ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 30 San Jose, Costa Rica
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=tdBq5Q1tmE0&index=66&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=sxlLCfEa0yg&index=67&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
พฤหัสบดีที่ 14 ก.ค. ลุงตื่นพร้อมออกเดินทางตั้งแต่เวลา 03.30 น. ถามว่าป้าพิมพ์รายงานเสร็จหรือยัง ลุงจะไปรอที่โรงแรมใหญ่ เพื่อใช้เน็ต ลุงต้องทำอย่างไร ป้าพิมพ์ไว้ที่กล่องข้อความอยู่แล้ว แค่กดส่งอีกที ข้อความก็จะออกไป...พอป้าลุกจากเตียง เห็นมือถือวางอยู่ ก็รู้ว่า ลุงไม่สามารถทำอะไร กับ เพจได้ เพราะข้อความยังอยู่ในเครื่องป้า...แต่ลุงก็ออกไปแล้ว😚😚😚😚 ก็ได้แต่ทำใจ ว่า ลุงคงใช้เวลาอยู่กับ เฟสของลุง เพราะที่เมืองไทยเป็นเวลาบ่าย...พอป้าไปถึงหน้าประตู โรงแรมใหญ่ พยายามเรียกลุง ก็ไม่มีความเคลิ้อนไหว เดาเอาว่า ลุงคงหลับบนเก้าอี้แถวๆ ใกล้ประตูนั่นแหละ😊😊😊😊ส่วนป้าก็นั่งพิมพ์
ข้อความต่อ โดยมีรปภ.ของแบงค์ ฝั่งตรงข้าม ช่วยให้อุ่นใจ เวลา 04.35 น. ได้ยินเสัยงเพลงจากรปภ.😊😊😊😊😊
หลังจากรปภ.ร้องเพลง ถนนก็เริ่มตื่น มีคนขี่จักรยานบ้าง จูงเดินคุยกันบ้าง รถแท็กซี่เริ่มกดแตรเรียก คนวิ่งออกกำลังกาย ค่อยๆ มีชีวิตชีวาขึ้นเรื่อยๆ และสัญญาณอินเตอร์เน็ต ก็ขยับ ป้าดีใจ ที่ลุงคง ได้ข้อความ โดยที่ป้าไม่ต้องเข้าไปข้างใน ให้ลุงจัดการเพจจนกว่า จะเสร็จ🤗🤗🤗🤗🤗
วันนี้เราได้ที่แยกกันนั่ง เพราะซื้อตั๋วช้า แต่กลายเป็นดี ป้าได้นั่งกับน้อง Carmen Melissa Gierrero ชาวฮอนดูรัส เดินทางไปปานามา เธอพอจะสื่อสารได้บ้าง ประมาณเดียวกับป้า รู้ภาษาสเปน ใช้ท่าทางกัน มากกว่า พูด😊😊😊😊ส่วนลุงนั่งตู่กับคนตัวสูง ใหญ่ จากแอลเอ เลยได้ส่งภาษาฟุตฟิตโฟไฟ ไเถามแผนที่น้องที่นั่งเยื้องไปข้างหน้าด้วย😄😄😄😄ที่ด่านชายแดนนิการากัว ทุกคนแค่ลงไปจากรถ ซื้ออาหาร เข้าห้องน้ำ เรื่องการผ่านแดน คนรถจัดการให้🙄🙄🙄🙄ขึ้นรถต่อไปอีก 5 นาที ถึงตม.คอสตาริก้า.... ทุกคนเอาของลงรถ ไปเช็คอิน ส่วนต่าผ่านแดน คนรถมาเก็บไปแล้ว คนละ $ 5
สรุปค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวประเทศนิการากัว 4 วัน 5 คืน เป็นค่ารถทางไกล $ 60 ค่าที่พัก $ 90 ค่าเข้าประเทศ $ 30 ค่ารถเที่ยว ค่าอาหาร ค่าเข้าชมสถานที่ และค่าอาหาร $ 40 รวม $ 220 คิดเป็นเงินไทย 7,700 บาท
