ดีครับ หลังจากที่ได้ทำ รีวิวครั้งแรก จากการลองผิดลองถูก หาโอกาสขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งไม่ได้อยู่ใกล้บ้านสักเท่าไหร่ และตอนนั้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงเพิ่งเปิดใช้บริการได้ไม่กี่วัน อะไรๆ ตอนนั้น จึงยังไม่ค่อยลงตัว มาวันนี้ผมได้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงมาแล้ว 5 ครั้ง พบการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างไปในทางดีขึ้น และก็ได้เห็นสิ่งที่น่าชื่นชม และสิ่งที่ควรปรับปรุง จึงอยากนำมาลงรีวิวอีกครั้ง
สำหรับภาคแรก อ่านได้ที่ลิงค์นี้ครับ
http://m.ppantip.com/topic/35475267
เริ่มเลยนะครับ
เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ผมต้องไปธุระที่เซ็นทรัลเวสเกต จึงได้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งจากต้นทางของผมคือลำลูกกา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีกระทรวงสาธารณะสุข โดยการนั่งรถเมล์สาย 114 ไปจากปากทางลำลูกกา แต่ในรีวิวนี้ขอเริ่มจากสถานีเตาปูนเลยนะครับ
เดิมทีผมเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ใช้เหรียญโดยสารธรรมดา แต่ในครั้งนี้เห็นว่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบ่อยขึ้น อีกทั้งที่ทำงานใหม่ผมก็อยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินสุขุมวิทด้วย จึงซื้อบัตรเติมเงิน เพื่อที่จะได้สะดวกไม่ต้องรอคิวซื้อเหรียญโดยสารในช่วงเร่งด่วนที่คิวยาวเป็นหางว่าว อีกทั้งได้รับยกเว้นค่าแรกเข้ากรณีเดินทางต่อเนื่องข้ามสายได้อีก โดยซื้อบัตรที่ สถานีรถไฟใต้ดิน สวนจตุจักร
หลังจากได้บัตรมาแล้ว คิดว่าบัตรนี้ต้องใช้ถนอมหน่อย เพราะต้องใช้ไปตลอด เลยหาซองใส่ให้ดูดี เอาซองหนังสีดำ มีช่องเปิดดูตัวบัตรได้ ดูเท่ไม่น้อยตอนเอาบัตรไปแตะเครื่องกั้น
นอกจากนี้ ล่าสุดผู้ที่ใช้บัตรโดยสารเติมเงิน ยังได้ส่วนลด 50% ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่จะมีผลในวันที่ 1 กันยายนนี้ ในขณะที่เหรียญโดยสารจะได้เป็นราคาเดิม
ในส่วนของเหรียญโดยสาร ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีความแตกต่างจากของสายสีน้ำเงินอยู่บ้าง เหรียญโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะไม่มีรูตรงกลาง แต่จะมีลายสลักลงไปเป็นรูปโลโก้ MRT พร้อมข้อความ Property of MRTA
ช่วงเริ่มต้นทาง เริ่มจากสถานีสวนจตุจักร ลงบางซื่อ แล้วต่อรถ shuttle bus ไปที่สถานีเตาปูน (ครั้งต่อๆ มา ผมเริ่มจากสถานีกระทรวงสาธารณะสุข เพราะใกล้กว่าและสะดวกต่อการเดินทางมาจากบ้านมากกว่า)
เมื่อมาถึงสถานีบางซื่อแล้ว รอประมาณ 10 นาที รถ Shuttle bus ก็มาถึง เป็นรถเมล์ปรับอากาศยูโรทูสีเหลือง
