President Obama: 'LGBT Rights Are Human Rights'
"สิทธิของชาวเลสเบี้ยน , เกย์ , เสือใบ และ คนข้ามเพศ มันก็คือสิทธิมนุษยชนนั่นแหละ"
ใช่ครัชชชชช.......
โลกเขาไปถึงไหนๆแล้ว
แต่ดันมีคนที่ยัง "เหยียดเพศ"
และ จำกัด "สิทธิ์" อันพึงมีของคนอื่น ที่เขารักคนเพศเดียวกันซะอีก....!!!!!
ฝั่งอเมริกานั้น
โอบาม่าให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้มาก
แต่พอข้ามมหาสมุทรแอตแลนติคมาอีกฟากที่อังกฤษเมืองผู้ดีกลับตรงกันข้าม
เพราะกะอีแค่คู่รักเกย์ "เดินจับมือกัน" ในซุปเปอร์มาร์เก็ทเท่านั้นแหละ...โดนตะเพิดออกจากร้านเลย....!!!
คู่รักเกย์ Thomas Rees (32) กับ Joshua Bradwell (25)
พากันไปเดินซื้อของจับจ่ายใช้สอยที่ร้าน Sainsbury Store
ทั้งคู่เดินจูงมือกัน และ กลายเป็นที่ "ขัดหูขัดตา" ของลูกค้าดัดจริตบางคน
ไอ้ลูกค้านั่นก็เลยคอมเพลนกับทางร้านว่า "เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม"
และ ไอ้ร้านนั่นก็ "บ้าจี้" ตะเพิด 2 หนุ่มออกจากร้านไป
พระเจ้าาาาาาาา.....คนเพศเดียวกันเดินจูงมือกัน คือ เรื่องไม่เหมาะสม..???????
"Gay couple 'thrown out of Hackney Sainsbury's after being spotted holding hands"
เพราะ..........
"They were reportedly reprimanded by security at the store on Hackney Road, east London, after a customer deemed their holding hands to be “inappropriate”.
การโดนลดทอนศักดิ์ศรีในความเป็นคนของทั้งคู่
ก่อให้เกิดความไม่พอใจในบรรดาชาว LGBT ทั้งหลาย
และ กลายมาเป็นการตอบโต้ (แบบโคตรจะน่ารัก) ด้วยการรวมตัวกัน "จูบประท้วง" ซะเลย
ไม่ต้องไปใกลที่ไหนหรอกครับ ไหนๆจะ "จูบประท้วง" ทั้งทีก็ไปมันที่ร้าน Sainsbury นั่นแหละ
"It was a defiant public display of affection like no other. About 200 people wielding rainbow flags filled the aisles of a Sainsbury’s store to stage a mass “kissathon” in protest after a gay couple were ejected from the supermarket for holding hands."
ชาวรักร่วมเพศกว่า 200 ชีวิต
ที่เรียกการประท้วงนี้ว่า Kissathon
พากันยกพลแห่มาที่ Sainsbury พร้อมธงสีรุ้งสดใส
เพื่อมาทำการ "จูบหมู่" อันเป็นการแสดงออกในเชิงสัญญลักษณ์ว่าสนับสนุน 2 หนุ่มนั่น
และที่สำคัญเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า
คนเรานั้นไม่ว่าจะเพศไหนก็มีสิทธิ์ที่จะ "รัก" กันได้
2 หนุ่มต้นเรื่องบอกว่า.....
"ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนี้
เราไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้นเลย"
"The number that turned out was absolutely insane, we were not expecting this at all,"
แล้วไม่ใช่ว่าจู่ๆชาว LGBT จะมาจูบกันดื้อๆนะครัชช
เพราะพวกเขามีพิธีรีตอง มีการโหมโรงเปิดเพลงเต้นรำย้อมใจก่อน
จากนั้นพวกเขาก็พากันเข้าไปในร้าน Sainsbury แล้ว countdown เพื่อที่จะเริ่มการจูบ
5....4....3.....2.....1......เอ้าาาาาาาาาาาาา......จูบบบบบบบบบบบบบบ....!!!!!!
...5555555.......สมน้ำหน้าไอ้เจ้าของร้าน Sainsbury จริงๆว่ะ...!!!
