เป็นเมียแต่ง แต่ไม่มีความน่าภาคภูมิใจ

กระทู้คำถาม
เคนอ่านเรื่องราวของคนอื่นมามากมาย ประสบการณ์แลกเปลี่ยนกันไปเป็นวิทยาทาน วันนี้ก็ได้โอกาสเหมาะ ผสมกับการไม่รู้จะหันหน้าไประบาย หรือ ปรึกษาใคร ก็มีแต่พันทิปนี่แหล่ะ ที่วันนี้เป็นที่ระบายสำหรับเรา
เริ่มเรื่องเลย ดิฉันอายุ 33 ปี แต่งงานกับสามีเมื่อต้นปีที่ผ่านมา (ก่อนนั้นคบหาดูในมาร่วม 3 ปี) จึงตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
และตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน กำลังจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ พ่อ แม่ ลูก ทุกอย่างมันกำลังดี แต่มันก็มีเหตุให้มาสะดุด ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดิฉันนั้นลำบากใจ ที่จะตัดสินใจในวันนี้ ว่าจะเดินต่อไปอย่างไร มันสับสน มันบอกไม่ถูก จะหันไปปรึกษาใคร ก็ไม่รู้จะพูดยังไง มันจุกอก  เพราะในวันนี้ ดิฉันได้รับรู้ว่า สามีของดิฉันไปทำผู้หญิงคนนึงท้อง และเด็กคนนี้ก็คลอดออกมาแล้ว และทางบ้านสามี(รวมถึงสามี) ก็รับเด็กมาดูแลที่บ้าน โดยที่ดิฉันไม่ได้รู้เลย ขอเท้าความก่อนหน้านี้หน่อยนะคะ สามีดิฉันเรารักกัน เค้าดูแล เอาใจใส่และรักดิฉันมาก แต่ก่อนนั้น ดิฉันเคยจับได้เรื่องผู้หญิง ซึ่งเค้าได้สารภาพกับดิฉันเอง เพราะรู้สึกผิด เค้าไปเจอผู้หญิงในกลุ่มงานเลี้ยงสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนของเค้า และ ด้วยความเมา และผู้หญิงคนนี้ก็ค่อนข้างแรง จึงมีความสัมพันธ์กันจนเลยเถิด จากครั้งที่ 1 ก็มามีครั้งที่ 2 ซึ่งเค้าได้สารภาพกับดิฉันทุกอย่าง และดิฉันก็นัดให้สามี พาไปเจอผู้หญิงคนนี้ เพื่อเคลียร์ ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็บอกกับดิฉันว่า แค่ขำๆ ไม่ผูกมัด เพราะเค้าก็มีแฟนอยู่แล้ว ทุกอย่างก็จบ และแฟนดิฉันก็ขอโอกาส ซึ่งดิฉันก็ให้อภัย และให้โอกาสอีกครั้ง เค้าพาที่บ้านมาสู่ขอเพื่อแสดงว่าเค้าต้องการสร้างครอบครัวกับดิฉันจริงๆ  และเราก็แต่งงานกัน และกำลังจะมีลูกด้วยกัน แต่มันก็ไม่ราบรื่นอย่างที่คิด ที่ฝันไว้ เพราะดิฉันรู้สึกว่า ตั้งแต่สงกรานต์ที่ผ่านมา ทำไมดิฉันจะไปเที่ยวหาบ้านสามีไม่ค่อยได้(คือ ดิฉันทำงาน จ.ปราจีนบุรี) ซึ่งบ้านสามี จะอยู่ กทม. ดิฉันก็ไม่เอ่ะใจอะไรสักเท่าไร เพราะสามีจะเป็นฝ่ายมาหาตลอด จนทำให้ดิฉันไม่ต้องเดินทางไป และประจวบกับตั้งท้อง ก็เลยไม่ได้ไปบ้านสามี แต่ช่วงหลังๆ เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุด ดิฉันก็อยากไป กทม. อยาก ไปหาอะไรกินอร่อยๆ อยากไปเดินเล่น อยากไปเที่ยวห้าง ตามประสา คนเคยใช้ชีวิตอยู่ กทม. แต่สามีก็จะบอกว่า อย่าเดินทางเลย เดี๋ยวพี่ก็ไปหาแล้ว จะมาทำไม หรือบางทีก็จะบอก มาพี่ก็ไม่อยู่บ้าน จนทำให้ดิฉันไม่ได้ไป จนดิฉันเริ่มสงสัย และสามีก็คงอึดอัด จนสารภาพว่า ผู้หญิงคนนั้น (ที่เคยจับได้) เค้าบอกเค้าท้อง และคลอดแล้ว จะเอายังไง เดิมทีสามีดิฉันก็จะไม่ยอมรับ แต่ทางบ้านเค้า พ่อ แม่เค้า ก็บอกให้เอาเด็กมา เค้าจะดูแลเอง โดยทางบ้านเค้าก็ยื่นคำขาดว่าถ้าเขาดูแลเด็ก ต้องห้ามมายุ่งวุ่นวาย เพราะลูกชายเค้าแต่งงานมีครอบครัวแล้ว เพราะผู้หญิงคนนั้น เค้าบอกว่า เค้าไม่พร้อมที่จะดูแล ตอนนี้ดิฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง จะเดินต่อไปอย่างไร มันสับสนไปหมด รู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ ทำไมที่บ้านเค้าถึงทำกับดิฉันแบบนี้ ดิฉันเหมือนเป็นตัวอะไรที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่อยากคิดมาก ไม่อยากเสียใจ เพราะตัวเองก็กำลังตั้งท้องอยู่ สงสารตัวเอง สงสารลูก ไหนจะพ่อ แม่ เราอีกที่ท่านยังไม่รู้เรื่องของสามีเรา  ดิฉันอยากขอกำลังใจจากทุกๆคน  ตอนนี้สับสน ไม่รู้จะเดินต่อไปอย่างไร  ขอบคุณทุกๆคนนะคะ ที่รับฟัง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
คือเรื่องนี้ยาวเลยนะ    ถ้าคุณทำใจครึ่งๆ กลางๆ รับสภาพไป   อนาคตคนเรามันมีด้านมืด  ยังไงคุณก็เกลียดเด็กคนนั้นเข้าไส้

