อังกฤษส่งเรือพิฆาตไปต.อ.กลาง เสริมทัพรบกับไอซิส

กระทู้ข่าว


ฝ่ายไหนจะชนะ...อังกฤษส่งเรือพิฆาต เอชเอ็มเอส ดาริ่ง มุ่งหน้าสู่ตะวันออกกลาง เสริมทัพร่วมต่อสู้ปราบไอซิส รมว.กลาโหมอังกฤษประกาศ เรือพิฆาตลำนี้จะมีภารกิจในการคุ้มครองเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ ที่กำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มสุดโหด

เมื่อวันที่ 29 ส.ค.59 สื่อต่างประเทศรายงาน นายไมเคิล ฟอลลอนรมว.กลาโหมอังกฤษ ประกาศกองทัพเรืออังกฤษจะส่ง เรือพิฆาต เอชเอ็มเอส ดาริ่ง (HMS Daring) จากเมืองพอร์ตเมาธ์ ไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง ในอ่าวเปอร์เซีย วันศุกร์ที่ 2 ก.ย. เพื่อต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส โดยเรือพิฆาต เอชเอ็มเอส ดาริ่ง จะมีภารกิจในการช่วยคุ้มครองเรือบรรทุกเครื่องบินของกองกำลังสหรัฐฯ ที่กำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดถล่มไอซิส

ข่าวแจ้งว่า เรือพิฆาต เอชเอ็มเอส ดาริ่ง Type 45 destroyers ซึ่งเป็นเรือพิฆาตของกองทัพเรืออังกฤษ ติดระบบอำนวยการรบเทียบเท่าระบบ Aegisมีทั้งปืนประจำเรือหลายชนิด ตอร์ปิโด และเฮลิคอปเตอร์ โดยมีลูกเรือประจำการจำนวน 190 นาย จะแล่นผ่านน่านน้ำในบางพื้นที่ที่มีเรือสัญจรหนาแน่นไปยังตะวันออกกลาง เพื่อไปปฏิบัติภารกิจร่วมต่อสู้กับกลุ่มไอซิสที่เคลื่อนไหวในอิรักและซีเรีย

นายไมเคิล ฟอลลอน รมว.กลาโหมอังกฤษ

นายฟอลลอน รมว.กลาโหมยังกล่าวด้วยว่า กองทัพอังกฤษ จะมีทั้งกองกำลังทหารจากกองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองทัพบกในการสู้รบกับกลุ่มไอซิส
ซึ่งจะถือเป็นงบประมาณด้านกลาโหมจำนวนมากที่สุดของประเทศในยุโรป และเป็นอันดับ 2 ของชาติสมาชิกองค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)


เรือพิฆาต HMS Daring

ทั้งนี้ เรือพิฆาต เอชเอ็มเอส ดาริ่ง ซึ่งมีมูลค่านับ 1 พันล้านปอนด์ คงต้องเจอปัญหาในอ่าวเปอร์เซีย เนื่องจากเรือไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเผชิญกับสภาพอากาศในภูมิภาคตะวันออกกลาง

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/705219

ข้อมูลเรือ จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Type_45_destroyer#Weapons.2C_countermeasures.2C_capabilities_and_sensors
Type:    Guided missile destroyer
Displacement:    8,000[3] to 8,500 t (8,400 long tons; 9,400 short tons)[4][5][6]
Length:    152.4 m (500 ft 0 in)
Beam:    21.2 m (69 ft 7 in)
Draught:    7.4 m (24 ft 3 in)
Installed power:    
2 × Rolls-Royce WR-21 gas turbines, 21.5 MW (28,800 shp) each
2 × Wärtsilä 12V200 diesel generators, 2 MW (2,700 shp) each[7]
Propulsion:    
2 shafts integrated electric propulsion with
2 × Converteam electric motors, 20 MW (27,000 shp) each
Speed:    In excess of 30 kn (56 km/h; 35 mph)[8]
Range:    In excess of 7,000 nautical miles (13,000 km) at 18 kn (33 km/h)[8]
Complement:    191[9] (accommodation for up to 235)
Sensors and processing systems:    
SAMPSON multi-function air tracking radar (Type 1045)
S1850M 3-D air surveillance radar (Type 1046)
Raytheon Integrated Bridge and Navigation System
2 × Raytheon AHRS INS
(MINS 2)
2 × Raytheon I-band Radar
(Type 1047)
1 × Raytheon E/F-band Radar
(Type 1048)[10]
Ultra Electronics Series 2500 Electro-Optical Gun Control System (EOGCS)[11]
Ultra Electronics SML Technologies radar tracking system
Ultra Electronics/EDO MFS-7000 sonar
Electronic warfare & decoys:    
UAT Mod 2.0 (2.1 planned)[12]
AN/SSQ-130 Ship Signal Exploitation Equipment (SSEE) Increment F cryptologic exploitation system [13]
Seagnat
Naval Decoy IDS300
Surface Ship Torpedo Defence
Armament:    
Anti-air missiles:
Sea Viper air defence system, with a 48-cell Sylver A50 VLS, for mix of up to 48:
Aster 15 missiles (range 1.7–30 km)
Aster 30 missiles (range 3–120 km)
Anti-ship missiles:2 × quad Harpoon launchers[N 2]
Guns:
1 × BAE 4.5 inch Mk 8 naval gun
2 × Oerlikon 30 mm guns
2 × Phalanx CIWS
2 × Miniguns
6 × General purpose machine guns
Aircraft carried:    
1–2 × Lynx Wildcat, armed with:
4 × anti ship missiles, or
2 × anti submarine torpedoes
or
1 × Westland Merlin,[15] armed with:
4 × anti-submarine torpedoes
Aviation facilities:    
Large flight deck
Enclosed hangar

ผิดพลาดประการใดขออภัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่