หลังเกิดกรณี Kissathon
2 หนุ่มได้รับข้อความจากชาว LGBT มากมายทั่วโลก
หลายๆคนที่ส่งข้อความมานั้นบอกว่าตัวเองก็เป็นชาว LGBT
และ ไม่กล้าที่แม้แต่จะเดินจับมือกับคนรักของตัวเองในที่สาธารณะเช่นกัน
“Both of us have received messages from people around the world who don’t even have the courage to hold hands, let alone stand up against something like this. You have to do so.”
ทอมมัส และ โจชัวร์ ใด้ให้คำแนะนำว่า
แม้จะเป็น LGBT แต่จงอย่ากลัวที่จะจับมือกับคนรักของตน
ส่วนคนที่ต่อต้านนั้นก็ควรเปิดใจยอมรับ "สิทธิ์" ในการเลือกเพศของคนอื่นให้มากขึ้น
ทั้งคู่ยังหวังว่า Kissathon ที่เกิดขึ้น
จะเป็นแรงกระตุ้นให้ชาว LGBT ทั่วโลก
ลุกขึ้นมายืนหยัดในความเป็น "มนุษย์" ของตน
เรื่องนี้เมื่อเทียบกับฝั่งอเมริกาแล้ว
มันชัดเจนว่าพวกไอ้กันมันต่อสู้อย่างเป็นรูปธรรมมากกว่า
รัฐบาลของโอบาม่าได้ออกกฏหมายเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
กำหนดให้โรงเรียนในสังกัดต้องให้นักเรียนเพศที่ 3 เลือกเข้าห้องน้ำได้ตามเพศที่ต้องการ
โดยก่อนหน้านี้ในบางรัฐ เช่น เท็กซัส มีปัญหาเรื่องการบังคับใช้ห้องน้ำของนักเรียนชาว LGBT
กฏหมายฉบับนี้รัฐบาลโอบาม่าบอกว่า
“เพื่อให้นักเรียนเพศที่ 3 สามารถใช้ชีวิตภายใต้บรรยากาศสร้างสรรค์
โดยที่ไม่ต้องมาเกิดความรู้สึกว่าถูกกีดกันจากเพศสภาพที่เป็นอยู่แต่อย่างใด"
แถมก่อนหน้านี้
โอบาม่ายังเคยแสดงจุดยืน
ในเหตุการณ์กราดยิงบาร์เกย์ “พัลส์” ในเมืองออร์ลันโด
โศกนาฏกรรมนี้มีคนตายไป 49 คน บาดเจ็บอีกเป็นเบือ
โอบาม่าได้ไปพูดคุยกับญาติผู้ตาย
และ แสดงท่าทีชัดเจนว่าการเลือกปฏิบัติต่อ LGBT นั้น
ควรที่จะต้องถูกกำจัดให้หมดสิ้นไปจากโลกกลมๆใบนี้
โลกนี้ไม่ได้มีแค่เพศชาย-หญิง
ในทางกายภาพที่ยึดตามอวัยวะสืบพันธุ์อาจจะใช่
แต่ในแง่ของ "จิตวิญญาน" นั้น เราไม่มีสิทธิ์ไปกำหนดอะไร เพื่อปิดกั้นสิทธิ์ของใครได้
โถ...........ฝั่งอเมริกาเขาไปถึงไหนแล้ว
แต่ฝั่งอังกฤษ (ที่รู้ๆกันอยู่ว่าโคตรจะอนุรักษ์นิยม) ยังมีเรื่องคร่ำครึแบบนี้อยู่อีก
เฮ้อออออออออ............
ที่มา :
https://www.theguardian.com/world/2016/aug/14/kissathon-protest-sainsburys-hackney-london-gay-couple-were-ejected
http://www.standard.co.uk/news/london/london-gay-couple-reprimanded-by-sainsburys-security-guard-for-holding-hands-a3316911.html
http://www.independent.co.uk/news/uk/home-news/sainsburys-kiss-protest-lgbt-hackney-support-same-sex-couple-ejected-for-holding-hands-a7189396.html
http://www.advocate.com/politicians/2016/5/17/president-obama-lgbt-rights-are-human-rights
จ่าพิเชษฐ์
@@@@@----------------LGBT Kissathon......เมื่อ "พ ลั ง แ ห่ ง จู บ" สำแดงเดช-------------@@@@@
"สิทธิของชาวเลสเบี้ยน , เกย์ , เสือใบ และ คนข้ามเพศ มันก็คือสิทธิมนุษยชนนั่นแหละ"
ใช่ครัชชชชช.......
