Warrior (2011)
สำหรับหนังมวยเรามักจะเห็นบทที่ค่อนข้างตามสูตรสำเร็จคือมีพ่อเป็นโค้ชมวยหรือนักมวยเก่าที่ทำตัวเสเพลจนต้องออกจากวงการหรือไม่ก็ต่อยมวยหาเลี้ยงชีพไปวันๆเเล้วก็ตายให้ลูกชายมีปมและเเม้ว่า Warrior จะเป็นศิลปะการต่อสู้แบบผสม (Mixed Martial Art หรือ MMA) ก็ยังคงใช้สูตรนี้เเต่ขยี้ปมปัญหาได้ตรงจุดสุดๆทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังเน้นDramaมากกว่าหนังSportเสียอีก
เมื่อ Tommy (Tom Hardy) หวนกลับบ้านไปหาPaddy (Nick Nolte) อดีตโค้ชผู้เป็นพ่อหลังจากเเยกกันอยู่มา14ปีเนื่องจากปัญหาครอบครัว เพื่อฝึกเตรียมเข้าสังเวียนอีกครั้งด้วยเหตุผลบางอย่าง ในขณะเดียวกัน Brenden (Joel Edgerton) พี่ชายของTommy อดีตนักมวยซึ่งผันตัวมาเป็นครูฟิสิกส์ กำลังประสบปัญหาทางการเงิน จึงต้องลงเเข่งเพื่อนำเงินมาดูเเลครอบครัว ทำให้ทั้งสองพี่น้องบังเอิญต้องลงนวมในสังเวียนเดียวกัน
อาจฟังดูค่อนข้างไร้เหตุผลในเหตุบังเอิญที่สองพี่น้องต้องมาห่ำหั่นกันเองในสังเวียนเเต่หนังกลับเล่าปมประเด็นครอบครัวได้หนักแน่นมากๆ ซึ่งประเด็นของพี่และน้องต่างมีเหตุผลในกระทำที่ค่อนข้างสะเทือนใจโดยใช้เวลาเกือบครึ่งเรื่องไปกับปัญหาครอบครัวส่วนใหญ่มากกว่าที่จะเน้นฉากต่อสู้ เเต่ถึงอย่างนั้นฉากในสังเวียนก็ทำได้กดดันดีมากเลยทีเดียว
สิ่งที่ชอบในหนังคือความซีเรียสในการสนทนาระหว่างตัวละครเพราะตัวละครหลักๆอย่าง Tommy, Brenden และ Paddy ผู้เป็นพ่อ มีความตึงเครียดในความสัมพันธ์อย่างมากรวมถึงปมในอดีตที่เลวร้ายของเเต่ละคนอีกด้วย ประกอบกับระหว่างบทสนทนาจะแทบไม่มีซาวแทรคแทรกหรือคลอเลยทำให้ยิ่งรู้สึกเครียดโดยตัวของบทเองทั้งหมดในทุกครั้งที่ตัวละครต้องคุยกันและในฉากสุดท้ายก็ทิ้งเพลงเพราะๆ อย่าง About Today - The National ให้เฉือนใจคนดูอย่างลึกซึ้ง
สรุปเเล้ว Warrior เป็นหนังดราม่าซึ้งๆเกี่ยวกับครอบครัวของนักมวยที่มากกว่าที่จะเน้นความมันส์ในการต่อสู้
8.5/10
_____________________________________________
ติดตามรีวิวหนังของเราต่อได้ที่ เพจ หนังเรื่องนี้ละครับจารย์
https://www.facebook.com/whataboutthismov/
[CR] [Review] - Warrior หนังมวยที่เป็นมากกว่าแค่หนังกีฬา
สำหรับหนังมวยเรามักจะเห็นบทที่ค่อนข้างตามสูตรสำเร็จคือมีพ่อเป็นโค้ชมวยหรือนักมวยเก่าที่ทำตัวเสเพลจนต้องออกจากวงการหรือไม่ก็ต่อยมวยหาเลี้ยงชีพไปวันๆเเล้วก็ตายให้ลูกชายมีปมและเเม้ว่า Warrior จะเป็นศิลปะการต่อสู้แบบผสม (Mixed Martial Art หรือ MMA) ก็ยังคงใช้สูตรนี้เเต่ขยี้ปมปัญหาได้ตรงจุดสุดๆทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังเน้นDramaมากกว่าหนังSportเสียอีก
เมื่อ Tommy (Tom Hardy) หวนกลับบ้านไปหาPaddy (Nick Nolte) อดีตโค้ชผู้เป็นพ่อหลังจากเเยกกันอยู่มา14ปีเนื่องจากปัญหาครอบครัว เพื่อฝึกเตรียมเข้าสังเวียนอีกครั้งด้วยเหตุผลบางอย่าง ในขณะเดียวกัน Brenden (Joel Edgerton) พี่ชายของTommy อดีตนักมวยซึ่งผันตัวมาเป็นครูฟิสิกส์ กำลังประสบปัญหาทางการเงิน จึงต้องลงเเข่งเพื่อนำเงินมาดูเเลครอบครัว ทำให้ทั้งสองพี่น้องบังเอิญต้องลงนวมในสังเวียนเดียวกัน
อาจฟังดูค่อนข้างไร้เหตุผลในเหตุบังเอิญที่สองพี่น้องต้องมาห่ำหั่นกันเองในสังเวียนเเต่หนังกลับเล่าปมประเด็นครอบครัวได้หนักแน่นมากๆ ซึ่งประเด็นของพี่และน้องต่างมีเหตุผลในกระทำที่ค่อนข้างสะเทือนใจโดยใช้เวลาเกือบครึ่งเรื่องไปกับปัญหาครอบครัวส่วนใหญ่มากกว่าที่จะเน้นฉากต่อสู้ เเต่ถึงอย่างนั้นฉากในสังเวียนก็ทำได้กดดันดีมากเลยทีเดียว
สิ่งที่ชอบในหนังคือความซีเรียสในการสนทนาระหว่างตัวละครเพราะตัวละครหลักๆอย่าง Tommy, Brenden และ Paddy ผู้เป็นพ่อ มีความตึงเครียดในความสัมพันธ์อย่างมากรวมถึงปมในอดีตที่เลวร้ายของเเต่ละคนอีกด้วย ประกอบกับระหว่างบทสนทนาจะแทบไม่มีซาวแทรคแทรกหรือคลอเลยทำให้ยิ่งรู้สึกเครียดโดยตัวของบทเองทั้งหมดในทุกครั้งที่ตัวละครต้องคุยกันและในฉากสุดท้ายก็ทิ้งเพลงเพราะๆ อย่าง About Today - The National ให้เฉือนใจคนดูอย่างลึกซึ้ง
สรุปเเล้ว Warrior เป็นหนังดราม่าซึ้งๆเกี่ยวกับครอบครัวของนักมวยที่มากกว่าที่จะเน้นความมันส์ในการต่อสู้
8.5/10
_____________________________________________
ติดตามรีวิวหนังของเราต่อได้ที่ เพจ หนังเรื่องนี้ละครับจารย์
https://www.facebook.com/whataboutthismov/