สลดซ้ำ! เก๋งขับผ่าพายุฝน ชนยับจยย.ดับอนาถ กลางถนนชัยภูมิ
เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ ร.ต.อ.วิวัฒน์ เกื่องกระโทก รอง สว.(สืบสวน)สภ.บ้านค่ายหมื่นแผ้ว ได้รับแจ้งจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดบ้านค่ายหมื่นแผ้วชัยภูมิ ว่ามีรถเก๋งชนรถจยย.มีผู้เสียชีวิตคาที่กลางถนน บริเวณหน้าตลาดบ้านค่ายฯ ถนนสายชัยภูมิ-แก้งคร้อ เส้นทางหมายเลข 201 ช่วงในเขตพื้นที่ ต.บ้านค่ายหมื่นแผ้ว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรม หน่วยกู้ชีพเทศบาลบ้านค่ายฯ และชุด EMS รพ.จังหวัดชัยภูมิ ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ นิสัน สีขาวหมายเลขทะเบียน กจ 8505 ชย. สภาพหัวเก๋งด้านพังยุบจอดอยู่บนเลนขวาห่างกัน30เมตรพบร่างผู้เสียชีวิตคาที่บนเส้นเกาะกลางถนนเป็นหญิงนอนคว้ำหน้าจมกองเลือดกองจำนวนมากทราบชื่อต่อมาคือนางสาว วัฒนา กรุงสีนเทียะ อายุ 37 ปีอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 417 ม.1 ต.บ้านค่าย อ.เมืองจังหวัดชัยภูมิ ห่างจากร่างกว่า 300 เมตร พบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 สีขาวคาดดำสภาพใหม่ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนของผู้ตาย สภาพท้ายรถพังยับเยิน
จากการสอบถามนาย ศุภกร ยวงทอง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 149 ม.7 ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ คนขับรถยนต์เก๋ง ขณะที่ตนได้ขับรถมาจากหมู่บ้านลี่ ต.ละหาน อ.จัตุรัส เพื่อจะมาส่งลูกสาวไปทำกิจกรรมที่โรงเรียนในจังหวัดชัยภูมิ ได้มีฝนตกมาตลอดทั้งคืน จนมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าตลาดเทศบาลบ้านค่าย ซึ่งเป็นที่มืดไม่มีแสงสว่าง อยู่ๆ ก็มีรถจยย.พุ่งออกมาจากข้างทางข้ามเลนมาอย่างเร็วทำให้ตนมองไม่เห็นเลยชนเข้าอย่างจัง ทำให้เกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าวซึ่งทำให้ตนรู้สึกเสียใจมาก ขณะที่นางสาว อารยา ศรีลาวงศ์ แม่ค้ารายหนึ่งในตลาดเทศบาลค่ายกล่าวว่า ตนขายของในตลาดแห่งนี้มา 8 ปีแล้วตั้งแต่เริ่มเปิดตลาด ซึ่งจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หลังจากที่ติดตั้งไฟถนนหน้าทางเข้าช่วงหน้าตลาดอุบัติเหตุก็ลดลงเยอะและมาช่วง 2-3 อาทิตย์นี้ ไฟถนนก็ดับไม่ติดก็เริ่มเกิดเหตุขึ้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้นั้นรุนแรงที่สุดจนทำให้มีคนเสียชีวิต จึงเชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไม่มีไฟถนน เพราะเส้นที่นี้เป็นทางหลักรถที่ขับผ่านจะขับกันเร็วมากจึงอย่างฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รีบแก้ไขโดยด่วนเสียที่
ด้าน ร.ต.อ.วิวัฒน์ เกื่องกระโทก รอง สว.(สืบสวน)สภ.บ้านค่ายหมื่นแผ้ว จึงได้เชิญตัวนาย ศุภกร ยวงทอง อายุ 43 ปี คนขับรถเก๋งดังกล่าวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ซึ่งไม่พบผลหรือสารแอลกอฮอล์แต่อย่างใด ซึ่งทางจนท.จะได้สอบสวนพยานและผู้ต้องหาเพิ่มเติมต่อไป
http://www.siamrath.co.th/n/1914
http://www.komchadluek.net/news/crime/239899 
