เมียฝรั่งฝั่งอังกฤษ ตอนสาวไทยใจกล้ามาอะโกโก้
เรื่องที่จะเล่านี่เป็นเรื่องของเอ็กซ์และสามีฝรั่งพอล เอ็กซ์เป็นสาวไทยรูปร่างสูง หุ่นดีออกอวบๆ ไม่ใช่แห้งๆแบบที่เห็นตามพัฒน์พงศ์ เอ็กซ์เป็นสาวมาจากต่างจังหวัด และเข้าไปทำงานในกรุงเทพ ด้วยการเต้นอะโกโก้ที่บาร์ระหว่างซอยคาวบอยและพัฒน์พงศ์ เอ็กซ์ถูกเพื่อนชวนไปทำงานบาร์ที่ญี่ปุ่นด้วยวีซ่าแม่บ้าน แต่เมื่อทางรัฐบาลเริ่มตรวจสอบเข้มงวดกับแรงงานต่างชาติ เธอจึงหาหนทางไปทำงานที่เยอรมัน และคงไม่ต้องบอกนะคะว่าทำอะไร อ้าวบอกก็ได้ ทำนวด นาบ อาบแป้ง แล้วแต่ลูกค้าและเอ็กซ์จะตกลงกันได้ เอ็กซ์มีแผนว่าจะทำงานซักสามถึงสี่ปี เก็บเงินแล้วกลับบ้านไปทำร้านทำผมหรือขายของเล็กๆน้อยๆ ตามความฝันของสาวทรานซิสเตอร์รุ่นเก่า แต่ถ้ารุ่นใหม่ก็ต้องเปิดร้านสะดวกซื้อแบบเซเว่น อีเลฟเว่น เพราะโลกหมุนเวียนเปลี่ยนไป
เมื่อตอนที่เอ็กซ์ทำงานอยู่ประเทศเยอรมัน ก็มีลูกค้ามานวดชื่อพอล ซึ่งเป็นคนอังกฤษ พอลอายุ 60 กว่าๆ ชอบใส่เสื้อลายที่คนไทยชอบใส่ตอนงานสงกรานต์ ห้อยทองเส้นเท่าโซ่ และเปิดกระดุมแบะอกและโชว์ขน ที่พอลคิดว่าจะดูเท่ เก๋เหมือน ริชาร์ด เกียร์ หรือถ้ารุ่นใหม่ก็ แฮรี่ สไตล์ ซึ่งดิฉันคนเล่าย้อนคิดถึงภาพที่เห็นแล้วยังรู้สึกพิพักพิพ่วน เพราะดูไปแล้ว เหมือนดาวร้ายสมัยเก่ามากกว่า เห็นแล้วอยากดักตีหัวผู้ร้าย ;)
อย่างไรก็ตาม พอลชอบเอ็กซ์มากและตัดสินใจว่าจะพาเธอมาอยู่อังกฤษ แต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว ให้เลิกอาชีพนวดซะ จึงคุยกับฝ่ายสาว เอ็กซ์ก็เห็นว่าที่พอลชวนนี้ก็ดี เพราะถึงทำงานต่อไปก็มีแต่จะแก่ และอีกหน่อยก็ไม่มีคนรู้ใจ อยู่เป็นเพื่อน และยังรู้สึกขอบคุณในความรัก เมตตาที่พอลให้ พอลต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าของโรงนวดเป็นแสน เพื่อแลกกับอิสรภาพและให้เอ็กซ์ได้ออกจากงาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเอ็กซ์เค้านับถือและเคารพสามีมากอยู่ค่ะเพราะเค้าถือว่าพอลเป็นคนดึงชีวิตให้ดีขึ้น
