คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เอกสารสำคัญในการซื้อมือที่ญี่ปุ่น
1. ไซริวการ์ดที่มีการพิมพ์ที่อยู่ด้านหลังบัตรเรียบร้อยแล้ว
- ไซริวการ์ดจะได้รับจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ถ้าลงสนามบินหลัก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นจะได้รับทันที
- การพิมพ์ที่อยู่ด้านหลังบัตร ต้องติดต่อที่ City Hall หลังจากเราทราบที่อยู่ของที่พักของเราเรียบร้อยแล้วครับ
2. การชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิต หรือ สมุดบัญชี
- กรณีบัตรเครดิต หลังจากพิมพ์ที่อยู่หลังบัตรเรียบร้อยแล้ว สามารถไปติดต่อที่ร้านขายมือถือเพื่อซื้อได้ทันทีครับ
- กรณีสมุดบัญชี หลังจากพิมพ์ที่อยู่หลังบัตรเรียบร้อยแล้ว ให้ไปเปิดบัญชี จากนั้นสามารถไปติดต่อที่ร้านขายมือถือเพื่อซื้อได้ทันทีครับ
หมายเหตุ:
- หากสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้คล่องมาก สามารถทำขั้นตอนข้างต้นได้ด้วยตัวเองทั้งหมด
- หากไม่สามารถสื่อสารได้ หรือสื่อสารได้น้อยมาก ให้ติดต่อ International Student Affairs ของทางมหาวิทยาลัย
เรื่องนักเรียนญี่ปุ่นที่จะคอยช่วยเหลือเราในช่วงแรกของการไปอยู่ที่ญี่ปุ่นครับ
การจ่ายค่าเครื่อง: สามารถขอจ่ายเฉพาะค่าเครื่องให้หมดภายใน 1 ปีได้ครับ
สัญญา: ติดสัญญา 2 ปี หมายความว่าต้องใช้โปรโมชั่นที่เลือกเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 2 ปี
หากต้องการยกเลิกสัญญาก่อน 2 ปี จะต้องเสียค่ายกเลิกสัญญา
(ค่าบริการยกเลิกสัญญา เนื่องจากผมใช้ของ au KDDI ผมยกตัวอย่างของ au KDDI นะครับ
- ยกเลิกภายใน เดือน 1 ถึงเดือน 12: ¥16000
- ยกเลิกภายใน เดือน 13 ถึงเดือน 18: ¥12000
- ยกเลิกภายใน เดือน 19 ถึงเดือน 24: ¥6000
การปลดล็อคมือถือ (เฉพาะ 3 ค่ายหลักของประเทศ) รายละเอียดรุ่นมือถือลองค้นหาจากใน Link นะครับ
au KDDI: สามารถขอปลดล็อคได้ที่ศูนย์ หลังจากใช้ไปแล้ว 180 วัน (ปลคล็อคถาวร)
http://www.au.kddi.com/english/support/contract/simcard/unlock/
DOCOMO: สามารถขอปลดล็อคได้ที่ศูนย์ หลังจากใช้ไปแล้ว 6 เดือน (ปลดล็อคชั่วคราว ได้แค่ 3 เดือน)
https://www.nttdocomo.co.jp/english/support/procedure/simcard/unlock_dcm/201505/index.html
SoftBank: ไม่มีการปลดล็อคครับ
1. ไซริวการ์ดที่มีการพิมพ์ที่อยู่ด้านหลังบัตรเรียบร้อยแล้ว
- ไซริวการ์ดจะได้รับจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ถ้าลงสนามบินหลัก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นจะได้รับทันที
