หลายคนคงรู้จักหนังเรื่อง2499อันธพาลครองเมืองกันอยู่แล้ว หนังเรื่องนี้ได้เข้าฉายวันที่ 11 เมษายน 2540 ปีนี้ก็ถือว่าครบรอบ20ปีแล้ว ซึ่งช่วงที่ฉายนั้นได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการภาพยนตร์ไทย จากที่ขณะนั้นหนังไทยกำลังซบเซาให้ได้กลับมาครึกครื้นและได้รับความสนใจจากคนดูอีกครั้ง แล้วหนังยังสามารถสร้างรายได้มากถึง 75ล้านบาท (รายได้อิงจากวิกีฯ) เรียกได้ว่าในตอนนั้นเป็นหนังดังที่ทุกคนต้องพูดถึง ถือเป็นการเปิดศักราชยุคใหม่ให้ภาพยนตร์ไทยอย่างแท้จริง เกิดกระแสต่างๆมากมาย

2499 อันธพาลครองเมือง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Dang Bireley's and Young Gangsters" หรือ "Dang Bireley's Story" สร้างมาจากบทประพันธ์เรื่อง "เส้นทางมาเฟีย" ของสุริยัน ศักดิ์ไธสง หรือ เปี๊ยก วิสุทธิกษัตริย์ในเรื่อง โดยมีเนื้อหาเล่าย้อนถึงกรุงเทพมหานครยุคก่อนพุทธศักราช 2500 ที่เหล่านักเลงอันธพาลวัยรุ่นมีอิทธิพลและครองเมืองอย่างไม่หวั่นเกรงกฎหมาย กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร สร้างโดย บริษัท ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ออกฉายเมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2540
นักแสดงนำของเรื่องค่ะ
- เจษฎาภรณ์ ผลดี (ติ๊ก)                                       รับบท แดง ไบเล่ย์
- อรรถพร ธีมากร (หนุ่ม)                                       รับบท  เปี๊ยก วิสุทธิกษัตริย์
- นพัตฏ์ธร(ชื่อเดิม นพชัย)  มัททวีวงศ์ (โจ๊กเกอร์)      รับบท  แหลมสิงห์
- ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ (ต๊อก)                                   รับบท  ปุ๊ ระเบิดขวด
- ชาติชาย งามสรรพ์ (เก่ง)                                    รับบท  ดำ เอสโซ่
- จันทร์เพ็ญ อินทรจักร (แชมเปญ เอ็กซ์)                  รับบท  วัลภา

เป็นภาพยนตร์ไทยอีกเรื่องที่สร้างได้มาตรฐานสากล เมื่อออกไปฉายในงานเทศกาลต่างประเทศ ก็ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานประกวดภาพยนตร์อิสระที่ประเทศเบลเยี่ยมด้วย ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำให้นักแสดงหลายคนได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับที่เพิ่งจะสร้างหนังเป็นเรื่องแรก นักแสดงนำ และหนึ่งในนั้นก็คือพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ผู้รับบท แดง ไบเล่ย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนังเรื่องแรกและผลงานแจ้งเกิดที่สร้างชื่อเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัวอีกด้วยค่ะ

แดง ไบเล่ย์ กับ วัลภา

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามาก่อนว่าตอนแรกนั้น พี่ติ๊กปฏิเสธที่จะรับแสดงหนังเรื่องนี้ เพราะกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ตอนนั้นก็ไว้ผมยาว ยังไม่อยากตัดผม ดัดฟันอยู่ แล้วส่วนตัวพี่ติ๊กก็ไม่ได้อยากเข้าวงการอย่างเต็มตัว แต่เนื่องจากพอดีวันที่พี่อุ๋ยเค้าแคสติ้งหานักแสดงหนัง2499ฯ พี่ติ๊กได้ไปที่นั่นพอดี แต่ตอนนั้นพี่ติ๊กไปเพื่อแคสงานอื่น แล้วบังเอิญพี่อุ๋ยก็แคสหานักแสดงอยู่ห้องข้างๆ เมื่อพี่อุ๋ยเจอพี่ติ๊กก็รู้สึกว่าหน้าตาพี่ติ๊กละม้ายคล้ายกับแดง ไบเล่ย์ตัวจริง จึงเอาบทหนังเรื่องนี้ให้พี่ติ๊กอ่าน แล้วก็ชวนให้พี่ติ๊กมาแคสเป็นแดง ไบเล่ย์ดู แต่พี่ติ๊กก็ปฏิเสธไม่เล่นไป พี่อุ๋ยก็เลยเรียกมาแคสเป็นตัวละครอื่นๆในหนังดูอีกหลายรอบ จนสุดท้ายพี่ติ๊กก็ตัดสินใจรับเล่นหนังเรื่องนี้นะคะ

