรือใกล้เคียงกัน พ่อแม่เลยบอกว่าเออ ลูกคลอดมาแล้วก็แต่งกันเลยแล้วกันนะ ลูกชั้น ลูกเธอเหมาะกันดีแท้ๆ (ไม่ถามลูกเล้ยย) ถ้าคลอดมาเป็นเพศเดียวกันก็เป็นพี่น้องร่วมสาบานก็ไป ไม่เสียของว่างั้น!
4. 转房婚 [zhuǎnfánghūn]
แปลตรงตัวคือ “เปลี่ยนห้องหอ”??
การแต่งงานแบบนี้คือสมมติว่าพี่ชายแต่งงานมีเมียแล้ว พี่ชายตายเร็วไปหน่อย เมียพี่ชายก็มาเป็นเมียน้องชายต่อ หรือในทางกลับกันน้องชายตายก่อน เมียน้องชายก็มาเป็นเมียพี่ชายต่อ หรือเมียน้อยพ่อก็มาต่อเป็นเมียลูกแบบนี้อ่ะค่ะ เพราะสมัยก่อนเค้าถือว่าผู้หญิงไม่มีสิทธิมีเสียงอะไร แต่งงานแล้วก็ถือเป็นสมบัติชิ้นหนึงของฝ่ายชาย เจ้าของตายก็ให้เจ้าของคนใหม่ครอบครองแค่นั้นง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก TT จึงเรียกในภาษาจีนว่า “เปลี่ยนห้องหอ” เพราะเปลี่ยนห้องใหม่ก็คือมีสามีคนใหม่ (ตั้งแต่เขียนมาไม่พอใจข้อนี้ที่สุดอ่ะ!!—คหสต.)
หวังว่าจะชอบอ่านนะคะ ว่าแต่ว่าชอบแต่งแบบไหนมากสุดคะ รึว่าชอบอยู่เป็นโสดเอ่ย??
สำหรับผู้อ่านที่สนใจเรื่องจีนๆ ภาษาจีน เกร็ดจีนสนุกๆ ตามต่อได้ที่ fan page จขกท. นะคะที่
https://www.facebook.com/chinesexpert/
ขอบคุณมากค่ะ
คนจีน เค้าแต่งงานกันยังไงนะ??? ที่ว่าแปลก??
ป่าวค่าาา…จขกท.ไม่ได้จะเล่าแบบนั้นหรอกจ้าา เพราะอยากจะเล่าเรื่องประเพณีการแต่งงานของคนจีนที่เราอาจจะไม่เคยรู้จัก เช่น ฉุดไปแต่ง!!! (กรี๊ดด..แนวตบจูบ เก๊าชอบ!!) เลี้ยงมาแต่เด็กกะให้โตมาแต่ง (ว่าที่สะใภ้แบบในหนังจีนประมาณนั้น) เอาเมียน้องมาแต่ง (ไม่ช่ายเมียน้อยนะตัวว์..อย่าอ่านผิด) และอีก ฯลฯ
ต้องเล่าก่อนว่าการแต่งงานของคนจีนแบบทั่วๆ ไป ในสมัยก่อนจะอยู่ในกฏเกณฑ์ประมาณนี้ค่าา
1.同姓不婚 [Tóngxìng bù hūn] = แซ่เดียวกันไม่แต่งงานกัน
ข้อนี้ก็ตามความหมายโลดเลยจ้า คือเน้นว่าไม่แต่งงานกัน ถ้าสายเลือดทางพ่อเป็นสายเลือดเดียวกัน พูดง่ายๆ คือแซ่เดียวกัน เพราะคนจีนเค้าใช้แซ่ตามพ่อเป็นหลักนะ ส่วนแซ่เดียวกันแม่ถือว่าหยวนๆ พอยอมรับกันได้
2.门当户对 [Méndānghùduì] = จขกท.ว่าใกล้เคียงภาษาไทยว่า “กิ่งทองใบหยก”
ทำไมถึงแปลว่างี้ล่ะ?? เกี่ยวไรกะประตูล่ะนี่??
