เปิดใจ ‘ชญาน์พิมพ์’ เจ้าของบทประพันธ์ถึงละครสุดฟิน ‘กาลครั้งหนึ่งในหัวใจ’
นาทีนี้ละครเรื่องที่ฮิตสุดๆ และกำลังสร้างกระแส ‘ฟิน’ ไปทั่วประเทศ ซ้ำยังข้ามไปหลอมละลายหัวใจผู้ชมแดนมังกรจนติดอันดับ 3 ของเว็บไซต์ weibo คงหนีไม่พ้น ‘กาลครั้งหนึ่ง...ในหัวใจ’ ทางช่อง 7 ด้วยเนื้อเรื่องที่สนุก โรแมนติก ภาพสวย อีกทั้งนักแสดงยังสวยหล่อกันทุกคนจริงๆ วันนี้สถาพรบุ๊คส์จึงขอพาไปพูดคุยกับ ‘ชญาน์พิมพ์’ เจ้าของบทประพันธ์เรื่องนี้กันค่ะ
ก่อนอื่น อยากให้ชญาน์พิมพ์แนะนำตัวสักนิดนะคะ
สวัสดีค่ะ ทอฟฟี่ ชญาน์พิมพ์ค่ะ
ชญาน์พิมพ์ติดตามการถ่ายทำละคร ‘กาลครั้งหนึ่ง…ในหัวใจ’ มาอย่างต่อเนื่องเลย ตอนที่เห็นละครที่สร้างจากนวนิยายของตัวเองเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกอย่างไรบ้างคะ
ตื่นเต้นนะคะ ไม่เคยคิดว่านิยายของตัวเองจะเป็นละครได้ เวลาเขียนก็ตั้งใจเขียนในแบบของนิยายไม่เคยคิดเผื่อว่าวันหนึ่งจะได้เป็นละครเลย แถมยังเป็นนิยายเรื่องที่สองในชีวิตที่เขียนในช่วงวัยหวานแหววคืออายุ 20 กลางๆ อีกต่างหาก พอผ่านมา 10 ปีแล้วได้มาเป็นภาพเคลื่อนไหวบนจอก็รู้สึกเขินๆ อยู่เหมือนกันค่ะ
กาลครั้งหนึ่ง…ในหัวใจ’ เวอร์ชันละคร ประทับใจอย่างไรบ้างคะ
ประทับใจตั้งแต่เรื่องที่คุณเติ้ล-ตะวัน จารุจินดา ไฟแรงและมีความคิดหัวก้าวหน้า กล้าเลือกนิยายและเนื้อหาที่ไม่น่าจะตรงกับกลุ่มคนดูของช่องมาทำแล้วค่ะ แถมยังแคสติงนักแสดงที่ถือว่าหน้าใหม่มากในขณะนั้นมาเป็นนักแสดงนำ น้องมิกค์ ทองระย้าก็เพิ่งจะขึ้นมาเป็นพระเอกละครกลางคืนเต็มตัว น้องพิม พิมประภาก็ถือว่าเรื่องแรก แล้วไหนจะน้องบูม กิตตน์ก้อง น้องเมฆ จุติ คือเรียกได้ว่าอาจมีประสบการณ์กันมาบ้าง แต่ก็ถือเป็นหน้าใหม่สำหรับการเป็นนักแสดงนำของละครหลังข่าวภาคค่ำนะคะ
แต่เชื่อไหมวันที่ไปบวงสรวงแล้วพบน้องๆ ตัวจริงทุกคนแล้วรู้เลยว่า คุณเติ้ลมีความละเอียดลออในการคัดเลือกมาก ทั้งเรื่องความสูงของบอสแดเนียลและฟ้าใสที่ต้องสูงห่างกันถึง 27 เซนติเมตรตามบทประพันธ์ เรื่องของเสื้อผ้า สีสันประจำตัวของตัวละคร สัญลักษณ์ต่างๆ ในเรื่อง ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าไม่มีอะไรที่ใส่เข้าไปในฉากโดยไม่มีนัยยะแฝงเลย อย่างฉากที่บ้านเฉินหมิง ก่อนที่เขาจะวาดภาพฟ้าใสก็มีช็อตภาพแมวดำนั่งอยู่ด้วย เป็นการสื่อถึงเรื่องราวของเฉินหมิงในภาคถัดไปอย่าง ‘ตราบดินสิ้นฟ้า...สัญญารักนิรันดร์’ ด้วย ละเอียดไหมล่ะคะ กระทั่งตอนที่นางเอกเลือดกำเดาไหล หนังสือเล่มที่กระแทกจมูกนางเอกเลือดออก หน้าปกจะเห็นคำว่า Accident ชัดมาก เป็นมุกขำขันเล็กๆ ที่มีนัยยะอยู่ตลอดเรื่องเลย