สรุปสิ่งที่ได้พบเห็นจากการท่องเที่ยว ประเทศนิการากัว 4 วัน 5 คืน เป็นดังนี้
1. สภาพภูมิประเทศเต็มไปด้วยที่ราบ และแหล่งน้ำตามธรรมชาติ มีภูเขาไฟที่ดับแล้ว และยังไม่ดับมากมาย สภาพดินส่วนใหญ่ เป็นดินที่มีแร่ธาตุที่เหมาะกับการเพาะปลูกสูง เพราะเป็นดินจากภูเขาไฟ
2. สภาพภูมิอากาศร้อน ชื้น เหมือนประเทศไทย ปกติมีฝนตกชุก ปีละ 6 เดือน (ก.ค.-ธ.ค.) แต่ 3 ปีที่ผ่านมา ฝนตกแค่ปีละ 3 เดือน ทำให้มีสภาพแห้งแล้งไปทั่ว
3. อาชีพส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ที่อาศัยธรรมชาติ และใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม
4. การศึกษา เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่ผ่านมา นับได้ว่า ดีกว่า เม็กซิโก กัวเตมาลา เอลซัลวาดอร์ และฮอนดูรัส แต่การกระจายการศึกษายังไม่ทั่วถึง
5. ผู้คนส่วนใหญ่เคร่งครัดในศาสนา นับถือพระเจ้า
จึงมุ่งมั่นทำความดี เหมือนผู้คนในเมียนม่าร์ ที่เคร่งครัดในศาสนาพุทธ มีแต่คนมุ่งมั่นทำความดี หน้าตายิ้มแย้ม อัธยาศัยดี มีน้ำใจ ไม่เบียดเบียนกัน ไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ตอนบ่าย
6. ผู้คนในนิการากัวส่วนใหญ่เข้มทั้งสีผม สีตา และสีผิว มีฝรั่งปนอยู่บ้าง แต่ไม่มากเท่า เอลซัลวาดอร์ และ ฮอนดูรัส พวกเขา เหมือนเป็นญาติกับคนปักษ์ใต้บ้านเรา ผิวเข้ม ตาคม ผมหยิก แต่จมูกโด่ง และฐานจมูกเล็กกว่า น้องสาวคนเล็กของป้า กับ ลูกและสามี ของเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง ถ้าไปเดินในนิการากัว รับรองว่า กลมกลืนมากๆ ถ้าไม่จ้องที่จมูก😉😉😉😉
7. เมืองท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงสุดน่าจะเป็นกรานาด้า เมืองหลวงเก่า และเมืองมรดกโลก รายได้ส่วนใหญ่มาจาก ค่าที่พัก และร้านอาหาร
8. สตรีนิยมคาดผ้ากันเปื้อนลูกไม้สีอ่อนไว้ด้านหน้า เหมือนกระโปรงสั้นจีบรูด สวยงาม โดยเฉพาะแม่ค้า และแม่บ้าน พวกเธอนิยมใส่เสื้อ กางเกงรัดรูป แบบไม่ต้องจินตนาการ
9. วันที่ 19 ก.ค. เป็นวันปฏิวัติประชาชน พวกเขาเริ่มฉลองกันตั้งแต่ต้นเดือน จนถึงสิ้นเดือนก.ค. มีการจุดปะทัดทุกคืน
10. อาหารบริโภคแป้งจากข้าวโพดเป็นหลัก แต่ในครัวเรือนที่มีฐานะปานกลางขึ้นไป มักหุงข้าวใส่ถั่วแดงในมื้อกลางวัน ข้าวหายาก แต่ถั่วแดงหาง่าย เวลาหุงข้าวจึงมีการผสมเพื่อลดปริมาณข้าว แต่กลายเป็นดี เพราะได้เพิ่มโปรตีน ซึ่งขาดแคลน ส่วนใหญ่ได้จากไก่ และไข่ เห็นเขาเอาไก่จากนอกเมืองเข้ามาขายในเมืองแบบ เอาถุงปุ๋ยพันตัว โผล่หัวกับท้าย เอาเชือกมัดขา มัดหัวท้ายห่อ แล้วสะพาย เดินตัวปลิวเหมือนสะพายกระเป๋า