หรือต่อให้คุณรัก  ให้อภัย  อนาคตสิ่งที่คุณต้องเผชิญคือ  ตอนแบ่งตังค์   จากปกติ สามีหาตังค์ คุณหาตังค์ เพื่อลูกของเรา 100%  แต่ต่อไปส่วนที่จะได้จากสามี มันจะถูกแชร์ไปให้เด็กคนนั้น   วันนึงคนเรามันหงุดหงิดไง  ยังไงระเบิดก็ลง

ยังไม่พอ  ถ้าสามีจดทะเบียนรับรองบุตร  แล้วมีมรดกอีก  เด็กคนนั้นโตมา  มีสิทธิ์ในมรดกด้วยนะ  

บอกได้เลย   ความบรรลัยเกิดมันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ....  เด็กไม่ผิด  แต่คนที่ใช้ไม่ได้และค่อนข้างทุเรศ  คือสามีคุณ  เค้ารู้แหละว่าลูกเค้า  แต่เค้าทำนิ่ง  เอาคุณเป็นเมียก่อน แล้วค่อยให้คุณรับสภาพไป  

ตอนนี้พูดได้หมดแหละ  ให้อภัย  ทำใจ  เด็กไม่ผิด  ใช่ เด็กคนนี้ไม่ผิดอะไร   แต่ในวันที่เราจี๊ดๆ  ด้านมืดออก  ยังไง้  ยังไง  เด็กคนนี้ก็ไม่เข้าตากรรมการ

เรื่องนี้ยาวค่ะ  เรียกได้ว่า  ตรอมกันยาวๆ ทั้งชีวิตเลยแหละ
ความคิดเห็นที่ 50
คำตอบนี้อาจไม่โดนใจใคร ถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบจขกท.และกำลังท้อง แล้วต้องมาเขียนกระทู้ระบายความอัดอั้นตันใจ จุกแล้วยังมีคนแนะให้รับลูกชู้มาเลี้ยงให้เหมือนลูกเอง ขอให้รักเด็ก เพราะไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราคงแสลงใจน่าดู เพราะเราโดนหลอก มัดมือชกให้แต่งงานแล้วยังต้องมาท้องลูกชายชั่ว สุดท้ายเราถูกรังแกโดรุมหัวหักหลัง เราต้องยอมเหรอ ผช ผญคนนั้นไม่เห็นต้องเสียอะไรเลย  ปล.เราไม่มีเจตนาตำหนิคห.ไหนนะ แค่คิดแล้วเจ็บแทนลูกผู้หญิง
ความคิดเห็นที่ 78
เป็นดิฉันจะไม่จดค่ะ

