สวัสดีค่ะน้องๆขอแทนตัวเองว่า พี่ นะคะ
วันนี้พี่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ โครงการ Work and Travel ที่พี่ไปมาเมื่อปีที่แล้ว 2015 เห็นช่วงนี้ๆน้องตั้งกระทู้กันเยอะ พี่ตามไปตอบได้ไม่หมดทุกทู้ แต่อยากตอบให้ได้หมด ไม่รู้จะไงดี เลยมาตั้งกระทู้เลยดีกว่า ใครที่มีประสบการณ์เคยไปเวิร์คมาร่วมแชร์กับพี่กันได้นะคะ ให้น้องๆที่มีข้อสงสัย ได้ศึกษาเก็บข้อมูลกันก่อนตัดสินใจไป อันนี้แล้วแต่ วิจารณญาณของแต่บุคคลนะคะ
พี่ขอพิมพ์เป็นข้อๆนะคะ
อันดับแรกพี่ถามก่อนว่าน้องๆมีจุดมุ่งหมาย คืออะไร? ติ๊กต๊อกๆ
อ่ะ มาเริ่ม
1. ถ้าคิดอยากจะไปฝึกภาษา ก็โอเคนะ แต่ถามว่าได้มากจนเป๊ะคล่องเลย ตอบเลย ว่า ไม่ค่ะ อย่างมากได้แค่ศัพท์ Slang ของวัยรุ่นที่นั่น แล้วก็การฟังการคุ้นเคยกับสำเนียงดีขึ้นประมาณนึง ทำให้กล้าพูดมากขึ้นค่ะ พี่เป็นคนนึงที่ภาษาปะกิดง่อยมาก เรียกว่าไม่กระดิกเลยค่ะ ตั้งแต่เวิร์คทำให้รู้ศัพท์มากขึ้น กล้าพูดมากขึ้น แต่ถามว่าถูกต้องตามหลักแกรมม่าร์เป๊ะมั้ย ไม่ค่ะ แถวบ้านพี่เรียกว่า สเนค เสนค ฟิช ฟิช ค่ะ 55555555
2. ถ้าอยากมาหาเงินคิดว่าคงได้กลับไปเยอะๆ อย่ามาค่ะ เพราะส่วนใหญ่เสมอทุนไม่ก็ขาดทุน น้อยมากที่จะได้กำไร เพราะ ชั่วโมงงานต้องกระจายกับเพื่อนอีกเป็น 10 คน อย่างใน Job offer บอกว่า 40ชม/วีค ได้จริงๆบางที ไม่ถึง 30ชม/วีค ซะด้วยซ้ำ ส่วนน้อยที่จะโชคดีได้ ชั่วโมงงานเยอะ เงินเหลือเก็บกลับมาได้กำไร จริงๆพี่ก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีนะ ได้ชั่วโมงงานเยอะ ได้เงินกลับมาคืนแม่ ทุกบาททุกสตางค์ แถมยังเหลือเงินช๊อปปิ้งที่ New York และ ญี่ปุ่น อีก แต่อย่างที่บอกค่ะว่า ส่วนน้อย มากจริงๆๆ ย้ำว่ามากจริงๆค่ะ
3. ถ้าบ้าน น้องๆ พอมีฐานะอยู่แล้วไม่ได้สนใจเรื่องเงินมากนัก ว่าจะขาดทุนหรือเปล่า และคิดแค่ว่าฉันได้มาทำงาน มาเที่ยว มาลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆที่ต่างประเทศสักครั้งก็พอใจละ แนะนำว่าให้มาค่ะ ได้อะไรกลับไปเยอะแน่นอน ทั้งดีและไม่ดี มีปะปนกันหมดค่ะ กลับไปจะทำให้โตขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะอยู่ที่นั่นต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเองทุกเรื่อง ทั้งอาหารการกิน ผ้าต้องซักเอง เรียกง่ายๆ น้องต้องทำเองหมดทุกอย่างค่ะ แหม่ะ ตอนอยู่ที่บ้านเนี่ย แม่แทบประเคนไม่กระดุกกระดิกตัวเลยค่ะ 55555 เพื่อนๆพี่บางคนได้ Pocket Money จากที่บ้านไปเยอะค่ะ แถมบัตรเครดิตอีก เลยไม่ค่อยมายด์เรื่อง ช.