...คืองี้!! ไม่รู้ว่าดีกรีของ “ความร้อนวิชา” หรือบรรดาผองเพื่อนพี่น้อง ที่ช่วย “อวย” กันอย่างหัวปักหัวปำ อันไหนมันจะถีบตัวแรงกว่ากัน
แต่ก็ช่างเห๊อะ!! เอาเป็นว่าขอมาแบ่งปันในฐานที่เป็น ”มนุษย์เที่ยว” เหมือนๆ กับทุกท่านก็ละกัน
หลังจากผ่านการ beerstrom กันมานับสิบครั้ง หวยก็มาออกที่ “สปป.ลาว” เข้าให้ แต่ไอ้ครั้นจะเป็นเวียงจันทน์ หลวงพะบาง
หรือวังเวียง -- หึหึ! เบาหน่อยก็คงโดนทั้งฝูงโห่ฮิ้วเอาได้ หรือถ้าจัดหนักไปเลย ก็คงไม่พ้นถ้อยคำสรรเสริญ #@ู^%*^&%@##sh!
ตามมาเป็นแน่แท้ อย่ากระนั้นเลย งั้นถ้าจะเปิด “จิ้น” ครั้งแรกของการรีวิว ขอ indy จั๊กน้อยนึง ปะ!!! เดี๋ยพาไป
แต่ต้องขอกุมมือเดินไปด้วยกันน้า..... า...... า...... อะจึ๊ยยย!! กิ้ว!! กิ้ว!!
ค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทางอย่างคร่าวๆ ตลอด 7 วัน : 14-21 กรกฎาคม 2559
- เดินทางไปด้วยรถไฟกรุงเทพ-หนองคาย (ลงที่อุดร)
> นอนแอร์ชั้นบน ราคา 688 บาท
> นอนแอร์ชั้นล่าง ราคา 758 บาท
- พักที่วังเวียง 2 คืนๆ ละ 700 บาท (ห้องละ 2 คน)
- พักที่หนองเขียว 2 คืนๆ ละ 1,200 บาท (ห้องละ 2 คน)
- พักที่หลวงพะบาง 2 คืนๆ ละ 700 บาท (ห้องละ 2 คน)
- เดินทางกลับด้วยสายการบินสีแดง จากเลย-ดอนเมือง คนละ 1,000 กว่าบาท
- ค่ารถโดยสารระหว่างเมืองต่างๆ (น่าจะ) ประมาณ 3-4,000 บาท (4 คน)
- ค่าอาหารโดยเฉลี่ย มื้อละ 200-300 บาท (4 คน)
- อื่นๆ อีกมากมายที่หลงลืมไปตามกาลเวลา
- ส่วน “เบยลาว” -- เพื่อความสุขของครอบครัว จึงมิอาจตีค่าเป็นตัวเลขได้
* เฉลี่ยทั้ง trip 9,000 บาท/คน มีเหลือติดกระเป๋ากลับบ้านอีกคนละเล็กละน้อย
** อัตราแลกเปลี่ยนเงินช่วงที่ไป 10,000 กีบ ประมาณ 44 บาท
*** ภาพทั้งหมดในรีวิวนี้มาจากมือถือของหลายคนและหลายค่าย รวมถึงกล้อง go pro made in เซิ่นเจิ้น
เรื่องราวการเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อเวลาใกล้ๆ 2 ทุ่ม ของวันที่ 13 กรกฎาคม (ดองซ้าาาาาา ไม่มีอ่ะ)
บนขบวนรถที่ 69 สายกรุงเทพ-หนองคาย เพื่อให้ไปถึงอุดรธานีแถวๆ 6 โมงเช้า ก่อนต่อรถทัวร์ยาวร่วมๆ 7-8 ชั่วโมง เข้าสู่วังเวียง
...แต่เพราะบ้านไกล เวลาน้อย ขออนุญาตข้ามวังเวียงและหลวงพะบางไปในทันใด เนื่องจากมีผู้รีวิวไว้ให้อย่างทะลุปรุโปร่งกันแล้ว...
