วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์เที่ยวชิคาโกกัน ทริปนี้ใช้เวลาทั้งหมดสามวันสองคืน ซึ่งบอกเลย ไม่พอออออ เราไปไม่กี่จุดเอง เริ่มแรกเลยเนื่องจากเรามา work and travel รัฐใกล้ๆอิลลินอยส์ โดยนั่ง Megabus 6 ชม. ซึ่งถ้าจองล่วงหน้านานๆ ค่ารถ $5 ไปกลับแค่ $10 แต่เราจองฉุกละหุกไปหน่อย กลายเป็นไปกลับ $50 ปาดน้ำตากันเลยทีเดียว เราลงรถที่ ถนนcanal st. ตรงฟุตบบาทเลยนี่แหละ แถวนั้นก็จะเป็น Union station หรือสถานีรถไฟ Amtrak แล้วก็มี greyhound ซึ่งจะเป็นดาวน์ทาวรอบนอกหน่อยๆ แต่ก็มี blue line สะดวกในการเดินทางไปยังจุดต่างๆ ราคา $3
เราลงรถประมาณบ่ายสี่โมงเย็นโดยประมาณ ก็เดินไปที่พัก เราเพิ่งเริ่มใช้ google map ครั้งแรก หลงกันเป็นว่าเล่นเลยจาก 25นาทีเป็นเกือบชั่วโมง เดินวนเวียนไปบล็อกโน้นกลับมาบล็อกนี้ คืองงกับลูกศรบอกทิศทางมาก กว่าจะถึงที่พักก็ห้าโมงกว่าไปแล้ว โดยคืนแรกเราพักที่ Freehand Chicago hotel มีตั้งแต่ Backpacker ไปจนถึงนักธุรกิจ ข้างในตกแต่งแนวไหนไม่รู้ แต่ชอบอ่ะ แล้วก็เราจอง ”ห้องพักแบบเตียงหญิงล้วนไว้ 1 คืน” เป็นห้องสี่คน
เดินเข้ามาซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ถัดมาก็ล็อคเกอร์ ตรงไปเป็นพื้นที่ส่วนรวมจิ๋ว ซ้ายมือจะเป็นเตียงสองชั้นทั้งหมดสี่เตียง
ห้องเล็กมากๆ แต่อยู่ใจกลางชิคาโกเลย สะดวก แล้วก็ปลอดภัยในระดับหนึ่ง เราเอาของไปเก็บนั่งพักแปปนึงแล้วตรงดิ่งไปยังThe Beanโลด
สะพานข้ามแม่น้ำ น้ำสีสวยมากกก คนก็เยอะทั้งนักท่องเที่ยว ทั้งพนักงานออฟฟิศ ในรูปจะเป็น River Cruise Architecture Tour ราคาก็ประมาณ $40
ซึ่งไม่ค่ะ เราจะไม่นั่ง มันโหดร้ายต่อกระเป๋าตังค์เกินไป ในรูปจะมีเจ้าเรือแคนนูด้วย อันนี้ไม่ทราบราคา ทริปนี้เน้นเดินจ้า
เดินตาม google map ไป
และแล้วก็ถึง The Bean คนเป็นล้านไม่รู้จะแทรกตัวเข้าไปถ่ายยังไงเลย
มีเล่นดนตรีกันตรงนี้ด้วย คนก็มานั่งนอน ตีลังกา ปิคนิคกัน
หลังจากนั้นก้ได้ไปกิน deep dish pizza ที่ การ์ดิโน รอนานถึงนานมาก ถ้าหิวมากก็ตายรอกันเลยทีเดียว เรารอกือบหนึ่งชม.สั่งขนาดเล็กมา ฃ
ประมาณ $22 กินสามคนกำลังพอดี ไม่มีรูปให้ในส่วนนี้ ลืมถ่าย แฮ่
เรานัดเพื่อนที่นี่ไว้เค้าก็พาทัวร์รอบๆเมือง กว่าจะกลับถึงโรงแรมก็สามทุ่มแล้ว ตื่นเต้นหน่อยๆ ว่าจะเจอเพื่อนไปแฮงเอาท์พรุ่งนี้ไหมหนอ
ส่วนกลางของโรงแรม เข้าไปอีกนิดจะเป็นบาร์?
