เช้าวันเเรก ขี่จักรยานออกกำลังกายมาเที่ยวCharles Darwin station เเค่สิบห้านาทีจากตัวเมืองหรือใครจะเดินมาก็ได้ไม่ไกลมากนัก ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นห้องเเล็บที่ดาร์วินรวบรวมเกี่ยวกับความสมดุลของธรรมชาติเอาไว้ เเละในหมู่เกาะกาลาปากอสนี้เขาได้ค้นพบทฤษฎีหลากหลายทฤษฎีเกี่ยวกับทั้งพืชเเละสัตว์ ตลอดจนนกหลายสปีย์ชี่ รวมถึงหมู่เกาะนี้ได้ถูกขึ้นชื่อให้เป็นมรดกโลกของยูเนสโกไปแล้วด้วย ด้วยสภาพธรรมชาติที่มีอย่างโด่ดเด่นน่าทึ่ง
[CR][SR] รีวิว>เกาะกาลาปากอส ประเทศเอกวาดอร์ เกาะสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ
**** กาลาปากอส อยู่ที่ไหน *** คำตอบ หมู่เกาะกาลาปาโกส ( Galapagos Islands) เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก มีความน่าสนใจทั้งด้านธรณีวิทยา สัตววิทยา และนิเวศวิทยา เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเอกวาดอร์นะค่ะ หมู่เกาะกาลาปาโกสเป็นหมู่เกาะที่อยู่ไกลจากชายฝั่งเอกวาดอร์ประมาณ 965 กิโลเมตร หมู่เกาะกาลาปาโกสประกอบด้วย 18 เกาะหลัก เกาะเล็ก 3 เกาะ พร้อมเกาะเล็ก ๆ และโขดหินกลางทะเลอีกประมาณ 170 แห่ง โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7,994 ตารางกิโลเมตร อีกทั้งการเดินทางไปประเทศเอกวาดอร์นั้นผู้เดินทางที่ถือพาสปอร์ตไทยสามารถอยู่เที่ยวได้ 90 วัน โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า ดังนั้นจะมัวรอช้าอยู่ใย รีบๆเดินทางมาเที่ยวกันเลยดีกว่า
ทริปนี้ของดิฉันอาจจะโชคดีหน่อยคือว่า ดิฉันอาศัยอยู่ที่ประเทศอเมริกา จึงเดินทางมาฝั่งอเมริกาใต้ได้ง่าย เเละราคาถูกกว่าถ้าเดินทางมาจากฝั่งของประเทศไทย โดยดิฉันซื้อตั๋วของสายการบินที่ชื่อว่า avianca airlines ซึ่งมีไฟร์ทบินมาจากอเมริกาทุกวัน LAX-UIO เเต่จะต้องทนไปเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศSan Salvador ก่อน เนื่องจากว่าเป็นตั๋วที่ค่อยข้างราคาถูกมาก บางครั้งโชคดีหน่อยอาจจะได้ราคาค่าตั๋วไปกลับตกอยู่ที่ 600-700 USD เท่านั้นเอง
สิบกว่าชั่วโมงไฟร์ทจากเเอลเอ บินมาถึงเมืองกีโต Quito ประเทศเอกวาดอร์โดยสวัสดิภาพค่ะ สนามบินกีโตเป็นสนามบินเล็กๆ มีร้านอาหารให้กินไม่มากขณะรอเปลี่ยนเครื่อง ขนาดดิฉันพกเงินดอลล่าร์สหรัฐไปจากอเมริกายังรู้สึกเลยว่าของกินที่สนามบินนี้เเพง ด้านในขณะรอเครื่องเหลือบไปเห็นป้ายกาลาปากอสพอดี บิ้วอารมณ์ให้ยิ่งตื่นเต้นขึ้นไปอีก .... ลืมบอกไปนะค่ะว่าเอกวาดอร์ใช้เงินยูเอสดอลล่าร์ ดิฉันทำงานอยู่ที่เมริกานำเงินอเมริกาไปใช้จึงไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่กับเรทเงินที่เอามาใช้ที่นี่