ภาพตัดฉับเข้าสู่เช้าวันที่ 16 กรกฎา กันเลยทีเดียว เราเดินทางออกจากวังเวียงกลับสู่หลวงพะบางแต่เช้า รถทัวร์จะมาส่งที่ขนส่งสายใต้
จากนั้นต้องต่อรถตุ๊กๆ ลาว (นั่นก็คือมอ’ไซค์ที่ผู้โดยสารทุกท่านต้องก้าวขึ้นทางด้านหลัง) มาที่ขนส่งสายเหนือของหลวงพะบางอีกคนละ
25-30 บาท โดยประมาณ (ย้ำ!!! ต้องเป็นขนส่งสายเหนือเท่านั้นเด้อ) เพื่อเริ่มต้นการเที่ยว “นอกเส้นทาง” สู่…
@ ห น อ ง เ ขี ย ว @
10 โมงเช้าเด๊ะ รถตู้สัญชาติเกาหลีก็ค่อยๆ ออกตัว และช่วงเวลาจากนี้ไป... นับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสันต์ ใครใคร่นอน... นอน
ใครใคร่ชม... ชม -- ต้องขอบอกว่า 2 ข้างทางระหว่างหลวงพะบางไปหนองเขียว เป็นเส้นทางเลาะเลี้ยวเกาะเกี่ยวไปตามสันเขา
ทิวทัศน์น่าตื่นตาไม่น้อย ชวนให้สมมติตัวเองเป็นพระเอก music ที่กะลังหอบหิ้วหัวใจอันบอบช้ำซะเต็มประดา มาหลบเลียแผลใจ
อยู่ท่ามกลางฝนพรำ พลางเหม่อ shot ทอดสายตาออกไปนอกกระจก โดยมีปุยหมอกคละเคล้าปุยเมฆเหนือยอดเขาเป็นจุดหมาย...
อื้อฮือ!!! ว่าเข้านั่น (ถึงจะ “เน่า”... แต่ก็เห็นเงาจันทร์ใช่ป่าวล่ะ)
แล้ว 3 ชั่วโมงแห่งความหฤหรรษ์ที่แลกมาด้วยเงิน 37,000 กีบ ก็สิ้นสุดลงที่ขนส่งหนองเขียว -- ยังครับ! ยังไม่จบแต่เพียงเท่านั้น
ถ้าเป็น backpacker ที่ค่อนข้างมีกะตังค์ (อย่างพวกเรา) ให้กำเงินคนละ 5,000 กีบ โดดขึ้นสองแถวเข้าสู่ตัวเมืองหนองเขียว
แต่หากไร้ซึ่งอำนาจเงินตรา จงก้มหน้าเดินต่อไปอีกสัก 2-3 กิโล ชิลด์… ชิลด์…
ไม่ทันถึง 2 หมายิ้มดี!!! เมืองหนองเขียวก็ตระหง่านง้ำค้ำฟ้าอยู่เบื้องหน้าเรานี่เอง ดูไปดูมา ชักคลับคล้ายคลับคลา...
รึนี่มัน จ.กระบี่ กันว๊ะเนี่ย
ทีนี้ก็ที่พักสิครับ -- don’t worry ทั้งฝั่งนี้หรือเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่ง มีให้เลือกตามความพึงพอใจและกำลังทรัพย์ไม่แพ้วังเวียง
สนนราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพัน แต่วิวหลักล้านครือๆ กัน -- วิถีชีวิตที่นี่ยังดูสงบเงียบ เรียบง่ายกว่า ไม่บันเทิงเอิงเงย
จนเกินไป ตกเย็นแค่จิบเบยลาว เคล้าลำน้ำอู ดูสายหมอกหยอกขุนเขาก็ม่วนหลายแหล่ว อะ! ไม่เชื่อดูเอา...
