อาทิตย์ที่แล้วเขียน “หลงกรุง” ไปเรื่อยเปื่อยเพื่อต้องการฆ่าเวลารอดูมวยโลกอย่างศรีสะเกษ อาทิตย์นี้ก็มาอีกแล้ว!! มีคู่มวยหยุดระหว่างคาเนลโล่ กับทริปเปิ้ลจี (GGG) ที่ต้องอดตาหลับขับตานอนรอดูการชกสดๆอันนี้ถือว่าเป็นมวยหยุดโลกจริงๆ ซึ่งคนที่ติดตามมวยก็จะรู้ดี.....
ในอดีต เราเคยมีอดีตนักมวยท่านหนึ่งที่สร่างคุณงามความดีไว้ให้กับประเทศไทยในปัจจุบันของเราเอาไว้ ลืมสมรักษ์นักมวยเหรียญทองโอลิมปิคคนแรก ลืมเขาทรายนักมวยที่ป้องกันแชมป์ได้อย่างยาวนาน ลืมโผนที่เป็นแชมป์คนแรกของไทย หรือลืมแม้กระทั่งศรีสะเกษ นักมวยอันดับหนึ่งของเอเชียตอนนี้ได้เลย เพราะผลงานของนักมวยเหล่านี้ไม่อาจเทียบกับอดีตนักมวยที่ผมกำลังจะพูดถึงซึ่งมีนามว่า “จ้อย” หรือนายทองดีฟันขาว เด็กบ้านนอกจากอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
จ้อยเป็นนักมวยอาจหาญกล้าต่อกรกับ “เด็ก” ของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ตนอยู่ จนต้องหนีกระเซอะกระเซิงออกจากบ้านตัวเองไปอาศัยบารมีพระยาตาก(สิน)คุ้มหัวด้วยการโชว์ฝีไม้ลายมือมวยไทย แล้วถูกชักชวนให้มารับราชการที่เมืองตาก เขาไต่เต้าจนได้เป็นทหารเอกของพระยาตาก ตีฝ่าลงล้อมพม่าก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตก(ครั้งทีสอง)ไปพร้อมๆ กับพระยาตาก(สิน) แล้วหวนกลับมา “กู้เอกราช” ให้กับอยุธยาได้ในระยะเวลาอันสั้น วีรกรรมที่เขาต่อสู้กับทหารพม่าชนิดเลือดทาแผ่นดินจนดาบหักคามือนั้นถูกยกย่องกลายเป็น “สัญญลักษณ์แห่งความรักชาติ” ที่ถูกสอนแก่อนุชนรุ่นหลังๆ ต่อมา แต่อนิจา....ใครเลยจะเชื่อว่าของพระยาพิชัยดาบหักผู้เป็นสัญญลักษณ์แห่งความรักชาติและผ่านสงครามมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำอย่างยากที่จะหาผู้อื่นเสมอเหมือนได้จะมีจุดจบชนิดหักมุมอย่างไม่น่าเชื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากน้ำมือ “คนไทย” ด้วยกันเอง???