ม. งานกัน
พี่ได้ไปนิดเดียว เลยต้องรีบเก็บ ช.ม. งาน ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตเลยค่ะ เดี๋ยวไม่ได้ช๊อป 55555
4. ปัญหาที่เจอบ่อยๆ คือ เรื่อง ชั่วโมงงานอย่างที่บอกไปค่ะ และ อีกอย่างที่เด็กเวิรค์ทุกคนส่วนใหญ่มักจะเจอ คือ เรื่องเพื่อนร่วมงานค่ะ เพราะต่างคนต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ร้อยพ่อพันแม่ ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน 5-6 คน บ้างบ้านแย่ไปอีก ยัดกันไปได้เป็น 10 คน ตอนพี่ไปเรื่องงานเงินไม่มีปัญหาค่ะ เพราะได้ Pocket Money จากที่บ้านไปด้วย และเงินจากชั่วโมง เงินโบนัสอีก สบายเลยค่ะ แต่ แต่ แต่ พี่มีปัญหาเรื่องเพื่อน คนรอบข้างที่เป็นต่างชาติ พี่จะบอกว่า ข้อนี้สำคัญมากเลยเป็นตัวแปรยิ่งกว่าเงินอีกค่ะ บางคนไปคิดแต่เรื่องได้เงินกลับมา จนลืมนึกถึงสภาพแวดล้อมใหม่ที่ต้องเจอและต้องปรับตัว พอไปถึงจริงๆปรับตัวไม่ได้ร้องไห้อยากกลับเลยก็มีค่ะ เรียกว่าลืมคิดถึงเรื่องเงินไปเลยค่ะ
5. งานที่ได้ส่วนใหญ่ใช่ว่าจะได้อยู่ในเมือง วันหยุดก็ใช่ว่าจะได้ช็อปปิ้งเกร๋ๆ นะเออ ของพี่จ้าาา อยู่บนเกาะติดเกาะ ออกไปไหนไม่ได้เลย จะออกสักทีต้องนั่งเรือ อีป้าก็เวียนหัวเมาเรืออีกจ้า นี่อาจจะเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้พี่เก็บเงินได้เยอะค่ะ เพราะไม่ได้ไปไหนเลย เพื่อนพี่ยิ่งกว่าค่ะ ได้งานที่รัฐแบบที่เรียกว่า บ้านนอกเลยล่ะค่ะ ไม่มีรถเข้าเมือง จะเข้าเมืองทั้งทีต้องติดรถคนแถวนั้นไป อยู่บนเกาะ บางวันอีป้าต้องเสี่ยงกับลมพายุแรงๆที่เข้ามา สังขารก็ไม่เที่ยง ได้แต่สวดมนต์ภาวนา อิพ่อ อิแม่ ซ้อยข่อยแหน่ น้อยมากค่ะ ที่จะได้งานในเมืองใหญ่ๆแหล่งช๊อปแหล่งเที่ยวแบบ New York หรือ California ถึงได้ก็อยู่ในส่วนที่ความเจริญแบบในเมืองเข้าไม่ถึง หรือบ้านเรา เรียกว่า ชาญเมืองน่ะค่ะ