เมื่อเอ็กซ์มาอยู่อังกฤษก็ย้ายไปอยู่เมืองใหญ่คืออ้อกซฟอร์ด (Oxford) ด้วยความที่เป็นคนเปิดเผย พูดตรง รักสนุก เอ็กซ์จึงมีเพื่อนคนไทยมากมาย เริ่มจากนัดดื่มกาแฟก็ขยับมาเป็นทานอาหารกลางวันเล่นไพ่ต่อด้วยอาหารเย็น กินเหล้า เที่ยวกลางคืน สามีก็ไม่ว่าอะไร เพราะยินดีที่เอ็กซ์มีเพื่อน เมียอยากซื้อหรือดื่มอะไร ก็เต็มที่ และรับได้ว่าเมียชอบสนุก ถึงกับลงทุนสร้างเสาเอาไว้กลางบ้าน เพราะรู้ว่าเมียชอบเต้น ตอนนั้นมีคนเล่าให้ฟัง ดิฉันอึ้งกิมกี่เลยค่ะ มีคาราโอเกะยังไม่เท่าไหร่ แต่มีเสาให้รูดนี่สุดๆ เค้าเต็มที่จริงๆ แถมพอลยังสนับสนุนเพื่อนฝรั่งของตนเองให้หาเมียไทย โดยการติดต่อหลานของเอ็กซ์ซึ่งมีอายุเพียง 19 ปีมาแต่งงานกับผู้ชายอังกฤษอายุ 70 ปี !!!! เดี๋ยวจะเล่าในตอนใหม่นะคะ
เมื่ออยู่ไปประมาณหนึ่งปี เอ็กซ์บอกสามีว่าอยากทำร้านอาหารไทย เพราะชอบทอาหารแซบๆ และมีคนชมว่าอร่อย พอลก็ลงทุนให้ แต่การทำร้านอาหารและธุรกิจที่อังกฤษไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งเรื่องเอกสาร สถานที่ ภาษี ค่าจ้างลูกน้อง การซื้อของสด ของแห้ง อีกทั้งถ้าทำธุรกิจในเมืองใหญ่ก็ต้องมีคู่แข่งมากมาย ทั้ง ฝรั่ง ไทย จีน อินเดีย ผับ เยอะแยะค่ะ ยิ่งถ้าเอ็กซ์เป็นมือใหม่ มาทีหลังร้านไทยที่เปิดก่อนหน้า ก็จะเจอตอเข้าให้ เมื่อปัญหามากมาย รวมทั้งคนไทยกันเองนินทาเจ้าของร้าน จิกไม่ปล่อยเรื่องของอดีตเอ็กซ์ เธอเลยทำได้แค่ปีกว่าๆ และสุดท้ายก็ปิดไป ตอนนี้เอ็กซ์กับพอลย้ายไปอยู่เมืองไทย หายเงียบ ไม่ได้ข่าวเลย อาจจะไปเปิดบาร์เบียร์แถวภูเก็ต พัทยา เพราะดูจากลักษณะนิสัยแล้วคงไม่ได้กลับไปขายเครื่องสังขภัณฑ์หรอกค่ะ
ถ้าจะถามว่าเมียฝรั่งแบบเอ็กซ์ผิดไหม ดิฉันคงให้คำตอบไม่ได้ เพราะน้องเค้าก็คุยดี มีกริยาน่าชม เรื่องในอดีตก็คืออดีต ถ้าเอ็กซ์เลือกเกิดได้ ก็คงไม่อยากไปทำงานถึงญี่ปุ่นหรือเยอรมันเพื่อขายของติดตัว แต่การที่เค้าเปิดเผยเรื่องของตัวเองมากเกินไปก็กลายเป็นดาบสองคม กลับมาทำร้ายในปัจจุบันและอนาคตที่ควรจะมี
ดิฉันอยู่ที่อังกฤษนี่ รู้เรื่องเพราะมีงานวัด งานไทย งานช่วยเหลือ ก็เลยได้รับรู้มา เก็บมาเล่าให้อ่าน เพราะอยากจะบอกว่าการเป็นเมียฝรั่งฝั่งอังกฤษ ทุกคนมาจากหลากหลายที่และมีประสบการณ์แตกต่างกันไป การได้มาอยู่อังกฤษไม่ใช่อยู่สบายอย่างเดียวนะคะ ลำบากและน่าสงสารก็เยอะซึ่งจะเล่าในตอนหน้าค่ะ