11. ผักและผลไม้ มีมาก แต่ไม่หลากหลาย โดยเฉพาะผลไม้ในอเมริกากลางมีน้อยชนิดมาก มีมะม่วงกลิ่น และรสเดียว ต่างแค่ขนาด เท่านั้น รูปร่างเหมือนมะม่วงอาทู แต่เปลือกหนา เม็ดใหญ่ เนื้อน้อย และมีกลิ่นฉุน เหมือนมะม่วงขี้ใต้ ถ้าเอามาขายเมืองไทย คงขายไม่ออก ผักที่มีมากที่สุด คือ ปาปริก้า น่าจะมีทุกฤดู ส้มเกลี้ยงที่หายไปจากตลาดเมืองไทย มีมากมายในอเมริกากลาง ส่วนสับปะรด ถ้าตาเหมือนสับปะรดภูเก็ต รสชาติหวานฉ่ำ แต่น้ำเยอะมาก พันธุ์อื่นรสชาติกร่อยและน้ำเยอะ
12. โครงสร้างพื้นฐานในนิการากัว ยังไม่ได้มาตรฐาน ถนนในเมืองหลวงทรุดโทรม ระบบน้ำ ไฟ เทคโนโลยีการสื่อสารต้องปรับปรุง
13. สิ่งแวดล้อมโดยรวม ถ้าดูจากปริมาณต้นไม้ ไม่นับเขาหัวโล้น นับว่า ร่มรื่น แต่ถ้าดูจากปริมาณขยะ ตามบ้านเรือน และแม่น้ำ ลำคลอง คงต้องปรับปรุงแหล่งน้ำ และปลูกฝังนิสัยการทิ้งขยะกันอย่างเร่งด่วน
ทั้งลุงและป้า นั่งที่นั่งติดทางเดิน ป้าแทบจะมองไม่เห็นอะไรข้างทาง เพราะติดม่านบัง...พอจะเห็นผ่านช่องอื่นบ้างว่า สิงข้างทางมีต้นไม้ ใบหญ้าเขียวตลอดทาง แม้ตะมีเขาหัวโล้น ก็มีความเขียวปกคลุม เหมือนในนิการากัว....ลุงเล่าให้ฟังว่า วันนี้โชคไม่ดี เปิดห้องน้ำบนรถ เจอสาวผิวสีไม่ล็อคประตู เห็นหมดทุกอย่างจะจะ😥😥😥😥พอกลับมานั่งที่ได้สักครู่ มีคนทำขวดวิสกี้ตกใส่หัว ถ้าไม่มีกล่องหุ้ม หรือ ถ้าโดนด้านก้นขวด คงเจ็บมากมาย...ลุงบอกว่า ไม่น่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย เป็นโชคไม่ดีต่อเนื่องกันส😣😣😣😣😣
ก่อนข้ามแดน ได้ขอให้สาวที่ช่วยอธิบายแผนที่ในซานโฮเซ่ ให้ลุงฟัง ช่วยแลกเงินจากคอร์โดบา เป็นโคลอนนิส ให้ ได้เงินมา สองหมื่นเศษ....เวลา 16.00 น. ถึงซานโฮเซ่ แบกเป้เดินชมเมือง ก่อนเข้าที่พักแวะถามทางมาตลอด....แต่ตอนรี้แฟชั่นหูฟัง กำลังระบาด หาคนถามยาก เพราะท่าทางน่าจะคุยกัยรู้เรื่อง หูก็ไม่ว่าง....แต่ก็มีโจป้าของสาวหน้าคมที่นั่งหน้าร้านคนหนึ่ง สาวสวยผิวขาวผ่องที่สวนสาธารณะกลาง กับ หนุ่มตัวสูงใหญ่ Gabrial ช่วยบอกพิกัด และหนุ่มอ้อนแอ้น Antonio @yahoo.com พาไปส่งเข้าที่พัก Hostal Casa del Parque อยู่ข้างสวนสาธารณะแห่งชาติ....