โลกเขาไปถึงไหนๆแล้ว
แต่ดันมีคนที่ยัง "เหยียดเพศ"
และ จำกัด "สิทธิ์" อันพึงมีของคนอื่น ที่เขารักคนเพศเดียวกันซะอีก....!!!!!
ฝั่งอเมริกานั้น
โอบาม่าให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้มาก
แต่พอข้ามมหาสมุทรแอตแลนติคมาอีกฟากที่อังกฤษเมืองผู้ดีกลับตรงกันข้าม
เพราะกะอีแค่คู่รักเกย์ "เดินจับมือกัน" ในซุปเปอร์มาร์เก็ทเท่านั้นแหละ...โดนตะเพิดออกจากร้านเลย....!!!
คู่รักเกย์ Thomas Rees (32) กับ Joshua Bradwell (25)
พากันไปเดินซื้อของจับจ่ายใช้สอยที่ร้าน Sainsbury Store
ทั้งคู่เดินจูงมือกัน และ กลายเป็นที่ "ขัดหูขัดตา" ของลูกค้าดัดจริตบางคน
ไอ้ลูกค้านั่นก็เลยคอมเพลนกับทางร้านว่า "เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม"
และ ไอ้ร้านนั่นก็ "บ้าจี้" ตะเพิด 2 หนุ่มออกจากร้านไป
พระเจ้าาาาาาาา.....คนเพศเดียวกันเดินจูงมือกัน คือ เรื่องไม่เหมาะสม..???????
"Gay couple 'thrown out of Hackney Sainsbury's after being spotted holding hands"
เพราะ..........
"They were reportedly reprimanded by security at the store on Hackney Road, east London, after a customer deemed their holding hands to be “inappropriate”.
การโดนลดทอนศักดิ์ศรีในความเป็นคนของทั้งคู่
ก่อให้เกิดความไม่พอใจในบรรดาชาว LGBT ทั้งหลาย
และ กลายมาเป็นการตอบโต้ (แบบโคตรจะน่ารัก) ด้วยการรวมตัวกัน "จูบประท้วง" ซะเลย
ไม่ต้องไปใกลที่ไหนหรอกครับ ไหนๆจะ "จูบประท้วง" ทั้งทีก็ไปมันที่ร้าน Sainsbury นั่นแหละ
"It was a defiant public display of affection like no other. About 200 people wielding rainbow flags filled the aisles of a Sainsbury’s store to stage a mass “kissathon” in protest after a gay couple were ejected from the supermarket for holding hands."
ชาวรักร่วมเพศกว่า 200 ชีวิต
ที่เรียกการประท้วงนี้ว่า Kissathon
พากันยกพลแห่มาที่ Sainsbury พร้อมธงสีรุ้งสดใส
เพื่อมาทำการ "จูบหมู่" อันเป็นการแสดงออกในเชิงสัญญลักษณ์ว่าสนับสนุน 2 หนุ่มนั่น
และที่สำคัญเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า
คนเรานั้นไม่ว่าจะเพศไหนก็มีสิทธิ์ที่จะ "รัก" กันได้
2 หนุ่มต้นเรื่องบอกว่า.....
"ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนี้
เราไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้นเลย"
"The number that turned out was absolutely insane, we were not expecting this at all,"
แล้วไม่ใช่ว่าจู่ๆชาว LGBT จะมาจูบกันดื้อๆนะครัชช
เพราะพวกเขามีพิธีรีตอง มีการโหมโรงเปิดเพลงเต้นรำย้อมใจก่อน
จากนั้นพวกเขาก็พากันเข้าไปในร้าน Sainsbury แล้ว countdown เพื่อที่จะเริ่มการจูบ
5....4....3.....2.....1......เอ้าาาาาาาาาาาาา......จูบบบบบบบบบบบบบบ....!!!!!!
...5555555.......สมน้ำหน้าไอ้เจ้าของร้าน Sainsbury จริงๆว่ะ...!!!