จะทำอะไรแบบนี้ได้ ต้องมีคนเขียนบทที่ใส่ใจเนื้อหา มีผู้กำกับที่มีความละเอียดเหนือมนุษย์ (หัวเราะ) และทีมงานที่พร้อมลุยไปด้วยกัน นักแสดงเองก็มีพัฒนาการในการแสดงแบบก้าวกระโดดกันทุกคน ทอฟฟี่เป็นเจ้าของนวนิยาย ดูแล้วยังชื่นใจ ไม่ได้ขอให้ต้องเคารพบทประพันธ์ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกค่ะ การที่ตั้งใจสร้างผลงานชนิดทุ่มสุดตัวแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการเคารพบทประพันธ์ของทอฟฟี่อย่างที่สุดแล้ว แล้วทอฟฟี่ก็คงไม่ร้องขออะไรมากไปกว่านี้
มีส่วนไหนที่เปลี่ยนแปลงไปจากบทประพันธ์บ้าง
เอ...จริงๆ ต้องถามว่ามีตรงไหนที่เหมือนบ้างดีกว่าไหมคะ (หัวเราะ) วันที่ไปเซ็นสัญญากัน คุณเติ้ลถามว่าอยากให้คงอะไรไว้บ้าง ทอฟฟี่ตอบเลยค่ะว่าขอแค่ตัดฉากรุนแรงที่พระเอกรังแกนางเอกในเรื่องออก และอย่าดัดแปลงให้เฉินหมิงตายเป็นอันขาด ในภาคนี้เขาอาจจะเป็นพระเอกที่นางเอกไม่เลือก แต่ภาคหน้าเขามีนางเอกชื่อบัวบูชาเป็นของตัวเองอยู่นะคะ ซึ่งคุณติ้ลเองก็บอกไว้ว่าไม่ให้เฉินหมิงตายหรอกครับพี่ เพราะผมอยากทำต่อ
เรื่องของเส้นเรื่องที่เปลี่ยนไปนั้น ทอฟฟี่ไม่ติดใจนะคะ พี่ๆ น้องๆ คนเขียนบทซึ่งในเรื่องนี้เปลี่ยนมาแล้วหลายท่านมากก่อนจะมาเป็นคุณชมนาดเนี่ย ก็มีวิธีการทำงานแตกต่างกัน ทอฟฟี่โชคดีมากที่ทุกคนมาพูดคุยสอบถามในส่วนของการเปลี่ยนแปลงจนทอฟฟี่รู้สึกว่าโอเค ทำได้นะคะ ไม่มีปัญหาอะไร รู้สึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่ทางทีมงานโทร. มาถามเรื่องต่างๆ คุณเติ้ลเองเวลาโทร. มาถามรายละเอียดของเนื้องานในช่วงตัดต่อยังให้เกียรตินักเขียนด้วยการพูดว่า “พี่ทอฟฟี่ครับ ผมมาขอความรู้หน่อยครับ” แถมยังชวนไปดูละครตอนแรกก่อนออนแอร์จริง เพื่อถามความรู้สึกของเราอีก ใส่ใจนักเขียนมากๆ เลยค่ะ
คือทอฟฟี่เป็นต้นน้ำ ปลายน้ำจะแตกสาขาออกไปทางไหนบ้าง บางครั้งต้นน้ำก็คาดเดาไม่ได้หรอกค่ะ แต่การแตกสาขาครั้งนี้มันน่าตื่นตาตื่นใจ คุณเติ้ลกำกับเป็นเรื่องแรก ทอฟฟี่เองก็เพิ่งมีนวนิยายที่ได้รับเลือกทำเป็นละครครั้งแรก ทอฟฟี่ก็ถือว่างานนี้เป็นของทุกคน ไม่ใช่ของฉัน ของเธอ แต่เป็น ‘ของเรา’ ทุกคน ทอฟฟี่ดีใจด้วยนะคะที่ช่อง 7 กรุณาให้โอกาสพวกเราได้ทำละครเรื่องนี้ออกมาในมุมมองของคุณเติ้ลและมงคลการละคร