เปิดประตูเข้ามา ผ่าง!!!!!! มืดสนิท อาการเซ็งมารัวๆ ก็เลยบ่นงึมเงาเบาๆ แต่อยู่ดีๆ ก็มีเสียงผู้ชายพูดขึ้นมา HI !
.
.
สตั๊นไปสิบวิ แล้วมันก็พูดต่อมาว่า เปิดไฟได้เลย ก็เลยเดินไปเปิดไฟ ทำความรู้จักแต่ในใจคือแบบ จองห้องหญิงล้วนไม่ใช่เหรอวะ
รึเข้าห้องผิด แต่ถ้าผิด คีย์การ์ดก็ต้องเปิดไม่ได้สิแก ใจก็คิดไปไกลแต่ปากก็ทักทาย ถามไถ่ว่ามาจากไหน ได้ความว่านางมาพรีเซนต์งานที่นี่
เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไปแล้ว แต่จากที่แสกนดูแล้วโอเค น่าจะไว้ใจได้อยู่ ขณะที่กำลังคุยกันนั้นได้ยินเสียง
แกร๊ก!!!!
ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มแล้วจ้ะแม่ รูมเมทคนใหม่ ปู้ชายอีกแล้ว วิญญาณหลุดร่างไปแล้วตอนนี้
แต่ก็ทำเป็นทักทายปกติ แล้วเรากก็เลยพูดขึ้นว่า ชั้นว่าชั้นจองห้องหญิงล้วนนะพวก แต่ทำไมถึงง…. สักคนก็เลยตอบมาว่า
ไม่ นี่ห้องรวมชายหญิงนะหล่อน แฮ่ะๆ ก็รู้อยู่ละว่าตัวเองพลาด กดจองยังไง๊! ในขณะที่สับสนอยู่ อยู่ดีๆกลายเป็นหมาหัวเน่าซะงั้น
เพราะเค้าคุยกันแค่สองคนค่ะ คุยกันเหมือนสนิทมาค่อนชีวิต เราก็เลยเดินออกมาถามว่ากังวลไหม ก็ไม่ เพราะดูจากท่าทางแล้วไม่มีอะไร
แต่ก็นะ รู้หน้าไม่รู้ใจ จากที่เคยอ่านๆมาห้องรวมชายหญิง ทั้งไทยทั้งเทศ ก็ไม่มีปัญหาอะไร มาลุ้นกันสิว่าเมทคนสุดท้ายจะหญิงไหมแค่นั้น
เลยออกมาข้างนอกตอนสี่ทุ่ม คนพลุกพล่านมาก เพราะเป็นดาวน์ทาวน์ นักท่องเที่ยวเยอะแยะ แล้วก็มี night club ด้วย
รู้สึกปลอดภัยดี ก็เดินไปถ่ายรูปตรงสะพานใกล้ๆ แล้วก็นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
หลังจากนั้นก็กลับห้อง ประมาณเที่ยงคืนทุกคนหลับหมดแล้ว เราก็อาบน้ำแล้วมานั่งเล่นโน้ตบุ๊คอยู่ตรงโซฟา
ระหว่างนั้นมาอีกแล้ว รูมเมทคนที่สาม
.
.
โอเคเป็นผู้ชาย
จำไม่ได้ว่ามาจากไหน ก็ทักทายไปนิดๆหน่อยๆ เพราะคนอื่นหลับกันหมดละ เดี๋ยวรบกวนเค้า
เลยย้ายไปเล่นที่เตียงปิดม่านอะไรเรียบร้อย กว่าจะนอนตีสองแน่ะ
[CR] เที่ยว Chicago ขำๆ แต่สิ่งที่ได้มากกว่าขำ?
วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์เที่ยวชิคาโกกัน ทริปนี้ใช้เวลาทั้งหมดสามวันสองคืน ซึ่งบอกเลย ไม่พอออออ เราไปไม่กี่จุดเอง เริ่มแรกเลยเนื่องจากเรามา work and travel รัฐใกล้ๆอิลลินอยส์ โดยนั่ง Megabus 6 ชม. ซึ่งถ้าจองล่วงหน้านานๆ ค่ารถ $5 ไปกลับแค่ $10 แต่เราจองฉุกละหุกไปหน่อย กลายเป็นไปกลับ $50 ปาดน้ำตากันเลยทีเดียว เราลงรถที่ ถนนcanal st. ตรงฟุตบบาทเลยนี่แหละ แถวนั้นก็จะเป็น Union station หรือสถานีรถไฟ Amtrak แล้วก็มี greyhound ซึ่งจะเป็นดาวน์ทาวรอบนอกหน่อยๆ แต่ก็มี blue line สะดวกในการเดินทางไปยังจุดต่างๆ ราคา $3
เราลงรถประมาณบ่ายสี่โมงเย็นโดยประมาณ ก็เดินไปที่พัก เราเพิ่งเริ่มใช้ google map ครั้งแรก หลงกันเป็นว่าเล่นเลยจาก 25นาทีเป็นเกือบชั่วโมง เดินวนเวียนไปบล็อกโน้นกลับมาบล็อกนี้ คืองงกับลูกศรบอกทิศทางมาก กว่าจะถึงที่พักก็ห้าโมงกว่าไปแล้ว โดยคืนแรกเราพักที่ Freehand Chicago hotel มีตั้งแต่ Backpacker ไปจนถึงนักธุรกิจ ข้างในตกแต่งแนวไหนไม่รู้ แต่ชอบอ่ะ แล้วก็เราจอง ”ห้องพักแบบเตียงหญิงล้วนไว้ 1 คืน” เป็นห้องสี่คน
เดินเข้ามาซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ถัดมาก็ล็อคเกอร์ ตรงไปเป็นพื้นที่ส่วนรวมจิ๋ว ซ้ายมือจะเป็นเตียงสองชั้นทั้งหมดสี่เตียง
ห้องเล็กมากๆ แต่อยู่ใจกลางชิคาโกเลย สะดวก แล้วก็ปลอดภัยในระดับหนึ่ง เราเอาของไปเก็บนั่งพักแปปนึงแล้วตรงดิ่งไปยังThe Beanโลด
สะพานข้ามแม่น้ำ น้ำสีสวยมากกก คนก็เยอะทั้งนักท่องเที่ยว ทั้งพนักงานออฟฟิศ ในรูปจะเป็น River Cruise Architecture Tour ราคาก็ประมาณ $40
ซึ่งไม่ค่ะ เราจะไม่นั่ง มันโหดร้ายต่อกระเป๋าตังค์เกินไป ในรูปจะมีเจ้าเรือแคนนูด้วย อันนี้ไม่ทราบราคา ทริปนี้เน้นเดินจ้า
เดินตาม google map ไป
และแล้วก็ถึง The Bean คนเป็นล้านไม่รู้จะแทรกตัวเข้าไปถ่ายยังไงเลย
มีเล่นดนตรีกันตรงนี้ด้วย คนก็มานั่งนอน ตีลังกา ปิคนิคกัน
หลังจากนั้นก้ได้ไปกิน deep dish pizza ที่ การ์ดิโน รอนานถึงนานมาก ถ้าหิวมากก็ตายรอกันเลยทีเดียว เรารอกือบหนึ่งชม.สั่งขนาดเล็กมา ฃ
ประมาณ $22 กินสามคนกำลังพอดี ไม่มีรูปให้ในส่วนนี้ ลืมถ่าย แฮ่
เรานัดเพื่อนที่นี่ไว้เค้าก็พาทัวร์รอบๆเมือง กว่าจะกลับถึงโรงแรมก็สามทุ่มแล้ว ตื่นเต้นหน่อยๆ ว่าจะเจอเพื่อนไปแฮงเอาท์พรุ่งนี้ไหมหนอ
ส่วนกลางของโรงแรม เข้าไปอีกนิดจะเป็นบาร์?