สายการบินนี้ค่ะเป็นสายการบินภายในประเทศที่จะออกเดินทางจากกีโตไปกาลาปากอส ราคาตั๋วไปกลับอย่างถูกที่สุดเเล้วอยู่ที่ราคา450-500 USD ที่เคยเจอมา ราคานี้ไม่รวมกับราคาตั๋ว International เมื่อตะกี้ที่เล่าไปนะค่ะ อันนี้เเค่ราคาตั๋วภายในประเทศอย่างเดียว ปาไปเเล้วเกือบเท่ากัน ถ้าอยากจะมาเที่ยวจริงๆ ก็จะต้องยอมจ่ายไป
หลังจากที่เครื่องบิน Landing ถึงหมู่เกาะกาลาปากอส อดทนนั่งมาจากกีโตเกือบสองชั่วโมง เราก็จะเจอกับด้านตรวจคนเข้าเมืองอีกทีค่ะ คราวนี้เขาก็จะซักไซ้อย่างละเอียดเหมือนเดิม เช่นมากี่วันพักที่ไหน ...เเพลนของเรามีอะไรบ้าง ที่สำคัญเลย โดยจะต้องเสียค่าเหยียบเกาะเป็นเงิน 100 USDทุกคนเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ถือสัญชาติเอกวาดอร์ค่ะ เเต่ถ้าเป็นคนเอกวาดอร์เสียเเค่ไม่กี่สิบดอลล่าร์ถ้าจำไม่ผิด
จากนั้นพอเสร็จเเล้วเขาก็จะไล่ตอนเรามาที่รถบัสที่จอดหน้าสนามบินกาลาปากอสค่ะรถจะออกจนกว่ารถคันนั้นจะเต็ม ซึ่งเขาจะพาเราไปต่อเรืออีกทอดหนึ่ง จากนั้นใครมีจุดหมายปลายทางไปเกาะไหนต่อก็ค่อยเเยกย้ายกันไปอีกที
จุดหมายปลายทางเเรกของดิฉันอยู่ที่เกาะ Santa cruz ค่ะ เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของกาลาปากอสมีทุกอย่างเรียกว่าเจริญที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่นิยมมาพักที่นี่ก่อน จากนั้นจึงค่อยหาซื้อทัวส์เพื่อจะเดินทางไปท่องเที่ยวในเกาะอื่นๆต่อ
เจ้ากิ้งก่าอีกัวน่าเข้ามาเเวะทักทายเราตลอดทางเดินค่ะ ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ....มนุษย์คงเปรียบเสมือนสัตว์ประเสริฐที่เเปลกหน้าของสัตว์พวกนี้ เพราะจำนวนมหาศาลของสัตว์บนเกาะนี้มีจำนวนมากกว่ามนุษย์อยู่หลายเท่า เพื่อนชาวเอกวาดอร์ที่โฮสเทลเคยบอกดิฉันไว้ว่า สมดุลธรรมชาติบนเกาะนี้ได้ถูกทำลายไปทุกวันๆด้วยฝีมือมนุษย์ เมื่อมีมนุษย์เพิ่มขึ้นบนเกาะ ความถดถ้อยของธรรมชาติก็มีมากขึ้น
