ดีครับ กระทู้นี้เป็นรีวิวกาเดินทางรีวิวแรกของผม และผมก็เพิ่งได้ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นครั้งแรก ข้อมูลที่ผมได้มาบางอย่างอาจคลาดเคลื่อน เช่นตรงจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน(ที่ทำผมเอ๋อๆ ไปชั่วขณะ)
หลังจากที่เซ็นทรัลเวสเกต เปิดให้บริการเมื่อกลางปีที่แล้ว ก็กลายเป็นห้างที่ค่อนข้างบูมทีเดียว ไม่แพ้ห้างใหญ่ใจกลางกรุงเทพ แต่หลายคน โดยเฉพาะคนที่งบน้อย หรือไม่มีรถยนต์ส่วนตัว หรือมีแต่ไม่ชอบขับรถ(เช่นผมเอง) มีปัญหาเรื่องการเดินทาง เนื่องจากห้างแห่งนี้ มีพื้นที่เจาะตลาดในบริเวณชานเมืองฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ตามชื่อ subname ว่า WestGate หรือ ประตูด่านฝั่งตะวันตก แต่เนื่องจากห้างนี้ตอนเปิดใหม่ จนถึงตอนนี้ บูมมาก เอาเป็นว่าเกือบครึ่งหนึ่งของ feed ใน Facebook นี่มีแต่คนเช็คอินที่เซ็นทรัลเวสเกตทั้งนั้น คนในพื้นที่บางใหญ่-นนทบุรี คงรู้เส้นทางและรถโดยสารในพื้นที่อยู่แล้ว การเดินทางของกลุ่มคนในพื้นที่จึงไม่ค่อยมีปัญหา แต่คนที่มาจากใจกลางเมือง หรือชานเมืองอีกฝั่งของกรุงเทพ การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ มักจะมีความซับซ้อน นั่งรถหลายต่อ ถ้างบเยอะนั่งแท็กซี่ก็จบ แต่อาจเจอปฏิเสธผู้โดยสารไปบ้าง เพราะทางค่อนข้างไกล และถ้านั่งจากลำลูกกาไปเลย หรือนั่งจากใจกลางเมือง ค่าโดยสาร 200 บาท เป็นอย่างต่ำ
ผมเคยเดินทางไปห้างแห่งนี้มาแล้ว โดยการขับรถไป และนั่งรถไปกับเพื่อน ไปทางดอนเมือง ข้ามสะพานนวลฉวี แล้วไปโผล่ที่สถานีคลองบางไผ่ ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสถานีต่อไปจะเป็นห้างเซ็นทรัลเวสเกต ตอนที่รถไฟฟ้าสายนี้ยังไม่เปิดให้บริการ ผมชอบไปเรียกว่า BTS เพราะคิดว่ามันคือส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้า BTS เสียอีก กับการที่เป็นรถไฟฟ้ายกระดับ ซึ่งแต่ก่อนเรียกรถไฟฟ้ายกระดับว่า BTS และเรียกรถไฟฟ้าใต้ดินว่า MRT ก็เลยเรียกจนติดปาก แต่จริงแล้ว รถไฟฟ้าของ รฟม จะเรียกว่า MRT ทั้งหมด มีทั้งยกระดับและใต้ดิน อย่างสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายก็มีการปรับโหมดวิ่งยกระดับ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยายทางใต้ ก็จะมีบางส่วนที่ปรับโหมดวิ่งใต้ดิน เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สร้างมาทางบ้านผม อันนี้ก็เรียกว่า MRT เช่นกัน แต่มีหลายคนเข้าใจผิดเรียกว่า BTS
