ตอนที่ 13 Duel of Destiny
-คอร์ดี้กับซานเดอร์ออกตามหาโรแวนไปทั่วจักรวาล ทุกที่ๆเคยไป ทุกคนที่เคยพบ แต่ก็ไม่พบร่องรอย สุดท้ายซานเดอร์ก็บอกว่าพวกเขาควรจะกลับไปรอโรแวนด์ที่สถานี เผื่อน้องชายจะเปลี่ยนใจยอมกลับบ้าน
-ลูกน้องของกราบาล่าเข้ามารายงานว่าพวกฟรีเมกเกอร์กลับไปที่สถานีอวกาศแล้ว แต่โรแวนหายตัวไปโดยที่ครอบครัวก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน นาร่าคิดวิธีที่จะล่อโรแวนด์ออกมาจึงเดินทางไปหาคอร์ดี้และซานเดอร์
-บนดาวที่ห่างไกล โรแวนด์ใช้เศาอะไหล่มาสร้างหุ่นดรอยด์ฝึกซ้อมแบบง่ายๆเพื่อฝึกวิชาดาบเจได โดยให้โรเจอร์ฉายความทรงจำสมัยที่รบในสงครามโคลนวอร์เป็นตัวอย่าง เท่ากับว่าโรแวนด์ได้ฝึกฝนกับมาสเตอร์แนวหน้าเกือบทุกคนในสภาเจได!(ทุกภาพฉายจบด้วยโรเจอร์โดนเจไดฟันพังทุกครั้ง) ทั้งฟิซโต้ วินดู โอบิวัน แม้กระทั่งแอนนาคิน
-ที่สถานี นาร่าคิดจะทรมานคอร์ดี้กับซานเดอร์เพื่อให้โรแวนด์รับรู้ผ่านพลังและมาช่วยพี่ๆทั้ง 2 คน โดยนาร่าไม่ใช้วิธีทรมานร่างกาย(เธอพูดเหยียดๆว่านั่นเป็นวิธีของเวเดอร์) แต่ใช้การทรมานจิตใจ โดยเธอทรมานซานเดอร์ด้วยการทำลายยานต่างๆในอู่ที่เขาสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ส่วนคอร์ดี้...นาร่าเอาเงินเก็บของเธอ(เงินในจักรวาล Star War จะเป็นก้อนแร่เครดิต)มาเผาในเตาหลอมต่อหน้าต่อตาเธอ(กราบาล่าเห็นถึงกับร้องกรี๊ด บอกว่าสำหรับ Hutt นั้น การเห็นเงินถูกทำลายถือเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง)
-โรแวนสัมผัสถึงความเจ็บปวดของพี่ทั้ง 2 จึงตัดสินใจจะกลับไปช่วย แต่ก็ทิ้งคริสตัลชิ้นสุดท้ายนั้นไว้บนดาวซึ่งเขาเองก็ไม่รู้จักชื่อ(บินมามั่วๆ) โรเจอร์ถามว่าไม่ปกป้องจักรวาลแล้วเหรอ? โรแวนด์ให้เหตุผลว่าจักรวาลนั้นปกป้องไปก็ไร้ค่าถ้าต้องปล่อยให้คนที่เรารักตาย
-โรแวนด์มาถึงสถานีและเข้าปะทะกับนาร่า คอร์ดี้กับซานเดอร์ก็เข้าไปสู้ถ่วงเวลาลูกน้องกราบาล่า นาร่าพยามคาดคั้นให้โรแวนด์บอกที่ซ่อนของคริสตัลมา แต่พอรู้ว่าโรแวนด์ทิ้งคริสตัลไว้บนดาวที่ไม่มีใครรู้จัก เท่ากับว่าถ้าเธอฆ่าโรแวนด์ เธอก็จะไม่มีวันหาคริสตัลชิ้นนั้นเจอ
-นาร่าแปลกใจกับฝีมือที่พัฒนาขึ้นอย่างผิดหูผิดตาของโรแวน โรเจอร์ได้ทีจึงคุยอวดว่าเป็นเพราะเขาฉายความทรงจำสมัยสงครามโคลนให้ดู นาร่าได้ยินก็คิดได้ว่าโรเจอร์น่าจะมีความทรงจำของเส้นทางไปถึงดาวที่ว่านั้นเช่นกัน เธอจึงเข้าไปตัดหัวโรเจอร์(การ์ตูนเด็ก!!)เอามาต่อกับเครื่องฉายโฮโลแกรมและได้ตำแหน่งดาวที่ต้องการ