เช้าวันเเรก ขี่จักรยานออกกำลังกายมาเที่ยวCharles Darwin station เเค่สิบห้านาทีจากตัวเมืองหรือใครจะเดินมาก็ได้ไม่ไกลมากนัก ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นห้องเเล็บที่ดาร์วินรวบรวมเกี่ยวกับความสมดุลของธรรมชาติเอาไว้ เเละในหมู่เกาะกาลาปากอสนี้เขาได้ค้นพบทฤษฎีหลากหลายทฤษฎีเกี่ยวกับทั้งพืชเเละสัตว์ ตลอดจนนกหลายสปีย์ชี่ รวมถึงหมู่เกาะนี้ได้ถูกขึ้นชื่อให้เป็นมรดกโลกของยูเนสโกไปแล้วด้วย ด้วยสภาพธรรมชาติที่มีอย่างโด่ดเด่นน่าทึ่ง
ถ้าพูดถึงสัตว์ที่เป็นไฮไลท์ของเกาะกาลาปากอส หลายคนก็มักที่จะนึกถึงเต่า เพราะมีเยอะมากเเทบจะทั่วทุกมุมของเกาะ ถึงเเม้เจ้าจอร์จเต่ายักษ์อายุร้อยปีจะตายจากโลกไปแล้วเหลือไว้เเค่ตำนาน เเต่ก็ยังมีเต่าที่มีขนาดใหญ่ไม่เเพ้กับเจ้าจอร์จหลงเหลือไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ดูเเ ลักษณะเต่าในเกาะนี้ตามข้อมูลจะมีลักษณะที่ใหญ่กว่าเต่าทั่วไปในโลกเป็นเต่าบกที่มีกระดองหนาสีดำเข้ม หัวมีขนาดเล็กส่วนตัวผู้เมื่อโตเต็มที่จะใหญ่ถึง122ซม เลยทีเดียว เเละในเกาะนี้เราจะพบเห็นเห็นฟาร์มเต่าที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมมากมาย
ใครมาเที่ยวกาลาปากอสเเนะนำว่าให้หาโอกาสมาทาน Lobster สดๆของที่นี่ค่ะ เรียกว่าตกกันสดๆขายกันสดๆเลย ถ้าอยากได้ราคาถูกหน่อยให้ออกมากินตามตลาดกลางคืนของ Santa cruz ค่ะ จะเป็นร้านข้างทางที่ขายของกินตามถนน นึกภาพตามนะค่ะ คล้ายๆกับร้านข้าวต้มข้างทางที่หัวหินที่มีอาหารทะเลราคาย่อมเยาว์จำหน่ายเพราะจะถูกเเละได้รสชาติกว่ามาก ตกราคาต่อตัวอยู่ที่ตัวละ 20 USDซึ่งยังพอรับได้อยู่ เนื้อจะหวานเเละรับประกันว่าเนื้อเเน่นมากคุ้มเเน่นอนกับที่จ่ายไป
อันนี้ก็เป็นอีกร้านที่บอกค่ะ จะขายปลาสดๆที่ได้มาจากทะเลเลย สังเกตุดีๆจะมีเจ้านกยักษ์กับเจ้าสิงโตทะเลมาป่วนเปี้ยนเเถวๆร้านด้วย พ่อค้าเเม่ค้าอย่าเผลอนะค่ะ เพราะพี่จะงาบลงน้ำไปกินได้ง่ายๆ
เจ้าสิงโตทะเล( Sea Lion Galapagos ) นอนอ้วนเกะกะเต็มไปหมด สิงโตทเลหรือเเมวน้ำนะค่ะ จะพบเห็นได้ทั่วเกาะเลยค่ะ เพราะนางจะเล่นมานอนกันให้เกลื่อนชนิดที่เรียกว่าเป็นเจ้าของเกาะเลยก็ว่าได้ ตามป้ายรถเองก็ดี ตามลานจอดรถเองก็ดี นางจะยึดคองทั้งหมด สิงโตทะเลกาลาปากอสนะค่ะ เมื่อโตเต็มที่บางตัวจะหนักถึง225 กก เลยทีเดียว โดยมักจะอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มมีอาณานิคมเป็นของตนเองด้วย ตัวผู้มักจะเเสดงความเป็นเจ้าของดำผุดดำว่ายใกล้อยู่ฝั่ง นิสัยของมันมักที่จะไม่เกรงกลัวมนุษย์ค่ะ บางครั้งส่งเสียงคำรามขู่ด้วย รวมถึงเวลาที่เราดำน้ำเเละมีโอกาสได้เจอมันใกล้ด้วย นอกจากนี้มันยังมีพฤติกรรมชอบเเย่งกินปลาตามตลาดขายปลาของเกาะ Santa Cruz เเบบเมื่อครู่นี้ที่กล่าวไปด้วย