การเดินทางจาก ลำลูกกา ไปเซ็นทรัลเวสเกตในครั้งนี้ อาจจะดูซับซ้อนไปหน่อย คือผมนั่งรถเมล์มาลงที่ปากทางลำลูกกา ต่อรถตู้ไปลงลาดพร้าว แล้วนั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินลงบางซื่อ แล้วต่อรถเมล์ไปลงสถานีเตาปูน แล้วนั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงไปลงเซ็นทรัลเวสเกต จะเห็นว่าซับซ้อนพอสมควรตรงจุดเชื่อมต่อนี่แหละ เพราะตอนนี้ยังมีปัญหาจุดเชื่อมต่ออยู่ และผมก็รู้แล้วว่ามีเส้นทางง่ายกว่านี้ คือนั่งรถออกมาปากทางลำลูกกา ต่อ 114 ลงกระทรวงสาธารณะสุข แล้วขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากสถานีกระทรวงสาธารณะสุขได้เลย นอกจากนี้ยังนั่ง 114 ไปลงเดอะมอลล์งามวงศ์วาน เพื่อต่อรถตู้ไปเซ็นทรัลเวสเกต แต่รถตู้ที่วิ่งเส้นทางนี้มีน้อยและรอนาน แต่ที่ผมเลือกเส้นทางนี้ เพราะต้องการอิงกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวสร้างเสร็จ ก็จะใช้เส้นทางนี้แหละ
เริ่มแรก ผมนั่งรถเมล์ปรับอากาศ สาย 543 ลงที่สะพานใหม่ ระหว่างทาง การจราจรค่อนข้างติดขัด ส่วนหนึ่งมาจากการสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่กินพื้นที่ถนนไปฝั่งละ 1 เลน พอถึงสะพานใหม่แล้วก็ต่อรถตู้ ลงเซ็นทรัลลาดพร้าว แล้วเดินเข้าสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีพหลโยธิน แล้วตีตั๋วไปลงสถานีบางซื่อ ซึ่งในอนาคต สถานีพหลโยธินนี้จะเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าสีเขียวสถานีแยกลาดพร้าวด้วยสะพานลอย ทำให้สะดวกมากขึ้นในการเชื่อมต่อ
พอถึงสถานีจตุจักร คนลงเกือบหมดเลยครับ เหลือนั่งต่อไปบางซื่อไม่กี่คน
พอถึงสถานีบางซื่อแล้ว เดินไกลพอสมควร เกือบๆ ครึ่งกิโลเมตร เพราะทางเข้าออกอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวสถานี พอเดินออกไปแล้วมีป้ายบอกจุดรอรถปรับอากาศฟรี ไปยังสถานีเตาปูน พอมองไป เห็นรถเมล์ปรับอากาศ ข้างหน้าเขียนตัวใหญ่ๆว่า "ไปสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน" เลยรีบวิ่งไปขึ้นรถ ตรงนี้แหละที่ทำผมเอ๋อไปชั่วขณะ เพราะผมคิดว่ามันฟรีตามที่บอกในป้ายครับ แล้วผมนี่ใส่หูฟังฟังเพลงอยู่ด้วย พกส เดินมาเก็บค่าโดยสารก็ไม่รู้เรื่อง หูก็ฟังเพลง ตาก็มองแต่แผนที่ในโทรศัพท์ จน พกส ต้องสะกิดผม ผมถอดหูฟังออกทันที พกส ถามดังๆ ว่า "ลงไหนคะ" ผมตอบ "สถานีเตาปูนครับ" นางก็บอกว่า "11 บาทค่ะ" ก็จ่ายไปแบบงงๆ สรุปไม่ฟรีนะครับ 11 บาท ที่ว่าฟรี น่าจะเป็นรถเมล์แดง ที่มีป้ายติดว่ารถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชน
พอถึงสถานีเตาปูน ก็ได้เวลาลุยแล้วครับ
เดินไปอีกหน่อยก็จะเจอทางขึ้น งามๆ