คุณเติ้ลเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์น่าสนใจมาก คุณชมนาดเล่าว่า คนที่ให้โอกาสคุณชมนาดซึ่งถือเป็นมือใหม่สำหรับการบินเดี่ยวเขียนบทละครโทรทัศน์เรื่อง ‘เลื่อมสลับลาย’ เป็นเรื่องแรก แล้วก็ได้รับคำชมมากมายเลยค่ะ แล้วทอฟฟี่ก็โชคดีที่ได้คุณสา ชมนาดมาเขียนบทเรื่องนี้ให้ด้วย ทอฟฟี่มองว่าการที่รู้ว่าใครทำอะไรได้ และควรให้โอกาสใครบ้างก็ถือเป็นจุดแข็งของคุณเติ้ลเลย ฉะนั้นเชื่อในการทำงานของเขาและทีมงานมาก การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในส่วนของเนื้อหาจึงไม่เคยหนักใจเลย ประกอบกับo;นิยายของทอฟฟี่เองก็ไม่ใช่ทางละครอยู่แล้ว การได้เห็นเนื้องานที่คุณเติ้ลเก็บกลิ่นอายของนิยายไว้ครบถ้วนแบบนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากด้วยซ้ำ
นักแสดงเหมือนอย่างที่จินตนาการไว้ไหมคะ
อยากบอกว่าประทับใจกับการแคสติงมากค่ะ คือคุณเติ้ลละเอียดนะคะ เลือกน้องๆ มาแต่ละคนคือพยายามให้ตรงตามบทประพันธ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีบ้างที่ดัดแปลงไปเพื่อความเหมาะสมกับบุคลากรที่มี ตอนแรกที่เห็นน้องพิม พิมประภา ในวันบวงสรวงก็อึ้งไปเหมือนกัน เพราะน้องเหมือนฟ้าใสที่เคยจินตนาการไว้มาก ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม แถมน้องยังสวมบทบาทได้ดี สมเป็นฟ้าใสที่เกิดขึ้นในจินตนาการครั้งที่ทอฟฟี่ยังสาวอีก เห็นแล้วรักเลยค่ะ ส่วนน้องมิกค์นั้นความสูงใช่เลย 190 เซนติเมตร ตามบทประพันธ์ แม้หน้าจะฝรั่ง ผิดจากในเนื้อหานิยาย แต่น้องสวมบทบาทได้ดีจนทอฟฟี่เชื่อว่าน้องคือแดเนียลนะคะ น้องบูม กิตตน์ก้อง ตอนแรกที่เจอก็มัวแต่มองลักยิ้มน้อง ไม่ได้สนอย่างอื่นเลย (หัวเราะ) น้องหล่อเหลาสมกับเป็นเฉินหมิง หนุ่มหน้าหยกมาก ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีมากเลยละค่ะ เห็นหางตาตวัดเฉียงนิดๆ แล้วก็ อืม...คุณเติ้ลเข้าใจเลือกจริงๆ นั่นละ
นักแสดงสมทบท่านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณดวงดาว จารุจินดา หรือคุณมนตรี เจนอักษร ก็รับบทพ่อแม่ของฟ้าใสไว้ในแบบที่เราคิดจริงๆ นะคะ คือน่ารักอบอุ่นและจิตใจดีทำให้มีลูกน่ารัก มองโลกในแง่ดีอย่างฟ้าใสได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจเลยค่ะ