ตรงนี้แหละครับที่ผมพลาดไปในตอนแรก เพราะผมขึ้นมา เห็นรถเมล์คันแบบเดียวกัน เขียนป้ายข้างหน้าว่า ไปสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน ก็เลยขึ้นซะ แล้วไปหน้าแตกตอนเขาเก็บตัง รถ Shuttle bus ต้องระบุชัดเจน ว่าบริการฟรี ส่วนที่เขียนว่า ไปสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน หน้ารถเมล์นั้นก็เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารตามเส้นทางที่รถเมล์นี้ผ่านรู้ว่ารถคันนี้นั่งไปสถานีเตาปูนได้ เป็นการโฆษณาสายรถเมล์ แต่คนที่มาครั้งแรกอาจหลงไปขึ้นผิดได้
รถเมล์ shuttle bus จะจอดบริเวณใต้สถานีเตาปูน ข้างๆ ทางขึ้นพอดี
เมื่อขึ้นมาแล้ว จะพบกับด่านตรวจหาของต้องห้าม ก่อนเข้าไปยังบริเวณภายในสถานี การตรวจก็เดินผ่านประตู แล้วเปิดกระเป๋าให้เจ้าหน้าที่ตรวจ ซึ่งก็ใช้ไฟฉายส่องกระเป๋า แต่ช่วงหลังจากวันแม่ ที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มเป็นพิเศษ คือให้เอาของในกระเป๋าออกมาวางบนโต๊ะให้หมดเลย
สถานีเตาปูนมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ เป็นรูปกากบาท ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินที่ตัดกัน ในอนาคตจะมีร้านค้ามาตั้งในบริเวณชั้นขายตั๋วโดยสาร สังเกตจากพื้นที่ที่มีการกั้นไว้ คาดว่าเป็นพื้นที่สำหรับให้เช่า แต่ผมว่า น่าจะมีบริเวณที่นั่งพักผ่อน สำหรับรอหรือหลบฝนก็ดีนะ
ผมใช้บัตรโดยสารแตะที่เครื่องกั้น ก็เปิดให้อย่างดี แล้วผมก็ขึ้นไป ตามทางที่เจ้าหน้าที่ชี้ พอขึ้นไปชั้นที่ 2 พบว่าชั้นนี้ยังปิดอยู่ครับ เพราะเป็นชานชาลาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่ยังไม่เปิดให้บริการ สำหรับทางที่จะไปคือชานชาลารถไฟฟ้าสายสีม่วงต้องขึ้นไปอีกชั้นนึง
พอขึ้นมาถึงแล้ว เห็นรถไฟจอดอยู่พอดี เลยจะรีบวิ่งไปขึ้น แต่ยังไม่ทันได้วิ่ง ก็มีเสียง "ปิ๊ดๆๆๆๆๆ" ตามด้วยเสียงนกหวีด เป็นสัญญาณว่าห้ามผ่านประตู เป็นอันว่าต้องรอรถไฟขบวนต่อไป
จุดปรับโหมดทางวิ่ง จากใต้ดินเป็นยกระดับของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จากสถานีบางซื่อ ขึ้นมาเชื่อมต่อกับสายสีม่วงที่สถานีเตาปูน
ทางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ต่อมาจากสถานีบางซื่อและเตาปูน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
พอเดินมาถึงจุดจอดรถไฟ ก็พบกับฉากดราม่ากันระหว่างนักศึกษาสาว 2 คน กับเจ้าหน้าที่ 2 คน ฟังดูพบว่าเป็นเรื่องใช้บัตรโดยสารผิดประเภท สักครู่เจ้าหน้าที่ก็นำน้องนักศึกษาหนึ่งในนั้นไปซื้อเหรียญโดยสาร แล้วเพื่อนที่มาอีกคนก็ตามลงไป จากนั้นเจ้าหน้าที่อีกคนที่ยืนอยู่เห็นผมถือบัตรดำๆ ก็เรียกตรวจบัตรผม ผมก็เปิดให้ดูโดยดี แล้วก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่คนนั้นพักหนึ่งจนรถไฟมา
