สวัสดีค่ะ

พี่จะพูดคร่าวๆนะคะเพราะว่า details ค่อนข้างเยอะมาก อันดับแรกพี่แนะนำว่าอยากให้น้องมองสายงานก่อนค่ะว่าน้องอยากทำแบบไหนเพราะงานสาย MKT มันมีเยอะมาก ยกตัวอย่างเช่นดูแล Product โดยตรงก็จะเป็นตำแหน่ง Assistant product manager, product manager กลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มที่คอยวางแผนการออกสินค้าใหม่, วางแผนการทำpromote นั่นก็คือครอบคลุมเรื่อง 4Ps เลยค่ะว่าจะออกสินค้าแบบไหน ทำโปรโมชั่นยังไง คู่แข่งยังไง ตลาดเป็นไง ราคาเท่าไร จะขายที่ไหนบ้าง สินค้าผลิตทันขายในช่วงๆนี้มั้ย อะไรทำนองนี้ งานแบบนี้ต้องวิเคราะห์เยอะหน่อย ก็ต้องทำตัวเลขบ้าง แต่ก็แล้วแต่ละบริษัทอีกค่ะ อย่างบริษัทที่พี่ทำเค้าเน้นเป็นบริษัทที่ MKT จะ Lead เพราะฉะนั้นงานหนักมาก ทำตัวเลขพอตัว ทำ Excel สะส่วนใหญ่ จากไม่เป็นเดี๋ยวหนูก็จะเป็นเองค่ะ 555555 ต้องไปดูตัดต่อโฆษณา ออกกองถ่ายเพื่อดูงาน ที่จะทำ Digital Film หรือพวกหนังสั้นที่เห็นตามใน Youtube FB บางครั้งก็กลับเช้า ส่วนใหญ่ก็จะนั่งออฟฟิตจ้องคอมทำไฟล์ งานเยอะค่ะทำจนตากจากไม่สั้น ก็สั้นละ 5555 แต่บางบริษํท ตำแหน่งนี้ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรพวกนี้ด้วย แล้วแต่ค่ะ การทำงานไม่เหมือนกัน

ยกตัวอย่างกลุ่มที่ 2 Sales Rep หรือ Key account  จะอยู่ในกลุ่มงานขาย สองตำแหน่งคือ เซลล์ค่ะ ต่างกันที่ลูกค้า Key account คือลูกค้าที่สำคัญ เรียกง่ายๆคือลูกค้ารายใหญ่ ส่วน Sales ก็จะเป็นอีกlevel นึง แต่จะตัดสินจากที่พี่พูดก็ไม่ได้คะเพราะว่าแต่ละบริษัทมีผังการวางลูกค้าไม่เหมือนกัน ถ้าเป็น Sales ในกลุ่ม Modern Trade ก็จะเป็นอารมณ์ Lotus, Big C, Watsons, Boots ในห้างต่างๆ ถ้าเป็นกลุ่ม General Trade ก็จะเป็นอารมณ์ร้านค้าตจว หรือร้านค้าส่งในกทม ร้านค้าปลีกที่ไม่ได้อยู่ในห้าง แต่ก็แล้วแต่การแบ่งกลุ่มนะคะ เพราะว่าอย่างบริษัทพี่ Eve & Boy ก็นับเป็นร้านค้าในกลุ่ม General Trade ค่ะ 5555555

ยกตัวอย่างกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มพวก Media Planner กลุ่มนี้ก็ Agency ที่คอยวางแผนให้ลูกค้าการซื้อสื่อ ว่าเค้ามีเงินเท่านี้ จะเอาไปซื้อการโฆษณาใน FB, IG, Youtube, page ต่างๆ หรือซื้อบน BTS, MRT, บนรถเมล์และที่อื่นๆ อย่างไรบ้าง แล้วแต่อีกอ่ะค่ะว่า ลูกค้าของเอเจนซี่เหล่านี้จะเป็นสินค้าประเภทไหน บางบริษัทก็จะวางแผนการใช้เงินในการซื้อ keyword ในการ Search Google ดูได้จากการที่เวลาน้อง Search ในgoogle แล้วเห็น Ad นั่นแหละค่า และอันที่จริงมันจะมีบริษัทที่วางแผนแบบนี้อยู่หลายประเภท ขึ้นอยู่กับว่าเค้าวางแผนในลักษณะไหน