- การพิมพ์ที่อยู่ด้านหลังบัตร ต้องติดต่อที่ City Hall หลังจากเราทราบที่อยู่ของที่พักของเราเรียบร้อยแล้วครับ
2. การชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิต หรือ สมุดบัญชี
- กรณีบัตรเครดิต หลังจากพิมพ์ที่อยู่หลังบัตรเรียบร้อยแล้ว สามารถไปติดต่อที่ร้านขายมือถือเพื่อซื้อได้ทันทีครับ
- กรณีสมุดบัญชี หลังจากพิมพ์ที่อยู่หลังบัตรเรียบร้อยแล้ว ให้ไปเปิดบัญชี จากนั้นสามารถไปติดต่อที่ร้านขายมือถือเพื่อซื้อได้ทันทีครับ
หมายเหตุ:
- หากสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้คล่องมาก สามารถทำขั้นตอนข้างต้นได้ด้วยตัวเองทั้งหมด
- หากไม่สามารถสื่อสารได้ หรือสื่อสารได้น้อยมาก ให้ติดต่อ International Student Affairs ของทางมหาวิทยาลัย
เรื่องนักเรียนญี่ปุ่นที่จะคอยช่วยเหลือเราในช่วงแรกของการไปอยู่ที่ญี่ปุ่นครับ
การจ่ายค่าเครื่อง: สามารถขอจ่ายเฉพาะค่าเครื่องให้หมดภายใน 1 ปีได้ครับ
สัญญา: ติดสัญญา 2 ปี หมายความว่าต้องใช้โปรโมชั่นที่เลือกเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 2 ปี
หากต้องการยกเลิกสัญญาก่อน 2 ปี จะต้องเสียค่ายกเลิกสัญญา
(ค่าบริการยกเลิกสัญญา เนื่องจากผมใช้ของ au KDDI ผมยกตัวอย่างของ au KDDI นะครับ
- ยกเลิกภายใน เดือน 1 ถึงเดือน 12: ¥16000
- ยกเลิกภายใน เดือน 13 ถึงเดือน 18: ¥12000
- ยกเลิกภายใน เดือน 19 ถึงเดือน 24: ¥6000
การปลดล็อคมือถือ (เฉพาะ 3 ค่ายหลักของประเทศ) รายละเอียดรุ่นมือถือลองค้นหาจากใน Link นะครับ
au KDDI: สามารถขอปลดล็อคได้ที่ศูนย์ หลังจากใช้ไปแล้ว 180 วัน (ปลคล็อคถาวร)
http://www.au.kddi.com/english/support/contract/simcard/unlock/
DOCOMO: สามารถขอปลดล็อคได้ที่ศูนย์ หลังจากใช้ไปแล้ว 6 เดือน (ปลดล็อคชั่วคราว ได้แค่ 3 เดือน)
https://www.nttdocomo.co.jp/english/support/procedure/simcard/unlock_dcm/201505/index.html
SoftBank: ไม่มีการปลดล็อคครับ
แสดงความคิดเห็น
ขอคำแนะนำเรื่องเรียนแลกเปลี่ยน ใช้มือถือที่ญี่ปุ่นค่ะ
ทีนี้คือต้องการขอคำแนะนำว่า มีมือถือรุ่นไหนที่ซื้อใช้ที่โน่น แล้วเอากลับมาใช้ได้บ้างมั้ยคะ
เพราะว่าตอนนี้คิดว่าจำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟน (เพื่อที่จะได้ใช้ไลน์ หรือสไกป์กับที่บ้านผ่านเน็ตได้)
เพียงแต่ถ้าเกิดว่าซื้อเครื่องแพงๆแล้วเอากลับมาใช้ไม่ได้ก็เสียดายค่ะ
ถ้าเป็นไอโฟน จะเอากลับมาใช้ต่อ หรือว่าให้ร้านในไทยปลดล็อคให้ได้มั้ยคะ
ส่วนเรื่องค่าบริการอันนี้เข้าใจว่าอย่างค่าย Softbank จะต้องทำสัญญา 2 ปี แล้วผ่อนค่าเครื่อง
แต่ถึงจะต้องจ่ายค่ายกเลิกสัญญาเพราะใช้ไม่ถึง 2 ปี ก็ยังคุ้มอยู่ใช่มั้ยคะ
ขอบคุณมากค่ะ ^ ^