- เพราะคุณไม่มีความจำเป็น  ต้องอาศัยการเลี้ยงดูจากเขา  ให้เค้าจดรับรองบุตรก็พอ
หรือไม่จดรับรองก็ยังได้  เพราะมันจะทำให้เขามีสิทธิในตัวลูก  บังคับให้คุณพาลูกไปหา
ซึ่งก็คือการต้องพัวพันกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  ทั้งเกิดถ้าเค้าทำอะไรล้มเหลวก็ไม่เกี่ยวกับแก
คนที่โกหกหลอกลวงแม้กระทั่งกับแม่ของลูก  ยังไม่แน่ใจว่า  มันเป็นผลดีหรือไม่  ที่มีพ่อแบบนี้
-  มันจะทำให้คุณถอยง่ายขึ้น  การจดทะเบียน  คือการเพิ่มความผูกพัน  อีกทั้งฝ่ายชายก่อปัญหาอะไร
คุณและลูกก็จะได้ไม่ต้องรับรู้และรับผิดชอบ
-  เมื่อคุณถอยออกมา  คุณก็ไม่ต้องเป็นนางมารร้ายทำอะไรกับเด็ก  เพราะครอบครัวนี้จะไม่เกี่ยวกับคุณแล้ว
ถึงคุณจะยังอยู่กับเค้า  คุณก็ไม่ควรขับไล่เด็กค่ะ  เพราะคุณไม่ได้เลี้ยงดู  อยากให้คุณเมตตาแกตามควรด้วยซ้ำ
เพราะแกก็คือผู้รับกรรมเหมือนกัน


ดิฉันว่าสามีคุณไม่โอเคหลายประการ
-  ไปมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น  ครั้ง 1 ไม่พอ  มี 2  ไม่ใส่ถุงด้วย  สกปรกมาก
เกิดภายหน้าเมาอีกอะไรอีก  มีอะไรรับรอง  ว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
-  แล้วต่อไปจะมีอะไรกับใคร  ถึงไม่ผูกมัด  แต่เอาคุณไปเสี่ยงกับโรคอีกเมื่อไหร่
-  โกหกหลอกลวงคุณ  ให้แต่งงานกับเค้า  การแต่งงานต้องยืนบนพื้นฐานความจริงใจ
การไม่บอกคุณว่ากำลังจะมีลูก  นั่นคือไม่ให้ทางคุณถอย  เค้าเลวมากค่ะ  ต่อให้แหลว่ารัก
แต่เค้าไม่มองเลยหรือ  ว่ามันคือการทำร้ายคุณ  คุณต้องเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้เพราะเค้านั่นแหละ
-  มีเจตนาปกปิดต่อเนื่อง  ใจเย็นพอจะหว่านล้อมหลอกลวง  ถ้าหลอกได้คงหลอกต่อ  นี่น่ากลัวที่สุดค่ะ
เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จ  จะหาความจริงใจจากผู้ชายคนนี้ได้ที่ไหนอีก  

ที่แย่มากคือ  พ่อแม่สามีก็ไม่โอเค  การช่วยปกปิดความผิดให้ลูกชาย  ก็คือหลอกลวงเรานั่นแหละ
ทำไมไม่ให้เรารู้ความจริงเพื่อทบทวน  กลับช่วยกันทำร้ายเรา  มันมองหน้ากันไม่สนิท  ไหว้ไม่ลงค่ะ


สิ่งที่คุณควรทำคือ
-  บอก  พ่อ  แม่  ญาติ  พี่น้อง  เพื่อน  ทั้งหมด  ให้รู้ความจริง  อย่ากลัว  อย่าไปอายค่ะ
เราไม่ได้ผิด  เค้าร่วมกันปิดบังทั้งบ้าน  ใครจะไปรู้ทันได้   ยืนสวยๆเป็นคนที่ถูกคนบ้านหนึ่งทำร้าย
รวมหัวกันหลอกลวง  อย่างพร้อมจะก้าวออกมา  
เมื่อคนอื่นรู้แล้ว  การเลิกกับเค้า  หรือทำอะไรขั้นตอนต่อไป  คนก็จะอยู่ข้างคุณ  แต่ถ้าเค้า
จะอยู่ข้างผู้ชายมักมาก  ก็แค่ภาวนาขอให้เค้าเจอผู้ชายแบบนี้ก็แล้วกัน  เพราะคุณอยู่ไม่ไหว
-  อย่าไปยุ่งเรื่องเด็กค่ะ  ปล่อยให้เค้าดูแลกันไป  คุณยิ่งวางเฉยเรื่องนี้  เค้ายิ่งเกรงใจคุณ
และไม่มีอะไรมาโจมตีคุณได้  อีกทั้งตัดทางให้ตัวแม่เข้ามาพัวพันอีกด้วย  
หรือถ้าคุณเลิกกับเค้า  คุณก็มิได้ก่อกรรมใดๆกับเด็กน้อยนี้  ปล่อยแกให้เป็นเรื่องของปู่ย่าแกค่ะ


