สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะครับ กรทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม ที่อยากจะแชร์เรื่องราวให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะครับ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ไม่รู้ว่าผมตั้งหัวข้อให้ งงรึป่าว ถ้าอ่านเผลินๆ อาจเข้าใจว่ามันไม่ควร หรือเป็นเรื่องที่ผิด
เเต่ลองฟังดูก่อนแล้วกันนะครับ
ปัจจุบัณผมอายุ 24 เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อเดือน ก.ย. 58 ผมโดนแฟนที่คบกันมา 2 ปีกว่า บอกเลิกไป ด้วยเหตุผลที่ การเงินติดขัดเพราะเป็นช่วงที่ผมซื้อบ้านต้องใช้เงินเยอะ เงินเก็บก็ได้นำมาดาวน์บ้านจนหมด และตอนนั้นเธอติดเพื่อนที่ทำงานมากเพราะเพื่อนๆ ผญ มีแต่คนโสด แบบว่าไปเที่ยวกันทุกคืน โดยที่ขอผมบ้างแล้วก้อไม่บอกบ้างแต่ผมรู้หมดครับ แฟนคนนี้ผมจริงใจมาก ผมเข้าถึงพ่อ-แม่ ญาติพี่น้องหมด ช่วยเหลือมาตลอด เพราะคิดว่าคงจบกับคนนี้เป็นคนสุดท้ายแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำกันได้ลงคอ และจุดแตกหักที่ทำให้เลิกกันก็คือ เธอขอให้ผมห่างจากเธอโดยไม่ต้องติดต่อกันเลย 1 เดือน หลังจากนั้นเธอจะกลับมาเป็นคนเดิม โดยให้เหตุผลว่าอยากอยู่กับพ่อ-แม่-หลาน อยากมีเวลาให้ครอบครัว แต่เหตุผลที่ให้มาผมก็รู้แล้วว่าคนมันจะนอกใจ เป็นข้ออ้างมากกว่า เพราะเธอก็อยู่กับครอบครัวอยู่แล้ว มาหาผมสัปดาห์นึง แค่ 2-3 ครั้ง แต่ผมก็ลองปล่อยเธอไป และแล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดไว้ครับ หลังจากที่หยุดติดต่อกันได้ 14 วัน วันนั้นตอนเที่ยงคืน ด้วยความที่อยากรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ผมก็เลยค้นหาตำแหน่งเธอดู จากApp My Iphone ซึ่งผมเป็นคนซื้อโทรศัพท์ให้และเป็นคนสมัค Apple ID ให้ทุกอย่าง จนได้เจอ แจ๊คพ๊อทแตก ผมไปเจอตำแหน่งเธออยู่ที่บ้านแฟนเก่า....ที่ครั้งนึงผมเคยไปตามเธอจากการค้นหาตำแหน่ง ผมขับรถไปถ่ายรูปมอเตอร์ไซย์ที่เธอขี่ไป ไว้ให้เธอดูด้วย โดยเธอบอกว่าไปนอนบ้านเพื่อนผู้หญิง แต่ผมได้ไปถามบ้านหลังนั้นมาคนที่บ้านนั้นบอกว่าไม่รู้จักใครเลยคนที่ผมถามมา(โกหกทั้งบ้าน)ก็เลยเก็บเรื่องนั้นมาตลอด เพราะถามทีไร เธอก้อบอกว่าถ้าไม่เชื่อใจก็เลกกันไปเลย
ต่อ...เช้าวันนั้นผมเลยไปที่บ้านนั้นคนเดียว โดยเจอกับผัวเมียคู่หนึ่งเดาว่าเป็นพ่อแม่ผู้ชายสัญชาตญาณมันบอก โดยผมบอกว่ามาตามหาแฟนชื่อนี้ผมตามจากตำแหน่งโทรศัพท์ บอกว่าอยู่ที่บ้านหลังนี้ ผมมือสั่นไปหมด อารมณ์ นั้นคือฆ่าคนได้แต่ต้องรู้ให้ได้ว่ามันคือบ้านใครลูกผู้ชายมันคาใจ แต่ได้รับการปฏิเสธ บอกว่าไม่รู้จัก(มีพิรุจ) ผมก็เลยกลับมาตั้งหลักเพราะกลัวควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ผมเลยโทรหาเธอแต่ไม่ติด และติดแต่ไม่รับและค้นหาตำแหน่งไม่เจอ ทำให้ผมรู้เลยว่าเธอปิดตำแหน่งตัวเองและทำให้ผมรู้เลยว่าเธออยู่ที่บ้านหลังนั้นจริงๆเพราะผมยังไม่ได้บอกใครว่าไปตามหาเธอ นอกจากผัวเมีย สองคนนั้น มันทำให้ผมตาสว่าง ว่าโดนหลอกมาตลอด หลังจากนั้น เธอก็ติดต่อกลับมา และยอมรับทุกอย่าง สรุป คือ บ้านหลังนั้นคือแฟนเก่าที่กลับมาคบกัน ระหว่างที่คบกับผมอยู่ก็ได้แอบมานอนกับแฟนเก่า 2-3 ครั้ง โดยที่ผมไม่รู้ พอได้รับรู้แล้วมันโคตรเจ็บแบบบอกไม่ถูกจริงๆครับ มันเหมือนโดนเหยียบใจ เหมือนโดนหยาม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ครับ ผญ เขาไม่เลือกเรา แล้วข่าวก็มาเข้าหูผมเรื่อยๆว่า ผช คนนั้นทางบ้านเพิ่งจะขายที่ดินได้น่าจะหลายล้านอยู่ผมสู้อะไรเขาไม่ได้เลย.... มันจบลงแล้วครับมันเข็ดไปซะทุกอย่าง ช่วงนั้นเป็นอะไรที่ยากมาก นั่งอยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหล ไปเจอสถานที่เก่าๆ ก็น้ำตาคลอ บางทีก็ไปนั่งกินเบียร์คนเดียวหน้าเซเว่นเพราะมันทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ได้แต่โทษตัวเองว่าเรามันจน
**หลังจากนั้นผ่านไป 2 เดือน พอทำใจได้บ้าง ก็ได้มีเพื่อนของแฟนเก่าที่ทำงานด้วยกันแต่ไม่สนิทมาก(ผมเคยเจอ 2-3 ครั้ง) ทักแชทมาคุยกับผมว่าทำมัยถึงเลิกกันนึกว่าทะเลาะกันเฉยๆ...แต่ทำมัยหายไปเลยผมก็เลยเล่าให้เธอฟังว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร...เธอก้อเข้าใจ แต่ไม่รู้ทำมัย ผมรู้สึกว่าคุยกับคนนี้รู้เรื่องมาก คุยแล้วรู้สึกดีเหมือนเป็นคนหัวอกเดียวกัน จากนั้นเราก็คุยกันมาตลอดและเข้ากันได้ดี(เธอโสด)และความสัมพันเราเริ่มมีขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปีใหม่ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่บ้านเธอได้เจอกับพ่อแม่ของเธอ หลังจากนั้นเราก็ได้คบกันและผมชวนเธอมาอยู่ที่บ้านที่ผมซื้อไว้ ทุกอย่างไปได้ดีครับ... หลังจากได้คบกันมาเกือบจะ 1 ปีแล้ว การเงินก็เริ่มเข้าที่และเราได้วางแผนการแต่งงานแล้วหลังจากที่ผมบวช .... ยอมรับว่าแฟนใหม่ผมคนนี้ต่างจากคนเก่ามาก...ทั้งเรื่องการเอาแต่ใจ , งานบ้านงานเรือน , การแคร์ความรู้สึกกัน , การถนอมน้ำใจกัน,เรื่องการเข้ากันกับผู้ใหญ่ , มีเงินเก็บร่วมกัน นำรายได้มารวมกัน ( 2 ย่อมมากกว่า 1 เสมอ ) งานนี้ไปได้สวยครับ
*ก่อนที่จะคบกันเราสองคนก็ลำบากใจนะครับ ว่ามันสมควรมั้ย มันจะดูไม่ดีหรือป่าวเพราะเขาทำงานที่เดียวกัน แต่ผมคิดดูแล้วไม่ผิดนะครับ เพราะกับแฟนเก่าก็ไม่ได้มีอะไรต่อกันแล้ว ต่างคนต่างคืนชีวิตให้กัน ไม่มีอะไรติดค้างกัน หรือเพื่อนๆมีความคิดที่แตกต่างแสดงความคิดเห็นได้นะครับ......
บอกเลยว่าตอนนี้กำลังไปได้ดีครับ และผมยังเชื่อว่า
" ตราบใดที่เรายังซื่อสัตย์ต่อความรัก ความรักก็จะซื่อสัตย์ต่อเรา "
ขอบคุณครับ
เมื่อผมถูกแฟนทิ้ง และผมได้แฟนใหม่ซึ่งเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า ที่ทำงานด้วยกัน.....