[img]
เขินเลยค่ะ เพราะขณะที่กำลังนอนอาบเเดดอยู่ดีๆ ดันเจอไอ้เจ้านี่กระดึ้บๆมาอยู่ใกล้ หันมาอีกทีตัวเย็นๆเมือกๆ เจ้าสิงโตทะเลอ้วนนี่เอง เป็นมิตรกับคนมากๆ
ภาพบรรยากาศของท่าเรือในตอนเช้าค่ะ โดยในวันนี้จะเริ่มออกเดินทางไปเกาะที่มีชื่อว่า Isabela Island ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า ที่เกาะนี้ถ้าเปรียบเทียบถึงความคึกคักจะไม่เท่ากับเกาะ Santa Cruz เป็นเกาะที่เน้นธรรมชาติสะเป็นส่วนใหญ่ มีกิจกรรมทางน้ำให้ทำมากมาย ใครที่ไม่ออกเดินทางกับทัวส์จะเลือกไปเที่ยวเองก็ซื้อเเค่ตั๋วเรือไปอย่างเดียว จากนั้นถึงค่อยไปหาทัวส์ที่เกาะต่อก็ทำได้อีกเหมือนกัน ราคาเรือจะตกอยู่ที่คนละ 50-60 USD เรือจะมีสองรอบต่อวัน เเต่คนส่วนใหญ่นิยมที่จะเดินทางกันในตอนเช้าตรู่เพราะอากาศไม่ร้อนมาก
ภาพบนเรือระหว่างที่นั่งร่วมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆค่ะ
snorkeling ถือว่าเป็นกิจกรรมทางน้ำที่ไม่ควรพลาดมากของทริปกาลาปากอสนี้นะค่ะ เพราะนอกจากน้ำทะเลที่ใสสะอาดจนเห็นตัวปลาเเล้ว เรายังมีโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับสัตว์น้ำได้อย่างเต็มที่อีกด้วย ถ้าไปอย่างลืมพกเอาเกาะใต้น้ำเก็บภาพสวยๆมาเยอะๆ
ถ่ายรูปคู่กับอีกัวน่า กาลาปากอสกันบ้าง ( Iguana Gagapagos) เป็นสัตว์อีกชนิดค่ะ ที่พบให้เห็นได้ทั่วเกาะนี้ เป็นสัตว์ที่อยู่ได้ทั้งในบกเเละในน้ำ ถ้าเดินเล่นอยู่ในเกาะให้ดูดีๆนะค่ะ อย่าเผลอไปเหยียบกับเจ้านี่เอา เพราะนางมีการพลางตัวที่เป็นเลิศค่ะ สามารถปรับสีให้เข้ากับหินจนเราเเทบเเยกไม่ออก มันจะมีวิธีขู่ศัตรูโดยการโยกศีรษะ ถ้าเจอมันกำลังโยกอยู่ละก็เเสดงว่ามันเริ่มอารมณ์ไม่ดีเเล้ว เเถมมันยังมีความสามารถในการขับเกลือเก่งอีกด้วย โดยการพ่นทิ้งทางจมูก อาหารของอิกัวน่ากาลาปากอสก็คือพวกสาหร่ายที่ขึ้นตามโขดหินต่างๆค่ะ
**เป็นไงค่ะ ลักษณะการพลางตัวให้เขากับโขดหินของอีกัวน่ากาลาปากอส เเทบจะเเยกกันไม่ออก ดูกลมกลืนไปหมด **
Green Iguana กันบ้างค่ะ ขณะนอนพึ่งเเดดสภาพผิวจะเปลี่ยนเเปลงตามอากาศออกเป็นสีส้มอย่างที่เห็น
*ทิ้งท้ายกับความน่ารักของสิงโตทะเล นอนเกะกะอยู่ในลานจอดรถนะค่ะ
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว