เมื่อผู้ถือเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 มองเห็นโอกาศที่จะสร้างรายได้ให้ครอบครัวที่ดีกว่าปลูกผักขายแต่ติดตรงที่เป็นที่ดิน ส.ป.ก

เมื่อผู้ถือเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 มองเห็นโอกาศที่จะสร้างรายได้ให้ครอบครัวที่ดีกว่าปลูกผักขาย แต่ติดตรงที่เป็นที่ดิน ส.ป.ก.
  พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  ออกมา 41 ปี ได้แล้ว และมีการแก้ไขอีกสองครั้ง แล้วก็ใช้มาจนถึงปัจจุบัญ

  พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘   ให้ ไว้ ณ วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘
  พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๒)พ.ศ. ๒๕๑๙ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๙
  พระราชบัญญัติ การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ ให้ไว้ ณ วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๒

ส.ป.ก. 4-01 จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

     ส.ป.ก. 4-01 คือเอกสารสิทธิให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน เริ่มขึ้นเมื่อมีพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มีหลักการสำคัญว่า ที่ดินในเขตปฏิรูปนั้นใช้ทำเกษตรกรรมได้อย่างเดียวเท่านั้น ทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ และผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 จะต้องมีฐานะยากจน เขตปฏิรูปที่ดินหมายถึง ที่ดินที่เป็นชุมชนเต็มรูปแบบมาก่อน ที่ดินที่เป็นไร่สวนทำกินของราษฎรตั้งแต่บรรพบุรุษ และที่ดินป่าเสื่อมโทรม หมดสภาพป่าและไม่สามารถฟื้นสภาพป่าได้อีก ไม่รวมถึงป่าในเขตอนุรักษ์เช่นอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ หรือเขตต้นน้ำลำธาร หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 คือสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประเทศไทย

     เอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ไม่อนุญาตให้ทำการซื้อขายที่ดิน หากมีการซื้อขายในขณะที่เอกสารสิทธินี้ยังมีผลอยู่จะเป็นโมฆะ แต่สามารถโอน แบ่งแยก และตกทอดทางมรดกให้แก่บุคคลในครอบครัวได้แก่ สามีภรรยา บุตร บิดามารดา พี่น้องร่วมบิดามารดา พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดา และหลาน สามารถเช่าหรือเช่าซื้อเพื่อเกษตรกรรม (ไม่อนุญาตให้เช่าเพื่อจุดประสงค์อื่น) ไม่สามารถจดทะเบียนจำนองได้ เว้นแต่เป็นโครงการของรัฐบาลที่อนุญาตให้ใช้เอกสารสิทธิเป็นประกัน สิทธิในที่ดินยังคงเป็นของรัฐ ประชาชนสามารถคืนที่ดินให้รัฐหากไม่ต้องการ และรัฐสามารถเรียกคืนที่ดินได้หากตรวจสอบพบว่าประชาชนมิได้ใช้ทำการเกษตร
ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA.%E0%B8%9B.%E0%B8%81._4-01

        ถ้าเห็นอย่างนี้แล้ว ก็คือหมดสิทธิที่จะนำที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ไปทำอย่างอื่นที่นอกเหนือจากเกษตรกรรม ไม่สามารถขาย จำนำได้ และใครที่ทำรีสอร์ทอยู่ ในตอนนี้ก็ ถือว่าใช้งานผิด วัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แต่พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ที่ถูกแก้ไขครั้งล่าสุดเมื่อ พ.ศ. 2532 หรือ 27 ปีที่แล้ว ที่ดินหลายที่หลายแปลง ก็กลายเป็นมรดกให้ลูกหลาน และลูกหลาน ที่พ่อแม่เป็นเกษตรกร ส่วนใหญ่เลือกอาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพทางเลือกสุดท้าย ต้องหาอาชีพอื่นทำก่อน หรือไม่ก็เอาที่ดินที่ของพ่อแม่มีอยู่ไปทำอย่างอื่นที่คิดว่า จะสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้ดีกว่าทำเกษตรกรรม  
      
      27 ปีแล้ว กับการแก้พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ครั้งล่าสุด ปี 2532 ตอนนี้เวลาเดินมาไกลแล้ว น่าจะมีการแก้ไขพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้เข้ากับยุค สมัย เปิดโอกาศให้ผู้ที่ถือ ส.ป.ก. 4-01 ให้สามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้นอกเหนือจากเกษตรกรรม ที่เขาคิดว่าคุ้มค่ากว่าการทำเกษตรกรรม หลายพื้นที่ควารจะสนับสนุ่นให้เป็น สถานที่ท่องเที่ยวก็ควรจะทำ #นายทุน แน่นอนว่าจะต้องมีนายทุนเข้ามาแน่ แต่ก็ไม่ควรให้ข้ออ้างนายทุนมาทำให้ชาวบ้านเสียโอกาศ ควรจะมีมาตการจัดการกับนายทุนที่ชัดเจนและระบุไว้ใน พ.ร.บ. มีการตวจสอบสิทธิถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ว่าได้มาอย่างไร พ่อแม่ให้มา หรือว่า เสกกันออกมาเอง เอกสารสิทธิทุกฉบับสามารตรวจสอบที่ไปที่มาได้ ถ้าได้มาผิดก็ริบคืน
ในเมือพื้นที่มันมีวิวทิวทัศน์ ที่สวยงามดึงดูดให้คนเข้าไปท่องเที่ยวได้ เขาปลูกรีสอร์ทแล้วมีรายได้ดีกว่าปลูกผักขาย กลายเป็นผิดที่ใช้ที่ดินผิดประเภท
      
       ในเมือเลือกเกิดไม่ได้ เกิมมาเป็นเป็นลูกเกษตรกรที่มีเอสสารสิทธิ ส.ป.ก. แล้วลูกเขาโตมาอยากจะเป็นเจ้าของรีสอร์ท หรือเจ้าของกิจการในพื้นที่เอกสารสิทธิ ส.ป.ก. จะได้ไหม จะมี พ.ร.บ.ใหม่ หรืออะไรขึ้นมารองรับเขาบ้างไหม หรือเขาควรกลับไปเป็นเกษตรกร ทำเกษตรกรรมในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. ของพ่อแม่ต่อไป มีลูกหลานก็ทำอาชีพเกษตรกรรมกันต่อไป ทั้งๆที่พื้นที่นี้อาจจะใช้ประโยชน์ได้ดีกว่าทำเกษตรกรรม แต่ติดตรงที่เป็น ส.ป.ก.4-01  Facepalm

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่