ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 18/8/2016

กระทู้คำถาม


  ***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี  ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................


ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น



วันที่ 18 สิงหาคมของทุกปี เป็น "วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ" เพราะว่าเมื่อย้อนอดีตกลับไปเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411
จะเป็นวันที่รัชกาลที่ 4 หรือ "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวง
ที่ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่พระองค์ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาไว้ล่วงหน้า 2 ปีอย่างแม่นยำ

MC ฮารุจังมีนักวิทยาศาสตร์ในดวงใจหลายคน วันนี้จะแนะนำนักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ท่านนึงค่ะ นอกจากจะอัจฉริยะแล้ว
สิ่งที่น่ายกย่องคือความมี "ใจสู้" เราเองได้แรงบันดาลใจจากท่านนี้เหมือนกัน คนอะไรใจสู้ชะมัด


สตีเฟน ฮอว์คิง (Stephen Hawking) อัจฉริยะบนรถเข็น

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อนี้ เขาเป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีและนักจักรวาลวิทยา ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
นักวิทยาศาสตร์ผู้กวาดรางวัลมามากมาย และมีผลงานตีพิมพ์เผยแพร่ก้องโลก

หากใครยังไม่รู้จัก อย่าเพิ่งคิดว่านักวิทยาศาสตร์คงจะมีแต่เรื่องน่าเบื่อ น่าปวดหัว  
วันนี้เราจะพักเรื่องวิชาการยากๆ มาดูมุมมองในชีวิตแง่มุมต่างๆ ดูบ้าง



สตีเฟน ฮอว์คิง เกิดวันที่ 8 มกราคม 1942 ที่เมือง Oxford ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันก็อายุ 74 ปีแล้ว
เขาเป็นผู้ที่ได้รับฉายาว่าเป็นไอน์สไตน์ที่ยังมีชีวิตอยู่ และถือว่าเป็นบุคคลที่ฉลาดที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้

ฮอว์คิงเกิดมาตอนที่ครอบครัวเริ่มประสบปัญหาการเงิน และสถานการณ์การเมืองตึงเครียดเพราะสงครามโลกครั้งที่ 2
ตั้งแต่เด็กเขาสนใจคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และมักจะให้ความสนใจกับสิ่งต่างๆนอกเหนือจากในห้องเรียน



ชีวิตดำเนินอย่างปกติสุขเรื่อยมาจนกระทั่งเขาอายุ 20 ต้นๆ เขาเริ่มสะดุดล้มบ่อยๆ และพูดไม่ค่อยชัด
เขาสูญเสียระบบสั่งการเรื่องการเคลื่อนไหวไปทีละนิด จากขาจนลามขึ้นไปถึงบริเวณทรวงอกทำให้หายใจแบบคนปกติไม่ได้
หมอบอกว่าเขาเป็นโรค Amyotrophic Lateral Sclerosis (ALS) ซึ่งเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดหนึ่ง
และจะมีชีวิตได้อยู่อีกเพียง 2 ปีเท่านั้น !!!

ฮอว์คิง อายุ 23 ปี แต่งงานกับ เจน ไวลด์ ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน ทั้งที่เจนรู้ว่าเขาอยู่ได้อีกไม่นานแต่เธอก็ไม่สนใจ
เจนคอยดูแลและเป็นกำลังใจให้เขาเรื่อยมา แต่ปัจจุบันทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน


เมื่อทราบว่าเป็นโรคร้าย หากเป็นคนอื่นคงหมดอาลัยตายอยาก หรือปล่อยปละชีวิตกับสิ่งไร้สาระ
แต่เขาเกรงว่าตัวเองจะอยู่ได้ไม่นานพอที่จะเรียนจบปริญญาเอก นั่นทำให้เขาทุ่มเทชีวิตไปกับงานวิจัยของเขาอย่างเต็มที่

ฮอว์คิง เริ่มอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลามไปถึงคอจนทำให้คอพับ เพราะสมองไม่สั่งการให้คอตั้งตรง และร่างกายอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
จนต้องมาใช้รถ wheelchair แต่เขากลับยิ่งมุ่งมั่นสานฝันด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์ของเขา


เมื่ออายุ 32 ปี เขาได้ช็อกโลกวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่ เมื่องานวิจัยเขาแสดงให้เห็นว่า
"หลุมดำไม่ได้มีลักษณะเป็นสุญญากาศโดยสมบูรณ์อย่างที่นักวิทยาศาสตร์ยุคก่อนหน้าเชื่อ"
ภายหลังเขาได้รับรางวัล ชื่อเสียง การยกย่องและจารึกชื่อ เทียบเท่าไอน์สไตน์ และเซอร์ไอแซค นิวตัน เลยทีเดียว

เขายังเผชิญโรคร้ายมากมาย เช่น ปอดอักเสบ ติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ จนเมื่ออายุ 43 ปี เขาต้องผ่าตัดหลอดลม
ทำให้สูญเสียการใช้เสียงไปตลอดกาล แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้โดยสื่อสารกับผู้อื่นด้วยวิธีกระพริบตาเลือกอักษรทีละตัว

ต่อมาเขาใช้โปรแกรมสังเคราะห์เสียง ช่วงแรกเขาบังคับอุปกรณ์ด้วยนิ้วมือ โอย น่าจะเหนื่อยมากๆ
แต่ยังค่ะ ทุกวันนี้เมื่อเขาแทบจะไม่สามารถควบคุมอะไรได้แล้ว นิ้วก็กระดิกได้นิดหน่อย ทายซิว่าเขาทำยังไง ...