วันต่อมา หลังจากฟื้นตัวจากเบยลาวและเติมพลังด้วยมื้อเช้าเป็นที่เรียบร้อย พวกเราก็จัดแจง... แยกย้ายกันไปนอนต่อ
จะบ้าเร๊อะ!!! มาถึงนี่ละ... ไหนๆ มาทั้งที่ พี่ขอ “คุ้ม” -- แล้วจัดแจงแต่งกาย... เอ๋ยยย... แต่งกายในทันใด... มาครับ! เราจะไปเที่ยว....
@ เ มื อ ง ง อ ย @
อย่างว่า... backpacker สายคุณชายผู้สูงศักดิ์ ไฉนเลยจะลงเรือลำเดียวกับผู้อื่นได้ มันต้องเหมาสิครับ 4 คน 450,000 กีบ จัดไป!!
(นี่เป็นราคาจากรีสอร์ทที่พวกเราพักเค้าติดต่อให้ ขอบคุณหลายๆ เด้ออ้าย -- แต่ถ้าไปเหมาที่ท่าเรือจะคิด 500,000 กีบขาดตัว
ซึ่งถ้าไม่เหมา มีแต่เรือขาไปไม่มีกลับในวันเดียว ต้องค้างเมืองงอยสถานเดียว)
ผ่านไป ไวเหมือนโกหก 1 ชั่วโมงเต็ม กับวิว 2 ฝั่งลำน้ำอู... เสียงพูดคุยเฮฮา เสียงชัตเตอร์จากมือถือ เสียงกรุบกรอบของขนมขบเคี้ยว
ที่เคยดังสลับกันมาเป็นระยะ ค่อยๆ เงียบลง เหมือนต่างคนต่างกำลังปล่อยตัวเองให้ลอยล่องไปกับธรรมชาติรายรอบ
ส่วนตัว -- นี่ถ้ายังคงเที่ยวตามเส้นทางเดิมๆ ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ตาม website หรือ review โดยไม่ลองแว๊บบบ...
นอกเส้นทางดูบ้าง คงไม่ได้เห็น หรือได้สัมผัสอะไรใหม่ๆ อย่าง... @ หนองเขียวและเมืองงอย @ เป็นแน่แท้
อดคิดต่อไม่ได้ว่า น่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพียงจะเมื่อไร? และ... กับใคร?
ซึ่งอันที่จริงแล้ว มันก็ไม่ใช่ตัวแปรสำคัญอะไรนักหนา ถ้า “ปรารถนา” ที่จะเดินทาง เพราะไม่ว่าจะมา “เป็นคี่”... “เป็นคู่”... “เป็นฝูง”...
หรือแค่ “ตัวคนเดียว” ที่สุดแล้ว สิ่งที่ได้กลับคืนหรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันล้วนหาไม่ได้ ถ้าไม่เริ่มออกเดินทาง ที่สำคัญ... ลองออก
นอกเส้นทางดูบ้างก็ไม่เลวนะ
ขึ้นจากเรือ เป็นอันสิ้นสุดภารกิจของ “ก้น” 3 กม. จากนี้ไป เป็นหน้าที่ของ “เท้า” ล้วนๆ
ทั้งที่มีรถอีแต๋นให้เหมาได้ แต่มันเรื่องอะไร -- เดินชมวิวไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปปรึกษา น่อง เข่า หรือบั้นเอว ให้มันมากความ
(เพราะเดี๋ยวมันไม่เอาด้วย) เดินไป ชมวิวไป แชะกันไป ไม่นาน... นั่น! เจอแล้วครับ