6. อย่าคิดว่าพี่จะได้มาเที่ยวแบบเกร๋ๆถ่ายรูป กินลมชมวิว อัพลง เฟส อินสตาแกรมนะคะ เพราะวันทำงาน 6วัน/วีค หยุดแค่ 1 วัน โอ๊ยยย อีป้า ร่างจะพังค่ะ
เพื่อนพี่ส่วนใหญ่ก็หยุดวันเดียวค่ะ น้องๆจะได้ช๊อปปิ้งและเที่ยวอย่างจุใจ หลังจบงานค่ะ แต่น้องๆบางคนหลังจบงานก็ต้องบินกลับมาเรียนต่อเลย อดเที่ยว ฮือออออ อย่างพี่ไปตอนปี 4 เรียนจบแล้ว ไม่มีพันธะใดๆละ หลังจบงานพี่เที่ยว New York 7 วันเต็ม ต่อ ด้วย ญี่ปุ่น อีก 5 วัน ขุ่นพระ ร่างจะพัง ไม่ได้นอนเลยค่ะ ตื่นแต่เช้าออกไปเที่ยว กลับถึงบ้าน ตีสองตีสามทุกคืน เพราะพี่คิดว่าไม่ใช่ว่าเราจะมีโอกาสได้มาบ่อยๆ เลยเที่ยวซะให้คุ้ม จะนอนเมื่อไหร่ก็ได้ อีป้าเลยจัดเต็ม
7. แนะนำว่าให้ทำอาหารกินเองค่ะจะประหยัดมาก ร้านขายของไทยเยอะมากค่ะ ถึงไม่ในเมืองมากก็มี แต่เจ้าของร้านส่วนใหญ่เป็น เขมร ไม่ก็ จีน ค่ะ
8. ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนอยู่เมืองไทยนะคะ ห้องน้ำในบ้านมีห้องเดียวแต่แบบยัดกันเป็น 5 คน แน่นกว่า ปลากระป๋องตราสี่แม่ครัวอีกค่ะ ต้องแย่งกันเข้า ยิ่งตอนเช้าๆอีก เพื่อนพี่บางคนอาบน้ำนานมาก ย้ำว่ามากจริงๆ มีวันนึง พี่ปวดหนักมาก ยืนรอเป็นชาติค่ะ จนสุดท้าย เลยไปเคาะประตูห้องน้ำ เฮ่ ยู เฮอรี่ อัพ เฮอรี่ อัพ ไอ ปวด ขรี้ โย่วๆ
9. ถ้าไปแล้วเพื่อนเมกันแท้ๆนี่แหละค่ะ จะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ดีที่สุดให้กับเรา พี่ฝึกพูด ฝึกฟัง จากเพื่อนเมกันแท้ๆนี่แหละค่ะ อันไหนไม่รู้ศัพท์เปิดดิคในมือถือเลยค่ะ พี่แนะนำว่า โหลด App Line dict ค่ะ ช่วยไดเยอะ
10. อะไรอีกนะ คิดไม่ออกละ อ้อ นายจ้างพี่ใจดีมากจ้า เลี้ยงนั่น เลี้ยงนี่ ตลอด คนที่นั่นเอาจริงๆ คือ ใจดีกันทุกคน ใจดีกันมาก ที่พี่เจอมานะ
11. ค่าโครงการแพงค่ะ บอกตรงๆ หนักพอสมควร อย่างของพี่ ค่าโครงการรวมวีซ่าแล้ว 55,000 บาท ค่าตั๋วเครื่องบิน 45,600 บาท ค่ารถไฟนั่งจาก New York ไปรัฐที่ทำงาน 6,700 บาท แพงเว่อร์ Pocket Money ติดตัวที่บ้านให้ไป 1,000 เหรียญ ลองบวกกันดูเอาเองนะคะ นี่เป็นค่าใช้จ่ายโดยประมาณค่ะ สำหรับน้องๆที่คิดว่ากำลังจะไป อ้อ เรื่องค่ากินอยู่ที่โน่น 4 เดือน พี่ใช้ประมาณ 300 เหรียญ/เดือน ค่ะ ไม่รวมค่าที่พักนะคะ อีกประมาณ 200 กว่าเหรียญ รวมๆแล้วก็ ประมาณ 500 เหรียญค่ะ