เขาควบคุมอุปกรณ์โดยการใช้กล้ามเนื้อแก้มขวาที่ติด sensorไว้ !!! ก็แก้มขวายังทำงานได้นี่นะ

เซนเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บนแว่นตาจะเชื่อมต่อไปยังคอมพิวเตอร์ จากนั้นเซนเซอร์จะตรวจวัดการกระตุกของแก้ม
ซึ่งเป็นการเลือกคำที่แสดงอยู่บนจอคอมพิวเตอร์ จากนั้นคำที่ถูกเลือกก็จะถูกสังเคราะห์ออกมาเป็นเสียง  
ฮอว์คิงต้องใช้เวลา 10 นาทีเพื่อสร้างคำพูด 1 ประโยค OMG !!!

ฮอว์คิงมีความฝันอยากท่องอวกาศ จนเมื่ออายุ 65 ปี เขาเข้าใกล้ความฝัน โดยได้อยู่บนเครื่องบินโบอิ้งดัดแปลง
เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก ได้สัมผัสภาวะไร้น้ำหนักเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง เป็นช่วงที่เขามีอิสระจาก wheelchair


ทุกวันนี้ฮอว์คิงยังคงใช้ชีวิตปกติ ทุ่มเทงานวิจัย ตีพิมพ์ผลงาน บรรยายให้ความรู้ ฯลฯ เขาได้กระตุ้นให้ผู้ฟัง
ให้ความสำคัญและใส่ใจในอาชีพอันน่าประทับใจของเขา และอนาคตของวิทยาศาสตร์มากกว่าการต่อสู้ดิ้นรนกับโรคร้ายของเขา



บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มอบเหรียญสดุดีพลเรือนให้แก่เขา (เอเอฟพี)
สังเกตดูจะเห็นเซนเซอร์ที่แก้มขวาค่ะ



ขอบคุณแหล่งข้อมูลและภาพประกอบ
http://www.bluerollingdot.org/articles/inspiration/246
http://ppantip.com/topic/33326564
https://blog.eduzones.com/GlobalAcademyLadphrao/140412
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9550000006696


...........................................................

ฮอว์คิงประสบโรคร้าย ทั้งที่แพทย์ทำนายว่าอยู่ได้อีกแค่ 2 ปี แต่ทุกวันนี้เขาอยู่ต่อมาได้อีก 50 ปีแล้ว
ไม่เพียงแค่มีชีวิตรอด แต่เขายังสร้างผลงานก้องโลกที่เป็นประโยชน์กับมนุษยชาติมากมาย
นั่นก็เพราะ "การมองโลกในแง่ดี มีความหวัง ใจสู้ และความกระตือรือร้นตื่นตัวทางจิตใจและปัญญา"

ความหวังและใจสู้ คือของขวัญล้ำค่าที่ใครก็มาเอาจากเราไปไม่ได้

ฝันมีชีวิต - อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง

...แม้มีไม่เท่าคนอื่น ขาไม่อาจยืน มือชูไม่ไหว
หรือตาที่ปิด หูฟังไม่ได้ ก็มีความหมายคำว่าคน
แต่ยังแข็งขัน ยืนยันสู้อีก ไม่ได้หลีกไกล จะฝันแม้แค่มีสิทธิ์...

https://www.youtube.com/watch?v=6gNpZCC62Gg
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
จำได้ไหม?? “ประเทศไทยปี 2527” เยาวราช – ตลาด -โรงหนัง จากเลนส์ช่างภาพชาวญี่ปุ่น


พูดถึงประเทศไทยสมัยนี้ ไม่ว่าจะที่ไหนก็คงได้เห็นแต่ความเจริญ แสงสี และรถที่ติดอยู่ตลอดเวลา กลายเป็น
ภาพชินตาของคนไทยสมัยนี้อยู่ไม่น้อย และหากต้องย้อนกลับไปเมื่อช่วงทศวรรษ 1980 แล้ว หลายคนก็อาจ
จะลืมเลือนไปแล้ว

ช่างภาพชาวญี่ปุ่นอย่าง Doi Kuro ที่เดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และประเทศไทยในปี พ.ศ.2527 จึงได้โพสต์ภาพประเทศไทยในความทรงจำที่เขาได้บันทึกไว้ระหว่างเดินทาง
ไปจังหวัดต่างๆของไทยไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ทำให้ได้เห็นเมืองไทยในมุมต่างๆ อย่าง เยาวราช , โรงภาพยนตร์ใ
นกรุงเทพฯ, ทางรถไฟ จ.กาญจนบุรี รวมไปถึงตลาดที่จ.เชียงใหม่

เรียกความทรงจำให้กับคนยุค 80 ไม่น้อยทีเดียว






ถนนสุขุมวิท


สยามสแควร์


แท็กซี่ที่กรุงเทพฯ


ซ่อมรถ กรุงเทพฯ


ไฟแดง ในกรุงเทพฯ


รถบรรทุก กรุงเทพฯ


ร้านขายของชำ กรุงเทพฯ

ขอบคุณภาพจาก Doi Kuro
http://www.matichon.co.th/news/87500

เปิดเพลง  กรุงเทพมหานคร นะคะอมยิ้ม21

กรุงเทพมหานคร อัสนี_วสันต์ โชติกุล
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=gizuWOYBLLA

กรุงเทพ  ปี 80  ใครยังไม่เกิดบ้าง  แสดงตัวหน่อย  พาพันอยากรู้
สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่