เรียก -- ถ้ำกางหรือถ้ำกลางก็ตามสะดวก แต่บอกก่อนต้องมุดต้องลุยน้ำเข้าไปพองาม
ให้ตายเห๊อะ!!! ยังไม่ถึง 50 เมตรดี ต้องขอ “หยุด” เพราะนอกจากน้ำจะเย็นเฉียบและลื่นปรื๊ดแล้ว ยังมืดตื๊ดตื๋ออีกตะหาก
ต้องใส่เกียร์ถอยหลังมาแค่ลุยน้ำเล่นอยู่ปากถ้ำ (ปัดติโถ!!! พ่อคุณ)
แล้วถ้าใครมีกำลังขาดี มีใจพร้อม เดินจากหน้าถ้ำไปอีกสัก 1 กม. เห็นเขาว่ามีหมู่บ้านของชาวงอย ใครไปมาแล้วลองชี้แนะหน่อย
อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นไงมั่ง
ขากลับ... นั่งมองฟ้า มองน้ำ หา “อะไร” จิบเพลินๆ แค่หมดขวด(ใหญ่) ก็กลับถึงที่พักละ
ถาม -- แล้วเป็นไงกับการเที่ยวท่องล่องเมืองงอยกับหนองเขียว
สรุปโดยพลัน -- สถานที่เที่ยว adventure กะลังดี วิวสวย อาหารการกินพร้อม การเดินทางไม่ลำบากยากเย็นอะไรนัก
สงบเงียบเหมาะกับการพักผ่อน เพราะฉะนั้น... ผมให้ 3 ผ่าน คุ้มค่าทุกกะตังค์กีบ
อ้อ! ที่หนองเขียว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีก 2-3 แห่ง ที่ต้องห้ามพลาด plus นั่นคือ... จุดชมวิวหนองเขียวและถ้ำผาตอก
แต่ด้วยเวลาและสังขารที่ไม่ค่อยอำนวยสักเท่าไร จึงต้อง bye ไปก่อน เอาไว้เมียเผลอแล้วค่อยเจอกัน
ส่วน “เที่ยวหน้า” จะไปไหน?
บอกเลย... ยัง "ว่าง" แต่ถ้า “เที่ยวนี้” เสียงตอบรับดี มีมา "แฉ" อีกแน่นอน
ขออภัย -- ที่ดองเค็มไว้เนิ่นนาน
ขออภัย -- ในความเวิ่นเว้อ ทั้งหมดก็เพื่ออรรถรสในการรับชม
และขออภัย -- หากมีสิ่งใดตกหล่นหรือผิดพลาด
สุดท้าย... ขอบคุณหลายๆ และสบายดีจ้า!!!
[CR] # หนองเขียว & เมืองงอย รีวิว “นอกเส้นทาง” ที่ไม่ต้องวางแผนให้มากเรื่อง #
แต่ก็ช่างเห๊อะ!! เอาเป็นว่าขอมาแบ่งปันในฐานที่เป็น ”มนุษย์เที่ยว” เหมือนๆ กับทุกท่านก็ละกัน
หลังจากผ่านการ beerstrom กันมานับสิบครั้ง หวยก็มาออกที่ “สปป.ลาว” เข้าให้ แต่ไอ้ครั้นจะเป็นเวียงจันทน์ หลวงพะบาง
หรือวังเวียง -- หึหึ! เบาหน่อยก็คงโดนทั้งฝูงโห่ฮิ้วเอาได้ หรือถ้าจัดหนักไปเลย ก็คงไม่พ้นถ้อยคำสรรเสริญ #@ู^%*^&%@##sh!
ตามมาเป็นแน่แท้ อย่ากระนั้นเลย งั้นถ้าจะเปิด “จิ้น” ครั้งแรกของการรีวิว ขอ indy จั๊กน้อยนึง ปะ!!! เดี๋ยพาไป
แต่ต้องขอกุมมือเดินไปด้วยกันน้า..... า...... า...... อะจึ๊ยยย!! กิ้ว!! กิ้ว!!