เมียฝรั่งฝั่งอังกฤษ ตอนสาวไทยไปอะโกโก้
เรื่องที่จะเล่านี่เป็นเรื่องของเอ็กซ์และสามีฝรั่งพอล เอ็กซ์เป็นสาวไทยรูปร่างสูง หุ่นดีออกอวบๆ ไม่ใช่แห้งๆแบบที่เห็นตามพัฒน์พงศ์ เอ็กซ์เป็นสาวมาจากต่างจังหวัด และเข้าไปทำงานในกรุงเทพ ด้วยการเต้นอะโกโก้ที่บาร์ระหว่างซอยคาวบอยและพัฒน์พงศ์ เอ็กซ์ถูกเพื่อนชวนไปทำงานบาร์ที่ญี่ปุ่นด้วยวีซ่าแม่บ้าน แต่เมื่อทางรัฐบาลเริ่มตรวจสอบเข้มงวดกับแรงงานต่างชาติ เธอจึงหาหนทางไปทำงานที่เยอรมัน และคงไม่ต้องบอกนะคะว่าทำอะไร อ้าวบอกก็ได้ ทำนวด นาบ อาบแป้ง แล้วแต่ลูกค้าและเอ็กซ์จะตกลงกันได้ เอ็กซ์มีแผนว่าจะทำงานซักสามถึงสี่ปี เก็บเงินแล้วกลับบ้านไปทำร้านทำผมหรือขายของเล็กๆน้อยๆ ตามความฝันของสาวทรานซิสเตอร์รุ่นเก่า แต่ถ้ารุ่นใหม่ก็ต้องเปิดร้านสะดวกซื้อแบบเซเว่น อีเลฟเว่น เพราะโลกหมุนเวียนเปลี่ยนไป
เมื่อตอนที่เอ็กซ์ทำงานอยู่ประเทศเยอรมัน ก็มีลูกค้ามานวดชื่อพอล ซึ่งเป็นคนอังกฤษ พอลอายุ 60 กว่าๆ ชอบใส่เสื้อลายที่คนไทยชอบใส่ตอนงานสงกรานต์ ห้อยทองเส้นเท่าโซ่ และเปิดกระดุมแบะอกและโชว์ขน ที่พอลคิดว่าจะดูเท่ เก๋เหมือน ริชาร์ด เกียร์ หรือถ้ารุ่นใหม่ก็ แฮรี่ สไตล์ ซึ่งดิฉันคนเล่าย้อนคิดถึงภาพที่เห็นแล้วยังรู้สึกพิพักพิพ่วน เพราะดูไปแล้ว เหมือนดาวร้ายสมัยเก่ามากกว่า เห็นแล้วอยากดักตีหัวผู้ร้าย ;)
อย่างไรก็ตาม พอลชอบเอ็กซ์มากและตัดสินใจว่าจะพาเธอมาอยู่อังกฤษ แต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว ให้เลิกอาชีพนวดซะ จึงคุยกับฝ่ายสาว เอ็กซ์ก็เห็นว่าที่พอลชวนนี้ก็ดี เพราะถึงทำงานต่อไปก็มีแต่จะแก่ และอีกหน่อยก็ไม่มีคนรู้ใจ อยู่เป็นเพื่อน และยังรู้สึกขอบคุณในความรัก เมตตาที่พอลให้ พอลต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าของโรงนวดเป็นแสน เพื่อแลกกับอิสรภาพและให้เอ็กซ์ได้ออกจากงาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเอ็กซ์เค้านับถือและเคารพสามีมากอยู่ค่ะเพราะเค้าถือว่าพอลเป็นคนดึงชีวิตให้ดีขึ้น
เมื่อเอ็กซ์มาอยู่อังกฤษก็ย้ายไปอยู่เมืองใหญ่คืออ้อกซฟอร์ด (Oxford) ด้วยความที่เป็นคนเปิดเผย พูดตรง รักสนุก เอ็กซ์จึงมีเพื่อนคนไทยมากมาย เริ่มจากนัดดื่มกาแฟก็ขยับมาเป็นทานอาหารกลางวันเล่นไพ่ต่อด้วยอาหารเย็น กินเหล้า เที่ยวกลางคืน สามีก็ไม่ว่าอะไร เพราะยินดีที่เอ็กซ์มีเพื่อน เมียอยากซื้อหรือดื่มอะไร ก็เต็มที่ และรับได้ว่าเมียชอบสนุก ถึงกับลงทุนสร้างเสาเอาไว้กลางบ้าน เพราะรู้ว่าเมียชอบเต้น ตอนนั้นมีคนเล่าให้ฟัง ดิฉันอึ้งกิมกี่เลยค่ะ มีคาราโอเกะยังไม่เท่าไหร่ แต่มีเสาให้รูดนี่สุดๆ เค้าเต็มที่จริงๆ แถมพอลยังสนับสนุนเพื่อนฝรั่งของตนเองให้หาเมียไทย โดยการติดต่อหลานของเอ็กซ์ซึ่งมีอายุเพียง 19 ปีมาแต่งงานกับผู้ชายอังกฤษอายุ 70 ปี !!!! เดี๋ยวจะเล่าในตอนใหม่นะคะ
เมื่ออยู่ไปประมาณหนึ่งปี เอ็กซ์บอกสามีว่าอยากทำร้านอาหารไทย เพราะชอบทอาหารแซบๆ และมีคนชมว่าอร่อย พอลก็ลงทุนให้ แต่การทำร้านอาหารและธุรกิจที่อังกฤษไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งเรื่องเอกสาร สถานที่ ภาษี ค่าจ้างลูกน้อง การซื้อของสด ของแห้ง อีกทั้งถ้าทำธุรกิจในเมืองใหญ่ก็ต้องมีคู่แข่งมากมาย ทั้ง ฝรั่ง ไทย จีน อินเดีย ผับ เยอะแยะค่ะ ยิ่งถ้าเอ็กซ์เป็นมือใหม่ มาทีหลังร้านไทยที่เปิดก่อนหน้า ก็จะเจอตอเข้าให้ เมื่อปัญหามากมาย รวมทั้งคนไทยกันเองนินทาเจ้าของร้าน จิกไม่ปล่อยเรื่องของอดีตเอ็กซ์ เธอเลยทำได้แค่ปีกว่าๆ และสุดท้ายก็ปิดไป ตอนนี้เอ็กซ์กับพอลย้ายไปอยู่เมืองไทย หายเงียบ ไม่ได้ข่าวเลย อาจจะไปเปิดบาร์เบียร์แถวภูเก็ต พัทยา เพราะดูจากลักษณะนิสัยแล้วคงไม่ได้กลับไปขายเครื่องสังขภัณฑ์หรอกค่ะ
ถ้าจะถามว่าเมียฝรั่งแบบเอ็กซ์ผิดไหม ดิฉันคงให้คำตอบไม่ได้ เพราะน้องเค้าก็คุยดี มีกริยาน่าชม เรื่องในอดีตก็คืออดีต ถ้าเอ็กซ์เลือกเกิดได้ ก็คงไม่อยากไปทำงานถึงญี่ปุ่นหรือเยอรมันเพื่อขายของติดตัว แต่การที่เค้าเปิดเผยเรื่องของตัวเองมากเกินไปก็กลายเป็นดาบสองคม กลับมาทำร้ายในปัจจุบันและอนาคตที่ควรจะมี
ดิฉันอยู่ที่อังกฤษนี่ รู้เรื่องเพราะมีงานวัด งานไทย งานช่วยเหลือ ก็เลยได้รับรู้มา เก็บมาเล่าให้อ่าน เพราะอยากจะบอกว่าการเป็นเมียฝรั่งฝั่งอังกฤษ ทุกคนมาจากหลากหลายที่และมีประสบการณ์แตกต่างกันไป การได้มาอยู่อังกฤษไม่ใช่อยู่สบายอย่างเดียวนะคะ ลำบากและน่าสงสารก็เยอะซึ่งจะเล่าในตอนหน้าค่ะ