สวัสดีค่ะชื่อ "ไอ" นะคะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เป็นทางการ หลังจากลองงานเขียนมาหลายครั้งหลายครา .. แต่ต้องม้วนเสื่อทุกที เพราะเวลาที่มีกับอารมณ์ดันไม่ไปด้วยกัน ครั้งนี้แหล่ะโอกาสดี ขอมารีวิวความสวยงามฉบับรวม ๆ ของปักษ์ใต้บ้านเราให้ประจักษ์สู่สายตาเสียหน่อย .. เชิญพบกับ "ยะลา ปัตตานี" ได้เลยจ้า..
ก่อนอื่นออกตัวก่อนเลยว่า ทริปนี้ได้ไปฟรี 3 คืน 4 วัน .. ถามว่าดีใจมั้ย ที่สุดเลยล่ะ แต่ว่าสถานที่นี่สิ!! ทำให้หาคนไปด้วยยากมากและทำให้เราเองมีอาการงอนกับผู้ปกครองซะด้วย เพราะขึ้นชื่อว่า "ยะลา ปัตตานี" ผู้หลักผู้ใหญ่เขา "ไม่" โอเคอยู่แล้ว แต่นั่นมันยังไม่ใช่อุปสรรคสำหรับโอกาสครั้งนี้ของเรา หักดิบไปเลย .. จองตั๋วโลด!!!!
ได้เพื่อนไป 1 คน เป็นคนที่เที่ยวสายเดียวกัน ลุย ๆ เหมือนกัน สบายใจไป ..
ทริปนี้คือต้องเอาตัวเองไปถึงสนามบินหาดใหญ่ให้ได้ จะมีรถตู้ของคณะมารอรับที่นั่น !! ไฟร์ทเช้าแหล่ะ ถึง 8.00 น. กว่า ๆ โดยมี อ.กรณ์ (ดร.ปรัชญากรณ์ ไขยคช) มารับเราที่สนามบิน และได้มาเจอผู้ร่วมคณะไปกับเราที่นี่อีก 3-4 คน .. และนี่คือจุดเริ่มต้นแห่งการเดินทางที่หัวใจเต้นแรงที่สุด !!!
เราเดินทางจากหาดใหญ่เข้าสู่ "ชุมชนทรายขาว" จ.ปัตตานี ใช้เวลาร่วม 2 ชม. หลายคนยังไม่รู้จักชุมชนบ้านทรายขาว .. ต้องบอกก่อนตรงนี้ว่าเราชอบเที่ยวแบบชุมชน เที่ยวไปในชุมชนต่าง ๆ ทั้งทริปนี้จึงเป็นการท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.cbt-i.org/ ชุมชนที่นี่ก็เช่นกัน ^^
บ้านทรายขาว เป็นชุมชนที่ทำการท่องเที่ยว พูดง่าย ๆ คือถ้าเราไปบ้านทรายขาว เราก็สามารถท่องเที่ยวอยู่ในชุมชนนี่ได้ โดยชาวบ้านจะดูแลเราอย่างดี เรามีทั้งที่พักโฮมสเตย์ นอนกับชาวบ้าน .. เราได้นั่งรถจิ๊บในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ชมบรรยากาศ วิว ทิวทัศน์ อันสวยงาม .. เราได้กินทุเรียน เงาะ มังคุด ผลไม้มากมายแบบไม่อั้น จะกินยังไงมันก็กินไม่หมด .. บางคนนี่กินทุเรียนทีละ 2 ลูก (เหลื่อเชื่อมาก) .. เราได้ไปเก็บสะตอ เก็บทุเรียนในป่า แต่ต้นไม้ที่สูงชะลูดขนาดนั้น เขาจะใช้พรรคพวกของ "เดซี่" (ชื่อของลิงที่เราตั้งกัน 555) ขึ้นไปเก็บมาให้ มันฉลาดมาก ๆ
เราได้อาศัยอยู่ด้วยกัน ชาวบ้านมีน้ำใจ ช่วยกันเก็บผักทำอาหาร .. มันมีความสุขมาก บางครั้งเราเสพติดข่าวมากไปทำให้มีความวิตก แต่บางทีมันก็เป็นข้อดี เพราะที่นี่สงบ สะอาด และงดงามตามที่ธรรมชาติสร้างให้จริง ๆ (อมยิ้ม) เราตื่นเช้ามาก ๆ เพื่อไปชมทะเลหมอก และไปไหว้พระใหญ่ที่ยอดเขา เสียดายที่หมอกบางตาไปนิด แต่วิวดี มีลมเย็น มันสดชื่นแบบบอกไม่ถูก ^^ หลังจากนั้นมา เราก็ลงมาที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ลิงโลดอย่างเรามีหรือจะพลาด ปีน ๆ ป่าย ๆ ไปเรื่อยจนถึงชั้นบน อดใจไม่ไหวกระโจนลงไปเล่นเลยจ้า สรุปว่ามันปีนต่อได้อีก แต่เราเปียกซะก่อนเลยนั่งแหมะรอเพื่อน เพราะมันลื่นมาก จึงปีนไปไม่ได้ ฮือ ๆ ๆ ๆ เสียดายมากกก
*** รายละเอียดของแต่ละชุมชนจะเป็นอย่างไร จะทยอยทำรีวิวเฉพาะให้นะคะ แต่ตอนนี้อยากให้ดูภาพรวม จึงเขียนถึงแต่ละที่แบบย่อ ๆ ค่ะ ***
เมื่อเราหมดเวลากับที่แรกแล้ว เราก็ไปต่อที่ จ.ยะลา เดินทางไปอีก 2 ชม. โดยประมาณ เพื่อไปสานสัมพันธ์ทางใจกับ "หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9" อ.ธารโต เคยเป็นหมู่บ้านคอมมิวนิสต์มาก่อน และเราได้ฟังประวัติแล้วขอบอกว่าน้ำตาคลอ .. คุณป้าที่พานำชมพิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยที่มีความขัดแย้งทางด้านความคิดกับรัฐบาลมาเลเซีย เล่าถ่ายทอดออกมาอย่างลึกซึ้ง และแฝงไปด้วยจิตวิญญาณล้วน ๆ เพราะเขาอยู่ในเหตุการณ์เหล่านั้น .. (พิมพ์ไปก็มือสั่นนะ เพราะจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี ) เอาล่ะ พักเรื่องราวของประวัติศาสตร์ .. ไปดูความสมบูรณ์แบบของชุมชนกัน เพราะที่นี่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เรียกว่าขั้นสูง ป่าเขายังอุดมสมบูรณ์มาก เราได้ไปชมสะพานเชือกที่ทำไว้เชื่อมกับเส้นทางเดินชมธรรมชาติของ หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 7 แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการพัฒนาเส้นทางแบบต่อเนื่อง แต่ด้านล่างกลับมีลำธาร น้ำใสไหลเย็น ที่ลงไปแช่แล้วชื่นใจสุด ๆ เฮ้ย ๆ ๆ มันคือของดีที่ซุกซ่อนเอาไว้ แต่มันไม่มีใครมาเที่ยวเลย นอกจากคนในชุมชนเอง .. ขณะที่น้อง ๆ ไกด์ชุมชนพาเราแว้บไปชุมชนข้าง ๆ มา .. แล้วก็พาเราไปปีนป่าย น้ำตกขึ้นชื่อของชุมชน นั่นคือ "น้ำตกฮาลาซะห์" และการทีเราจะปีนขึ้นไปนี่แหล่ะที่มันท้าทาย เข้าใจคำว่ามองบน 555 เพราะถ้ามองล่างปุ๊บ ขาสั่นเป็นนกกระพือปีกแน่นอน .. ถ้าผ่านความยากลำบากมาได้ ทุกที่สวยงามเสมอ ^^
ต่อกันด้วยรูป น้ำตกฮาลาซะห์
มีต่อนะคะ ^^
[SR] แหย่ขาเข้า "ยะลา ปัตตานี" โดนทันที ไม่มีรีรอ .. (ทรงคุณค่า)
ก่อนอื่นออกตัวก่อนเลยว่า ทริปนี้ได้ไปฟรี 3 คืน 4 วัน .. ถามว่าดีใจมั้ย ที่สุดเลยล่ะ แต่ว่าสถานที่นี่สิ!! ทำให้หาคนไปด้วยยากมากและทำให้เราเองมีอาการงอนกับผู้ปกครองซะด้วย เพราะขึ้นชื่อว่า "ยะลา ปัตตานี" ผู้หลักผู้ใหญ่เขา "ไม่" โอเคอยู่แล้ว แต่นั่นมันยังไม่ใช่อุปสรรคสำหรับโอกาสครั้งนี้ของเรา หักดิบไปเลย .. จองตั๋วโลด!!!!
ได้เพื่อนไป 1 คน เป็นคนที่เที่ยวสายเดียวกัน ลุย ๆ เหมือนกัน สบายใจไป ..
ทริปนี้คือต้องเอาตัวเองไปถึงสนามบินหาดใหญ่ให้ได้ จะมีรถตู้ของคณะมารอรับที่นั่น !! ไฟร์ทเช้าแหล่ะ ถึง 8.00 น. กว่า ๆ โดยมี อ.กรณ์ (ดร.ปรัชญากรณ์ ไขยคช) มารับเราที่สนามบิน และได้มาเจอผู้ร่วมคณะไปกับเราที่นี่อีก 3-4 คน .. และนี่คือจุดเริ่มต้นแห่งการเดินทางที่หัวใจเต้นแรงที่สุด !!!