ดูเหมือนว่า เราจะเห็นสิ่งสำคัญในซานโฮเซ่ เกือบหมดแล้ว ทั้งวิหารกลาง สวนสาธารณะกลาง และสวนโมราซาน ตลาดกลางเมือง ลานอิสรภาพ และพลาซ่า ทั้งหลาย....แต่ที่แน่ๆ เมืองนี้ มีไก่ทอด และไก่ย่างมากมาย มีคนขายแกงถุง ตรงทางเท้าด้วย ดูคล้ายๆ ทางเท้ากทม. ตอนที่คสช.ยังไม่จัดระเบียบ ร้านเบเกอรี่ ร้านขายผลไม้ และรถเข็นขายผลไม้ มีมากมาย มีเงาะ กับผลไม้อื่นๆ เช่น องุ่น กล้วย แอ๊ปเปิ้ลแดง ลูกพรุน อะโวคาโด และผลไม้ท้องถิ่น อย่างอื่นด้วย😊😊😊😊😋
เราได้ห้องพัก 2 แบบ 2 ราคา คืนนี้นอนห้องเดี่ยว ไม่มีห้องน้ำ ราคา $ 28.5 อีก 3 คืน มีห้องน้ำในตัว ราคา $ 38.9 ลุงบ่นว่า ป้าไม่ประหยัด แต่พอไปเจอสภาพห้องน้ำรวม ห้องเดียวใช้ร่วมกันเป็น 10 คน ก๊อกน้ำที่ อ่างล้างหน้าใช้ไม่ได้ ไม่มีสบู่ และผ้าเช็ดตัวให้ ก็หยุดบ่น แต่เน็ตแรงใช้ได้ทีเดียว 😊😊😊😊เย็นนี้ซื้อบาแก๊ต ของเมืองนี้ กรอบนอก นุ่มใน หอมงาขาว กินแล้วติดใจ ไม่แข็งนอก เหนียวใน ขนาดต้องใช้ทั้งปาก ทั้งมือ ทั้งเท้าดึงเหมือนของยุโรป ราคาแท่งละ 1,100 ลดครึ่งราคา เสียดายที่ซื้อมาแต่แท่งเดียว😋😋😋😋ซื้อผักชีไทย และชีฝรั่ง กำละ 120 โคลอนนิส จ่ายเหรียญ 500 เห็นพ่อค้าหาแลกเงินทอน จึงบอกว่า เอามะนาวมาแทน พ่อค้าขยุ้มให้ประมาณ 10 ลูก พรุ่งนี้จะทำยำไก่ย่าง ที่ซื้อมาจากชายแดนนิการากัวแต่คงต้องกลับมาเร็วหน่อย เพราะตอนค่ำ ห้องครัวแออัด😊😊😊😊 เราเจอสองหนุ่มที่อาสาถ่ายรูปให้เราที่มุมถนน หน้า Tica Bus พักที่เดียวกับเราด้วย พวกเขาเป็นนักท่องโลก ชาวเยอรมนี...คนที่เป็นนักท่องโลก เกิน 80% รู้จักประเทศไทย และกรุงเทพฯ อ้าว! ลุงกรนอยู่ดีๆ ตกใจเสียงกรนตัวเอง ตื่นมาหาที่พักที่ปานามา แล้วก็บ่นว่า มีแต่ที่แพงๆ😣😣😣😣
[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กฯ เมกากลาง เมกาใต้ อัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอน 30 San Jose เมืองหลวง Costa Rica
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=tdBq5Q1tmE0&index=66&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=sxlLCfEa0yg&index=67&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