เมื่อเดินขึ้นมาแล้วก็จะเจอด่านตรวจหาของมีคมและของต้องห้าม พอผ่านด่านไปก็จะเจอห้องจำหน่ายตั๋ว ค่าโดยสาร จากสถานีเตาปูน ไปเซ็นทรัลเวสเกต ซึ่งก็คือสถานีตลาดบางใหญ่ ราคาสูงสุดเลยคือ 42 บาท ตั๋วโดยสารมีลักษณะเป็นเหรียญฝังชิป (token) เหมือนกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ไม่ใช่บัตรแถบแม่เหล็กเหมือน BTS
ภายในสถานีค่อนข้างกว้างใหญ่ทีเดียว แต่ไม่มีที่ให้นั่งนะครับ
สถานีนี้มีลักษณะเป็น 3 ชั้น ชั้นแรก เป็นชั้นขายตั๋วโดยสาร ชั้นที่ 2 เป็นชานชาลารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ซึ่งตอนนี้ยังไม่เปิดให้บริการ เมื่อขึ้นไปแล้วจะพบว่ามีเชือกกั้นอยู่ และมีเจ้าหน้าที่คอยชี้ทางให้ขึ้นต่อไปอีก
ชั้นบนสุดจะเป็นชานชาลารถไฟฟ้าสายสีม่วง และเป็นชั้นที่เราจะใช้เดินทางกัน
ตอนที่ผมมาถึง คนค่อนข้างน้อยครับ แต่รอรถนานพอสมควร เนื่องจากสายสีม่วงนี้เป็นรถไฟฟ้าชานเมือง ที่เชื่อมต่อระหว่างชานเมืองกับใจกลางเมือง ผู้ใช้บริการจึงยังไม่เยอะ เหมือนรถไฟฟ้าในเมืองอย่าง BTS และ สายสีน้ำเงิน ดังนั้นจำนวนขบวนรถที่วิ่งจึงยังมีน้อย ต้องรอประมาณ 20 นาที ถ้าให้เทียบก็เหมือนกับ Airport link นั่นแหละ แต่ถ้ารอนานแบบนี้ น่ามีที่นั่งให้นั่งรอก็ดีนะ
ระหว่างรอ ผมก็เดินเล่นชมวิวทั่วทั้งชั้นนั้นแหละ เห็นมีคนเดินถ่ายรูปหลายคนเลยเดินถ่ายกับเขาบ้าง
มองไปที่ชั้นสอง จะเห็นหลังคาชานชาลาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่ตัดกับสายสีม่วง และจะเห็นงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย
ไปดูอีกฝั่งจะเห็นการปรับโหมดวิ่งจากใต้ดินเป็นยกระดับ ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และจะเห็นว่ามีการวางระบบรางวิ่ง และรางไฟฟ้ามาถึงสถานีเตาปูนแล้ว และได้ข่าวว่ามีการทดลองวิ่งมาที่สถานีเตาปูนแล้ว แต่ ณ ตอนนี้ ยังไม่เปิดให้บริการ เพราะยังมีปัญหาเรื่องสัญญา และผู้ให้บริการเดินรถ คาดว่าน่าจะพร้อมให้บริการภายในสิ้นปีนี้ จะได้ไม่ต้องเดินออกมานั่งรถเมล์หรือรถไฟเพื่อมาต่อ
ดูจุดปรับโหมดวิ่งชัดๆ
ระบบรางของรถไฟฟ้าสายสีม่วง เป็นรางขนาด 1.435 เมตร จ่ายไฟฟ้าด้วยรางที่สาม (รางสีเหลืองด้านข้างในรูป)
แผนที่สถานี
หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที คนเริ่มเยอะแล้วครับ เมื่อเจ้าหน้าที่ประกาศว่ารถไฟฟ้าจะมาถึงในอีกประมาณ 5 นาที ผมก็เดินมาที่ชานชาลาที่จะขึ้นรถไฟ
และแล้วรถไฟก็มาถึงครับ โดยสถานีนี้เป็นสถานีปลายทางและต้นทาง เมื่อผู้โดยสารลงจากรถหมดแล้วยังเข้าไปไม่ได้นะครับ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปหลังคนในรถลงหมดแล้วโดนเจ้าหน้าที่ไล่ออกมา โดยจะต้องรอสลับห้องคนขับก่อน และในตอนนี้เองที่พนักงานทำความสะอาดจะเข้าไปทำความสะอาด ห้องคนขับ อยู่ทางด้านหน้าและหลังของขบวนรถ จริงแล้วเป็นได้ทั้งหน้าและหลัง เพราะมีสองหัว โดยเมื่อถึงสถานีปลายทาง จะมีเจ้าหน้าที่ซึ่งน่าจะเป็นพนักงานขับรถ เดินจากห้องคนขับฝั่งหนึ่ง ที่เป็นด้านหลัง ไปยังห้องคนขับอีกด้านหนึ่ง เพื่อกลับลำรถ โดยห้องคนขับฝั่งที่ใช้ขับจะมีเจ้าหน้าที่ 2 คน ฝั่งที่เป็นด้านหลังจะมีเจ้าหน้าที่ 1 คน