สอบถามเจ้าหน้าที่ บอกว่าได้เรียกตรวจบัตรของน้องนักศึกษาทั้งสองคน พร้อมทั้งขอดูบัตรนักศึกษาและบัตรประชาชน ปรากฏว่า นักศึกษาคนหนึ่งในสองคนนั้น อายุเข้า 23 ปีมาแล้ว ซึ่งหมดสิทธิ์ใช้บัตรโดยสารสำหรับนักศึกษา จึงได้พาไปเปลี่ยนเป็นบัตรบุคคลทั่วไป ดังนั้น จึงอยากฝากเรื่องการใช้บัตรให้ถูกประเภท สำหรับใครที่ใช้บัตรโดยสาร ที่ไม่ใช่บัตรบุคคลทั่วไป ควรมีหลักฐานไว้รับรองสิทธิติดตัวด้วย เช่น บัตรประชาชน บัตรนักศึกษา เพราะถ้าเจ้าหน้าที่เรียกตรวจแล้วไม่มีหลักฐานแสดง เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ยึดบัตรได้ นอกจากนี้ยังมีสิทธิ์ปรับเงิน 20 เท่าของค่าโดยสารสูงสุดได้อีก
ผ่านไป 10 นาทีกว่าๆ รถไฟก็มาถึง
เนื่องจากเป็นสถานีต้นทาง-ปลายทาง จึงต้องรอสลับห้องคนขับก่อน จึงจะเข้าไปในขบวนรถได้
การมีที่กั้นชานชาลา มีข้อดีคือป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารตกลงไปในราง แต่ก็ทำให้ต้องใช้เทคนิคมากขึ้นในการจอดเทียบชานชาลา เพราะต้องจอดให้ตรง ซึ่งผมพบว่าการเข้าจอดในหลายๆ สถานี ยังไม่ค่อยตรงสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะสถานีนี้ ที่จะเห็นว่าเยื้องกันอย่างเห็นได้ชัด แต่คาดว่าใช้เวลาอีดสักพักก็จะจอดตรงได้ เหมือนสายสีน้ำเงิน
หลังจากประตูรถไฟและชานชาลาเปิดให้ผู้โดยสารเดินเข้าในขบวนรถได้แล้ว ผมเลือกนั่งตู้กลาง คนจะเยอะหน่อยที่ท้ายขบวน แต่พอมองไปที่หัวขบวน คนโล่งเลย
การเดินทางเที่ยวขบวนนี้ เกิดปัญหาขึ้นระหว่างสถานีกระทรวงสาธารณะสุข และสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี รถไฟเกิดหยุดกลางทาง แล้วขึ้นข้อความขออภัย แต่เป็นเวลาไม่นาน แล้วค่อยๆ คลานไปยังสถานีต่อไป ซึ่งทำให้ขบวนรถล่าช้าไปเล็กน้อย คาดว่าสาเหตุมาจากระบบขับอัตโนมัติผิดพลาด
ช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มีผู้โดยสารหลายคนเอากล้องออกมาเก็บภาพ
พอถึงสถานีตลาดบางใหญ่ พบปัญหาคือ ประตูรถไฟเปิด แต่ประตูชานชาลายังไม่เปิด ต้องรอประมาณ 1 นาทีได้ จนเจ้าหน้าที่ต้องกล่าวขออภัย ผมจับเวลาตั้งแต่ขึ้นรถไฟที่สถานีเตาปูน จนถึงลงรถไฟที่สถานีตลาดบางใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 43 นาที ซึ่งถือว่านานไปหน่อย ส่วนหนึ่งก็มาจากที่ระบบขัดข้องระหว่างสถานีกระทรวงสาธารณะสุข กับสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