พฤหัสบดีที่ 14 ก.ค. ลุงตื่นพร้อมออกเดินทางตั้งแต่เวลา 03.30 น. ถามว่าป้าพิมพ์รายงานเสร็จหรือยัง ลุงจะไปรอที่โรงแรมใหญ่ เพื่อใช้เน็ต ลุงต้องทำอย่างไร ป้าพิมพ์ไว้ที่กล่องข้อความอยู่แล้ว แค่กดส่งอีกที ข้อความก็จะออกไป...พอป้าลุกจากเตียง เห็นมือถือวางอยู่ ก็รู้ว่า ลุงไม่สามารถทำอะไร กับ เพจได้ เพราะข้อความยังอยู่ในเครื่องป้า...แต่ลุงก็ออกไปแล้ว😚😚😚😚 ก็ได้แต่ทำใจ ว่า ลุงคงใช้เวลาอยู่กับ เฟสของลุง เพราะที่เมืองไทยเป็นเวลาบ่าย...พอป้าไปถึงหน้าประตู โรงแรมใหญ่ พยายามเรียกลุง ก็ไม่มีความเคลิ้อนไหว เดาเอาว่า ลุงคงหลับบนเก้าอี้แถวๆ ใกล้ประตูนั่นแหละ😊😊😊😊ส่วนป้าก็นั่งพิมพ์
ข้อความต่อ โดยมีรปภ.ของแบงค์ ฝั่งตรงข้าม ช่วยให้อุ่นใจ เวลา 04.35 น. ได้ยินเสัยงเพลงจากรปภ.😊😊😊😊😊
หลังจากรปภ.ร้องเพลง ถนนก็เริ่มตื่น มีคนขี่จักรยานบ้าง จูงเดินคุยกันบ้าง รถแท็กซี่เริ่มกดแตรเรียก คนวิ่งออกกำลังกาย ค่อยๆ มีชีวิตชีวาขึ้นเรื่อยๆ และสัญญาณอินเตอร์เน็ต ก็ขยับ ป้าดีใจ ที่ลุงคง ได้ข้อความ โดยที่ป้าไม่ต้องเข้าไปข้างใน ให้ลุงจัดการเพจจนกว่า จะเสร็จ🤗🤗🤗🤗🤗
วันนี้เราได้ที่แยกกันนั่ง เพราะซื้อตั๋วช้า แต่กลายเป็นดี ป้าได้นั่งกับน้อง Carmen Melissa Gierrero ชาวฮอนดูรัส เดินทางไปปานามา เธอพอจะสื่อสารได้บ้าง ประมาณเดียวกับป้า รู้ภาษาสเปน ใช้ท่าทางกัน มากกว่า พูด😊😊😊😊ส่วนลุงนั่งตู่กับคนตัวสูง ใหญ่ จากแอลเอ เลยได้ส่งภาษาฟุตฟิตโฟไฟ ไเถามแผนที่น้องที่นั่งเยื้องไปข้างหน้าด้วย😄😄😄😄ที่ด่านชายแดนนิการากัว ทุกคนแค่ลงไปจากรถ ซื้ออาหาร เข้าห้องน้ำ เรื่องการผ่านแดน คนรถจัดการให้🙄🙄🙄🙄ขึ้นรถต่อไปอีก 5 นาที ถึงตม.คอสตาริก้า.... ทุกคนเอาของลงรถ ไปเช็คอิน ส่วนต่าผ่านแดน คนรถมาเก็บไปแล้ว คนละ $ 5
สรุปค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวประเทศนิการากัว 4 วัน 5 คืน เป็นค่ารถทางไกล $ 60 ค่าที่พัก $ 90 ค่าเข้าประเทศ $ 30 ค่ารถเที่ยว ค่าอาหาร ค่าเข้าชมสถานที่ และค่าอาหาร $ 40 รวม $ 220 คิดเป็นเงินไทย 7,700 บาท
สรุปสิ่งที่ได้พบเห็นจากการท่องเที่ยว ประเทศนิการากัว 4 วัน 5 คืน เป็นดังนี้
1. สภาพภูมิประเทศเต็มไปด้วยที่ราบ และแหล่งน้ำตามธรรมชาติ มีภูเขาไฟที่ดับแล้ว และยังไม่ดับมากมาย สภาพดินส่วนใหญ่ เป็นดินที่มีแร่ธาตุที่เหมาะกับการเพาะปลูกสูง เพราะเป็นดินจากภูเขาไฟ
