หลายคนอาจจะไม่ได้ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยเพราะผลประโยชน์ส่วนตนหรืออะไรก็ตามแต่บังตา แต่สำหรับคำว่าประชาธิปไตย มักจะถูกนำไปพ่วงท้ายเพื่อสร้างภาพลักษณ์ สร้างความชอบธรรมอยู่เสมอ ในระดับนานาชาติ ผมจะลองยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพเช่น ประเทศเผด็จการทหารอย่างเกาหลีเหนือ มีชื่อประเทศอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (อังกฤษ: Democratic People's Republic of Korea: DPRK) หรือรัฐพรรคการเมืองเดียวอย่างประเทศลาว ชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ในประเทศของเราเองคำว่าประชาธิปไตยก็มักจะถูกนำไปตั้งเป็นชื่อเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่มก้อนการเคลื่อนไหวทางการเมืองของตนเองเช่น

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ชื่อภาษาอังกฤษ: People's Alliance for Democracy, PAD) ที่คอยไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมาทุกรัฐบาลตั้งแต่ ปี 2548 เป็นต้นมา แม้กระทั่งแกนนำของตัวเองแท้ๆอย่างนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ตั้งพรรคการเมืองเพื่อลงแข่งในสนามเลือกตั้งในนามพรรคการเมืองใหม่ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อไปเป็นพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย) ก็ยังมิวายถูกรังเกียจจากอดีตแกนนำคนอื่นๆ ผมก็ยังสงสัยมาจน ณ บัดนี้ว่ามันเพื่อประชาธิปไตยตรงไหนวะ วันๆคิดแต่จะล้มรัฐบาลที่ประชาชนเลือกเข้ามาบริหารประเทศ แต่ก็ยังมิวายตั้งชื่อให้มันตรงข้ามกับพฤติกรรมเพื่อให้ตัวเองดูดี


พรรคประชาธิปัตย์ (อังกฤษ: Democrat Party - DP, ย่อ: ปชป.) ชื่อนี่ประชาธิปไตยชนิดเต็มตีนเตี่ย นักประชาธิปไตย ผู้นิยมการปกครองในระบบประชาธิปไตย แต่เท่าที่เห็นๆในรอบสิบปีนี่ผสมโรงก่อม็อบไปเป็นอีแอบขี่หลังกลุ่มพันธมิตรล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซ้ำๆซากๆ ในส่วนของสนามเลือกตั้งก็บอยคอตการเลือกตั้งมาแล้วถึงสองครั้ง ในส่วนของรัฐสภาก็ไปเสียมารยาททางการเมืองไปหิ้วนักการเมืองจากพรรคคู่แข่งเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลโดยใช้มุขตลกกลไกรัฐสภามาอ้างอิงความชอบธรรมในพฤติกรรม และยังคิดจะใช้มุขนี้ไปอีกเป็นภพชาติ โดยไม่เคยแคร์ว่ากลไกและมารยาทในระบอบประชาธิปไตยฯจะเสียหาย นึกไปก้ขรรมไปแม้จะเป็นตลกร้าย แต่พฤติกรรมห่วยๆที่ตรงกันข้ามกับชื่อของตัวเองนี้มันจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยไปชั่วกัปชั่วกัลป์


กปปส. มีชื่อเต็มว่า คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (ภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า People's Democratic Reform Committee, แปลตามตัวอักษร คณะกรรมการประชาชนปฏิรูปประชาธิปไตย, ย่อ: PDRC)  นี่ก็คือตัวแสบของระบอบประชาธิปไตยที่เอาคำว่าประชาธิปไตยแทรกเข้าไปอยู่ในชื่อของตัวเองเพื่อสร้างความชอบธรรมในกลุ่ม แต่พฤติกรรมก็คือไล่ล่าไล่ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่ต่างจากกลุ่มอื่นๆที่กล่าวมา โดยจับความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวประกันเป็นแรมปี เป็นกลุ่มที่ชัดเจนว่าพรรคพวกของตัวเองไม่สามารถที่จะเอาชนะคู่แข่งทางการเมืองในกติกาประชาธิปไตยฯหรือในสนามเลือกตั้งได้แล้ว จนช่วงท้ายๆถึงกับหลุดปากคำว่า "รัฐฐาธิปัตย์" ออกมา จึงทำให้กลุ่มมวลมหาประชาชนบางส่วนเริ่มหูตาสว่าง ค่อยๆถอนตัวออกไปจนเหลือเพียงแค่มวลมินิกาสรบางจำเทือกที่ไม่รู้จะไปไหนอยู่แค่กระจุกเดียว ณ สวนลุมฯ แกนนำลุงกำนันจะลงเองก็ลงไม่ได้เพราะออกตัวแรงมาก บอกจะแขวนคอตายก็ยังไม่แขวนสักที หากลงไปด้วยความพ่ายแพ้ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปแทรกไว้ที่ไหน ท้ายสุดเดือดร้อนต้องมีคนมาพาลงด้วยเหตุผลเพื่อลดความแตกแยกของคนในชาติ อืมมมมมม


การใช้คำตั้งชื่อไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ ชื่อก็ยังคงเป็นได้เพียงชื่อ ผู้คนทั่วๆไปอาจจะสะดุดหูหรือคล้อยตามในชื่อที่ตั้งได้ในช่วงแรกๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนที่ตั้งสติได้มักจะให้ความสำคัญกับพฤติกรรมหรือในสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมเสียมากกว่า การที่ นาย ก นาย ข ที่ไหนมันจะมาบอกว่ามันบินได้ แต่ถ้ามันบินไม่ได้มันก็คือบินไม่ได้ ในทางกลับกันหากนาย ก นาย ข มันบินได้แต่มันไม่พูด มันก็คือบินได้  ปัจจุบันคำยอดฮิตที่เรามักจะได้ยินในคณะทำงานของรัฐบาลปัจจุบันเช่นคำว่า ปฏิรูปประเทศไทยเพื่อประชาธิปไตยที่ยั่งยืน รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง เดินหน้าประเทศไทย คืนความสุขให้คนในชาติ ฯลฯ ก็จะรอพิสูจน์ว่าจะเป็นดังชื่อหรือคำกล่าวหรือไม่ หลายคนอาจจะมีคำตอบเหล่านั้นอยู่ในใจอยู่แล้ว โดยส่วนตัวผมแล้วหากถามว่าชื่อนั้นสำคัญไฉน? ผมบอกได้เลยว่าสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าก็คือการกระทำ พฤติกรรม หรือผลที่เกิดเป็นรูปธรรมว่ามันสอดคล้องกับชื่อที่ตั้งไว้หรือไม่

ก็ช่วยกันตามต่อไปครับ หนีได้หนีไป มันต้องเจอสักวัน ....