ตอนที่ 1 Journey through JAPAN #1 ครั้งแรกกับญี่ปุ่นสุดฟิน
http://ppantip.com/topic/35492197
สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งสำหรับตอนที่ 2 กับการเที่ยวญี่ปุ่นของพวกเรา ในกระทู้ที่แล้วเรามาจบวันที่ 4 ของทริปญี่ปุ่นสุดฟินกันที่เกียวโต และก็เป็นวันสุดท้ายในคันไซด้วย อย่างน้อยเราก็ได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีช่วงสุดท้ายของฤดีใบไม้ร่วงที่กำลังจะผ่านไป และเป้าหมายต่อไป คือ การได้เห็นหิมะแรกที่ฮอกไกโดครับ ป่ะ!!! เราไปกันเลยดีกว่าครับ
วันที่ 1 ธ.ค.
แพลนสำหรับวันนี้ของเรา คือ การเดินทาง "เพราะชีวิตคือการเดินทาง 555" ครับ ว่าเล้วเราก็ออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ เรารีบเช็คเอาท์จากโรงแรม ซึ่งอยู่ข้างสถานีรถไฟเกียวโตนี่เอง ดังนั้นเดินไม่กี่ก้าวเราก็เหยีบชานชลาแล้ว เช้านี้อากาศเย็นลงอีก คิดภาพไม่ออกเลยว่าเมื่อถึงฮอกไกโดจะอยู่สภาพไหน
เราเดินทางออกจากเกียวโตกันตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง เพื่อเดินทางขึ้นไปยังโตเกียว เราถึงโตเกียวประมาณ 9 โมงกว่า แล้วรีบเดินไปหาเบนโตะอร่อยๆตุนไว้ เพราะเราจะต้องนั่งชินคันเซนจากโตเกียวขึ้นไปอาโอโมริ (ชินคันเซ็นสายใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาสามารถลอดช่องแคบซึการุไปถึงฮอกไกโดที่เมืองฮาโกดาเตะได้แล้วครับ แต่ตอนที่เราไปยังไม่เปิดเลยต้องนั่งไปสุดแค่อาโอโมริแล้วต่อรถไฟด่วนไปยังฮาโกดาเตะอีกที) เราใช้เวลาเดินทางจาโตเกียวถึงสถานีชินอาโอโมริประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางก็มีวิวให้ดูจนหลับไม่ลงเลยครับ (แต่ P2 หลับหลายตื่นเลย)
ตั๋วสำรองที่นั่งของเราครับ จากเกียวโตถึงโตเกียว จากโตเกียวขึ้นไปยังอาโอโมริ และจากอาโอโมริไปยังฮาโกดาเตะ
ทุกทายฟูจิซังอีกครั้ง เดี๋ยวอีก 5 วันเราเจอกันนะ
วิว 2 ข้างทางระหว่างโตเกียวถึงอาโอโมริ
ประมาณเที่ยงครึ่งเราก็มาถึง Shin-Aomori แต่เนื่องจากรถไฟเกิดดีเลย์นิดหน่อย พอถึงสถานีชินอาโอโมริเราจึงต้องรีบวิ่งอย่างฉุกละหุกเพื่อลงจากชานชลาชินคันเซ็นไปต่อรถไฟ Super Hakucho ซึ่งจะพาเราลอดใต้ช่องแคบซึการุไปยังฮอกไกโด ถึงแม้จะไม่รวดเร็วเท่ากับชินคันเซ็น แต่เจ้า Super Hakucho ก็ไม่ทำให้เราเบื่อ เพราะ 2 ข้างทางที่วิ่งผ่าน มีทั้งวิวท้องทะเล วิวทุ่งนา วิวป่าสน มีวิวสวยๆให้เราดูจนผมตื่นเต้นมากๆและรู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่ยอมนั่งรถไฟแทนที่จะใช้เครื่องบิน
พร้อมลุยครับ
ขออัพภาพวิวรัวๆนะครับ