จากนั้นค่อยๆคิดค่ะ  ปรึกษาพ่อแม่เป็นหลักไว้  เพราะท่านคือคนที่คอยประคองคุณเสมอไป
ระหว่างนี้  ก็หาข้าวของเผื่อต้องถอยกลับบ้านรองรับไว้  อารมณ์คนท้องวูบวาบ  หากคุณไม่สบายใจ
หรือเครียด  ก็จะได้มีรังสำรองไว้พักพิง  อย่าอยู่กับสามีให้เครียด
ทำใจให้นิ่ง  มองความเป็นไปได้ของการอยู่อย่างมีเขา  และไม่มีเขา  ชั่งข้อดี  ข้อเสีย  ให้รอบคอบ
เรื่องนี้ต้องคุณคิดเอง  มององค์ประกอบเอง  เพียงมองให้ยาวๆ  ถึงอนาคตตัว  อนาคตลูก  คิดให้มากๆ

ขอให้คุณพบหนทางที่เหมาะสมกับตัวคุณ  จำไว้ให้ขึ้นใจว่า  คุณเป็นคนมีอนาคต  มีศักดิ์ศรี  มีพ่อแม่ที่รักคุณ
คุณมีหน้าที่การงาน  และที่สำคัญ  คุณกำลังจะมีลูก  ที่จะเป็นสุดที่รักของคุณในอนาคตอันใกล้นี้  อยู่เพื่อเขาค่ะ
และต้องอยู่อย่างไม่ทำร้ายตนเอง  เพราะถ้าเราทุกข์  ลูก  และพ่อแม่เรา  จะทุกข์กับเราด้วย  หาทางออกให้เจอนะคะ
ความคิดเห็นที่ 5
ปรึกษาพ่อแม่ ดีที่สุดค่ะ  ในเมื่อฝั่ง ผช. ยังเลือกที่จะบอกพ่อแม่เค้า
และพ่อแม่เค้าก็หาทางออกให้ลูกชายเค้าแล้ว
คุณก็ควรที่จะปรึกษาผู้ใหญ่ฝั่งคุณ เพื่อหาทางออกให้กับเรื่องนี้ด้วย
เหมือนกันค่ะ  อย่าคิดเองเออเอง ขนาดเค้าเป็น ผช เป็นหัวหน้าครอบครัว
ยังไม่คิดยังตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ ต้องเอาผู้ใหญ่ออกหน้า
แล้วคุณเป็น ผู้หญิงตัวเล็กๆ คุณจะตัดสินใจเรื่องใหญ่ขนาดนี้คนเดียวทำไมคะ
ตอนมาขอ ก็มาขอกับพ่อแม่เรา เวลาทำเลวกับเรา พ่อแม่เราก็สมควรที่จะได้รู้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 79
ไม่ได้ล๊อคอินมานานมากก แต่กระทู้นี้ต้องขอเข้ามาตอบนะคะ อยากแบ่งปันประสบการณ์ให้จขกทฟังค่ะ
พี่(ขอแทนตัวเองว่าพี่นะคะ)เป็นเด็กคนที่1ค่ะ ใช่ค่ะ พ่อกับแม่พี่มีพี่เมื่อยังไม่ได้แต่งงาน แม่พี่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ตอนตั้งท้อง ส่วนพ่อพี่ทำงานแล้ว แต่ๆ ยังไม่อยากมีภาระค่ะ ยังไม่อยากแต่งงาน พ่อพี่เป็นคนเจ้าชู้มากก เมื่อมีพี่แม่พี่ขอให้จดทะเบียนและไปผูกข้อมือกับพ่อแม่แต่พ่อพี่ไม่ยอมทำค่ะ
แม่พี่จึงจำเป็นต้องฝากพี่ไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กเอกชนแห่งหนึ่งและเรียนจนจบและกลับไปบ้านเกิด ส่วนพ่อพี่ก็ไม่บอกใครแม้แต่พ่อกับแม่แต่ก็จ่ายเงินให้สถานเลี้ยงเด็กเป็นค่าจ้าง จนวันหนึ่งอาพี่ไปเห็นว่าพ่อพี่เข้าๆออกๆสถานเลี้ยงเด็กแห่งนี้บ่อยๆจนแอบตามไปและไปพบกับพี่ คุณอาจึงไปบอกปู่กับย่า ปู่กับย่าจึงนำพี่ไปเลี้ยงเองค่ะ ต่อมาปู่กับย่าได้ยกพี่ให้กับคุณอาคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพ่อพี่ซึ่งเป็นสาวโสดไม่ได้แต่งงานมีหน้าที่การงานที่ดี