จขกท.ขออธิบายให้เข้าใจง่ายๆ แบบนี้ว่าทั้งคำว่า 门 และ 户 ต่างมีความหมายเชิงนัยยะหมายถึง “ครอบครัว” ค่า ส่วน 当 มาจาก 相当 [xiāngdāng] = เท่ากันและ 对 มาจาก 相对 [xiāngduì] = เกี่ยวข้องหรือเกี่ยวพันกัน
ดังนั้น 门当户对 จึงเป็นสุภาษิตที่ใช้สำหรับการแต่งงานซึ่งหมายถึงบ่าวสาวทั้ง 2 ฝ่ายต้องมาจากครอบครัวที่ใกล้เคียงกัน ฐานะทางสังคมคล้ายๆกัน การงานหรือความมีตังค์ก็ต้องพอๆกัน จะชนชั้นสูงก็ต้องสูงเหมือนกันเป็นต้น ซึ่งคนจีนเชื่อกันว่าแบบนี้จะทำให้การแต่งงานราบรื่นและมีความสุข ซึ่งแต่ก่อนซีเรียสกันมากๆนะคับ จะเห็นว่าคนชนสูงเค้าไม่มีทางเลยจะมาแต่งงานกับคนธรรมดาเลยนะ เพราะชนชั้นมันผิดกัน สำหรับสมัยปัจจุบันนี้ประโยคนี้ก็ยังใช้อยู่นะจ๊ะ ไว้พูดเวลาที่คู่บ่าวสาวแบบว่าเหมาะกั๊น เหมาะกันประมาณนี้จ้าา
3. 父母之命,媒妁之言。[Fùmǔ zhī mìng, méishuò zhī yán.] = พ่อแม่เป็นคนจัด (การ) แม่สื่อเป็นคนดำเนินการ
ประโยคนี้เป็นการสะท้อนอุดมคติการแต่งงานคนจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัยโบราณนะคะว่าผู้ชายผู้หญิงไม่มีโอกาสมาทำความรู้จักกันเอง รักกันเอง ชอบกันเองแล้วค่อยแต่ง หมดสิทธิ์เด็ดๆ เพราะสมัยก่อนคือพ่อแม่ต้องเป็นคนเลือกให้เท่านั้น เวลาเลือกก็ต้องเลือกให้เป็น 门当户对 พอดูแล้วว่าเหมาะสมกันก็ต้องให้ “แม่สื่อ” ของทั้ง 2 ฝ่ายไปคุยกัน ตกลงกัน ไม่ช่ายจะมานัดกันเองไม่ได้ๆๆ ผิดธรรมเนียม บ่าวสาวบางคู่เจอกันครั้งแรกคือวันแต่งงานค่า TT และเพราะเป็นอย่างงี้ถึงเกิดโศกนาฏกรรมความรักขึ้นบ่อยๆ เพราะคนที่รักไม่ได้แต่ง คนที่แต่งไม่ได้รักซะงั้น
เช่น อมตะนิยายตลอดกาลของจีนเรื่อง 梁山伯与祝英台 [Liáng Shānbó yǔ Zhù Yīngtái] ภาษาไทยเรียกว่า “ม่านประเพณี” หรือ “ตำนานรักเหลียงซานป๋อและจู้อิงไถ” เรื่องย่อก็ว่ากันง่ายๆ คือโรมิโอจูเลียตภาคภาษาจีนค่า จู้อิงไถ (นางเอก) ปลอมตัวเป็นผู้ชายไปเรียน เพราะแต่ก่อนผู้หญิงไม่ได้เรียนหนังสือเนาะ เจอกันพระเอกของเราเหลียงซานป๋อ สนิทสนมรักใคร่เป็นพี่น้องร่วมสาบานกันดี (ทำไมพระเอกซื้อบื้อ ไม่ยักรู้แฮะว่านางเอกปลอมตัวมาฟร่ะ?) ต่อมานางเอกต้องกลับบ้านเพราะที่บ้านส่งข่าวมาว่าแม่ป่วยหนัก จึงบอกพระเอกมาให้ตามมา แล้วขอน้องสาวตัวเองแต่งงานซะ (ซึ่งก็คือตัวเองนั่นล่ะค่า)
แต่ปรากฏว่ากลับมาบ้านแล้วที่บ้านจับนางเอกแต่งงานกับคนที่คู่ควร เหมาะสมไว้แล้ว เข้าทำนอง 门当户对 เพราะว่า 父母之命,媒妁之言。งัยครัช พระเอกรู้ความจริงเลยตรอมใจตาย นางเอกเลยตามไปฆ่าตัวตายที่หลุมศพของพระเอก จากนั้นทั้งคู่เกิดใหม่ก็กลายเป็นผีเสื้อคู่บินเคียงคู่กันตลอดไป คนจีนบางทีเห็นผีเสื้อบินกันเป็นคู่ๆ มีพูดเล่นๆ กันว่า “โอ๊ะ! นั่น เหลียงซานป๋อและจู้อิงไถแหงมๆ เลย” และเพราะทั้งคู่ไปเกิดใหม่เป็นผีเสื้อ ฝรั่งเลยเรียกนิยายเรื่องนี้ว่า The Butterfly Lovers ค่า เดวจะงงว่าผีเสื้อมาจากไหนหว่า??