พี่ติ๊กในบทแดง ไบเล่ย์

ขนาดโกนหัวยังหล่อได้อีกนะคะพี่ติ๊ก

เอาบทสัมภาษณ์ที่นักแสดง2499ฯพูดถึงพี่ติ๊กมาฝากจ้า

จากวันนั้นจนวันนี้(2540-2560)ก็ผ่านไป2ทศวรรษแล้ว หนังเรื่อง2499อันธพาลครองเมืองก็ยังคงเป็นที่รู้จัก แถมหนังเรื่องนี้ยังทำให้เกิดวลีฮิตต่างๆ เช่น “เป็นเมียเราต้องอดทน” "แล้วแต่ปุ๊"ซึ่งวลีเหล่านี้ก็ยังคงเป็นที่พูดถึงกันในปัจจุบัน เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นตำนานอีกเรื่องของภาพยนตร์ไทยเลยค่ะ

ส่วนพี่ติ๊กนั้นก็โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาครบ 2ทศวรรษแล้ว ตั้งแต่หนังเรื่องแรกจนถึงปัจจุบัน พี่ติ๊กหน้าตาแทบไม่เปลี่ยนไปเลย เรียกว่าหล่อเหนือกาลเวลาเลยก็ว่าได้ เป็นนักแสดงที่มีเสน่ห์โดยเฉพาะสายตา ฝีมือการแสดงก็ดี แถมนิสัยดี เพราะแทบจะไม่มีข่าวเสียหายเลยตลอดเวลาที่อยู่ในวงการ ที่ผ่านมานั้นพี่ติ๊กก็มีผลงานต่างๆมากมายทั้ง หนัง ละคร MV ถ่ายแบบ และยังเป็นทั้งผู้จัด+พิธีกรรายการเนวิเกเตอร์ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่12 ย่างเข้าสู่ปีที่13 ของรายการแล้วอีกด้วยค่ะ แล้วผลงานส่วนใหญ่ก็ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากคนดูเสมอมา นอกจากเป็นนักแสดงและพิธีกรแล้ว พี่ติ๊กยังมีอีกบทบาทที่บางคนอาจจะไม่เคยรู้ คือไปพูดตามงานเสวนาต่างๆที่เกี่ยวกับธรรมชาติแบบไม่คิดค่าตัว เพื่อให้คนหันมาสนใจและใส่ใจอนุรักษ์ธรรมชาติกันให้มาก จะติดตามและเป็นกำลังใจให้พี่ติ๊กนะคะขึ้น

ปีนี้ 2560 แดง ไบเล่ย์ได้กลับมาร่วมงานกับเปี๊ยก วิสุทธิกษัตริย์ อีกครั้ง

แต่ไม่ได้มาเจอกันในฐานะนักแสดง แต่พี่หนุ่มมาในฐานะผู้จัดและผู้กำกับ ส่วนพี่ติ๊กก็ยังมาในฐานะนักแสดงเหมือนเดิม ทั้งคู่มาเจอกันในละครบู๊แอ็คชั่น ดราม่า โรแมนติก ครบรส ในเรื่องคู่ซี้ผีมือปราบ ทางช่องworkpoint นะคะ

ปล.ขอบคุณรูปตามเครดิตบนรูปและเจ้าของรูปทุกรูปด้วยค่ะ