-กราบาล่าเข้ามาทวงสัญญาที่นาร่าให้เขาไว้(เอาคริสตัลไปส่งจักรพรรดิแล้วแบ่งรางวัลคนละครึ่ง) แต่นาร่าหักหลังกราบาล่าและใช้พลังผลักเขากับลูกน้องออกจากห้องก่อนจะขึ้นยานหนีไปคนเดียว
-คอร์ดี้กับซานเดอร์เข้ามาปลอบใจโรแวนด์ที่สู้แพ้นาร่า แต่การพ่ายแพ้นั้นกลับทำให้โรแวนด์สำนึกได้ว่าเขาไม่ใช่เจได เขาไม่ใช่ซิธ เขาคือ Freemaker และเขาจะใช้วิธีของตัวเองในการจัดการกับนาร่า (ฉากจบ โรแวนด์ใช้พลังยกชิ้นส่วนยานที่กระจายอยู่ทั่วอู่ขึ้นมา)
สรุป
ตอนต่อไปก็จะจบแล้ว!! นับว่าตอนนี้มาแบบค้างๆเรียกน้ำย่อยให้ตอนสุดท้ายได้ดีทีเดียว
ไอเดียการใช้ความทรงจำของโรเจอร์มาช่วยโรแวนด์ฝึกนี่แจ่มแมวมาก ยิ่งดูยิ่งคิดว่าซีรี่ย์เลโก้นี่ดูจะใช้องค์ประกอบต่างๆได้สร้างสรรค์กว่าที่คิดเยอะเลย โรเจอร์เองก็ยอมโรแวนด์ซะเหลือเกิน แม้จะบ่นเป็นพักๆว่าต้องมาย้อนความทรงจำตอนตัวเองพังแล้วพังอีกนี่มันไม่สนุกนะ
ฉากทรมานของนาร่าก็แสดงให้เห็นว่ายังไงซีรี่ย์นี้ก็ยังอยู่ในเรทปลอดภัยให้ผู้ชมทั่วไปดูได้ไม่ติดขัด ช่างเป็นการทรมานที่จะสงสารก็สงสาร จะขำก็ขำ ตอนเอาเงินมาเผานี่เด็ดสุดแล้ว
ฉากตัดหัวโรเจอร์....ถ้าไม่ใช่ดรอยด์นี่คงสยองจุกคอมากๆ ดีที่ว่าขนาดหัวหลุด อีหุ่นก็ยังจ้อไม่หยุด เลยบรรเทาความรุนแรงลงมาหน่อย
-
รีวิว Star Wars The Freemaker Adventures : 13 Duel of Destiny [Spoilแรงสูง]
ตอนที่ 13 Duel of Destiny
-คอร์ดี้กับซานเดอร์ออกตามหาโรแวนไปทั่วจักรวาล ทุกที่ๆเคยไป ทุกคนที่เคยพบ แต่ก็ไม่พบร่องรอย สุดท้ายซานเดอร์ก็บอกว่าพวกเขาควรจะกลับไปรอโรแวนด์ที่สถานี เผื่อน้องชายจะเปลี่ยนใจยอมกลับบ้าน
-ลูกน้องของกราบาล่าเข้ามารายงานว่าพวกฟรีเมกเกอร์กลับไปที่สถานีอวกาศแล้ว แต่โรแวนหายตัวไปโดยที่ครอบครัวก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน นาร่าคิดวิธีที่จะล่อโรแวนด์ออกมาจึงเดินทางไปหาคอร์ดี้และซานเดอร์
-บนดาวที่ห่างไกล โรแวนด์ใช้เศาอะไหล่มาสร้างหุ่นดรอยด์ฝึกซ้อมแบบง่ายๆเพื่อฝึกวิชาดาบเจได โดยให้โรเจอร์ฉายความทรงจำสมัยที่รบในสงครามโคลนวอร์เป็นตัวอย่าง เท่ากับว่าโรแวนด์ได้ฝึกฝนกับมาสเตอร์แนวหน้าเกือบทุกคนในสภาเจได!(ทุกภาพฉายจบด้วยโรเจอร์โดนเจไดฟันพังทุกครั้ง) ทั้งฟิซโต้ วินดู โอบิวัน แม้กระทั่งแอนนาคิน
-ที่สถานี นาร่าคิดจะทรมานคอร์ดี้กับซานเดอร์เพื่อให้โรแวนด์รับรู้ผ่านพลังและมาช่วยพี่ๆทั้ง 2 คน โดยนาร่าไม่ใช้วิธีทรมานร่างกาย(เธอพูดเหยียดๆว่านั่นเป็นวิธีของเวเดอร์) แต่ใช้การทรมานจิตใจ โดยเธอทรมานซานเดอร์ด้วยการทำลายยานต่างๆในอู่ที่เขาสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ส่วนคอร์ดี้...นาร่าเอาเงินเก็บของเธอ(เงินในจักรวาล Star War จะเป็นก้อนแร่เครดิต)มาเผาในเตาหลอมต่อหน้าต่อตาเธอ(กราบาล่าเห็นถึงกับร้องกรี๊ด บอกว่าสำหรับ Hutt นั้น การเห็นเงินถูกทำลายถือเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง)