12. เรื่องเอเจ้นดูกันดีดีนะคะ บอกจริงๆ ตามตรงเลยค่ะว่า เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว ถ้าเรามีปัญหาอะไรติดขัด เอเจ้นช่วยไม่ได้เลยค่ะ ต้องพึ่งตัวเองล้วน อย่างของพี่ไปถึงวันแรก แจ๊คพอร์ตเลยค่ะ Social Security Number เกิดการผิดพลาดเจ้าหน้าที่ออกให้ไม่ได้ค่ะ เนื่องจาก ต.ม. แสต๊ม ในวีซ่าของพี่มาเป็น F-1 ทั้งๆที่ควรจะเป็น J-1 พี่วิ่งให้วุ่นเลยค่ะ วันนั้นเป็น 10 ชั่วโมงกว่าได้จะมา แถมหลงใน New York อีกเป็น ชั่วโมง โดยที่เอเจ้น นั่งสบายๆรออยู่ที่โรงเเรม หืมมม ประมาณนี้ล่ะค่ะ
มาถึงตรงนี้ พี่คิด ไม่ออกละ แต่น้องๆคนไหนที่เรื่องสงสัยตรงไหน และ อยากถาม ถามพี่ได้เลยนะคะ หรือ จะหลังไมค์มาก็ได้ค่ะ พี่ยินตอบข้อสงสัยให้ค่ะ ที่สามารถตอบให้ได้นะคะ
หากข้อมูลตรงไหนขาดตกไปช่วยพี่เพิ่มเติมได้นะคะหรือมีการผิดพลาดท้วงติงได้ค่ะ เพราะทั้งหมดมาจากประสบการณ์ที่พี่เจอมาล้วนๆเลยค่ะ
กราบขอบพระคุณและสวัสดีค่ะ
ช่วงนี้เห็นน้องๆตั้งกระทู้ Work and travel กันเยอะมาก พี่เองขออนุญาตมาแชร์ประสบการณ์จากที่เคยไปเวิร์คมานะคะ
วันนี้พี่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ โครงการ Work and Travel ที่พี่ไปมาเมื่อปีที่แล้ว 2015 เห็นช่วงนี้ๆน้องตั้งกระทู้กันเยอะ พี่ตามไปตอบได้ไม่หมดทุกทู้ แต่อยากตอบให้ได้หมด ไม่รู้จะไงดี เลยมาตั้งกระทู้เลยดีกว่า ใครที่มีประสบการณ์เคยไปเวิร์คมาร่วมแชร์กับพี่กันได้นะคะ ให้น้องๆที่มีข้อสงสัย ได้ศึกษาเก็บข้อมูลกันก่อนตัดสินใจไป อันนี้แล้วแต่ วิจารณญาณของแต่บุคคลนะคะ
พี่ขอพิมพ์เป็นข้อๆนะคะ
อันดับแรกพี่ถามก่อนว่าน้องๆมีจุดมุ่งหมาย คืออะไร? ติ๊กต๊อกๆ
อ่ะ มาเริ่ม
1. ถ้าคิดอยากจะไปฝึกภาษา ก็โอเคนะ แต่ถามว่าได้มากจนเป๊ะคล่องเลย ตอบเลย ว่า ไม่ค่ะ อย่างมากได้แค่ศัพท์ Slang ของวัยรุ่นที่นั่น แล้วก็การฟังการคุ้นเคยกับสำเนียงดีขึ้นประมาณนึง ทำให้กล้าพูดมากขึ้นค่ะ พี่เป็นคนนึงที่ภาษาปะกิดง่อยมาก เรียกว่าไม่กระดิกเลยค่ะ ตั้งแต่เวิร์คทำให้รู้ศัพท์มากขึ้น กล้าพูดมากขึ้น แต่ถามว่าถูกต้องตามหลักแกรมม่าร์เป๊ะมั้ย ไม่ค่ะ แถวบ้านพี่เรียกว่า สเนค เสนค ฟิช ฟิช ค่ะ 55555555