ขากลับผมนั่งอีกฝั่ง ซึ่งฝั่งนี้จะเห็นการแยกและรวมของสะพานยกระดับของรถไฟฟ้า เป็นลักษณะที่พบได้ในรถไฟฟ้าที่มีชานชาลาอยู่ตรงกลาง ซึ่งทางวิ่งจะต้องหลบชานชาลาโดยแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ขากลับผมลงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เพื่อไปพบกับเพื่อนต่อ จับเวลาได้ 25 นาที
ปล. รูปภาพจากการเดินทาง 3 ครั้ง บางรูปนำมาจากรีวิวภาคแรก
[CR] รีวิว รถไฟฟ้าสายสีม่วง [ภาค 2] พร้อมข้อเสนอแนะ และสิ่งที่ควรปรับปรุง
สำหรับภาคแรก อ่านได้ที่ลิงค์นี้ครับ
http://m.ppantip.com/topic/35475267
เริ่มเลยนะครับ
เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ผมต้องไปธุระที่เซ็นทรัลเวสเกต จึงได้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งจากต้นทางของผมคือลำลูกกา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีกระทรวงสาธารณะสุข โดยการนั่งรถเมล์สาย 114 ไปจากปากทางลำลูกกา แต่ในรีวิวนี้ขอเริ่มจากสถานีเตาปูนเลยนะครับ
เดิมทีผมเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ใช้เหรียญโดยสารธรรมดา แต่ในครั้งนี้เห็นว่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบ่อยขึ้น อีกทั้งที่ทำงานใหม่ผมก็อยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินสุขุมวิทด้วย จึงซื้อบัตรเติมเงิน เพื่อที่จะได้สะดวกไม่ต้องรอคิวซื้อเหรียญโดยสารในช่วงเร่งด่วนที่คิวยาวเป็นหางว่าว อีกทั้งได้รับยกเว้นค่าแรกเข้ากรณีเดินทางต่อเนื่องข้ามสายได้อีก โดยซื้อบัตรที่ สถานีรถไฟใต้ดิน สวนจตุจักร
หลังจากได้บัตรมาแล้ว คิดว่าบัตรนี้ต้องใช้ถนอมหน่อย เพราะต้องใช้ไปตลอด เลยหาซองใส่ให้ดูดี เอาซองหนังสีดำ มีช่องเปิดดูตัวบัตรได้ ดูเท่ไม่น้อยตอนเอาบัตรไปแตะเครื่องกั้น
นอกจากนี้ ล่าสุดผู้ที่ใช้บัตรโดยสารเติมเงิน ยังได้ส่วนลด 50% ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่จะมีผลในวันที่ 1 กันยายนนี้ ในขณะที่เหรียญโดยสารจะได้เป็นราคาเดิม
ในส่วนของเหรียญโดยสาร ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีความแตกต่างจากของสายสีน้ำเงินอยู่บ้าง เหรียญโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะไม่มีรูตรงกลาง แต่จะมีลายสลักลงไปเป็นรูปโลโก้ MRT พร้อมข้อความ Property of MRTA
ช่วงเริ่มต้นทาง เริ่มจากสถานีสวนจตุจักร ลงบางซื่อ แล้วต่อรถ shuttle bus ไปที่สถานีเตาปูน (ครั้งต่อๆ มา ผมเริ่มจากสถานีกระทรวงสาธารณะสุข เพราะใกล้กว่าและสะดวกต่อการเดินทางมาจากบ้านมากกว่า)
เมื่อมาถึงสถานีบางซื่อแล้ว รอประมาณ 10 นาที รถ Shuttle bus ก็มาถึง เป็นรถเมล์ปรับอากาศยูโรทูสีเหลือง