ค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทางอย่างคร่าวๆ ตลอด 7 วัน : 14-21 กรกฎาคม 2559
- เดินทางไปด้วยรถไฟกรุงเทพ-หนองคาย (ลงที่อุดร)
> นอนแอร์ชั้นบน ราคา 688 บาท
> นอนแอร์ชั้นล่าง ราคา 758 บาท
- พักที่วังเวียง 2 คืนๆ ละ 700 บาท (ห้องละ 2 คน)
- พักที่หนองเขียว 2 คืนๆ ละ 1,200 บาท (ห้องละ 2 คน)
- พักที่หลวงพะบาง 2 คืนๆ ละ 700 บาท (ห้องละ 2 คน)
- เดินทางกลับด้วยสายการบินสีแดง จากเลย-ดอนเมือง คนละ 1,000 กว่าบาท
- ค่ารถโดยสารระหว่างเมืองต่างๆ (น่าจะ) ประมาณ 3-4,000 บาท (4 คน)
- ค่าอาหารโดยเฉลี่ย มื้อละ 200-300 บาท (4 คน)
- อื่นๆ อีกมากมายที่หลงลืมไปตามกาลเวลา
- ส่วน “เบยลาว” -- เพื่อความสุขของครอบครัว จึงมิอาจตีค่าเป็นตัวเลขได้
* เฉลี่ยทั้ง trip 9,000 บาท/คน มีเหลือติดกระเป๋ากลับบ้านอีกคนละเล็กละน้อย
** อัตราแลกเปลี่ยนเงินช่วงที่ไป 10,000 กีบ ประมาณ 44 บาท
*** ภาพทั้งหมดในรีวิวนี้มาจากมือถือของหลายคนและหลายค่าย รวมถึงกล้อง go pro made in เซิ่นเจิ้น
เรื่องราวการเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อเวลาใกล้ๆ 2 ทุ่ม ของวันที่ 13 กรกฎาคม (ดองซ้าาาาาา ไม่มีอ่ะ)
บนขบวนรถที่ 69 สายกรุงเทพ-หนองคาย เพื่อให้ไปถึงอุดรธานีแถวๆ 6 โมงเช้า ก่อนต่อรถทัวร์ยาวร่วมๆ 7-8 ชั่วโมง เข้าสู่วังเวียง
...แต่เพราะบ้านไกล เวลาน้อย ขออนุญาตข้ามวังเวียงและหลวงพะบางไปในทันใด เนื่องจากมีผู้รีวิวไว้ให้อย่างทะลุปรุโปร่งกันแล้ว...
ภาพตัดฉับเข้าสู่เช้าวันที่ 16 กรกฎา กันเลยทีเดียว เราเดินทางออกจากวังเวียงกลับสู่หลวงพะบางแต่เช้า รถทัวร์จะมาส่งที่ขนส่งสายใต้
จากนั้นต้องต่อรถตุ๊กๆ ลาว (นั่นก็คือมอ’ไซค์ที่ผู้โดยสารทุกท่านต้องก้าวขึ้นทางด้านหลัง) มาที่ขนส่งสายเหนือของหลวงพะบางอีกคนละ
25-30 บาท โดยประมาณ (ย้ำ!!! ต้องเป็นขนส่งสายเหนือเท่านั้นเด้อ) เพื่อเริ่มต้นการเที่ยว “นอกเส้นทาง” สู่…
@ ห น อ ง เ ขี ย ว @
10 โมงเช้าเด๊ะ รถตู้สัญชาติเกาหลีก็ค่อยๆ ออกตัว และช่วงเวลาจากนี้ไป... นับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสันต์ ใครใคร่นอน... นอน
ใครใคร่ชม... ชม -- ต้องขอบอกว่า 2 ข้างทางระหว่างหลวงพะบางไปหนองเขียว เป็นเส้นทางเลาะเลี้ยวเกาะเกี่ยวไปตามสันเขา
ทิวทัศน์น่าตื่นตาไม่น้อย ชวนให้สมมติตัวเองเป็นพระเอก music ที่กะลังหอบหิ้วหัวใจอันบอบช้ำซะเต็มประดา มาหลบเลียแผลใจ
อยู่ท่ามกลางฝนพรำ พลางเหม่อ shot ทอดสายตาออกไปนอกกระจก โดยมีปุยหมอกคละเคล้าปุยเมฆเหนือยอดเขาเป็นจุดหมาย...