เปิดประตูเข้ามา ผ่าง!!!!!! มืดสนิท อาการเซ็งมารัวๆ ก็เลยบ่นงึมเงาเบาๆ แต่อยู่ดีๆ ก็มีเสียงผู้ชายพูดขึ้นมา HI !
.
.
สตั๊นไปสิบวิ แล้วมันก็พูดต่อมาว่า เปิดไฟได้เลย ก็เลยเดินไปเปิดไฟ ทำความรู้จักแต่ในใจคือแบบ จองห้องหญิงล้วนไม่ใช่เหรอวะ
รึเข้าห้องผิด แต่ถ้าผิด คีย์การ์ดก็ต้องเปิดไม่ได้สิแก ใจก็คิดไปไกลแต่ปากก็ทักทาย ถามไถ่ว่ามาจากไหน ได้ความว่านางมาพรีเซนต์งานที่นี่
เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไปแล้ว แต่จากที่แสกนดูแล้วโอเค น่าจะไว้ใจได้อยู่ ขณะที่กำลังคุยกันนั้นได้ยินเสียง
แกร๊ก!!!!
ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มแล้วจ้ะแม่ รูมเมทคนใหม่ ปู้ชายอีกแล้ว วิญญาณหลุดร่างไปแล้วตอนนี้
แต่ก็ทำเป็นทักทายปกติ แล้วเรากก็เลยพูดขึ้นว่า ชั้นว่าชั้นจองห้องหญิงล้วนนะพวก แต่ทำไมถึงง…. สักคนก็เลยตอบมาว่า
ไม่ นี่ห้องรวมชายหญิงนะหล่อน แฮ่ะๆ ก็รู้อยู่ละว่าตัวเองพลาด กดจองยังไง๊! ในขณะที่สับสนอยู่ อยู่ดีๆกลายเป็นหมาหัวเน่าซะงั้น
เพราะเค้าคุยกันแค่สองคนค่ะ คุยกันเหมือนสนิทมาค่อนชีวิต เราก็เลยเดินออกมาถามว่ากังวลไหม ก็ไม่ เพราะดูจากท่าทางแล้วไม่มีอะไร
แต่ก็นะ รู้หน้าไม่รู้ใจ จากที่เคยอ่านๆมาห้องรวมชายหญิง ทั้งไทยทั้งเทศ ก็ไม่มีปัญหาอะไร มาลุ้นกันสิว่าเมทคนสุดท้ายจะหญิงไหมแค่นั้น
เลยออกมาข้างนอกตอนสี่ทุ่ม คนพลุกพล่านมาก เพราะเป็นดาวน์ทาวน์ นักท่องเที่ยวเยอะแยะ แล้วก็มี night club ด้วย
รู้สึกปลอดภัยดี ก็เดินไปถ่ายรูปตรงสะพานใกล้ๆ แล้วก็นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
หลังจากนั้นก็กลับห้อง ประมาณเที่ยงคืนทุกคนหลับหมดแล้ว เราก็อาบน้ำแล้วมานั่งเล่นโน้ตบุ๊คอยู่ตรงโซฟา
ระหว่างนั้นมาอีกแล้ว รูมเมทคนที่สาม
.
.
โอเคเป็นผู้ชาย
จำไม่ได้ว่ามาจากไหน ก็ทักทายไปนิดๆหน่อยๆ เพราะคนอื่นหลับกันหมดละ เดี๋ยวรบกวนเค้า
เลยย้ายไปเล่นที่เตียงปิดม่านอะไรเรียบร้อย กว่าจะนอนตีสองแน่ะ