-โรแวนสัมผัสถึงความเจ็บปวดของพี่ทั้ง 2 จึงตัดสินใจจะกลับไปช่วย แต่ก็ทิ้งคริสตัลชิ้นสุดท้ายนั้นไว้บนดาวซึ่งเขาเองก็ไม่รู้จักชื่อ(บินมามั่วๆ) โรเจอร์ถามว่าไม่ปกป้องจักรวาลแล้วเหรอ? โรแวนด์ให้เหตุผลว่าจักรวาลนั้นปกป้องไปก็ไร้ค่าถ้าต้องปล่อยให้คนที่เรารักตาย
-โรแวนด์มาถึงสถานีและเข้าปะทะกับนาร่า คอร์ดี้กับซานเดอร์ก็เข้าไปสู้ถ่วงเวลาลูกน้องกราบาล่า นาร่าพยามคาดคั้นให้โรแวนด์บอกที่ซ่อนของคริสตัลมา แต่พอรู้ว่าโรแวนด์ทิ้งคริสตัลไว้บนดาวที่ไม่มีใครรู้จัก เท่ากับว่าถ้าเธอฆ่าโรแวนด์ เธอก็จะไม่มีวันหาคริสตัลชิ้นนั้นเจอ
-นาร่าแปลกใจกับฝีมือที่พัฒนาขึ้นอย่างผิดหูผิดตาของโรแวน โรเจอร์ได้ทีจึงคุยอวดว่าเป็นเพราะเขาฉายความทรงจำสมัยสงครามโคลนให้ดู นาร่าได้ยินก็คิดได้ว่าโรเจอร์น่าจะมีความทรงจำของเส้นทางไปถึงดาวที่ว่านั้นเช่นกัน เธอจึงเข้าไปตัดหัวโรเจอร์(การ์ตูนเด็ก!!)เอามาต่อกับเครื่องฉายโฮโลแกรมและได้ตำแหน่งดาวที่ต้องการ
-กราบาล่าเข้ามาทวงสัญญาที่นาร่าให้เขาไว้(เอาคริสตัลไปส่งจักรพรรดิแล้วแบ่งรางวัลคนละครึ่ง) แต่นาร่าหักหลังกราบาล่าและใช้พลังผลักเขากับลูกน้องออกจากห้องก่อนจะขึ้นยานหนีไปคนเดียว
-คอร์ดี้กับซานเดอร์เข้ามาปลอบใจโรแวนด์ที่สู้แพ้นาร่า แต่การพ่ายแพ้นั้นกลับทำให้โรแวนด์สำนึกได้ว่าเขาไม่ใช่เจได เขาไม่ใช่ซิธ เขาคือ Freemaker และเขาจะใช้วิธีของตัวเองในการจัดการกับนาร่า (ฉากจบ โรแวนด์ใช้พลังยกชิ้นส่วนยานที่กระจายอยู่ทั่วอู่ขึ้นมา)
สรุป
ตอนต่อไปก็จะจบแล้ว!! นับว่าตอนนี้มาแบบค้างๆเรียกน้ำย่อยให้ตอนสุดท้ายได้ดีทีเดียว
ไอเดียการใช้ความทรงจำของโรเจอร์มาช่วยโรแวนด์ฝึกนี่แจ่มแมวมาก ยิ่งดูยิ่งคิดว่าซีรี่ย์เลโก้นี่ดูจะใช้องค์ประกอบต่างๆได้สร้างสรรค์กว่าที่คิดเยอะเลย โรเจอร์เองก็ยอมโรแวนด์ซะเหลือเกิน แม้จะบ่นเป็นพักๆว่าต้องมาย้อนความทรงจำตอนตัวเองพังแล้วพังอีกนี่มันไม่สนุกนะ
ฉากทรมานของนาร่าก็แสดงให้เห็นว่ายังไงซีรี่ย์นี้ก็ยังอยู่ในเรทปลอดภัยให้ผู้ชมทั่วไปดูได้ไม่ติดขัด ช่างเป็นการทรมานที่จะสงสารก็สงสาร จะขำก็ขำ ตอนเอาเงินมาเผานี่เด็ดสุดแล้ว
ฉากตัดหัวโรเจอร์....ถ้าไม่ใช่ดรอยด์นี่คงสยองจุกคอมากๆ ดีที่ว่าขนาดหัวหลุด อีหุ่นก็ยังจ้อไม่หยุด เลยบรรเทาความรุนแรงลงมาหน่อย