แก๊งฮวงหลงนี่สาวๆ กรี๊ดมาก เรียกว่าคัดหน้าตามากันเลยค่ะ ไม่ว่าจะน้องเมฆจุติ น้องเบน สันติ น้องเฟอร์กี้ ที่ใส่เพิ่มเข้ามาเพื่อความสมจริงของเจ้าพ่อมาเฟียที่มีลูกน้องเก่งๆ รายล้อม ก็ไม่ขัดตาเลย แต่เวลาอยู่นอกจอเนี่ย ทอฟฟี่อยากจะเรียกแก๊งนี้ว่าแก๊งลิงแสมจริงๆ เป็นเด็กซนกันมากๆ
ทางฝั่งเสือขาวก็มีตัวละครเด่นๆ อย่างเทียนคง ที่รับบทโดยคุณต๊อก ศุภกร และเฉินเซียวเหยาที่รับบทโดยคุณเต้ นันทศัย ช่วยเติมความหมองหม่นให้ชีวิตเฉินหมิงได้อย่างเยี่ยมยอดเลย เป็นการบาลานซ์เนื้อหาแบบที่ทอฟฟี่ประทับใจมาก นิยายตั้ง 600 หน้า ทั้งอ่าน ทั้งเลือกตัวละครมาได้แบบนี้ ถือว่าละเอียดจริงๆ ค่ะ
ส่วนของปุยฝ้ายและนุตรา รวมไปถึงเพื่อนๆ ที่ออฟฟิศของฟ้าใส น่ารักสมจริงมากนะคะ ดูทีไรอมยิ้มทุกที ไม่มีส่วนไหนที่รู้สึกว่าไม่ชอบการแคสติงตัวละครเลยค่ะ.................
ยาวไปๆ ติดตามบทสัมภาษณ์ที่เหลือต่อได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ http://www.satapornbooks.co.th/SPBecommerce/writer_Interview/84/1/%E2%80%98%E0%B8%8A%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B9%8C%E2%80%99-%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E2%80%98%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E2%80%99-
Cr:บทสัมภาษณ์โดย สำนักพิมม์สถาพรบุ๊คส์
ที่มา :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.facebook.com/Satapornbooksfan/?fref=nf
เปิดใจ ‘ชญาน์พิมพ์’ เจ้าของบทประพันธ์ถึงละครสุดฟิน ‘กาลครั้งหนึ่งในหัวใจ’
นาทีนี้ละครเรื่องที่ฮิตสุดๆ และกำลังสร้างกระแส ‘ฟิน’ ไปทั่วประเทศ ซ้ำยังข้ามไปหลอมละลายหัวใจผู้ชมแดนมังกรจนติดอันดับ 3 ของเว็บไซต์ weibo คงหนีไม่พ้น ‘กาลครั้งหนึ่ง...ในหัวใจ’ ทางช่อง 7 ด้วยเนื้อเรื่องที่สนุก โรแมนติก ภาพสวย อีกทั้งนักแสดงยังสวยหล่อกันทุกคนจริงๆ วันนี้สถาพรบุ๊คส์จึงขอพาไปพูดคุยกับ ‘ชญาน์พิมพ์’ เจ้าของบทประพันธ์เรื่องนี้กันค่ะ
ก่อนอื่น อยากให้ชญาน์พิมพ์แนะนำตัวสักนิดนะคะ
สวัสดีค่ะ ทอฟฟี่ ชญาน์พิมพ์ค่ะ
ชญาน์พิมพ์ติดตามการถ่ายทำละคร ‘กาลครั้งหนึ่ง…ในหัวใจ’ มาอย่างต่อเนื่องเลย ตอนที่เห็นละครที่สร้างจากนวนิยายของตัวเองเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกอย่างไรบ้างคะ
ตื่นเต้นนะคะ ไม่เคยคิดว่านิยายของตัวเองจะเป็นละครได้ เวลาเขียนก็ตั้งใจเขียนในแบบของนิยายไม่เคยคิดเผื่อว่าวันหนึ่งจะได้เป็นละครเลย แถมยังเป็นนิยายเรื่องที่สองในชีวิตที่เขียนในช่วงวัยหวานแหววคืออายุ 20 กลางๆ อีกต่างหาก พอผ่านมา 10 ปีแล้วได้มาเป็นภาพเคลื่อนไหวบนจอก็รู้สึกเขินๆ อยู่เหมือนกันค่ะ
