19ปีในวงการบันเทิงของพี่ติ๊กนั้นก็มีผลงานต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ละคร ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา เล่นMV ฯลฯ ซึ่งผลงานส่วนใหญ่ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชมมาโดยตลอด โดยเฉพาะผลงานด้านหนังและละคร แต่ละเรื่องของพี่ติ๊กก็เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน
พี่ติ๊กเริ่มเข้าวงการบันเทิงอย่างเต็มตัวในปี2540 จากผลงานหนังเรื่องแรกคือ 2499อันธพาลครองเมือง ในบทแดง ไบเล่ย์ จนเกิดวลียอดฮิตจนถึงปัจจุบัน คือ เป็นเมียเราต้องอดทน ในตอนนั้นหนังเรื่องนี้มีกระแสตอบรับที่ดีมากๆ จนเรียกได้ว่าพี่ติ๊กเล่นหนังเรื่องแรกก็ดังแจ้งเกิดเลย ซึ่งตอนนั้นพี่ติ๊กยังเรียนอยู่ แม้ว่าจะมีงานติดต่อเข้ามามากมาย แต่พี่ติ๊กก็เลือกที่จะเรียนเป็นหลัก ช่วงนั้นพี่ติ๊กจึงยังไม่ค่อยรับงาน หลังจากเรียนจบพี่ติ๊กจึงรับงานอย่างเต็มตัว แต่ก็ยังคงเลือกรับงานทีละเรื่องมาโดยตลอด ส่วนละครเรื่องแรกของพี่ติ๊กก็คือโซดากับชาเย็น ซึ่งออกอากาศในปี2542 ละครเรื่องนี้เป็นการเปลี่ยนคาแรกเตอร์จากอันธพาลไปเลย ยังมีละครอีกหลายเรื่องที่เป็นที่จดจำและชื่นชอบของคนดู แล้วเวลาพี่ติ๊กแสดงละครหรือหนังแต่ละเรื่อง พี่ติ๊กนั้นก็จะมีการเปลี่ยนทรงผม เสื้อผ้า และบุคลิกวิธีการพูด การเดินต่างๆให้เป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ คือเล่นแบบอินเนอร์มาจากข้างใน ส่วนตัวเวลาดูแล้วจะรู้สึกอินตามทุกเรื่องเลยค่ะ
11ปี บนเส้นทางเนวิเกเตอร์สายอนุรักษ์ของพี่ติ๊ก นอกจากงานแสดงแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่พี่ติ๊กรักมากนั่นก็คือการเป็นพิธีกรและผู้ผลิตรายการเนวิเกเตอร์ เรียกได้ว่าทำตั้งแต่เบื้องหน้ายันเบื้องหลัง จนพี่ติ๊กนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระเอกนักอนุรักษ์คนหนึ่งเลยทีเดียว โดยรายการจะพาไปเที่ยวตามธรรมชาติที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล น้ำตก ฯลฯ บางครั้งก็มีพาไปดูงานวิจัยของนักวิจัยหลายๆท่าน เนวิเกเตอร์ถือเป็นรายการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่อยากให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญ สนใจ ใส่ใจ และร่วมกันรักษาธรรมชาติ โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่ปี2548 จนถึงปัจจุบัน ปีนี้ก็เป็นปีที่11แล้วค่ะ ถ้าใครสังเกตจะมีช่วงหนึ่งที่พี่ติ๊กพักงานแสดง เพราะพี่ติ๊กได้หันไปทำแต่เนวิเกเตอร์เป็นหลัก จนรายการอยู่ตัวจึงหันกลับมารับงานแสดงเหมือนเดิม แม้การทำรายการจะไม่ได้รายได้ที่มากเมื่อเทียบกับงานแสดงหรือการออกงานอีเว้นท์ แต่พี่ติ๊กก็เลือกและตั้งใจที่จะทำเนวิเกเตอร์ต่อไป
เอารูปรวมละคร+หนังของพี่ติ๊กมาฝากค่ะ หน้าตาพี่ติ๊กไม่ค่อยเปลี่ยนเลย หล่อคงกระพันจริงๆ
นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่พี่ติ๊กทำก็คือ การไปเป็นวิทยากรพิเศษตามงานต่างๆที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ แถมไปให้แบบฟรีๆ ไม่คิดค่าตัวเลยด้วยค่ะ (น่ารักจริงๆผู้ชายคนนี้ อิอิ) แต่เพราะไม่ค่อยมีสื่อไปทำข่าว ทำให้ทุกคนอาจจะไม่ค่อยรู้กันนะคะ เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากเจอพี่ติ๊กขอแนะนำให้ไปตามงานอนุรักษ์ธรรมชาติต่างๆ น่าจะมีโอกาสได้เจอพี่ติ๊กมากกว่าตามงานอีเว้นท์นะจ๊ะ อิอิ
จากการได้ติดตามพี่ติ๊กมาเป็นเวลานาน พี่ติ๊กเป็นคนที่หล่อและน่ารักมากๆ แถมมีเสน่ห์สุดๆ ไม่ขี้เก๊กและไม่หยิ่งเลย ติดดิน แถมเป็นกันเองสุดๆ ใจดี พูดเพราะ สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน มีมารยาท ให้เกียรติผู้อื่น ยิ้มแย้มง่าย อารมณ์ดีตลอด ขี้เล่น ชอบอำ เฮฮา ชอบปล่อยมุกแบบภาษาติ๊ก จนเป็นเสน่ห์ส่วนตัวที่ไม่เหมือนใครไปแล้ว อิอิ จากการสังเกตพี่ติ๊กจะเป็นคนที่ตั้งใจฟังและพยายามจะตอบทุกคำถามของทุกคน แล้วเวลาพี่ติ๊กเจอใครก็จะทักทายทุกคนไม่ว่าจะเป็นดารา ทีมงาน และแฟนคลับ
พี่ติ๊กยังเป็นคนที่มีจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจน มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นคนมีความคิด เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม พูดอะไรแล้วก็มักจะทำตามในสิ่งที่พูดไว้ เป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายมาก เพราะ1oกว่าปีที่แล้วเคยให้สัมภาษณ์แบบไหนไว้ ปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนั้น ไม่ได้ทำงานเพื่อหวังแต่เงินเพียงอย่างเดียว แม้ว่าจะดังและมีคนติดต่อเยอะขนาดไหนก็ยังคงนโยบายรับงานทีละเรื่อง แล้วจะเลือกทำงานในสิ่งที่ตนเองชอบ เวลาทำงานก็ทำด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างเต็มที่เสมอ ทำให้ผลงานที่พี่ติ๊กแสดงทุกชิ้นจึงมีคุณภาพ และผลงานส่วนใหญ่ก็จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีกลับมาด้วยค่ะ แม้ว่าจะอยู่ในวงการบันเทิงมานาน แต่พี่ติ๊กก็ไม่ได้หลงไปกับแสงสีชื่อเสียงเงินทอง และไม่มีข่าวเสียหาย วางตัวในวงการได้อย่างดี แถมยังทำอะไรคืนสู่สังคมตลอด เช่น ไปเป็นวิทยากรตามสถานที่ต่างๆ ตอนน้ำท่วมพี่ติ๊กก็ได้ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย บริจาคเงินซ่อมสร้างสระว่ายน้ำให้โรงเรียนสอนคนตาบอด บริจาคเงินเพื่อช่วยสร้างกรงให้หมีควายเจ้าขุน และอื่นๆอีกมากมายค่ะ ประทับใจและชื่นชมในตัวพี่ติ๊กจริงๆค่ะ
พี่ติ๊กยังได้รับรางวัลการันตีจากสถาบันต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลที่มาจากฝีมือการแสดง การประพฤติตัว รายการเนวิเกเตอร์ และที่ขาดไม่ได้ก็คือเสน่ห์ด้านความหล่อ ที่มีหลายๆคนมักบอกว่าพี่ติ๊กหล่อเหนือกาลเวลา เรียกได้ว่าพี่ติ๊กหล่อทั้งหน้าและจิตใจ สมนามสกุลผลดีสุดๆ