2. สภาพภูมิอากาศร้อน ชื้น เหมือนประเทศไทย ปกติมีฝนตกชุก ปีละ 6 เดือน (ก.ค.-ธ.ค.) แต่ 3 ปีที่ผ่านมา ฝนตกแค่ปีละ 3 เดือน ทำให้มีสภาพแห้งแล้งไปทั่ว
3. อาชีพส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ที่อาศัยธรรมชาติ และใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม
4. การศึกษา เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่ผ่านมา นับได้ว่า ดีกว่า เม็กซิโก กัวเตมาลา เอลซัลวาดอร์ และฮอนดูรัส แต่การกระจายการศึกษายังไม่ทั่วถึง
5. ผู้คนส่วนใหญ่เคร่งครัดในศาสนา นับถือพระเจ้า
จึงมุ่งมั่นทำความดี เหมือนผู้คนในเมียนม่าร์ ที่เคร่งครัดในศาสนาพุทธ มีแต่คนมุ่งมั่นทำความดี หน้าตายิ้มแย้ม อัธยาศัยดี มีน้ำใจ ไม่เบียดเบียนกัน ไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ตอนบ่าย
6. ผู้คนในนิการากัวส่วนใหญ่เข้มทั้งสีผม สีตา และสีผิว มีฝรั่งปนอยู่บ้าง แต่ไม่มากเท่า เอลซัลวาดอร์ และ ฮอนดูรัส พวกเขา เหมือนเป็นญาติกับคนปักษ์ใต้บ้านเรา ผิวเข้ม ตาคม ผมหยิก แต่จมูกโด่ง และฐานจมูกเล็กกว่า น้องสาวคนเล็กของป้า กับ ลูกและสามี ของเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง ถ้าไปเดินในนิการากัว รับรองว่า กลมกลืนมากๆ ถ้าไม่จ้องที่จมูก😉😉😉😉
7. เมืองท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงสุดน่าจะเป็นกรานาด้า เมืองหลวงเก่า และเมืองมรดกโลก รายได้ส่วนใหญ่มาจาก ค่าที่พัก และร้านอาหาร
8. สตรีนิยมคาดผ้ากันเปื้อนลูกไม้สีอ่อนไว้ด้านหน้า เหมือนกระโปรงสั้นจีบรูด สวยงาม โดยเฉพาะแม่ค้า และแม่บ้าน พวกเธอนิยมใส่เสื้อ กางเกงรัดรูป แบบไม่ต้องจินตนาการ
9. วันที่ 19 ก.ค. เป็นวันปฏิวัติประชาชน พวกเขาเริ่มฉลองกันตั้งแต่ต้นเดือน จนถึงสิ้นเดือนก.ค. มีการจุดปะทัดทุกคืน
10. อาหารบริโภคแป้งจากข้าวโพดเป็นหลัก แต่ในครัวเรือนที่มีฐานะปานกลางขึ้นไป มักหุงข้าวใส่ถั่วแดงในมื้อกลางวัน ข้าวหายาก แต่ถั่วแดงหาง่าย เวลาหุงข้าวจึงมีการผสมเพื่อลดปริมาณข้าว แต่กลายเป็นดี เพราะได้เพิ่มโปรตีน ซึ่งขาดแคลน ส่วนใหญ่ได้จากไก่ และไข่ เห็นเขาเอาไก่จากนอกเมืองเข้ามาขายในเมืองแบบ เอาถุงปุ๋ยพันตัว โผล่หัวกับท้าย เอาเชือกมัดขา มัดหัวท้ายห่อ แล้วสะพาย เดินตัวปลิวเหมือนสะพายกระเป๋า