หลังเกิดกรณี Kissathon
2 หนุ่มได้รับข้อความจากชาว LGBT มากมายทั่วโลก
หลายๆคนที่ส่งข้อความมานั้นบอกว่าตัวเองก็เป็นชาว LGBT
และ ไม่กล้าที่แม้แต่จะเดินจับมือกับคนรักของตัวเองในที่สาธารณะเช่นกัน
“Both of us have received messages from people around the world who don’t even have the courage to hold hands, let alone stand up against something like this. You have to do so.”
ทอมมัส และ โจชัวร์ ใด้ให้คำแนะนำว่า
แม้จะเป็น LGBT แต่จงอย่ากลัวที่จะจับมือกับคนรักของตน
ส่วนคนที่ต่อต้านนั้นก็ควรเปิดใจยอมรับ "สิทธิ์" ในการเลือกเพศของคนอื่นให้มากขึ้น
ทั้งคู่ยังหวังว่า Kissathon ที่เกิดขึ้น
จะเป็นแรงกระตุ้นให้ชาว LGBT ทั่วโลก
ลุกขึ้นมายืนหยัดในความเป็น "มนุษย์" ของตน
เรื่องนี้เมื่อเทียบกับฝั่งอเมริกาแล้ว
มันชัดเจนว่าพวกไอ้กันมันต่อสู้อย่างเป็นรูปธรรมมากกว่า
รัฐบาลของโอบาม่าได้ออกกฏหมายเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
กำหนดให้โรงเรียนในสังกัดต้องให้นักเรียนเพศที่ 3 เลือกเข้าห้องน้ำได้ตามเพศที่ต้องการ
โดยก่อนหน้านี้ในบางรัฐ เช่น เท็กซัส มีปัญหาเรื่องการบังคับใช้ห้องน้ำของนักเรียนชาว LGBT
กฏหมายฉบับนี้รัฐบาลโอบาม่าบอกว่า
“เพื่อให้นักเรียนเพศที่ 3 สามารถใช้ชีวิตภายใต้บรรยากาศสร้างสรรค์
โดยที่ไม่ต้องมาเกิดความรู้สึกว่าถูกกีดกันจากเพศสภาพที่เป็นอยู่แต่อย่างใด"
แถมก่อนหน้านี้
โอบาม่ายังเคยแสดงจุดยืน
ในเหตุการณ์กราดยิงบาร์เกย์ “พัลส์” ในเมืองออร์ลันโด
โศกนาฏกรรมนี้มีคนตายไป 49 คน บาดเจ็บอีกเป็นเบือ
โอบาม่าได้ไปพูดคุยกับญาติผู้ตาย
และ แสดงท่าทีชัดเจนว่าการเลือกปฏิบัติต่อ LGBT นั้น
ควรที่จะต้องถูกกำจัดให้หมดสิ้นไปจากโลกกลมๆใบนี้
โลกนี้ไม่ได้มีแค่เพศชาย-หญิง
ในทางกายภาพที่ยึดตามอวัยวะสืบพันธุ์อาจจะใช่
แต่ในแง่ของ "จิตวิญญาน" นั้น เราไม่มีสิทธิ์ไปกำหนดอะไร เพื่อปิดกั้นสิทธิ์ของใครได้
โถ...........ฝั่งอเมริกาเขาไปถึงไหนแล้ว
แต่ฝั่งอังกฤษ (ที่รู้ๆกันอยู่ว่าโคตรจะอนุรักษ์นิยม) ยังมีเรื่องคร่ำครึแบบนี้อยู่อีก
เฮ้อออออออออ............
ที่มา :
https://www.theguardian.com/world/2016/aug/14/kissathon-protest-sainsburys-hackney-london-gay-couple-were-ejected
http://www.standard.co.uk/news/london/london-gay-couple-reprimanded-by-sainsburys-security-guard-for-holding-hands-a3316911.html
http://www.independent.co.uk/news/uk/home-news/sainsburys-kiss-protest-lgbt-hackney-support-same-sex-couple-ejected-for-holding-hands-a7189396.html
http://www.advocate.com/politicians/2016/5/17/president-obama-lgbt-rights-are-human-rights
จ่าพิเชษฐ์