หากต้องการคาดหวังผลตอบแทนประมาณ 30% ในระยะเวลา 3-5 ปี จังหวะนี้เหมาะสมมากที่จะลงทุน เหตุผล 1. กำไรเฉลี่ย 5ปีประมาณ 2800 ล้าน (ปีนี้มอง ต่ำสุด2600 - สูงสุด3200ล้าน) 2. กระแสเงินสดเฉลี่ยประมาณ 3000 ล้า

ขอความเห็นพี่ๆเพื่อนๆด้วยค่ะ ตัวต่อไปรอรับ tip อยู่ค่ะ ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ

พอดีเห็นว่า pe ต่ำมาก ปันผลสูงมาก eps เติบโตต่อเนื่องทุกปี หนี้สินลดลงทุกปี ส่วนของเจ้าของเพิ่ม แข็งแกร่งมาก ตั้งใจจะเก็บวันอังคาร ลงไปแตะ 40 มาเมื่อวาน พฤหัส จู่ๆไปปิด 42 ซะงั้น ถ้าตี pe สัก 10 เท่

มีคนถามเข้ามาเกี่ยวกับหุ้น BEAUTY ว่าจะเป็นไงต่อ บอกตรงๆ แอดมึนก็ไม่ทราบเหมือนกัน เลยหาตัวเลขทางสถิติมาฝากแทน Source : IAA Consensus(14/11/17) บล กรุงศรีประมาณการกำไร BEAUTY ปี 2017 = 1,136 ล้านบาท So

ขนาดซื้อหุ้นที่ ในอนาคตธุรกิจยังไปได้เรื่อยๆ โตไปเรื่อยๆ 5-6% PE 10 เท่าไม่เกิน EV/REVENUE 0.5-1 ปันผล 4% ขนาดผ่านมาหลายรอบ ผมยังหวั่นใจพอควรเลยครับ ปล. ตอนนี้ติดลบ 4% ครับ ถ้าไป 1000 ก็จะซื้อเพิ

ในเมื่อทุกคนไม่ใช่คนที่คาดการณ์อนาคตได้ไม่ไกล แต่ระบบก็ทำงานไปในทุกวัน สิ่งที่คาดหวัง เป็นเพียงความคิดปรารถนา แต่สิ่งที่เป็นผลลัพธ์ที่ถูกกำหนดแล้ว ในระบบการย้ายเงินทุน ผลประกอบการของบริษัทต่างๆที่เกิด

บ้างก็ว่าตลาดหุ้นเวียดนามจะแซงไทย  มันก็แน่อยู่แล้วจีดีพีของเค้าโต 6.4  จริงๆเวียดนามควรไป 1600 ไปแล้วด้วยซ้ำ  พายุหมุนทุ่มเงินไปกว่า 4 แสนล้าน ยังได้มาแค่นี้  หาคนเก่งๆมาทำงานดีกว

แต่เอาให้ชัวร์ เอา PE ต่ำสิบ ปันผล 5% รายได้โต กำไรโตไปอีก 3 ปี น่าจะสบายใจครับ

อยากให้กำลังใจท่านที่หมดหวังกับตลาดหุ้นไทย ท่านซื้อหุ้น ไม่ได้ซื้อดัชนี แม้ตลาดจะลงหนัก แต่ถ้าเราได้หุ้นที่ต้นทุนไม่สูงมาก และผลประกอบการบริษัทยังเติบโต พอร์ทลงทุนของท่านน่าจะพอสู้ดัชนีได้  ผมมีห

ตอนนี้ยังมีคนเล่นหุ้นไทยอยู่ไหมครับ ถามจริงๆ เอาแบบเดย์เทรด หรือ vi ปันผล ที่กำไร เขียว พวกพอร์ตเขียวๆไรงี้ กำไรเยอะ ไม่เอาแบบติดดิย ติดลบ ขาดทุนนะ ยังมีไหม คือพูดตามตรง สมัยก่อนผมเห็นคนโชว์กำไร โช