11. ผักและผลไม้ มีมาก แต่ไม่หลากหลาย โดยเฉพาะผลไม้ในอเมริกากลางมีน้อยชนิดมาก มีมะม่วงกลิ่น และรสเดียว ต่างแค่ขนาด เท่านั้น รูปร่างเหมือนมะม่วงอาทู แต่เปลือกหนา เม็ดใหญ่ เนื้อน้อย และมีกลิ่นฉุน เหมือนมะม่วงขี้ใต้ ถ้าเอามาขายเมืองไทย คงขายไม่ออก ผักที่มีมากที่สุด คือ ปาปริก้า น่าจะมีทุกฤดู ส้มเกลี้ยงที่หายไปจากตลาดเมืองไทย มีมากมายในอเมริกากลาง ส่วนสับปะรด ถ้าตาเหมือนสับปะรดภูเก็ต รสชาติหวานฉ่ำ แต่น้ำเยอะมาก พันธุ์อื่นรสชาติกร่อยและน้ำเยอะ
12. โครงสร้างพื้นฐานในนิการากัว ยังไม่ได้มาตรฐาน ถนนในเมืองหลวงทรุดโทรม ระบบน้ำ ไฟ เทคโนโลยีการสื่อสารต้องปรับปรุง
13. สิ่งแวดล้อมโดยรวม ถ้าดูจากปริมาณต้นไม้ ไม่นับเขาหัวโล้น นับว่า ร่มรื่น แต่ถ้าดูจากปริมาณขยะ ตามบ้านเรือน และแม่น้ำ ลำคลอง คงต้องปรับปรุงแหล่งน้ำ และปลูกฝังนิสัยการทิ้งขยะกันอย่างเร่งด่วน
ทั้งลุงและป้า นั่งที่นั่งติดทางเดิน ป้าแทบจะมองไม่เห็นอะไรข้างทาง เพราะติดม่านบัง...พอจะเห็นผ่านช่องอื่นบ้างว่า สิงข้างทางมีต้นไม้ ใบหญ้าเขียวตลอดทาง แม้ตะมีเขาหัวโล้น ก็มีความเขียวปกคลุม เหมือนในนิการากัว....ลุงเล่าให้ฟังว่า วันนี้โชคไม่ดี เปิดห้องน้ำบนรถ เจอสาวผิวสีไม่ล็อคประตู เห็นหมดทุกอย่างจะจะ😥😥😥😥พอกลับมานั่งที่ได้สักครู่ มีคนทำขวดวิสกี้ตกใส่หัว ถ้าไม่มีกล่องหุ้ม หรือ ถ้าโดนด้านก้นขวด คงเจ็บมากมาย...ลุงบอกว่า ไม่น่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย เป็นโชคไม่ดีต่อเนื่องกันส😣😣😣😣😣
ก่อนข้ามแดน ได้ขอให้สาวที่ช่วยอธิบายแผนที่ในซานโฮเซ่ ให้ลุงฟัง ช่วยแลกเงินจากคอร์โดบา เป็นโคลอนนิส ให้ ได้เงินมา สองหมื่นเศษ....เวลา 16.00 น. ถึงซานโฮเซ่ แบกเป้เดินชมเมือง ก่อนเข้าที่พักแวะถามทางมาตลอด....แต่ตอนรี้แฟชั่นหูฟัง กำลังระบาด หาคนถามยาก เพราะท่าทางน่าจะคุยกัยรู้เรื่อง หูก็ไม่ว่าง....แต่ก็มีโจป้าของสาวหน้าคมที่นั่งหน้าร้านคนหนึ่ง สาวสวยผิวขาวผ่องที่สวนสาธารณะกลาง กับ หนุ่มตัวสูงใหญ่ Gabrial ช่วยบอกพิกัด และหนุ่มอ้อนแอ้น Antonio @yahoo.com พาไปส่งเข้าที่พัก Hostal Casa del Parque อยู่ข้างสวนสาธารณะแห่งชาติ....
