โอลิมปิกเกมส์ 2016 ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าชัยชนะ ไม่สำคัญเสมอไป

นั่งดูโอลิมปิคมาหลายวัน  เปิดมาเจอข่าวนึง  "น้ำใจกลางลู่วิ่ง! "สาวกีวี-สาวมะกัน" กับสุดยอดสปิริตแห่งโอลิมปิก 2016"



เรื่องราวดังนี้ "เป็นการแข่งขันวิ่ง 5,000 เมตรหญิง รอบรองชนะเลิศ โดยจุดเริ่มของเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ นิกกี้ ฮัมบลิน นักวิ่งสาวนิวซีแลนด์สะดุดนักวิ่งคนอื่นก่อนเสียหลักจนล้มลงไปนอนกับพื้น ทำให้ แอ็บบี้ ดากอสติโน่ ของสหรัฐอเมริกา ที่จังหวะนี้สะดุดล้มลงไปด้วย พยายามช่วยให้เธอลุกขึ้นมา จนสามารถแข่งต่อได้ทั้งคู่

แต่แข่งต่อไปได้ไม่นาน ดากอสติโน่ ก็เกิดอาการเข่าขวาบิด ทำให้เธอล้มลงไปกับพื้น และเมื่อ ฮัมบลิน เห็นดังนั้น เธอจึงหยุดและหันกลับไปดูอาการของเพื่อนร่วมแข่งขันที่เคยช่วยเธอก่อนหน้านี้บ้าง

ก่อนที่สาวนิวซีแลนด์จะช่วยประคองสาวอเมริกัน วิ่งเข้าเส้นชัยด้วยตำแหน่งสองอันดับสุดท้ายของฮีต พร้อมสวมกอดกันอย่างสุดประทับใจ โดยฮัมบลินทำเวลาไป 16.43 นาที ส่วนดากอสติโน่ ทำเวลา 17.10 นาที ตามหลังผู้ชนะในรอบนี้อย่าง อัลมาซ อยาน่า จากเอธิโอเปีย มากกว่า 2 นาที

ข้อมูลถูกเปิดเผยภายหลังว่า สาเหตุที่ ดากอสติโน่ วัย 24 ปี ล้มลงระหว่างแข่งขันนั้น เป็นเพราะหัวเข่าขวาของเธอเกิดอาการบิด จนทำให้เธอต้องลงไปนั่งกองกับพื้นนั่นเอง
"ผู้หญิงคนนั้นคือสปิริตแห่งโอลิมปิกเลยล่ะ ตอนที่ฉันสะดุดล้มลง ฉันถามตัวเองว่า 'เกิดอะไรขึ้น?' รู้ตัวอีกทีก็มีมือมาจับไหล่ฉัน และเธอก็พูดว่า 'ลุกขึ้นสิ เรามาเข้าเส้นชัยด้วยกันเถอะ นี่โอลิมปิกเกมส์เลยนะ' แล้วเราก็วิ่งมันจนจบด้วยกัน"

"ฉันไม่เคยเจอหรือรู้จักเธอมาก่อนด้วยซ้ำ นี่มันมหัศจรรย์มาก เธอคือผู้หญิงที่น่าประทับใจจริงๆ"

"ฉันหวังว่าเธอจะโอเคกับอาการบาดเจ็บ เธออายุยังน้อยและมีโอกาสอีกมาก ด้วยการที่เธอเป็นคนดี เธอจะไปได้อีกไกลแน่นอน" ฮัมบลิน พูดถึง ดากอสติโน่

ทั้งนี้ แม้สองสาวจะเข้าเส้นชัยเป็นสองคนสุดท้าย แต่ล่าสุดทั้งคู่ก็ได้โควต้าพิเศษในการเข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ เนื่องจากพฤติกรรมอันมีน้ำใจนักกีฬาของทั้งคู่นั่นเอง

สุดท้าย ไม่ว่าสองสาวจะได้เหรียญรางวัลกลับบ้านหรือไม่ คงไม่สำคัญ เพราะตอนนี้วีรกรรมของทั้งคู่ "ชนะใจ" คนทั่วโลกไปเรียบร้อยแล้ว

ที่มา: http://sport.sanook.com/261145/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่