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ไม่รู้ว่าผมตั้งหัวข้อให้ งงรึป่าว ถ้าอ่านเผลินๆ อาจเข้าใจว่ามันไม่ควร หรือเป็นเรื่องที่ผิด
เเต่ลองฟังดูก่อนแล้วกันนะครับ
ปัจจุบัณผมอายุ 24 เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อเดือน ก.ย. 58 ผมโดนแฟนที่คบกันมา 2 ปีกว่า บอกเลิกไป ด้วยเหตุผลที่ การเงินติดขัดเพราะเป็นช่วงที่ผมซื้อบ้านต้องใช้เงินเยอะ เงินเก็บก็ได้นำมาดาวน์บ้านจนหมด และตอนนั้นเธอติดเพื่อนที่ทำงานมากเพราะเพื่อนๆ ผญ มีแต่คนโสด แบบว่าไปเที่ยวกันทุกคืน โดยที่ขอผมบ้างแล้วก้อไม่บอกบ้างแต่ผมรู้หมดครับ แฟนคนนี้ผมจริงใจมาก ผมเข้าถึงพ่อ-แม่ ญาติพี่น้องหมด ช่วยเหลือมาตลอด เพราะคิดว่าคงจบกับคนนี้เป็นคนสุดท้ายแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำกันได้ลงคอ และจุดแตกหักที่ทำให้เลิกกันก็คือ เธอขอให้ผมห่างจากเธอโดยไม่ต้องติดต่อกันเลย 1 เดือน หลังจากนั้นเธอจะกลับมาเป็นคนเดิม โดยให้เหตุผลว่าอยากอยู่กับพ่อ-แม่-หลาน อยากมีเวลาให้ครอบครัว แต่เหตุผลที่ให้มาผมก็รู้แล้วว่าคนมันจะนอกใจ เป็นข้ออ้างมากกว่า เพราะเธอก็อยู่กับครอบครัวอยู่แล้ว มาหาผมสัปดาห์นึง แค่ 2-3 ครั้ง แต่ผมก็ลองปล่อยเธอไป และแล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดไว้ครับ หลังจากที่หยุดติดต่อกันได้ 14 วัน วันนั้นตอนเที่ยงคืน ด้วยความที่อยากรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ผมก็เลยค้นหาตำแหน่งเธอดู จากApp My Iphone ซึ่งผมเป็นคนซื้อโทรศัพท์ให้และเป็นคนสมัค Apple ID ให้ทุกอย่าง จนได้เจอ แจ๊คพ๊อทแตก ผมไปเจอตำแหน่งเธออยู่ที่บ้านแฟนเก่า....ที่ครั้งนึงผมเคยไปตามเธอจากการค้นหาตำแหน่ง ผมขับรถไปถ่ายรูปมอเตอร์ไซย์ที่เธอขี่ไป ไว้ให้เธอดูด้วย โดยเธอบอกว่าไปนอนบ้านเพื่อนผู้หญิง แต่ผมได้ไปถามบ้านหลังนั้นมาคนที่บ้านนั้นบอกว่าไม่รู้จักใครเลยคนที่ผมถามมา(โกหกทั้งบ้าน)ก็เลยเก็บเรื่องนั้นมาตลอด เพราะถามทีไร เธอก้อบอกว่าถ้าไม่เชื่อใจก็เลกกันไปเลย
ต่อ...เช้าวันนั้นผมเลยไปที่บ้านนั้นคนเดียว โดยเจอกับผัวเมียคู่หนึ่งเดาว่าเป็นพ่อแม่ผู้ชายสัญชาตญาณมันบอก โดยผมบอกว่ามาตามหาแฟนชื่อนี้ผมตามจากตำแหน่งโทรศัพท์ บอกว่าอยู่ที่บ้านหลังนี้ ผมมือสั่นไปหมด อารมณ์ นั้นคือฆ่าคนได้แต่ต้องรู้ให้ได้ว่ามันคือบ้านใครลูกผู้ชายมันคาใจ แต่ได้รับการปฏิเสธ บอกว่าไม่รู้จัก(มีพิรุจ) ผมก็เลยกลับมาตั้งหลักเพราะกลัวควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ผมเลยโทรหาเธอแต่ไม่ติด และติดแต่ไม่รับและค้นหาตำแหน่งไม่เจอ ทำให้ผมรู้เลยว่าเธอปิดตำแหน่งตัวเองและทำให้ผมรู้เลยว่าเธออยู่ที่บ้านหลังนั้นจริงๆเพราะผมยังไม่ได้บอกใครว่าไปตามหาเธอ นอกจากผัวเมีย สองคนนั้น มันทำให้ผมตาสว่าง ว่าโดนหลอกมาตลอด หลังจากนั้น เธอก็ติดต่อกลับมา และยอมรับทุกอย่าง สรุป คือ บ้านหลังนั้นคือแฟนเก่าที่กลับมาคบกัน ระหว่างที่คบกับผมอยู่ก็ได้แอบมานอนกับแฟนเก่า 2-3 ครั้ง โดยที่ผมไม่รู้ พอได้รับรู้แล้วมันโคตรเจ็บแบบบอกไม่ถูกจริงๆครับ มันเหมือนโดนเหยียบใจ เหมือนโดนหยาม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ครับ ผญ เขาไม่เลือกเรา แล้วข่าวก็มาเข้าหูผมเรื่อยๆว่า ผช คนนั้นทางบ้านเพิ่งจะขายที่ดินได้น่าจะหลายล้านอยู่ผมสู้อะไรเขาไม่ได้เลย.... มันจบลงแล้วครับมันเข็ดไปซะทุกอย่าง ช่วงนั้นเป็นอะไรที่ยากมาก นั่งอยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหล ไปเจอสถานที่เก่าๆ ก็น้ำตาคลอ บางทีก็ไปนั่งกินเบียร์คนเดียวหน้าเซเว่นเพราะมันทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ได้แต่โทษตัวเองว่าเรามันจน
**หลังจากนั้นผ่านไป 2 เดือน พอทำใจได้บ้าง ก็ได้มีเพื่อนของแฟนเก่าที่ทำงานด้วยกันแต่ไม่สนิทมาก(ผมเคยเจอ 2-3 ครั้ง) ทักแชทมาคุยกับผมว่าทำมัยถึงเลิกกันนึกว่าทะเลาะกันเฉยๆ...แต่ทำมัยหายไปเลยผมก็เลยเล่าให้เธอฟังว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร...เธอก้อเข้าใจ แต่ไม่รู้ทำมัย ผมรู้สึกว่าคุยกับคนนี้รู้เรื่องมาก คุยแล้วรู้สึกดีเหมือนเป็นคนหัวอกเดียวกัน จากนั้นเราก็คุยกันมาตลอดและเข้ากันได้ดี(เธอโสด)และความสัมพันเราเริ่มมีขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปีใหม่ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่บ้านเธอได้เจอกับพ่อแม่ของเธอ หลังจากนั้นเราก็ได้คบกันและผมชวนเธอมาอยู่ที่บ้านที่ผมซื้อไว้ ทุกอย่างไปได้ดีครับ... หลังจากได้คบกันมาเกือบจะ 1 ปีแล้ว การเงินก็เริ่มเข้าที่และเราได้วางแผนการแต่งงานแล้วหลังจากที่ผมบวช .... ยอมรับว่าแฟนใหม่ผมคนนี้ต่างจากคนเก่ามาก...ทั้งเรื่องการเอาแต่ใจ , งานบ้านงานเรือน , การแคร์ความรู้สึกกัน , การถนอมน้ำใจกัน,เรื่องการเข้ากันกับผู้ใหญ่ , มีเงินเก็บร่วมกัน นำรายได้มารวมกัน ( 2 ย่อมมากกว่า 1 เสมอ ) งานนี้ไปได้สวยครับ
*ก่อนที่จะคบกันเราสองคนก็ลำบากใจนะครับ ว่ามันสมควรมั้ย มันจะดูไม่ดีหรือป่าวเพราะเขาทำงานที่เดียวกัน แต่ผมคิดดูแล้วไม่ผิดนะครับ เพราะกับแฟนเก่าก็ไม่ได้มีอะไรต่อกันแล้ว ต่างคนต่างคืนชีวิตให้กัน ไม่มีอะไรติดค้างกัน หรือเพื่อนๆมีความคิดที่แตกต่างแสดงความคิดเห็นได้นะครับ......
บอกเลยว่าตอนนี้กำลังไปได้ดีครับ และผมยังเชื่อว่า
" ตราบใดที่เรายังซื่อสัตย์ต่อความรัก ความรักก็จะซื่อสัตย์ต่อเรา "
ขอบคุณครับ