เราเดินทางจากหาดใหญ่เข้าสู่ "ชุมชนทรายขาว" จ.ปัตตานี ใช้เวลาร่วม 2 ชม. หลายคนยังไม่รู้จักชุมชนบ้านทรายขาว .. ต้องบอกก่อนตรงนี้ว่าเราชอบเที่ยวแบบชุมชน เที่ยวไปในชุมชนต่าง ๆ ทั้งทริปนี้จึงเป็นการท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ชุมชนที่นี่ก็เช่นกัน ^^
บ้านทรายขาว เป็นชุมชนที่ทำการท่องเที่ยว พูดง่าย ๆ คือถ้าเราไปบ้านทรายขาว เราก็สามารถท่องเที่ยวอยู่ในชุมชนนี่ได้ โดยชาวบ้านจะดูแลเราอย่างดี เรามีทั้งที่พักโฮมสเตย์ นอนกับชาวบ้าน .. เราได้นั่งรถจิ๊บในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ชมบรรยากาศ วิว ทิวทัศน์ อันสวยงาม .. เราได้กินทุเรียน เงาะ มังคุด ผลไม้มากมายแบบไม่อั้น จะกินยังไงมันก็กินไม่หมด .. บางคนนี่กินทุเรียนทีละ 2 ลูก (เหลื่อเชื่อมาก) .. เราได้ไปเก็บสะตอ เก็บทุเรียนในป่า แต่ต้นไม้ที่สูงชะลูดขนาดนั้น เขาจะใช้พรรคพวกของ "เดซี่" (ชื่อของลิงที่เราตั้งกัน 555) ขึ้นไปเก็บมาให้ มันฉลาดมาก ๆ
เราได้อาศัยอยู่ด้วยกัน ชาวบ้านมีน้ำใจ ช่วยกันเก็บผักทำอาหาร .. มันมีความสุขมาก บางครั้งเราเสพติดข่าวมากไปทำให้มีความวิตก แต่บางทีมันก็เป็นข้อดี เพราะที่นี่สงบ สะอาด และงดงามตามที่ธรรมชาติสร้างให้จริง ๆ (อมยิ้ม) เราตื่นเช้ามาก ๆ เพื่อไปชมทะเลหมอก และไปไหว้พระใหญ่ที่ยอดเขา เสียดายที่หมอกบางตาไปนิด แต่วิวดี มีลมเย็น มันสดชื่นแบบบอกไม่ถูก ^^ หลังจากนั้นมา เราก็ลงมาที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ลิงโลดอย่างเรามีหรือจะพลาด ปีน ๆ ป่าย ๆ ไปเรื่อยจนถึงชั้นบน อดใจไม่ไหวกระโจนลงไปเล่นเลยจ้า สรุปว่ามันปีนต่อได้อีก แต่เราเปียกซะก่อนเลยนั่งแหมะรอเพื่อน เพราะมันลื่นมาก จึงปีนไปไม่ได้ ฮือ ๆ ๆ ๆ เสียดายมากกก
*** รายละเอียดของแต่ละชุมชนจะเป็นอย่างไร จะทยอยทำรีวิวเฉพาะให้นะคะ แต่ตอนนี้อยากให้ดูภาพรวม จึงเขียนถึงแต่ละที่แบบย่อ ๆ ค่ะ ***
เมื่อเราหมดเวลากับที่แรกแล้ว เราก็ไปต่อที่ จ.ยะลา เดินทางไปอีก 2 ชม. โดยประมาณ เพื่อไปสานสัมพันธ์ทางใจกับ "หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9" อ.ธารโต เคยเป็นหมู่บ้านคอมมิวนิสต์มาก่อน และเราได้ฟังประวัติแล้วขอบอกว่าน้ำตาคลอ .. คุณป้าที่พานำชมพิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยที่มีความขัดแย้งทางด้านความคิดกับรัฐบาลมาเลเซีย เล่าถ่ายทอดออกมาอย่างลึกซึ้ง และแฝงไปด้วยจิตวิญญาณล้วน ๆ เพราะเขาอยู่ในเหตุการณ์เหล่านั้น .. (พิมพ์ไปก็มือสั่นนะ เพราะจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี ) เอาล่ะ พักเรื่องราวของประวัติศาสตร์ .. ไปดูความสมบูรณ์แบบของชุมชนกัน เพราะที่นี่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เรียกว่าขั้นสูง ป่าเขายังอุดมสมบูรณ์มาก เราได้ไปชมสะพานเชือกที่ทำไว้เชื่อมกับเส้นทางเดินชมธรรมชาติของ หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 7 แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการพัฒนาเส้นทางแบบต่อเนื่อง แต่ด้านล่างกลับมีลำธาร น้ำใสไหลเย็น ที่ลงไปแช่แล้วชื่นใจสุด ๆ เฮ้ย ๆ ๆ มันคือของดีที่ซุกซ่อนเอาไว้ แต่มันไม่มีใครมาเที่ยวเลย นอกจากคนในชุมชนเอง .. ขณะที่น้อง ๆ ไกด์ชุมชนพาเราแว้บไปชุมชนข้าง ๆ มา .. แล้วก็พาเราไปปีนป่าย น้ำตกขึ้นชื่อของชุมชน นั่นคือ "น้ำตกฮาลาซะห์" และการทีเราจะปีนขึ้นไปนี่แหล่ะที่มันท้าทาย เข้าใจคำว่ามองบน 555 เพราะถ้ามองล่างปุ๊บ ขาสั่นเป็นนกกระพือปีกแน่นอน .. ถ้าผ่านความยากลำบากมาได้ ทุกที่สวยงามเสมอ ^^
มีต่อนะคะ ^^