คุณอาคนนี้ท่านจดทะเบียนรับพี่เป็นบุตรบุญธรรม พี่ก็เรียกท่านว่าแม่ ท่านรักและเลี้ยงดูพี่มาอย่างดีมากจนโตค่ะ ส่วนพ่อห้าปีผ่านไปไปทำผู้หญิงอีกคนท้องแต่คราวนี้ผู้หญิงไม่ยอมค่ะยังไงก็ต้องแต่งงาน ทางผู้หญิงครอบครัวดีค่ะพ่อแม่ก็ให้แต่ง คราวนี้ปู่กับย่าทราบเรื่องจึงบังคับให้พ่อแต่งงานค่ะ ผู้หญิงคนใหม่ไม่ทราบเรื่องพี่จนแต่งงานไปแล้วนะคะ วันหนึ่งเมื่อเธอทราบเธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้วค่ะต้องปล่อยผ่านไป แต่ เธอเกลียดพี่ค่ะ เกลียดมาก ทุกครั้งที่เจอกันเวลามีงานชุมนุมญาติ เธอจะไม่รับไหว้พี่ ไม่คุยกับพี่ ไม่แม้แต่จะมองหน้าหรือพูดถึง เธอเคยพูดกับป้าพี่ว่าพี่เปรียบเหมือนกับก้อนกรวดในรองเท้าที่ไม่เคยทำให้เธอใส่สบายเลยมันจะกวนใจตลอดเวลา ส่วนตัวพี่ไม่อะไรเลยค่ะเพราะคุณอาเลี้ยงมาดีมากไม่ทำให้มีปมอะไรเลย ญาติพี่น้องก็รักใคร่กลมเกลียวกันดี ส่วนค่าใช้จ่ายของพี่คุณอาไปเบิกกับพ่อพี่ทุกเดือนค่ะ คุณอาบอกว่าพ่อต้องรับผิดชอบเรื่องเงินทองถึงแม้ว่าคุณอาจะจ่ายได้เองก็ตาม ตอนพี่จบมหาวิทยาลัยและไปเรียนต่อเมืองนอก พ่อพี่ก็เป็นคนรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั่นทำให้เธอยิ่งโกรธและเกลียดพี่มากยิ่งขึ้น
ส่วนแม่เลี้ยงพี่ พี่อยากให้จขกทได้เห็นในมุมเธอนะคะ นับแต่วันที่เธอแต่งงานกับพ่อพี่ เธอก็ไม่เคยมีความสุขเลยค่ะ พ่อพี่มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาในชีวิตตลอดเวลา รวมทั้งเรื่องพี่อีก พี่เคยคุยกับน้องสาวพี่ น้องสาวพี่กับพี่คุยกันดีนะคะ เรื่องของผู้ใหญ่เราไม่เกี่ยวค่ะ น้องสาวพี่บอกว่าพ่อไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปเที่ยวกลางคืนกลับหลังเที่ยงคืนทุกวัน ไม่ออกค่าใช้จ่ายในบ้านมีแต่ให้แม่ออก และมีเรื่องทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน น้องสาวพี่บอกถ้าเลือกได้อยากเป็นแบบพี่ดีกว่า เวลาผ่านมาเนิ่นนานจนตอนนี้ทุกคนก็อายุมากแล้ว แม่เลี้ยงพี่ปัจจุบันไม่ค่อยปกติค่ะ ทั้งร่างกายและจิตใจ พี่เคยคิดเสมอว่าพี่สงสารเธอมาก ถ้าเป็นพี่ๆจะไม่ทนแบบนั้นแน่ แต่สมัยนั้นเรื่องการหย่าร้างมันไม่เป็นที่ยอมรับแบบเดี๋ยวนี้ค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนเดียวนะคะ จขกทลองเอาไปปรับกับชีวิตดูนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ
ปล.อย่าว่าอะไรพ่อเค้าน๊าชาวพันทิป ไม่ได้อยากให้ใครมาวิจารณ์พ่อแค่อยากเล่าประสบการณ์ให้ฟังค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่