ปล.ขอบคุณเจ้าของรูปทุกรูปด้วยนะคะ
**19ปี บนเส้นทางสายบันเทิง และ11ปี บนเส้นทางเนวิเกเตอร์สายอนุรักษ์ของพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี**
พี่ติ๊กเริ่มเข้าวงการบันเทิงอย่างเต็มตัวในปี2540 จากผลงานหนังเรื่องแรกคือ 2499อันธพาลครองเมือง ในบทแดง ไบเล่ย์ จนเกิดวลียอดฮิตจนถึงปัจจุบัน คือ เป็นเมียเราต้องอดทน ในตอนนั้นหนังเรื่องนี้มีกระแสตอบรับที่ดีมากๆ จนเรียกได้ว่าพี่ติ๊กเล่นหนังเรื่องแรกก็ดังแจ้งเกิดเลย ซึ่งตอนนั้นพี่ติ๊กยังเรียนอยู่ แม้ว่าจะมีงานติดต่อเข้ามามากมาย แต่พี่ติ๊กก็เลือกที่จะเรียนเป็นหลัก ช่วงนั้นพี่ติ๊กจึงยังไม่ค่อยรับงาน หลังจากเรียนจบพี่ติ๊กจึงรับงานอย่างเต็มตัว แต่ก็ยังคงเลือกรับงานทีละเรื่องมาโดยตลอด ส่วนละครเรื่องแรกของพี่ติ๊กก็คือโซดากับชาเย็น ซึ่งออกอากาศในปี2542 ละครเรื่องนี้เป็นการเปลี่ยนคาแรกเตอร์จากอันธพาลไปเลย ยังมีละครอีกหลายเรื่องที่เป็นที่จดจำและชื่นชอบของคนดู แล้วเวลาพี่ติ๊กแสดงละครหรือหนังแต่ละเรื่อง พี่ติ๊กนั้นก็จะมีการเปลี่ยนทรงผม เสื้อผ้า และบุคลิกวิธีการพูด การเดินต่างๆให้เป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ คือเล่นแบบอินเนอร์มาจากข้างใน ส่วนตัวเวลาดูแล้วจะรู้สึกอินตามทุกเรื่องเลยค่ะ
11ปี บนเส้นทางเนวิเกเตอร์สายอนุรักษ์ของพี่ติ๊ก นอกจากงานแสดงแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่พี่ติ๊กรักมากนั่นก็คือการเป็นพิธีกรและผู้ผลิตรายการเนวิเกเตอร์ เรียกได้ว่าทำตั้งแต่เบื้องหน้ายันเบื้องหลัง จนพี่ติ๊กนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระเอกนักอนุรักษ์คนหนึ่งเลยทีเดียว โดยรายการจะพาไปเที่ยวตามธรรมชาติที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล น้ำตก ฯลฯ บางครั้งก็มีพาไปดูงานวิจัยของนักวิจัยหลายๆท่าน เนวิเกเตอร์ถือเป็นรายการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่อยากให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญ สนใจ ใส่ใจ และร่วมกันรักษาธรรมชาติ โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่ปี2548 จนถึงปัจจุบัน ปีนี้ก็เป็นปีที่11แล้วค่ะ ถ้าใครสังเกตจะมีช่วงหนึ่งที่พี่ติ๊กพักงานแสดง เพราะพี่ติ๊กได้หันไปทำแต่เนวิเกเตอร์เป็นหลัก จนรายการอยู่ตัวจึงหันกลับมารับงานแสดงเหมือนเดิม แม้การทำรายการจะไม่ได้รายได้ที่มากเมื่อเทียบกับงานแสดงหรือการออกงานอีเว้นท์ แต่พี่ติ๊กก็เลือกและตั้งใจที่จะทำเนวิเกเตอร์ต่อไป
เอารูปรวมละคร+หนังของพี่ติ๊กมาฝากค่ะ หน้าตาพี่ติ๊กไม่ค่อยเปลี่ยนเลย หล่อคงกระพันจริงๆ
นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่พี่ติ๊กทำก็คือ การไปเป็นวิทยากรพิเศษตามงานต่างๆที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ แถมไปให้แบบฟรีๆ ไม่คิดค่าตัวเลยด้วยค่ะ (น่ารักจริงๆผู้ชายคนนี้ อิอิ) แต่เพราะไม่ค่อยมีสื่อไปทำข่าว ทำให้ทุกคนอาจจะไม่ค่อยรู้กันนะคะ เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากเจอพี่ติ๊กขอแนะนำให้ไปตามงานอนุรักษ์ธรรมชาติต่างๆ น่าจะมีโอกาสได้เจอพี่ติ๊กมากกว่าตามงานอีเว้นท์นะจ๊ะ อิอิ
จากการได้ติดตามพี่ติ๊กมาเป็นเวลานาน พี่ติ๊กเป็นคนที่หล่อและน่ารักมากๆ แถมมีเสน่ห์สุดๆ ไม่ขี้เก๊กและไม่หยิ่งเลย ติดดิน แถมเป็นกันเองสุดๆ ใจดี พูดเพราะ สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน มีมารยาท ให้เกียรติผู้อื่น ยิ้มแย้มง่าย อารมณ์ดีตลอด ขี้เล่น ชอบอำ เฮฮา ชอบปล่อยมุกแบบภาษาติ๊ก จนเป็นเสน่ห์ส่วนตัวที่ไม่เหมือนใครไปแล้ว อิอิ จากการสังเกตพี่ติ๊กจะเป็นคนที่ตั้งใจฟังและพยายามจะตอบทุกคำถามของทุกคน แล้วเวลาพี่ติ๊กเจอใครก็จะทักทายทุกคนไม่ว่าจะเป็นดารา ทีมงาน และแฟนคลับ
พี่ติ๊กยังเป็นคนที่มีจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจน มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นคนมีความคิด เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม พูดอะไรแล้วก็มักจะทำตามในสิ่งที่พูดไว้ เป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายมาก เพราะ1oกว่าปีที่แล้วเคยให้สัมภาษณ์แบบไหนไว้ ปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนั้น ไม่ได้ทำงานเพื่อหวังแต่เงินเพียงอย่างเดียว แม้ว่าจะดังและมีคนติดต่อเยอะขนาดไหนก็ยังคงนโยบายรับงานทีละเรื่อง แล้วจะเลือกทำงานในสิ่งที่ตนเองชอบ เวลาทำงานก็ทำด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างเต็มที่เสมอ ทำให้ผลงานที่พี่ติ๊กแสดงทุกชิ้นจึงมีคุณภาพ และผลงานส่วนใหญ่ก็จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีกลับมาด้วยค่ะ แม้ว่าจะอยู่ในวงการบันเทิงมานาน แต่พี่ติ๊กก็ไม่ได้หลงไปกับแสงสีชื่อเสียงเงินทอง และไม่มีข่าวเสียหาย วางตัวในวงการได้อย่างดี แถมยังทำอะไรคืนสู่สังคมตลอด เช่น ไปเป็นวิทยากรตามสถานที่ต่างๆ ตอนน้ำท่วมพี่ติ๊กก็ได้ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย บริจาคเงินซ่อมสร้างสระว่ายน้ำให้โรงเรียนสอนคนตาบอด บริจาคเงินเพื่อช่วยสร้างกรงให้หมีควายเจ้าขุน และอื่นๆอีกมากมายค่ะ ประทับใจและชื่นชมในตัวพี่ติ๊กจริงๆค่ะ
พี่ติ๊กยังได้รับรางวัลการันตีจากสถาบันต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลที่มาจากฝีมือการแสดง การประพฤติตัว รายการเนวิเกเตอร์ และที่ขาดไม่ได้ก็คือเสน่ห์ด้านความหล่อ ที่มีหลายๆคนมักบอกว่าพี่ติ๊กหล่อเหนือกาลเวลา เรียกได้ว่าพี่ติ๊กหล่อทั้งหน้าและจิตใจ สมนามสกุลผลดีสุดๆ
ปล.ขอบคุณเจ้าของรูปทุกรูปด้วยนะคะ