อื้อฮือ!!! ว่าเข้านั่น (ถึงจะ “เน่า”... แต่ก็เห็นเงาจันทร์ใช่ป่าวล่ะ)
แล้ว 3 ชั่วโมงแห่งความหฤหรรษ์ที่แลกมาด้วยเงิน 37,000 กีบ ก็สิ้นสุดลงที่ขนส่งหนองเขียว -- ยังครับ! ยังไม่จบแต่เพียงเท่านั้น
ถ้าเป็น backpacker ที่ค่อนข้างมีกะตังค์ (อย่างพวกเรา) ให้กำเงินคนละ 5,000 กีบ โดดขึ้นสองแถวเข้าสู่ตัวเมืองหนองเขียว
แต่หากไร้ซึ่งอำนาจเงินตรา จงก้มหน้าเดินต่อไปอีกสัก 2-3 กิโล ชิลด์… ชิลด์…
ไม่ทันถึง 2 หมายิ้มดี!!! เมืองหนองเขียวก็ตระหง่านง้ำค้ำฟ้าอยู่เบื้องหน้าเรานี่เอง ดูไปดูมา ชักคลับคล้ายคลับคลา...
รึนี่มัน จ.กระบี่ กันว๊ะเนี่ย
ทีนี้ก็ที่พักสิครับ -- don’t worry ทั้งฝั่งนี้หรือเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่ง มีให้เลือกตามความพึงพอใจและกำลังทรัพย์ไม่แพ้วังเวียง
สนนราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพัน แต่วิวหลักล้านครือๆ กัน -- วิถีชีวิตที่นี่ยังดูสงบเงียบ เรียบง่ายกว่า ไม่บันเทิงเอิงเงย
จนเกินไป ตกเย็นแค่จิบเบยลาว เคล้าลำน้ำอู ดูสายหมอกหยอกขุนเขาก็ม่วนหลายแหล่ว อะ! ไม่เชื่อดูเอา...
วันต่อมา หลังจากฟื้นตัวจากเบยลาวและเติมพลังด้วยมื้อเช้าเป็นที่เรียบร้อย พวกเราก็จัดแจง... แยกย้ายกันไปนอนต่อ
จะบ้าเร๊อะ!!! มาถึงนี่ละ... ไหนๆ มาทั้งที่ พี่ขอ “คุ้ม” -- แล้วจัดแจงแต่งกาย... เอ๋ยยย... แต่งกายในทันใด... มาครับ! เราจะไปเที่ยว....
@ เ มื อ ง ง อ ย @
อย่างว่า... backpacker สายคุณชายผู้สูงศักดิ์ ไฉนเลยจะลงเรือลำเดียวกับผู้อื่นได้ มันต้องเหมาสิครับ 4 คน 450,000 กีบ จัดไป!!
(นี่เป็นราคาจากรีสอร์ทที่พวกเราพักเค้าติดต่อให้ ขอบคุณหลายๆ เด้ออ้าย -- แต่ถ้าไปเหมาที่ท่าเรือจะคิด 500,000 กีบขาดตัว
ซึ่งถ้าไม่เหมา มีแต่เรือขาไปไม่มีกลับในวันเดียว ต้องค้างเมืองงอยสถานเดียว)
ผ่านไป ไวเหมือนโกหก 1 ชั่วโมงเต็ม กับวิว 2 ฝั่งลำน้ำอู... เสียงพูดคุยเฮฮา เสียงชัตเตอร์จากมือถือ เสียงกรุบกรอบของขนมขบเคี้ยว
ที่เคยดังสลับกันมาเป็นระยะ ค่อยๆ เงียบลง เหมือนต่างคนต่างกำลังปล่อยตัวเองให้ลอยล่องไปกับธรรมชาติรายรอบ
ส่วนตัว -- นี่ถ้ายังคงเที่ยวตามเส้นทางเดิมๆ ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ตาม website หรือ review โดยไม่ลองแว๊บบบ...
นอกเส้นทางดูบ้าง คงไม่ได้เห็น หรือได้สัมผัสอะไรใหม่ๆ อย่าง... @ หนองเขียวและเมืองงอย @ เป็นแน่แท้
อดคิดต่อไม่ได้ว่า น่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพียงจะเมื่อไร? และ... กับใคร?