2. ถ้าอยากมาหาเงินคิดว่าคงได้กลับไปเยอะๆ อย่ามาค่ะ เพราะส่วนใหญ่เสมอทุนไม่ก็ขาดทุน น้อยมากที่จะได้กำไร เพราะ ชั่วโมงงานต้องกระจายกับเพื่อนอีกเป็น 10 คน อย่างใน Job offer บอกว่า 40ชม/วีค ได้จริงๆบางที ไม่ถึง 30ชม/วีค ซะด้วยซ้ำ ส่วนน้อยที่จะโชคดีได้ ชั่วโมงงานเยอะ เงินเหลือเก็บกลับมาได้กำไร จริงๆพี่ก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีนะ ได้ชั่วโมงงานเยอะ ได้เงินกลับมาคืนแม่ ทุกบาททุกสตางค์ แถมยังเหลือเงินช๊อปปิ้งที่ New York และ ญี่ปุ่น อีก แต่อย่างที่บอกค่ะว่า ส่วนน้อย มากจริงๆๆ ย้ำว่ามากจริงๆค่ะ
3. ถ้าบ้าน น้องๆ พอมีฐานะอยู่แล้วไม่ได้สนใจเรื่องเงินมากนัก ว่าจะขาดทุนหรือเปล่า และคิดแค่ว่าฉันได้มาทำงาน มาเที่ยว มาลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆที่ต่างประเทศสักครั้งก็พอใจละ แนะนำว่าให้มาค่ะ ได้อะไรกลับไปเยอะแน่นอน ทั้งดีและไม่ดี มีปะปนกันหมดค่ะ กลับไปจะทำให้โตขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะอยู่ที่นั่นต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเองทุกเรื่อง ทั้งอาหารการกิน ผ้าต้องซักเอง เรียกง่ายๆ น้องต้องทำเองหมดทุกอย่างค่ะ แหม่ะ ตอนอยู่ที่บ้านเนี่ย แม่แทบประเคนไม่กระดุกกระดิกตัวเลยค่ะ 55555 เพื่อนๆพี่บางคนได้ Pocket Money จากที่บ้านไปเยอะค่ะ แถมบัตรเครดิตอีก เลยไม่ค่อยมายด์เรื่อง ช.ม. งานกัน
พี่ได้ไปนิดเดียว เลยต้องรีบเก็บ ช.ม. งาน ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตเลยค่ะ เดี๋ยวไม่ได้ช๊อป 55555
4. ปัญหาที่เจอบ่อยๆ คือ เรื่อง ชั่วโมงงานอย่างที่บอกไปค่ะ และ อีกอย่างที่เด็กเวิรค์ทุกคนส่วนใหญ่มักจะเจอ คือ เรื่องเพื่อนร่วมงานค่ะ เพราะต่างคนต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ร้อยพ่อพันแม่ ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน 5-6 คน บ้างบ้านแย่ไปอีก ยัดกันไปได้เป็น 10 คน ตอนพี่ไปเรื่องงานเงินไม่มีปัญหาค่ะ เพราะได้ Pocket Money จากที่บ้านไปด้วย และเงินจากชั่วโมง เงินโบนัสอีก สบายเลยค่ะ แต่ แต่ แต่ พี่มีปัญหาเรื่องเพื่อน คนรอบข้างที่เป็นต่างชาติ พี่จะบอกว่า ข้อนี้สำคัญมากเลยเป็นตัวแปรยิ่งกว่าเงินอีกค่ะ บางคนไปคิดแต่เรื่องได้เงินกลับมา จนลืมนึกถึงสภาพแวดล้อมใหม่ที่ต้องเจอและต้องปรับตัว พอไปถึงจริงๆปรับตัวไม่ได้ร้องไห้อยากกลับเลยก็มีค่ะ เรียกว่าลืมคิดถึงเรื่องเงินไปเลยค่ะ