กาลครั้งหนึ่ง…ในหัวใจ’ เวอร์ชันละคร ประทับใจอย่างไรบ้างคะ
ประทับใจตั้งแต่เรื่องที่คุณเติ้ล-ตะวัน จารุจินดา ไฟแรงและมีความคิดหัวก้าวหน้า กล้าเลือกนิยายและเนื้อหาที่ไม่น่าจะตรงกับกลุ่มคนดูของช่องมาทำแล้วค่ะ แถมยังแคสติงนักแสดงที่ถือว่าหน้าใหม่มากในขณะนั้นมาเป็นนักแสดงนำ น้องมิกค์ ทองระย้าก็เพิ่งจะขึ้นมาเป็นพระเอกละครกลางคืนเต็มตัว น้องพิม พิมประภาก็ถือว่าเรื่องแรก แล้วไหนจะน้องบูม กิตตน์ก้อง น้องเมฆ จุติ คือเรียกได้ว่าอาจมีประสบการณ์กันมาบ้าง แต่ก็ถือเป็นหน้าใหม่สำหรับการเป็นนักแสดงนำของละครหลังข่าวภาคค่ำนะคะ
แต่เชื่อไหมวันที่ไปบวงสรวงแล้วพบน้องๆ ตัวจริงทุกคนแล้วรู้เลยว่า คุณเติ้ลมีความละเอียดลออในการคัดเลือกมาก ทั้งเรื่องความสูงของบอสแดเนียลและฟ้าใสที่ต้องสูงห่างกันถึง 27 เซนติเมตรตามบทประพันธ์ เรื่องของเสื้อผ้า สีสันประจำตัวของตัวละคร สัญลักษณ์ต่างๆ ในเรื่อง ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าไม่มีอะไรที่ใส่เข้าไปในฉากโดยไม่มีนัยยะแฝงเลย อย่างฉากที่บ้านเฉินหมิง ก่อนที่เขาจะวาดภาพฟ้าใสก็มีช็อตภาพแมวดำนั่งอยู่ด้วย เป็นการสื่อถึงเรื่องราวของเฉินหมิงในภาคถัดไปอย่าง ‘ตราบดินสิ้นฟ้า...สัญญารักนิรันดร์’ ด้วย ละเอียดไหมล่ะคะ กระทั่งตอนที่นางเอกเลือดกำเดาไหล หนังสือเล่มที่กระแทกจมูกนางเอกเลือดออก หน้าปกจะเห็นคำว่า Accident ชัดมาก เป็นมุกขำขันเล็กๆ ที่มีนัยยะอยู่ตลอดเรื่องเลย
จะทำอะไรแบบนี้ได้ ต้องมีคนเขียนบทที่ใส่ใจเนื้อหา มีผู้กำกับที่มีความละเอียดเหนือมนุษย์ (หัวเราะ) และทีมงานที่พร้อมลุยไปด้วยกัน นักแสดงเองก็มีพัฒนาการในการแสดงแบบก้าวกระโดดกันทุกคน ทอฟฟี่เป็นเจ้าของนวนิยาย ดูแล้วยังชื่นใจ ไม่ได้ขอให้ต้องเคารพบทประพันธ์ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกค่ะ การที่ตั้งใจสร้างผลงานชนิดทุ่มสุดตัวแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการเคารพบทประพันธ์ของทอฟฟี่อย่างที่สุดแล้ว แล้วทอฟฟี่ก็คงไม่ร้องขออะไรมากไปกว่านี้
มีส่วนไหนที่เปลี่ยนแปลงไปจากบทประพันธ์บ้าง