จบเรื่องเศร้ามาเข้าเรื่องแปลกนะ ที่นี้ลองมาดูประเพณีแต่งงานแบบแปลกๆ สำหรับเรากันนะคะ ต้องเล่าก่อนว่าประเพณีนี้พวกนี้ ปัจจุบันถ้ายังมีอยู่ก็จะเป็นประเพณีของชนกลุ่มน้อยในเมืองจีน 少数民族 [shǎoshùmínzú] หาใช่ชนชาติฮั่นที่เราคุ้นเคยกันไม่ จริงๆแล้วก็มีหลายแบบเลยนะ จขกท.ขอคัดอันที่รู้สึกว่าแปลกดีเราไม่รู้จักมาเล่าสู่กันฟังค่าา
1.抢婚 [qiǎnghūn]
แปลตรงตัวว่า “ไปฉุดมาแต่ง” (แอบกรี๊ดเบาๆพองาม แบบไม่ให้ผู้ชายตกใจอ่ะนะ) อย่างจขกท.เล่าคือเป็นประเพณีที่เกิดขึ้นในครอบครัวชนบทที่ห่างไกลและอาจมีฐานะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ วิธีการคือจะกำหนดให้มีวันนึงที่อนุญาตให้ฉุดกันได้ เป็น official นะ ไม่ใช่นึกอยากฉุดวันไหนก็ฉุด แล้วผู้หญิงที่จะโดนฉุดก็พอจะรู้แล้วว่าจะโดนฉุดเพื่อแต่งงาน ก็มีการขัดขืนเล็กน้อยพองาม ผู้ชายฉุดไปสักพักก็กลับมาทำพิธีแต่งงานแบบเป็นเรื่องเป็นราวกันจ้า แบบว่าพอมีความตื่นเต้นเล็กน้อยเป็นน้ำจิ้มกรุบกริบ อิ อิ
2.童养婚 [tóngyǎnghūn]
หมายถึง “เลี้ยงให้โตเป็นสะใภ้” วิธีการคือเลี้ยงดูเด็กสาวบ้านอื่น แบบว่าหมายมั่นปั้นมือว่า โตมาก็ไว้เพื่อแต่งงานกับลูกชายที่บ้าน ประมาณว่าจองล่วงหน้าน่ะค่ะ จขกท.สงสัยว่าถ้าโตมาแล้วไม่สวยจะยังจองมั๊ย??
3.指腹婚 [zhǐfùhūn]
ใกล้เคียงกับ “หมั้นตั้งแต่ในท้อง” วิธีนี้คือคนรวย มีฐานะของจีนสมัยก่อนชอบทำกัน คือเมีย 2 บ้านท้องพร้อมกัน หรือใกล้เคียงกัน พ่อแม่เลยบอกว่าเออ ลูกคลอดมาแล้วก็แต่งกันเลยแล้วกันนะ ลูกชั้น ลูกเธอเหมาะกันดีแท้ๆ (ไม่ถามลูกเล้ยย) ถ้าคลอดมาเป็นเพศเดียวกันก็เป็นพี่น้องร่วมสาบานก็ไป ไม่เสียของว่างั้น!
4. 转房婚 [zhuǎnfánghūn]
แปลตรงตัวคือ “เปลี่ยนห้องหอ”??
การแต่งงานแบบนี้คือสมมติว่าพี่ชายแต่งงานมีเมียแล้ว พี่ชายตายเร็วไปหน่อย เมียพี่ชายก็มาเป็นเมียน้องชายต่อ หรือในทางกลับกันน้องชายตายก่อน เมียน้องชายก็มาเป็นเมียพี่ชายต่อ หรือเมียน้อยพ่อก็มาต่อเป็นเมียลูกแบบนี้อ่ะค่ะ เพราะสมัยก่อนเค้าถือว่าผู้หญิงไม่มีสิทธิมีเสียงอะไร แต่งงานแล้วก็ถือเป็นสมบัติชิ้นหนึงของฝ่ายชาย เจ้าของตายก็ให้เจ้าของคนใหม่ครอบครองแค่นั้นง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก TT จึงเรียกในภาษาจีนว่า “เปลี่ยนห้องหอ” เพราะเปลี่ยนห้องใหม่ก็คือมีสามีคนใหม่ (ตั้งแต่เขียนมาไม่พอใจข้อนี้ที่สุดอ่ะ!!—คหสต.)
หวังว่าจะชอบอ่านนะคะ ว่าแต่ว่าชอบแต่งแบบไหนมากสุดคะ รึว่าชอบอยู่เป็นโสดเอ่ย??
สำหรับผู้อ่านที่สนใจเรื่องจีนๆ ภาษาจีน เกร็ดจีนสนุกๆ ตามต่อได้ที่ fan page จขกท. นะคะที่ https://www.facebook.com/chinesexpert/
ขอบคุณมากค่ะ