ตัวรถไฟจะมีตู้โดยสาร 3 ตู้ ตู้ที่อยู่ด้านหน้าและหลัง จะมีห้องคนขับ แต่ไม่มีระบบขับเคลื่อน โดยระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ตู้กลาง (M car)
เมื่อเข้ามาแล้วก็หาที่นั่งเลยครับ คนไม่เยอะเท่าไหร่ ยังพอมีที่นั่งว่างหลายที่ โดยจุดที่ผมขึ้นจะได้ที่นั่งบริเวณท้ายขบวน
กระนั้นเอง ผมเห็นว่าด้านหน้าขบวนรถค่อนข้างโล่ง เลยย้ายไปนั่งด้านหน้า
ระหว่างทางมีคนขึ้นลงค่อนข้างน้อย นับจำนวนคนได้เลย การจอดที่สถานีต่างๆ บางครั้งจอดไม่ตรงกับประตูกั้น ต้องใช้การขยับรถช่วย ส่วนระบบเสียงอัตโนมัติ ของขบวนรถไฟฟ้าสายสีม่วง เหมือนจะพูดมากที่สุด คือ ประโยคออกจะเหมือนๆ กับของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน คือมี "โปรดใช้ความระมัดระวังขณะก้าวออกจากรถ" เพิ่มมาจากของ BTS และในส่วนของภาษาอังกฤษก็ใช้ประโยค "Please mind the gate between train and platform" แต่สำเนียงแอบดีกว่าเสียงของสายสีน้ำเงิน แต่สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะมีคำพูดอัตโนมัติเพิ่มมาคือ "อีกสักครู่ ประตูรถกำลังจะเปิด" และ "อีกสักครู่ ประตูรถกำลังจะปิด"
ช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จะอยู่ระหว่างสถานีสะพานพระนั่งเกล้า กับสถานีไทรม้า เมื่อถึงสถานีสะพานพระนั่งเกล้า หลายคนเริ่มเตรียมกล้องรอถ่ายเลยครับ
ถ่ายขณะจอดอยู่ที่สถานีสะพานพระนั่งเกล้า
ช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
หลังจากผ่านช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปแล้ว ทุกคนก็เข้าที่ครับ ผมก็ปิดกล้องแล้วนั่งพัก รออีกประมาณ 5 สถานี
และแล้วก็เริ่มเห็นจุดหมายครับ
ถึงสถานีสามแยกบางใหญ่ จะลงเซ็นทรัลเวสเกต ลงสถานีนี้ก็ได้ครับ แต่ถ้าจะให้สะดวกลงสถานีต่อไปคือสถานีตลาดบางใหญ่ แล้วเดินย้อนมา จะมีทางเดินเชื่อมเข้าห้างได้เลย และที่สถานีสามแยกบางใหญ่ ผมเพิ่งเห็นรถไฟวิ่งสวนมาเป็นขบวนแรก
และแล้วก็ถึงจุดหมาย ที่สถานีตลาดบางใหญ่ คนลงสถานีนี้เกือบหมดเลยครับ เป็นสถานีรองสุดท้าย ยังมีอีกสถานีหนึ่งซึ่งเป็นสถานีปลายทางคือสถานีคลองบางไผ่ สำหรับคนที่ขับรถมาก็จอดที่อาคารจอดแล้วจร แล้วขึ้นจากสถานีคลองบางไผ่ได้
เดินลงชั้นล่าง หยอดตั๋วโดยสารคืนแล้วเดินต่อไป จะเจอ Skywalk เชื่อมต่อกับห้าง