เก๋งขับผ่าพายุฝน ชนยับจยย.ดับอนาถ กลางถนนชัยภูมิ-แก้งคร้อ ชาวบ้านระบุเกิดเหตุบ่อย
เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ ร.ต.อ.วิวัฒน์ เกื่องกระโทก รอง สว.(สืบสวน)สภ.บ้านค่ายหมื่นแผ้ว ได้รับแจ้งจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดบ้านค่ายหมื่นแผ้วชัยภูมิ ว่ามีรถเก๋งชนรถจยย.มีผู้เสียชีวิตคาที่กลางถนน บริเวณหน้าตลาดบ้านค่ายฯ ถนนสายชัยภูมิ-แก้งคร้อ เส้นทางหมายเลข 201 ช่วงในเขตพื้นที่ ต.บ้านค่ายหมื่นแผ้ว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรม หน่วยกู้ชีพเทศบาลบ้านค่ายฯ และชุด EMS รพ.จังหวัดชัยภูมิ ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ นิสัน สีขาวหมายเลขทะเบียน กจ 8505 ชย. สภาพหัวเก๋งด้านพังยุบจอดอยู่บนเลนขวาห่างกัน30เมตรพบร่างผู้เสียชีวิตคาที่บนเส้นเกาะกลางถนนเป็นหญิงนอนคว้ำหน้าจมกองเลือดกองจำนวนมากทราบชื่อต่อมาคือนางสาว วัฒนา กรุงสีนเทียะ อายุ 37 ปีอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 417 ม.1 ต.บ้านค่าย อ.เมืองจังหวัดชัยภูมิ ห่างจากร่างกว่า 300 เมตร พบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 สีขาวคาดดำสภาพใหม่ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนของผู้ตาย สภาพท้ายรถพังยับเยิน
จากการสอบถามนาย ศุภกร ยวงทอง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 149 ม.7 ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ คนขับรถยนต์เก๋ง ขณะที่ตนได้ขับรถมาจากหมู่บ้านลี่ ต.ละหาน อ.จัตุรัส เพื่อจะมาส่งลูกสาวไปทำกิจกรรมที่โรงเรียนในจังหวัดชัยภูมิ ได้มีฝนตกมาตลอดทั้งคืน จนมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าตลาดเทศบาลบ้านค่าย ซึ่งเป็นที่มืดไม่มีแสงสว่าง อยู่ๆ ก็มีรถจยย.พุ่งออกมาจากข้างทางข้ามเลนมาอย่างเร็วทำให้ตนมองไม่เห็นเลยชนเข้าอย่างจัง ทำให้เกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าวซึ่งทำให้ตนรู้สึกเสียใจมาก ขณะที่นางสาว อารยา ศรีลาวงศ์ แม่ค้ารายหนึ่งในตลาดเทศบาลค่ายกล่าวว่า ตนขายของในตลาดแห่งนี้มา 8 ปีแล้วตั้งแต่เริ่มเปิดตลาด ซึ่งจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หลังจากที่ติดตั้งไฟถนนหน้าทางเข้าช่วงหน้าตลาดอุบัติเหตุก็ลดลงเยอะและมาช่วง 2-3 อาทิตย์นี้ ไฟถนนก็ดับไม่ติดก็เริ่มเกิดเหตุขึ้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้นั้นรุนแรงที่สุดจนทำให้มีคนเสียชีวิต จึงเชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไม่มีไฟถนน เพราะเส้นที่นี้เป็นทางหลักรถที่ขับผ่านจะขับกันเร็วมากจึงอย่างฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รีบแก้ไขโดยด่วนเสียที่
ด้าน ร.ต.อ.วิวัฒน์ เกื่องกระโทก รอง สว.(สืบสวน)สภ.บ้านค่ายหมื่นแผ้ว จึงได้เชิญตัวนาย ศุภกร ยวงทอง อายุ 43 ปี คนขับรถเก๋งดังกล่าวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ซึ่งไม่พบผลหรือสารแอลกอฮอล์แต่อย่างใด ซึ่งทางจนท.จะได้สอบสวนพยานและผู้ต้องหาเพิ่มเติมต่อไป
http://www.siamrath.co.th/n/1914
http://www.komchadluek.net/news/crime/239899