เอ...จริงๆ ต้องถามว่ามีตรงไหนที่เหมือนบ้างดีกว่าไหมคะ (หัวเราะ) วันที่ไปเซ็นสัญญากัน คุณเติ้ลถามว่าอยากให้คงอะไรไว้บ้าง ทอฟฟี่ตอบเลยค่ะว่าขอแค่ตัดฉากรุนแรงที่พระเอกรังแกนางเอกในเรื่องออก และอย่าดัดแปลงให้เฉินหมิงตายเป็นอันขาด ในภาคนี้เขาอาจจะเป็นพระเอกที่นางเอกไม่เลือก แต่ภาคหน้าเขามีนางเอกชื่อบัวบูชาเป็นของตัวเองอยู่นะคะ ซึ่งคุณติ้ลเองก็บอกไว้ว่าไม่ให้เฉินหมิงตายหรอกครับพี่ เพราะผมอยากทำต่อ
เรื่องของเส้นเรื่องที่เปลี่ยนไปนั้น ทอฟฟี่ไม่ติดใจนะคะ พี่ๆ น้องๆ คนเขียนบทซึ่งในเรื่องนี้เปลี่ยนมาแล้วหลายท่านมากก่อนจะมาเป็นคุณชมนาดเนี่ย ก็มีวิธีการทำงานแตกต่างกัน ทอฟฟี่โชคดีมากที่ทุกคนมาพูดคุยสอบถามในส่วนของการเปลี่ยนแปลงจนทอฟฟี่รู้สึกว่าโอเค ทำได้นะคะ ไม่มีปัญหาอะไร รู้สึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่ทางทีมงานโทร. มาถามเรื่องต่างๆ คุณเติ้ลเองเวลาโทร. มาถามรายละเอียดของเนื้องานในช่วงตัดต่อยังให้เกียรตินักเขียนด้วยการพูดว่า “พี่ทอฟฟี่ครับ ผมมาขอความรู้หน่อยครับ” แถมยังชวนไปดูละครตอนแรกก่อนออนแอร์จริง เพื่อถามความรู้สึกของเราอีก ใส่ใจนักเขียนมากๆ เลยค่ะ
คือทอฟฟี่เป็นต้นน้ำ ปลายน้ำจะแตกสาขาออกไปทางไหนบ้าง บางครั้งต้นน้ำก็คาดเดาไม่ได้หรอกค่ะ แต่การแตกสาขาครั้งนี้มันน่าตื่นตาตื่นใจ คุณเติ้ลกำกับเป็นเรื่องแรก ทอฟฟี่เองก็เพิ่งมีนวนิยายที่ได้รับเลือกทำเป็นละครครั้งแรก ทอฟฟี่ก็ถือว่างานนี้เป็นของทุกคน ไม่ใช่ของฉัน ของเธอ แต่เป็น ‘ของเรา’ ทุกคน ทอฟฟี่ดีใจด้วยนะคะที่ช่อง 7 กรุณาให้โอกาสพวกเราได้ทำละครเรื่องนี้ออกมาในมุมมองของคุณเติ้ลและมงคลการละคร
คุณเติ้ลเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์น่าสนใจมาก คุณชมนาดเล่าว่า คนที่ให้โอกาสคุณชมนาดซึ่งถือเป็นมือใหม่สำหรับการบินเดี่ยวเขียนบทละครโทรทัศน์เรื่อง ‘เลื่อมสลับลาย’ เป็นเรื่องแรก แล้วก็ได้รับคำชมมากมายเลยค่ะ แล้วทอฟฟี่ก็โชคดีที่ได้คุณสา ชมนาดมาเขียนบทเรื่องนี้ให้ด้วย ทอฟฟี่มองว่าการที่รู้ว่าใครทำอะไรได้ และควรให้โอกาสใครบ้างก็ถือเป็นจุดแข็งของคุณเติ้ลเลย ฉะนั้นเชื่อในการทำงานของเขาและทีมงานมาก การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในส่วนของเนื้อหาจึงไม่เคยหนักใจเลย ประกอบกับo;นิยายของทอฟฟี่เองก็ไม่ใช่ทางละครอยู่แล้ว การได้เห็นเนื้องานที่คุณเติ้ลเก็บกลิ่นอายของนิยายไว้ครบถ้วนแบบนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากด้วยซ้ำ
นักแสดงเหมือนอย่างที่จินตนาการไว้ไหมคะ