ระหว่างที่เจ้า Super Hakucho พาเราลอดใต้ช่องแคบ Tsugaru เลยลองแกล้ง P2 ดูว่าถ้าใครกลั้นใจแล้วอธิษฐานเวลาที่รถไฟลอดช่องแคบ คำอธิษฐานจะเป็นจริงเหมือนเวลาขับรถข้ามสะพานบางปะกง (P2 ไม่รู้ว่าช่องแคบ Tsugaru ต้องใช้เวลาลอดนานพักใหญ่เลย ^___^)
ช่วงที่ลอดช่องแคบ ไม่มีไรทำครับ เพราะสัญญาณ Wifi ลงมาไม่ถึง วิวก็ไม่มีให้ดู ก็เลยขอแอบหลับนิดนึงครับ
และแล้วเจ้า Super Hakucho ก็พาเราถึงสถานี JR Hakodate คืนนี้เราจะพักกันที่นี่ 1 คืนครับ เพื่อที่จะได้ชื่นชมกับภาพวิวที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกที่นี่
เราเดินออกจากสถานีเพื่อที่จะข้ามถนนไปยังโรงแรมซึ่งอยู่หน้าสถานีเลยครับ และแล้วเราก็พบว่า มัน-หนาว-มากกกกกกกกก
วิวจากหน้าต่างโรงแรมของเราครับ
หลังจากเช็คอินน์แล้เอาของขึ้นไปเก็บที่ห้องพัก พร้อมกับยืดเส้นยืดสายพักผ่อนซักครู่ (จริงๆเตรียมใจกับอากาศ ซึ่งตอนที่เรามาถึง ก็ 1 องศาแล้ว) เมื่อพร้อม เราก็ไปลุยกันเลยครับ โดยเรามีเป้าหมายที่มาที่ฮาโกดาเตะก็เพื่อจะได้ขึ้นไปดูวิวเมืองฮาโกดาเตะ ซึ่งถูกขนาบด้วยทำเล 2 ฟาก ซึ่งเค้าว่ากันว่า เป็น 1 ใน 3 วิวเมืองที่สวยที่สุดในโลก (อู้หูววววว!!!)
เรานั่งรถรางจากสถานีที่อยู่ใกล้ๆโรงแรมเพื่อไปลงยังสถานีใกล้เนินเขาฮาโกดาเตะ ชื่อ Jujigai จากนั้นเดินขึ้นเนินเขาไปอีกประมาณ 600 ก็จะถึงสถานี Ropeway ซึ่งเป็นกระเช้าที่จะพาเราขึ้นไปยังจุดชมวิวครับ
รถรางที่จะพาเราไปครับ (รถรางที่นี่ลายน่ารักๆทั้งนั้นเลยครับ)
เมื่อลงรถรางที่สถานี Jujigai จะสังเกตเห็นตึกหน้าตาแบบนี้ แล้วจึงเดินขึ้นเนินเขาต่อไปยังสถานี Ropeway ครับ
ซื้อบัตรครับ
และแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ นี่คือสิ่งที่เราได้เห็น (ภาพที่ถ่ายอาจจะไม่สวยเท่าที่ตาเห็น ต้องขออภัยด้วยครับ)
หลังจากอิมตาอิ่มใจกับวิวระดับโลกแล้ว เราจึงลงมาเดินเล่นริมอ่าวแถวๆ Red Brick ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงประดับไฟพอดี
ข้างในก็จะมีของแนวๆ O-TOP ขายครับ
เดินไปซักพัก ท้องก็เริ่มร้องครับ และนี่คืออีก 1 อย่างที่ผมมาแวะเมืองนี้ นั่นไงครับ เป้าหมาย
หลังจากอิ่มแล้ว เราก็เดินเล่นริมอ่าวกันซักพัก จากนั้นก็ตัดสินใจเดินฝ่าความหนาวระดับติดลบกลับโรงแรง โดยเดินเลียบอ่าวไปเรื่อยๆครับ
สำหรับคืนนี้ ขอปิดทริปด้วยเรือลำนี้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาเที่ยวในเมืองแล้วเราจะเก็บของมุ่งหน้าไปซัปโปโรกัน
เดี๋ยวจะมาต่อนครับ
[CR] Journey through JAPAN #1 ครั้งแรกกับญี่ปุ่นสุดฟิน ตอนที่ 2 ขึ้นไปดูหิมะแรกกัน!!!
สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งสำหรับตอนที่ 2 กับการเที่ยวญี่ปุ่นของพวกเรา ในกระทู้ที่แล้วเรามาจบวันที่ 4 ของทริปญี่ปุ่นสุดฟินกันที่เกียวโต และก็เป็นวันสุดท้ายในคันไซด้วย อย่างน้อยเราก็ได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีช่วงสุดท้ายของฤดีใบไม้ร่วงที่กำลังจะผ่านไป และเป้าหมายต่อไป คือ การได้เห็นหิมะแรกที่ฮอกไกโดครับ ป่ะ!!! เราไปกันเลยดีกว่าครับ
วันที่ 1 ธ.ค.
แพลนสำหรับวันนี้ของเรา คือ การเดินทาง "เพราะชีวิตคือการเดินทาง 555" ครับ ว่าเล้วเราก็ออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ เรารีบเช็คเอาท์จากโรงแรม ซึ่งอยู่ข้างสถานีรถไฟเกียวโตนี่เอง ดังนั้นเดินไม่กี่ก้าวเราก็เหยีบชานชลาแล้ว เช้านี้อากาศเย็นลงอีก คิดภาพไม่ออกเลยว่าเมื่อถึงฮอกไกโดจะอยู่สภาพไหน
เราเดินทางออกจากเกียวโตกันตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง เพื่อเดินทางขึ้นไปยังโตเกียว เราถึงโตเกียวประมาณ 9 โมงกว่า แล้วรีบเดินไปหาเบนโตะอร่อยๆตุนไว้ เพราะเราจะต้องนั่งชินคันเซนจากโตเกียวขึ้นไปอาโอโมริ (ชินคันเซ็นสายใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาสามารถลอดช่องแคบซึการุไปถึงฮอกไกโดที่เมืองฮาโกดาเตะได้แล้วครับ แต่ตอนที่เราไปยังไม่เปิดเลยต้องนั่งไปสุดแค่อาโอโมริแล้วต่อรถไฟด่วนไปยังฮาโกดาเตะอีกที) เราใช้เวลาเดินทางจาโตเกียวถึงสถานีชินอาโอโมริประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางก็มีวิวให้ดูจนหลับไม่ลงเลยครับ (แต่ P2 หลับหลายตื่นเลย)
ตั๋วสำรองที่นั่งของเราครับ จากเกียวโตถึงโตเกียว จากโตเกียวขึ้นไปยังอาโอโมริ และจากอาโอโมริไปยังฮาโกดาเตะ
ทุกทายฟูจิซังอีกครั้ง เดี๋ยวอีก 5 วันเราเจอกันนะ
วิว 2 ข้างทางระหว่างโตเกียวถึงอาโอโมริ
ประมาณเที่ยงครึ่งเราก็มาถึง Shin-Aomori แต่เนื่องจากรถไฟเกิดดีเลย์นิดหน่อย พอถึงสถานีชินอาโอโมริเราจึงต้องรีบวิ่งอย่างฉุกละหุกเพื่อลงจากชานชลาชินคันเซ็นไปต่อรถไฟ Super Hakucho ซึ่งจะพาเราลอดใต้ช่องแคบซึการุไปยังฮอกไกโด ถึงแม้จะไม่รวดเร็วเท่ากับชินคันเซ็น แต่เจ้า Super Hakucho ก็ไม่ทำให้เราเบื่อ เพราะ 2 ข้างทางที่วิ่งผ่าน มีทั้งวิวท้องทะเล วิวทุ่งนา วิวป่าสน มีวิวสวยๆให้เราดูจนผมตื่นเต้นมากๆและรู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่ยอมนั่งรถไฟแทนที่จะใช้เครื่องบิน
พร้อมลุยครับ
ขออัพภาพวิวรัวๆนะครับ