ตรงนี้แหละครับที่ผมพลาดไปในตอนแรก เพราะผมขึ้นมา เห็นรถเมล์คันแบบเดียวกัน เขียนป้ายข้างหน้าว่า ไปสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน ก็เลยขึ้นซะ แล้วไปหน้าแตกตอนเขาเก็บตัง รถ Shuttle bus ต้องระบุชัดเจน ว่าบริการฟรี ส่วนที่เขียนว่า ไปสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน หน้ารถเมล์นั้นก็เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารตามเส้นทางที่รถเมล์นี้ผ่านรู้ว่ารถคันนี้นั่งไปสถานีเตาปูนได้ เป็นการโฆษณาสายรถเมล์ แต่คนที่มาครั้งแรกอาจหลงไปขึ้นผิดได้
รถเมล์ shuttle bus จะจอดบริเวณใต้สถานีเตาปูน ข้างๆ ทางขึ้นพอดี
เมื่อขึ้นมาแล้ว จะพบกับด่านตรวจหาของต้องห้าม ก่อนเข้าไปยังบริเวณภายในสถานี การตรวจก็เดินผ่านประตู แล้วเปิดกระเป๋าให้เจ้าหน้าที่ตรวจ ซึ่งก็ใช้ไฟฉายส่องกระเป๋า แต่ช่วงหลังจากวันแม่ ที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มเป็นพิเศษ คือให้เอาของในกระเป๋าออกมาวางบนโต๊ะให้หมดเลย
สถานีเตาปูนมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ เป็นรูปกากบาท ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินที่ตัดกัน ในอนาคตจะมีร้านค้ามาตั้งในบริเวณชั้นขายตั๋วโดยสาร สังเกตจากพื้นที่ที่มีการกั้นไว้ คาดว่าเป็นพื้นที่สำหรับให้เช่า แต่ผมว่า น่าจะมีบริเวณที่นั่งพักผ่อน สำหรับรอหรือหลบฝนก็ดีนะ
ผมใช้บัตรโดยสารแตะที่เครื่องกั้น ก็เปิดให้อย่างดี แล้วผมก็ขึ้นไป ตามทางที่เจ้าหน้าที่ชี้ พอขึ้นไปชั้นที่ 2 พบว่าชั้นนี้ยังปิดอยู่ครับ เพราะเป็นชานชาลาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่ยังไม่เปิดให้บริการ สำหรับทางที่จะไปคือชานชาลารถไฟฟ้าสายสีม่วงต้องขึ้นไปอีกชั้นนึง
พอขึ้นมาถึงแล้ว เห็นรถไฟจอดอยู่พอดี เลยจะรีบวิ่งไปขึ้น แต่ยังไม่ทันได้วิ่ง ก็มีเสียง "ปิ๊ดๆๆๆๆๆ" ตามด้วยเสียงนกหวีด เป็นสัญญาณว่าห้ามผ่านประตู เป็นอันว่าต้องรอรถไฟขบวนต่อไป
จุดปรับโหมดทางวิ่ง จากใต้ดินเป็นยกระดับของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จากสถานีบางซื่อ ขึ้นมาเชื่อมต่อกับสายสีม่วงที่สถานีเตาปูน
ทางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ต่อมาจากสถานีบางซื่อและเตาปูน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
พอเดินมาถึงจุดจอดรถไฟ ก็พบกับฉากดราม่ากันระหว่างนักศึกษาสาว 2 คน กับเจ้าหน้าที่ 2 คน ฟังดูพบว่าเป็นเรื่องใช้บัตรโดยสารผิดประเภท สักครู่เจ้าหน้าที่ก็นำน้องนักศึกษาหนึ่งในนั้นไปซื้อเหรียญโดยสาร แล้วเพื่อนที่มาอีกคนก็ตามลงไป จากนั้นเจ้าหน้าที่อีกคนที่ยืนอยู่เห็นผมถือบัตรดำๆ ก็เรียกตรวจบัตรผม ผมก็เปิดให้ดูโดยดี แล้วก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่คนนั้นพักหนึ่งจนรถไฟมา