สังเกตว่าทางเชื่อมมีสองทางเลยครับ อีกทางหนึ่งคือสะพานลอยที่มีมาก่อนแล้วนั่นเอง
ถึงแล้วครับ
รีวิวการเดินทางจากลำลูกกา ไปเซ็นทรัลเวสเกต โดยใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วง
หลังจากที่เซ็นทรัลเวสเกต เปิดให้บริการเมื่อกลางปีที่แล้ว ก็กลายเป็นห้างที่ค่อนข้างบูมทีเดียว ไม่แพ้ห้างใหญ่ใจกลางกรุงเทพ แต่หลายคน โดยเฉพาะคนที่งบน้อย หรือไม่มีรถยนต์ส่วนตัว หรือมีแต่ไม่ชอบขับรถ(เช่นผมเอง) มีปัญหาเรื่องการเดินทาง เนื่องจากห้างแห่งนี้ มีพื้นที่เจาะตลาดในบริเวณชานเมืองฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ตามชื่อ subname ว่า WestGate หรือ ประตูด่านฝั่งตะวันตก แต่เนื่องจากห้างนี้ตอนเปิดใหม่ จนถึงตอนนี้ บูมมาก เอาเป็นว่าเกือบครึ่งหนึ่งของ feed ใน Facebook นี่มีแต่คนเช็คอินที่เซ็นทรัลเวสเกตทั้งนั้น คนในพื้นที่บางใหญ่-นนทบุรี คงรู้เส้นทางและรถโดยสารในพื้นที่อยู่แล้ว การเดินทางของกลุ่มคนในพื้นที่จึงไม่ค่อยมีปัญหา แต่คนที่มาจากใจกลางเมือง หรือชานเมืองอีกฝั่งของกรุงเทพ การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ มักจะมีความซับซ้อน นั่งรถหลายต่อ ถ้างบเยอะนั่งแท็กซี่ก็จบ แต่อาจเจอปฏิเสธผู้โดยสารไปบ้าง เพราะทางค่อนข้างไกล และถ้านั่งจากลำลูกกาไปเลย หรือนั่งจากใจกลางเมือง ค่าโดยสาร 200 บาท เป็นอย่างต่ำ
ผมเคยเดินทางไปห้างแห่งนี้มาแล้ว โดยการขับรถไป และนั่งรถไปกับเพื่อน ไปทางดอนเมือง ข้ามสะพานนวลฉวี แล้วไปโผล่ที่สถานีคลองบางไผ่ ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสถานีต่อไปจะเป็นห้างเซ็นทรัลเวสเกต ตอนที่รถไฟฟ้าสายนี้ยังไม่เปิดให้บริการ ผมชอบไปเรียกว่า BTS เพราะคิดว่ามันคือส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้า BTS เสียอีก กับการที่เป็นรถไฟฟ้ายกระดับ ซึ่งแต่ก่อนเรียกรถไฟฟ้ายกระดับว่า BTS และเรียกรถไฟฟ้าใต้ดินว่า MRT ก็เลยเรียกจนติดปาก แต่จริงแล้ว รถไฟฟ้าของ รฟม จะเรียกว่า MRT ทั้งหมด มีทั้งยกระดับและใต้ดิน อย่างสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายก็มีการปรับโหมดวิ่งยกระดับ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยายทางใต้ ก็จะมีบางส่วนที่ปรับโหมดวิ่งใต้ดิน เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สร้างมาทางบ้านผม อันนี้ก็เรียกว่า MRT เช่นกัน แต่มีหลายคนเข้าใจผิดเรียกว่า BTS