5. งานที่ได้ส่วนใหญ่ใช่ว่าจะได้อยู่ในเมือง วันหยุดก็ใช่ว่าจะได้ช็อปปิ้งเกร๋ๆ นะเออ ของพี่จ้าาา อยู่บนเกาะติดเกาะ ออกไปไหนไม่ได้เลย จะออกสักทีต้องนั่งเรือ อีป้าก็เวียนหัวเมาเรืออีกจ้า นี่อาจจะเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้พี่เก็บเงินได้เยอะค่ะ เพราะไม่ได้ไปไหนเลย เพื่อนพี่ยิ่งกว่าค่ะ ได้งานที่รัฐแบบที่เรียกว่า บ้านนอกเลยล่ะค่ะ ไม่มีรถเข้าเมือง จะเข้าเมืองทั้งทีต้องติดรถคนแถวนั้นไป อยู่บนเกาะ บางวันอีป้าต้องเสี่ยงกับลมพายุแรงๆที่เข้ามา สังขารก็ไม่เที่ยง ได้แต่สวดมนต์ภาวนา อิพ่อ อิแม่ ซ้อยข่อยแหน่ น้อยมากค่ะ ที่จะได้งานในเมืองใหญ่ๆแหล่งช๊อปแหล่งเที่ยวแบบ New York หรือ California ถึงได้ก็อยู่ในส่วนที่ความเจริญแบบในเมืองเข้าไม่ถึง หรือบ้านเรา เรียกว่า ชาญเมืองน่ะค่ะ
6. อย่าคิดว่าพี่จะได้มาเที่ยวแบบเกร๋ๆถ่ายรูป กินลมชมวิว อัพลง เฟส อินสตาแกรมนะคะ เพราะวันทำงาน 6วัน/วีค หยุดแค่ 1 วัน โอ๊ยยย อีป้า ร่างจะพังค่ะ
เพื่อนพี่ส่วนใหญ่ก็หยุดวันเดียวค่ะ น้องๆจะได้ช๊อปปิ้งและเที่ยวอย่างจุใจ หลังจบงานค่ะ แต่น้องๆบางคนหลังจบงานก็ต้องบินกลับมาเรียนต่อเลย อดเที่ยว ฮือออออ อย่างพี่ไปตอนปี 4 เรียนจบแล้ว ไม่มีพันธะใดๆละ หลังจบงานพี่เที่ยว New York 7 วันเต็ม ต่อ ด้วย ญี่ปุ่น อีก 5 วัน ขุ่นพระ ร่างจะพัง ไม่ได้นอนเลยค่ะ ตื่นแต่เช้าออกไปเที่ยว กลับถึงบ้าน ตีสองตีสามทุกคืน เพราะพี่คิดว่าไม่ใช่ว่าเราจะมีโอกาสได้มาบ่อยๆ เลยเที่ยวซะให้คุ้ม จะนอนเมื่อไหร่ก็ได้ อีป้าเลยจัดเต็ม
7. แนะนำว่าให้ทำอาหารกินเองค่ะจะประหยัดมาก ร้านขายของไทยเยอะมากค่ะ ถึงไม่ในเมืองมากก็มี แต่เจ้าของร้านส่วนใหญ่เป็น เขมร ไม่ก็ จีน ค่ะ
8. ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนอยู่เมืองไทยนะคะ ห้องน้ำในบ้านมีห้องเดียวแต่แบบยัดกันเป็น 5 คน แน่นกว่า ปลากระป๋องตราสี่แม่ครัวอีกค่ะ ต้องแย่งกันเข้า ยิ่งตอนเช้าๆอีก เพื่อนพี่บางคนอาบน้ำนานมาก ย้ำว่ามากจริงๆ มีวันนึง พี่ปวดหนักมาก ยืนรอเป็นชาติค่ะ จนสุดท้าย เลยไปเคาะประตูห้องน้ำ เฮ่ ยู เฮอรี่ อัพ เฮอรี่ อัพ ไอ ปวด ขรี้ โย่วๆ
9. ถ้าไปแล้วเพื่อนเมกันแท้ๆนี่แหละค่ะ จะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ดีที่สุดให้กับเรา พี่ฝึกพูด ฝึกฟัง จากเพื่อนเมกันแท้ๆนี่แหละค่ะ อันไหนไม่รู้ศัพท์เปิดดิคในมือถือเลยค่ะ พี่แนะนำว่า โหลด App Line dict ค่ะ ช่วยไดเยอะ
10. อะไรอีกนะ คิดไม่ออกละ อ้อ นายจ้างพี่ใจดีมากจ้า เลี้ยงนั่น เลี้ยงนี่ ตลอด คนที่นั่นเอาจริงๆ คือ ใจดีกันทุกคน ใจดีกันมาก ที่พี่เจอมานะ
11. ค่าโครงการแพงค่ะ บอกตรงๆ หนักพอสมควร อย่างของพี่ ค่าโครงการรวมวีซ่าแล้ว 55,000 บาท ค่าตั๋วเครื่องบิน 45,600 บาท ค่ารถไฟนั่งจาก New York ไปรัฐที่ทำงาน 6,700 บาท แพงเว่อร์ Pocket Money ติดตัวที่บ้านให้ไป 1,000 เหรียญ ลองบวกกันดูเอาเองนะคะ นี่เป็นค่าใช้จ่ายโดยประมาณค่ะ สำหรับน้องๆที่คิดว่ากำลังจะไป อ้อ เรื่องค่ากินอยู่ที่โน่น 4 เดือน พี่ใช้ประมาณ 300 เหรียญ/เดือน ค่ะ ไม่รวมค่าที่พักนะคะ อีกประมาณ 200 กว่าเหรียญ รวมๆแล้วก็ ประมาณ 500 เหรียญค่ะ
12. เรื่องเอเจ้นดูกันดีดีนะคะ บอกจริงๆ ตามตรงเลยค่ะว่า เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว ถ้าเรามีปัญหาอะไรติดขัด เอเจ้นช่วยไม่ได้เลยค่ะ ต้องพึ่งตัวเองล้วน อย่างของพี่ไปถึงวันแรก แจ๊คพอร์ตเลยค่ะ Social Security Number เกิดการผิดพลาดเจ้าหน้าที่ออกให้ไม่ได้ค่ะ เนื่องจาก ต.ม. แสต๊ม ในวีซ่าของพี่มาเป็น F-1 ทั้งๆที่ควรจะเป็น J-1 พี่วิ่งให้วุ่นเลยค่ะ วันนั้นเป็น 10 ชั่วโมงกว่าได้จะมา แถมหลงใน New York อีกเป็น ชั่วโมง โดยที่เอเจ้น นั่งสบายๆรออยู่ที่โรงเเรม หืมมม ประมาณนี้ล่ะค่ะ
มาถึงตรงนี้ พี่คิด ไม่ออกละ แต่น้องๆคนไหนที่เรื่องสงสัยตรงไหน และ อยากถาม ถามพี่ได้เลยนะคะ หรือ จะหลังไมค์มาก็ได้ค่ะ พี่ยินตอบข้อสงสัยให้ค่ะ ที่สามารถตอบให้ได้นะคะ
หากข้อมูลตรงไหนขาดตกไปช่วยพี่เพิ่มเติมได้นะคะหรือมีการผิดพลาดท้วงติงได้ค่ะ เพราะทั้งหมดมาจากประสบการณ์ที่พี่เจอมาล้วนๆเลยค่ะ
กราบขอบพระคุณและสวัสดีค่ะ