สอบถามเจ้าหน้าที่ บอกว่าได้เรียกตรวจบัตรของน้องนักศึกษาทั้งสองคน พร้อมทั้งขอดูบัตรนักศึกษาและบัตรประชาชน ปรากฏว่า นักศึกษาคนหนึ่งในสองคนนั้น อายุเข้า 23 ปีมาแล้ว ซึ่งหมดสิทธิ์ใช้บัตรโดยสารสำหรับนักศึกษา จึงได้พาไปเปลี่ยนเป็นบัตรบุคคลทั่วไป ดังนั้น จึงอยากฝากเรื่องการใช้บัตรให้ถูกประเภท สำหรับใครที่ใช้บัตรโดยสาร ที่ไม่ใช่บัตรบุคคลทั่วไป ควรมีหลักฐานไว้รับรองสิทธิติดตัวด้วย เช่น บัตรประชาชน บัตรนักศึกษา เพราะถ้าเจ้าหน้าที่เรียกตรวจแล้วไม่มีหลักฐานแสดง เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ยึดบัตรได้ นอกจากนี้ยังมีสิทธิ์ปรับเงิน 20 เท่าของค่าโดยสารสูงสุดได้อีก
ผ่านไป 10 นาทีกว่าๆ รถไฟก็มาถึง
เนื่องจากเป็นสถานีต้นทาง-ปลายทาง จึงต้องรอสลับห้องคนขับก่อน จึงจะเข้าไปในขบวนรถได้
การมีที่กั้นชานชาลา มีข้อดีคือป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารตกลงไปในราง แต่ก็ทำให้ต้องใช้เทคนิคมากขึ้นในการจอดเทียบชานชาลา เพราะต้องจอดให้ตรง ซึ่งผมพบว่าการเข้าจอดในหลายๆ สถานี ยังไม่ค่อยตรงสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะสถานีนี้ ที่จะเห็นว่าเยื้องกันอย่างเห็นได้ชัด แต่คาดว่าใช้เวลาอีดสักพักก็จะจอดตรงได้ เหมือนสายสีน้ำเงิน
หลังจากประตูรถไฟและชานชาลาเปิดให้ผู้โดยสารเดินเข้าในขบวนรถได้แล้ว ผมเลือกนั่งตู้กลาง คนจะเยอะหน่อยที่ท้ายขบวน แต่พอมองไปที่หัวขบวน คนโล่งเลย
การเดินทางเที่ยวขบวนนี้ เกิดปัญหาขึ้นระหว่างสถานีกระทรวงสาธารณะสุข และสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี รถไฟเกิดหยุดกลางทาง แล้วขึ้นข้อความขออภัย แต่เป็นเวลาไม่นาน แล้วค่อยๆ คลานไปยังสถานีต่อไป ซึ่งทำให้ขบวนรถล่าช้าไปเล็กน้อย คาดว่าสาเหตุมาจากระบบขับอัตโนมัติผิดพลาด
ช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มีผู้โดยสารหลายคนเอากล้องออกมาเก็บภาพ
พอถึงสถานีตลาดบางใหญ่ พบปัญหาคือ ประตูรถไฟเปิด แต่ประตูชานชาลายังไม่เปิด ต้องรอประมาณ 1 นาทีได้ จนเจ้าหน้าที่ต้องกล่าวขออภัย ผมจับเวลาตั้งแต่ขึ้นรถไฟที่สถานีเตาปูน จนถึงลงรถไฟที่สถานีตลาดบางใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 43 นาที ซึ่งถือว่านานไปหน่อย ส่วนหนึ่งก็มาจากที่ระบบขัดข้องระหว่างสถานีกระทรวงสาธารณะสุข กับสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
ขากลับผมนั่งอีกฝั่ง ซึ่งฝั่งนี้จะเห็นการแยกและรวมของสะพานยกระดับของรถไฟฟ้า เป็นลักษณะที่พบได้ในรถไฟฟ้าที่มีชานชาลาอยู่ตรงกลาง ซึ่งทางวิ่งจะต้องหลบชานชาลาโดยแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ขากลับผมลงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เพื่อไปพบกับเพื่อนต่อ จับเวลาได้ 25 นาที
ปล. รูปภาพจากการเดินทาง 3 ครั้ง บางรูปนำมาจากรีวิวภาคแรก