การเดินทางจาก ลำลูกกา ไปเซ็นทรัลเวสเกตในครั้งนี้ อาจจะดูซับซ้อนไปหน่อย คือผมนั่งรถเมล์มาลงที่ปากทางลำลูกกา ต่อรถตู้ไปลงลาดพร้าว แล้วนั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินลงบางซื่อ แล้วต่อรถเมล์ไปลงสถานีเตาปูน แล้วนั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงไปลงเซ็นทรัลเวสเกต จะเห็นว่าซับซ้อนพอสมควรตรงจุดเชื่อมต่อนี่แหละ เพราะตอนนี้ยังมีปัญหาจุดเชื่อมต่ออยู่ และผมก็รู้แล้วว่ามีเส้นทางง่ายกว่านี้ คือนั่งรถออกมาปากทางลำลูกกา ต่อ 114 ลงกระทรวงสาธารณะสุข แล้วขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากสถานีกระทรวงสาธารณะสุขได้เลย นอกจากนี้ยังนั่ง 114 ไปลงเดอะมอลล์งามวงศ์วาน เพื่อต่อรถตู้ไปเซ็นทรัลเวสเกต แต่รถตู้ที่วิ่งเส้นทางนี้มีน้อยและรอนาน แต่ที่ผมเลือกเส้นทางนี้ เพราะต้องการอิงกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวสร้างเสร็จ ก็จะใช้เส้นทางนี้แหละ
เริ่มแรก ผมนั่งรถเมล์ปรับอากาศ สาย 543 ลงที่สะพานใหม่ ระหว่างทาง การจราจรค่อนข้างติดขัด ส่วนหนึ่งมาจากการสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่กินพื้นที่ถนนไปฝั่งละ 1 เลน พอถึงสะพานใหม่แล้วก็ต่อรถตู้ ลงเซ็นทรัลลาดพร้าว แล้วเดินเข้าสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีพหลโยธิน แล้วตีตั๋วไปลงสถานีบางซื่อ ซึ่งในอนาคต สถานีพหลโยธินนี้จะเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าสีเขียวสถานีแยกลาดพร้าวด้วยสะพานลอย ทำให้สะดวกมากขึ้นในการเชื่อมต่อ
พอถึงสถานีจตุจักร คนลงเกือบหมดเลยครับ เหลือนั่งต่อไปบางซื่อไม่กี่คน
พอถึงสถานีบางซื่อแล้ว เดินไกลพอสมควร เกือบๆ ครึ่งกิโลเมตร เพราะทางเข้าออกอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวสถานี พอเดินออกไปแล้วมีป้ายบอกจุดรอรถปรับอากาศฟรี ไปยังสถานีเตาปูน พอมองไป เห็นรถเมล์ปรับอากาศ ข้างหน้าเขียนตัวใหญ่ๆว่า "ไปสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน" เลยรีบวิ่งไปขึ้นรถ ตรงนี้แหละที่ทำผมเอ๋อไปชั่วขณะ เพราะผมคิดว่ามันฟรีตามที่บอกในป้ายครับ แล้วผมนี่ใส่หูฟังฟังเพลงอยู่ด้วย พกส เดินมาเก็บค่าโดยสารก็ไม่รู้เรื่อง หูก็ฟังเพลง ตาก็มองแต่แผนที่ในโทรศัพท์ จน พกส ต้องสะกิดผม ผมถอดหูฟังออกทันที พกส ถามดังๆ ว่า "ลงไหนคะ" ผมตอบ "สถานีเตาปูนครับ" นางก็บอกว่า "11 บาทค่ะ" ก็จ่ายไปแบบงงๆ สรุปไม่ฟรีนะครับ 11 บาท ที่ว่าฟรี น่าจะเป็นรถเมล์แดง ที่มีป้ายติดว่ารถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชน
พอถึงสถานีเตาปูน ก็ได้เวลาลุยแล้วครับ
เดินไปอีกหน่อยก็จะเจอทางขึ้น งามๆ
เมื่อเดินขึ้นมาแล้วก็จะเจอด่านตรวจหาของมีคมและของต้องห้าม พอผ่านด่านไปก็จะเจอห้องจำหน่ายตั๋ว ค่าโดยสาร จากสถานีเตาปูน ไปเซ็นทรัลเวสเกต ซึ่งก็คือสถานีตลาดบางใหญ่ ราคาสูงสุดเลยคือ 42 บาท ตั๋วโดยสารมีลักษณะเป็นเหรียญฝังชิป (token) เหมือนกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ไม่ใช่บัตรแถบแม่เหล็กเหมือน BTS