ยกตัวอย่างอีกกลุ่มคือสาย Event อารมณ์บริษัท Organize คอยจัดงานให้ลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ เช่นพวก อิมแพค ไบเทค งานพวกนี้พี่เคยลองทำเป็น Staff สมัยเรียน วันละ 1000 มั่ง 1500 มั่ง แล้วก็ได้เรียนรู้ระบบการทำงานเพราะสนิทกับพี่ในบริษัทนั้นๆ งานก็สนุกดีค่ะไม่ได้นั่งออฟฟิต เวลามีงานก็ต้องคอยคุมงานสร้าง พวก Shelf นั่นนี่ บางครั้งก็กลับดึก ไม่ได้กลับต้องนอนไซส์บ้าง หลังจากงานจบก็นั่งทำงานในออฟฟิต รอประมูล หรือ ดีลงาน Event ถัดไป

จริงๆยังมีสายงานอื่นอีกมากมายเลยค่ะ เช่น Trade Marketing แต่อันนี้พี่ก็พูดจากประสบการณ์ที่พอจะได้รวมงานมาในระยะเวลาปีกว่าๆ พี่เองก็จบมาทำงานที่นี่ที่แรก แต่จาก ปสก พี่แนะนำว่าน้องลองดู industry ด้วยนะคะว่าอยากทำปรเภทไหน แต่ถ้าตัดสินใจอยากอยู่ในสาย FMCG คือพวกสินค้า อุปโภค บริโภค ก็ต้องทำใจค่ะเพราะเป็นกลุ่มที่เร็ว และ Dynamic มาก คืองานค่อนข้างยุ่ง แต่ก็ไม่ได้ทุกบริษัทนะคะ แล้วแต่ว่าสินค้าของบริษัทนั้นๆ มีการแข่งขันและยอดขายสูงขนาดไหน

ที่สำคัญอยากแนะนำให้ลองจินตนาการว่าตัวเองอยากตื่นไปทำงานอะไร ชอบเจอผู้คน หรือชอบนั่งในออฟฟิต ต้องมองค่ะว่าตัวเองบุคลิกเป็นยังไง อย่าฝืนนะคะ เพราะตอนนี้พี่เองก็พยายามจะออกจากตรงที่พี่เคยคิดว่าดี แต่เอาเข้าใจตัวเองมันไม่เหมาะ มันก็ไม่มีความสุขค่ะ ตัวพี่เองก็จบ Marketing มาโดยตรง รู้ว่าตัวเองชอบพูดคุย แต่ก็อยากจะลองทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองดู ทำสายดูแล Product นั่งในออฟฟิต ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบสูง ซึ่งพี่ก็ไม่ได้เป็นคนละเอียดมาก เลยมันค่อนข้างลำบาก ปัจจุบันพี่ทำตำแหน่ง Assitant Product Manager ด้วยระยะเวลา 1 ปี เพราะพี่เริ่มจาก Fast Track เป็น Management Trainee และแน่นอนพี่ก็อยู่ใน FMCG ที่มีการแข่งขันสูงมากกก.. งานหนักมากค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องลองค่ะน้อง บางทีเตรียมตัวมากไปก็ไม่ได้ช่วยจนกว่าหนูจะลงสนามจริง...

พี่เอาใจช่วยนะคะ พี่เองก็ข้อมูลน้อยนิด แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ตอบคำถามได้บ้างนะคะ
ถ้ายังไง หลังไมค์ได้นะคะ ยินดีตอบเพิ่มเติมค่ะ