ซึ่งอันที่จริงแล้ว มันก็ไม่ใช่ตัวแปรสำคัญอะไรนักหนา ถ้า “ปรารถนา” ที่จะเดินทาง เพราะไม่ว่าจะมา “เป็นคี่”... “เป็นคู่”... “เป็นฝูง”...
หรือแค่ “ตัวคนเดียว” ที่สุดแล้ว สิ่งที่ได้กลับคืนหรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันล้วนหาไม่ได้ ถ้าไม่เริ่มออกเดินทาง ที่สำคัญ... ลองออก
นอกเส้นทางดูบ้างก็ไม่เลวนะ
ขึ้นจากเรือ เป็นอันสิ้นสุดภารกิจของ “ก้น” 3 กม. จากนี้ไป เป็นหน้าที่ของ “เท้า” ล้วนๆ
ทั้งที่มีรถอีแต๋นให้เหมาได้ แต่มันเรื่องอะไร -- เดินชมวิวไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปปรึกษา น่อง เข่า หรือบั้นเอว ให้มันมากความ
(เพราะเดี๋ยวมันไม่เอาด้วย) เดินไป ชมวิวไป แชะกันไป ไม่นาน... นั่น! เจอแล้วครับ
เรียก -- ถ้ำกางหรือถ้ำกลางก็ตามสะดวก แต่บอกก่อนต้องมุดต้องลุยน้ำเข้าไปพองาม
ให้ตายเห๊อะ!!! ยังไม่ถึง 50 เมตรดี ต้องขอ “หยุด” เพราะนอกจากน้ำจะเย็นเฉียบและลื่นปรื๊ดแล้ว ยังมืดตื๊ดตื๋ออีกตะหาก
ต้องใส่เกียร์ถอยหลังมาแค่ลุยน้ำเล่นอยู่ปากถ้ำ (ปัดติโถ!!! พ่อคุณ)
แล้วถ้าใครมีกำลังขาดี มีใจพร้อม เดินจากหน้าถ้ำไปอีกสัก 1 กม. เห็นเขาว่ามีหมู่บ้านของชาวงอย ใครไปมาแล้วลองชี้แนะหน่อย
อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นไงมั่ง
ขากลับ... นั่งมองฟ้า มองน้ำ หา “อะไร” จิบเพลินๆ แค่หมดขวด(ใหญ่) ก็กลับถึงที่พักละ
ถาม -- แล้วเป็นไงกับการเที่ยวท่องล่องเมืองงอยกับหนองเขียว
สรุปโดยพลัน -- สถานที่เที่ยว adventure กะลังดี วิวสวย อาหารการกินพร้อม การเดินทางไม่ลำบากยากเย็นอะไรนัก
สงบเงียบเหมาะกับการพักผ่อน เพราะฉะนั้น... ผมให้ 3 ผ่าน คุ้มค่าทุกกะตังค์กีบ
อ้อ! ที่หนองเขียว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีก 2-3 แห่ง ที่ต้องห้ามพลาด plus นั่นคือ... จุดชมวิวหนองเขียวและถ้ำผาตอก
แต่ด้วยเวลาและสังขารที่ไม่ค่อยอำนวยสักเท่าไร จึงต้อง bye ไปก่อน เอาไว้เมียเผลอแล้วค่อยเจอกัน
ส่วน “เที่ยวหน้า” จะไปไหน?
บอกเลย... ยัง "ว่าง" แต่ถ้า “เที่ยวนี้” เสียงตอบรับดี มีมา "แฉ" อีกแน่นอน
ขออภัย -- ที่ดองเค็มไว้เนิ่นนาน
ขออภัย -- ในความเวิ่นเว้อ ทั้งหมดก็เพื่ออรรถรสในการรับชม
และขออภัย -- หากมีสิ่งใดตกหล่นหรือผิดพลาด
สุดท้าย... ขอบคุณหลายๆ และสบายดีจ้า!!!