ภายในสถานีค่อนข้างกว้างใหญ่ทีเดียว แต่ไม่มีที่ให้นั่งนะครับ
สถานีนี้มีลักษณะเป็น 3 ชั้น ชั้นแรก เป็นชั้นขายตั๋วโดยสาร ชั้นที่ 2 เป็นชานชาลารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ซึ่งตอนนี้ยังไม่เปิดให้บริการ เมื่อขึ้นไปแล้วจะพบว่ามีเชือกกั้นอยู่ และมีเจ้าหน้าที่คอยชี้ทางให้ขึ้นต่อไปอีก
ชั้นบนสุดจะเป็นชานชาลารถไฟฟ้าสายสีม่วง และเป็นชั้นที่เราจะใช้เดินทางกัน
ตอนที่ผมมาถึง คนค่อนข้างน้อยครับ แต่รอรถนานพอสมควร เนื่องจากสายสีม่วงนี้เป็นรถไฟฟ้าชานเมือง ที่เชื่อมต่อระหว่างชานเมืองกับใจกลางเมือง ผู้ใช้บริการจึงยังไม่เยอะ เหมือนรถไฟฟ้าในเมืองอย่าง BTS และ สายสีน้ำเงิน ดังนั้นจำนวนขบวนรถที่วิ่งจึงยังมีน้อย ต้องรอประมาณ 20 นาที ถ้าให้เทียบก็เหมือนกับ Airport link นั่นแหละ แต่ถ้ารอนานแบบนี้ น่ามีที่นั่งให้นั่งรอก็ดีนะ
ระหว่างรอ ผมก็เดินเล่นชมวิวทั่วทั้งชั้นนั้นแหละ เห็นมีคนเดินถ่ายรูปหลายคนเลยเดินถ่ายกับเขาบ้าง
มองไปที่ชั้นสอง จะเห็นหลังคาชานชาลาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่ตัดกับสายสีม่วง และจะเห็นงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย
ไปดูอีกฝั่งจะเห็นการปรับโหมดวิ่งจากใต้ดินเป็นยกระดับ ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และจะเห็นว่ามีการวางระบบรางวิ่ง และรางไฟฟ้ามาถึงสถานีเตาปูนแล้ว และได้ข่าวว่ามีการทดลองวิ่งมาที่สถานีเตาปูนแล้ว แต่ ณ ตอนนี้ ยังไม่เปิดให้บริการ เพราะยังมีปัญหาเรื่องสัญญา และผู้ให้บริการเดินรถ คาดว่าน่าจะพร้อมให้บริการภายในสิ้นปีนี้ จะได้ไม่ต้องเดินออกมานั่งรถเมล์หรือรถไฟเพื่อมาต่อ
ดูจุดปรับโหมดวิ่งชัดๆ
ระบบรางของรถไฟฟ้าสายสีม่วง เป็นรางขนาด 1.435 เมตร จ่ายไฟฟ้าด้วยรางที่สาม (รางสีเหลืองด้านข้างในรูป)
แผนที่สถานี
หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที คนเริ่มเยอะแล้วครับ เมื่อเจ้าหน้าที่ประกาศว่ารถไฟฟ้าจะมาถึงในอีกประมาณ 5 นาที ผมก็เดินมาที่ชานชาลาที่จะขึ้นรถไฟ
และแล้วรถไฟก็มาถึงครับ โดยสถานีนี้เป็นสถานีปลายทางและต้นทาง เมื่อผู้โดยสารลงจากรถหมดแล้วยังเข้าไปไม่ได้นะครับ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปหลังคนในรถลงหมดแล้วโดนเจ้าหน้าที่ไล่ออกมา โดยจะต้องรอสลับห้องคนขับก่อน และในตอนนี้เองที่พนักงานทำความสะอาดจะเข้าไปทำความสะอาด ห้องคนขับ อยู่ทางด้านหน้าและหลังของขบวนรถ จริงแล้วเป็นได้ทั้งหน้าและหลัง เพราะมีสองหัว โดยเมื่อถึงสถานีปลายทาง จะมีเจ้าหน้าที่ซึ่งน่าจะเป็นพนักงานขับรถ เดินจากห้องคนขับฝั่งหนึ่ง ที่เป็นด้านหลัง ไปยังห้องคนขับอีกด้านหนึ่ง เพื่อกลับลำรถ โดยห้องคนขับฝั่งที่ใช้ขับจะมีเจ้าหน้าที่ 2 คน ฝั่งที่เป็นด้านหลังจะมีเจ้าหน้าที่ 1 คน