อยากบอกว่าประทับใจกับการแคสติงมากค่ะ คือคุณเติ้ลละเอียดนะคะ เลือกน้องๆ มาแต่ละคนคือพยายามให้ตรงตามบทประพันธ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีบ้างที่ดัดแปลงไปเพื่อความเหมาะสมกับบุคลากรที่มี ตอนแรกที่เห็นน้องพิม พิมประภา ในวันบวงสรวงก็อึ้งไปเหมือนกัน เพราะน้องเหมือนฟ้าใสที่เคยจินตนาการไว้มาก ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม แถมน้องยังสวมบทบาทได้ดี สมเป็นฟ้าใสที่เกิดขึ้นในจินตนาการครั้งที่ทอฟฟี่ยังสาวอีก เห็นแล้วรักเลยค่ะ ส่วนน้องมิกค์นั้นความสูงใช่เลย 190 เซนติเมตร ตามบทประพันธ์ แม้หน้าจะฝรั่ง ผิดจากในเนื้อหานิยาย แต่น้องสวมบทบาทได้ดีจนทอฟฟี่เชื่อว่าน้องคือแดเนียลนะคะ น้องบูม กิตตน์ก้อง ตอนแรกที่เจอก็มัวแต่มองลักยิ้มน้อง ไม่ได้สนอย่างอื่นเลย (หัวเราะ) น้องหล่อเหลาสมกับเป็นเฉินหมิง หนุ่มหน้าหยกมาก ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีมากเลยละค่ะ เห็นหางตาตวัดเฉียงนิดๆ แล้วก็ อืม...คุณเติ้ลเข้าใจเลือกจริงๆ นั่นละ
นักแสดงสมทบท่านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณดวงดาว จารุจินดา หรือคุณมนตรี เจนอักษร ก็รับบทพ่อแม่ของฟ้าใสไว้ในแบบที่เราคิดจริงๆ นะคะ คือน่ารักอบอุ่นและจิตใจดีทำให้มีลูกน่ารัก มองโลกในแง่ดีอย่างฟ้าใสได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจเลยค่ะ
แก๊งฮวงหลงนี่สาวๆ กรี๊ดมาก เรียกว่าคัดหน้าตามากันเลยค่ะ ไม่ว่าจะน้องเมฆจุติ น้องเบน สันติ น้องเฟอร์กี้ ที่ใส่เพิ่มเข้ามาเพื่อความสมจริงของเจ้าพ่อมาเฟียที่มีลูกน้องเก่งๆ รายล้อม ก็ไม่ขัดตาเลย แต่เวลาอยู่นอกจอเนี่ย ทอฟฟี่อยากจะเรียกแก๊งนี้ว่าแก๊งลิงแสมจริงๆ เป็นเด็กซนกันมากๆ
ทางฝั่งเสือขาวก็มีตัวละครเด่นๆ อย่างเทียนคง ที่รับบทโดยคุณต๊อก ศุภกร และเฉินเซียวเหยาที่รับบทโดยคุณเต้ นันทศัย ช่วยเติมความหมองหม่นให้ชีวิตเฉินหมิงได้อย่างเยี่ยมยอดเลย เป็นการบาลานซ์เนื้อหาแบบที่ทอฟฟี่ประทับใจมาก นิยายตั้ง 600 หน้า ทั้งอ่าน ทั้งเลือกตัวละครมาได้แบบนี้ ถือว่าละเอียดจริงๆ ค่ะ
ส่วนของปุยฝ้ายและนุตรา รวมไปถึงเพื่อนๆ ที่ออฟฟิศของฟ้าใส น่ารักสมจริงมากนะคะ ดูทีไรอมยิ้มทุกที ไม่มีส่วนไหนที่รู้สึกว่าไม่ชอบการแคสติงตัวละครเลยค่ะ.................
ยาวไปๆ ติดตามบทสัมภาษณ์ที่เหลือต่อได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Cr:บทสัมภาษณ์โดย สำนักพิมม์สถาพรบุ๊คส์
ที่มา : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้