ระหว่างที่เจ้า Super Hakucho พาเราลอดใต้ช่องแคบ Tsugaru เลยลองแกล้ง P2 ดูว่าถ้าใครกลั้นใจแล้วอธิษฐานเวลาที่รถไฟลอดช่องแคบ คำอธิษฐานจะเป็นจริงเหมือนเวลาขับรถข้ามสะพานบางปะกง (P2 ไม่รู้ว่าช่องแคบ Tsugaru ต้องใช้เวลาลอดนานพักใหญ่เลย ^___^)
ช่วงที่ลอดช่องแคบ ไม่มีไรทำครับ เพราะสัญญาณ Wifi ลงมาไม่ถึง วิวก็ไม่มีให้ดู ก็เลยขอแอบหลับนิดนึงครับ
และแล้วเจ้า Super Hakucho ก็พาเราถึงสถานี JR Hakodate คืนนี้เราจะพักกันที่นี่ 1 คืนครับ เพื่อที่จะได้ชื่นชมกับภาพวิวที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกที่นี่
เราเดินออกจากสถานีเพื่อที่จะข้ามถนนไปยังโรงแรมซึ่งอยู่หน้าสถานีเลยครับ และแล้วเราก็พบว่า มัน-หนาว-มากกกกกกกกก
วิวจากหน้าต่างโรงแรมของเราครับ
หลังจากเช็คอินน์แล้เอาของขึ้นไปเก็บที่ห้องพัก พร้อมกับยืดเส้นยืดสายพักผ่อนซักครู่ (จริงๆเตรียมใจกับอากาศ ซึ่งตอนที่เรามาถึง ก็ 1 องศาแล้ว) เมื่อพร้อม เราก็ไปลุยกันเลยครับ โดยเรามีเป้าหมายที่มาที่ฮาโกดาเตะก็เพื่อจะได้ขึ้นไปดูวิวเมืองฮาโกดาเตะ ซึ่งถูกขนาบด้วยทำเล 2 ฟาก ซึ่งเค้าว่ากันว่า เป็น 1 ใน 3 วิวเมืองที่สวยที่สุดในโลก (อู้หูววววว!!!)
เรานั่งรถรางจากสถานีที่อยู่ใกล้ๆโรงแรมเพื่อไปลงยังสถานีใกล้เนินเขาฮาโกดาเตะ ชื่อ Jujigai จากนั้นเดินขึ้นเนินเขาไปอีกประมาณ 600 ก็จะถึงสถานี Ropeway ซึ่งเป็นกระเช้าที่จะพาเราขึ้นไปยังจุดชมวิวครับ
รถรางที่จะพาเราไปครับ (รถรางที่นี่ลายน่ารักๆทั้งนั้นเลยครับ)
เมื่อลงรถรางที่สถานี Jujigai จะสังเกตเห็นตึกหน้าตาแบบนี้ แล้วจึงเดินขึ้นเนินเขาต่อไปยังสถานี Ropeway ครับ
ซื้อบัตรครับ
และแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ นี่คือสิ่งที่เราได้เห็น (ภาพที่ถ่ายอาจจะไม่สวยเท่าที่ตาเห็น ต้องขออภัยด้วยครับ)
หลังจากอิมตาอิ่มใจกับวิวระดับโลกแล้ว เราจึงลงมาเดินเล่นริมอ่าวแถวๆ Red Brick ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงประดับไฟพอดี
ข้างในก็จะมีของแนวๆ O-TOP ขายครับ
เดินไปซักพัก ท้องก็เริ่มร้องครับ และนี่คืออีก 1 อย่างที่ผมมาแวะเมืองนี้ นั่นไงครับ เป้าหมาย
หลังจากอิ่มแล้ว เราก็เดินเล่นริมอ่าวกันซักพัก จากนั้นก็ตัดสินใจเดินฝ่าความหนาวระดับติดลบกลับโรงแรง โดยเดินเลียบอ่าวไปเรื่อยๆครับ
สำหรับคืนนี้ ขอปิดทริปด้วยเรือลำนี้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาเที่ยวในเมืองแล้วเราจะเก็บของมุ่งหน้าไปซัปโปโรกัน
เดี๋ยวจะมาต่อนครับ