ตัวรถไฟจะมีตู้โดยสาร 3 ตู้ ตู้ที่อยู่ด้านหน้าและหลัง จะมีห้องคนขับ แต่ไม่มีระบบขับเคลื่อน โดยระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ตู้กลาง (M car)
เมื่อเข้ามาแล้วก็หาที่นั่งเลยครับ คนไม่เยอะเท่าไหร่ ยังพอมีที่นั่งว่างหลายที่ โดยจุดที่ผมขึ้นจะได้ที่นั่งบริเวณท้ายขบวน
กระนั้นเอง ผมเห็นว่าด้านหน้าขบวนรถค่อนข้างโล่ง เลยย้ายไปนั่งด้านหน้า
ระหว่างทางมีคนขึ้นลงค่อนข้างน้อย นับจำนวนคนได้เลย การจอดที่สถานีต่างๆ บางครั้งจอดไม่ตรงกับประตูกั้น ต้องใช้การขยับรถช่วย ส่วนระบบเสียงอัตโนมัติ ของขบวนรถไฟฟ้าสายสีม่วง เหมือนจะพูดมากที่สุด คือ ประโยคออกจะเหมือนๆ กับของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน คือมี "โปรดใช้ความระมัดระวังขณะก้าวออกจากรถ" เพิ่มมาจากของ BTS และในส่วนของภาษาอังกฤษก็ใช้ประโยค "Please mind the gate between train and platform" แต่สำเนียงแอบดีกว่าเสียงของสายสีน้ำเงิน แต่สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะมีคำพูดอัตโนมัติเพิ่มมาคือ "อีกสักครู่ ประตูรถกำลังจะเปิด" และ "อีกสักครู่ ประตูรถกำลังจะปิด"
ช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จะอยู่ระหว่างสถานีสะพานพระนั่งเกล้า กับสถานีไทรม้า เมื่อถึงสถานีสะพานพระนั่งเกล้า หลายคนเริ่มเตรียมกล้องรอถ่ายเลยครับ
ถ่ายขณะจอดอยู่ที่สถานีสะพานพระนั่งเกล้า
ช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
หลังจากผ่านช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปแล้ว ทุกคนก็เข้าที่ครับ ผมก็ปิดกล้องแล้วนั่งพัก รออีกประมาณ 5 สถานี
และแล้วก็เริ่มเห็นจุดหมายครับ
ถึงสถานีสามแยกบางใหญ่ จะลงเซ็นทรัลเวสเกต ลงสถานีนี้ก็ได้ครับ แต่ถ้าจะให้สะดวกลงสถานีต่อไปคือสถานีตลาดบางใหญ่ แล้วเดินย้อนมา จะมีทางเดินเชื่อมเข้าห้างได้เลย และที่สถานีสามแยกบางใหญ่ ผมเพิ่งเห็นรถไฟวิ่งสวนมาเป็นขบวนแรก
และแล้วก็ถึงจุดหมาย ที่สถานีตลาดบางใหญ่ คนลงสถานีนี้เกือบหมดเลยครับ เป็นสถานีรองสุดท้าย ยังมีอีกสถานีหนึ่งซึ่งเป็นสถานีปลายทางคือสถานีคลองบางไผ่ สำหรับคนที่ขับรถมาก็จอดที่อาคารจอดแล้วจร แล้วขึ้นจากสถานีคลองบางไผ่ได้
เดินลงชั้นล่าง หยอดตั๋วโดยสารคืนแล้วเดินต่อไป จะเจอ Skywalk เชื่อมต่อกับห้าง
สังเกตว่าทางเชื่อมมีสองทางเลยครับ อีกทางหนึ่งคือสะพานลอยที่มีมาก่อนแล้วนั่นเอง
ถึงแล้วครับ