ดูเหมือนว่า เราจะเห็นสิ่งสำคัญในซานโฮเซ่ เกือบหมดแล้ว ทั้งวิหารกลาง สวนสาธารณะกลาง และสวนโมราซาน ตลาดกลางเมือง ลานอิสรภาพ และพลาซ่า ทั้งหลาย....แต่ที่แน่ๆ เมืองนี้ มีไก่ทอด และไก่ย่างมากมาย มีคนขายแกงถุง ตรงทางเท้าด้วย ดูคล้ายๆ ทางเท้ากทม. ตอนที่คสช.ยังไม่จัดระเบียบ ร้านเบเกอรี่ ร้านขายผลไม้ และรถเข็นขายผลไม้ มีมากมาย มีเงาะ กับผลไม้อื่นๆ เช่น องุ่น กล้วย แอ๊ปเปิ้ลแดง ลูกพรุน อะโวคาโด และผลไม้ท้องถิ่น อย่างอื่นด้วย😊😊😊😊😋
เราได้ห้องพัก 2 แบบ 2 ราคา คืนนี้นอนห้องเดี่ยว ไม่มีห้องน้ำ ราคา $ 28.5 อีก 3 คืน มีห้องน้ำในตัว ราคา $ 38.9 ลุงบ่นว่า ป้าไม่ประหยัด แต่พอไปเจอสภาพห้องน้ำรวม ห้องเดียวใช้ร่วมกันเป็น 10 คน ก๊อกน้ำที่ อ่างล้างหน้าใช้ไม่ได้ ไม่มีสบู่ และผ้าเช็ดตัวให้ ก็หยุดบ่น แต่เน็ตแรงใช้ได้ทีเดียว 😊😊😊😊เย็นนี้ซื้อบาแก๊ต ของเมืองนี้ กรอบนอก นุ่มใน หอมงาขาว กินแล้วติดใจ ไม่แข็งนอก เหนียวใน ขนาดต้องใช้ทั้งปาก ทั้งมือ ทั้งเท้าดึงเหมือนของยุโรป ราคาแท่งละ 1,100 ลดครึ่งราคา เสียดายที่ซื้อมาแต่แท่งเดียว😋😋😋😋ซื้อผักชีไทย และชีฝรั่ง กำละ 120 โคลอนนิส จ่ายเหรียญ 500 เห็นพ่อค้าหาแลกเงินทอน จึงบอกว่า เอามะนาวมาแทน พ่อค้าขยุ้มให้ประมาณ 10 ลูก พรุ่งนี้จะทำยำไก่ย่าง ที่ซื้อมาจากชายแดนนิการากัวแต่คงต้องกลับมาเร็วหน่อย เพราะตอนค่ำ ห้องครัวแออัด😊😊😊😊 เราเจอสองหนุ่มที่อาสาถ่ายรูปให้เราที่มุมถนน หน้า Tica Bus พักที่เดียวกับเราด้วย พวกเขาเป็นนักท่องโลก ชาวเยอรมนี...คนที่เป็นนักท่องโลก เกิน 80% รู้จักประเทศไทย และกรุงเทพฯ อ้าว! ลุงกรนอยู่ดีๆ ตกใจเสียงกรนตัวเอง ตื่นมาหาที่พักที่ปานามา แล้วก็บ่นว่า มีแต่ที่แพงๆ😣😣😣😣
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น