ปัจจุบันอดีตนักมวยที่เล่นการเมืองและได้เป็นถึงรัฐมนตรีก็คือท่านพูนสวัสดิ์ มูลศาสตรสาธรหรือ “
ปราบธรณี เมืองสุรินทร์” จขกท. เองก็เคยผ่านสังเวียนเหยียบผืนผ้าใบมาบ้างแม้จะไม่เยอะ แต่ก็ทำให้รู้ว่าอาชีพนักมวยนอกจากจะอยู่ในกฏวินัยแล้ว ยังต้องเหนื่อยและเจ็บตัวทุกครั้ง จึงไม่คิดจะเอาทีทางนี้เลย ในภาพข้างล่างเป็นภาพที่ จขกท. (ปักกางเกงว่า "อีสานที่รัก")ชกชนะน็อคได้เงินเดิมพัน แต่ต่อมาคู่ต่อสู้ขอชกแก้มือ ซึ่งจขกท. ถูกเข่ากระทุ้งเข้าท้องหลายดอกจนต้องทรุดลงไปนอนหมอบกระแต(ราบคาบ)บนเวทีให้กรรมการนับถึงสิบไป และนั่นเป็นไฟต์สุดท้ายของจขกท. รสชาตของการถูกน็อคบนเวทีนอกจากจะเจ็บปวดแล้ว ยังรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากด้วย
.....นักมวยกับการเมือง..../วัชรานนท์
ในอดีต เราเคยมีอดีตนักมวยท่านหนึ่งที่สร่างคุณงามความดีไว้ให้กับประเทศไทยในปัจจุบันของเราเอาไว้ ลืมสมรักษ์นักมวยเหรียญทองโอลิมปิคคนแรก ลืมเขาทรายนักมวยที่ป้องกันแชมป์ได้อย่างยาวนาน ลืมโผนที่เป็นแชมป์คนแรกของไทย หรือลืมแม้กระทั่งศรีสะเกษ นักมวยอันดับหนึ่งของเอเชียตอนนี้ได้เลย เพราะผลงานของนักมวยเหล่านี้ไม่อาจเทียบกับอดีตนักมวยที่ผมกำลังจะพูดถึงซึ่งมีนามว่า “จ้อย” หรือนายทองดีฟันขาว เด็กบ้านนอกจากอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
จ้อยเป็นนักมวยอาจหาญกล้าต่อกรกับ “เด็ก” ของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ตนอยู่ จนต้องหนีกระเซอะกระเซิงออกจากบ้านตัวเองไปอาศัยบารมีพระยาตาก(สิน)คุ้มหัวด้วยการโชว์ฝีไม้ลายมือมวยไทย แล้วถูกชักชวนให้มารับราชการที่เมืองตาก เขาไต่เต้าจนได้เป็นทหารเอกของพระยาตาก ตีฝ่าลงล้อมพม่าก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตก(ครั้งทีสอง)ไปพร้อมๆ กับพระยาตาก(สิน) แล้วหวนกลับมา “กู้เอกราช” ให้กับอยุธยาได้ในระยะเวลาอันสั้น วีรกรรมที่เขาต่อสู้กับทหารพม่าชนิดเลือดทาแผ่นดินจนดาบหักคามือนั้นถูกยกย่องกลายเป็น “สัญญลักษณ์แห่งความรักชาติ” ที่ถูกสอนแก่อนุชนรุ่นหลังๆ ต่อมา แต่อนิจา....ใครเลยจะเชื่อว่าของพระยาพิชัยดาบหักผู้เป็นสัญญลักษณ์แห่งความรักชาติและผ่านสงครามมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำอย่างยากที่จะหาผู้อื่นเสมอเหมือนได้จะมีจุดจบชนิดหักมุมอย่างไม่น่าเชื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากน้ำมือ “คนไทย” ด้วยกันเอง???
ปัจจุบันอดีตนักมวยที่เล่นการเมืองและได้เป็นถึงรัฐมนตรีก็คือท่านพูนสวัสดิ์ มูลศาสตรสาธรหรือ “ปราบธรณี เมืองสุรินทร์” จขกท. เองก็เคยผ่านสังเวียนเหยียบผืนผ้าใบมาบ้างแม้จะไม่เยอะ แต่ก็ทำให้รู้ว่าอาชีพนักมวยนอกจากจะอยู่ในกฏวินัยแล้ว ยังต้องเหนื่อยและเจ็บตัวทุกครั้ง จึงไม่คิดจะเอาทีทางนี้เลย ในภาพข้างล่างเป็นภาพที่ จขกท. (ปักกางเกงว่า "อีสานที่รัก")ชกชนะน็อคได้เงินเดิมพัน แต่ต่อมาคู่ต่อสู้ขอชกแก้มือ ซึ่งจขกท. ถูกเข่ากระทุ้งเข้าท้องหลายดอกจนต้องทรุดลงไปนอนหมอบกระแต(ราบคาบ)บนเวทีให้กรรมการนับถึงสิบไป และนั่นเป็นไฟต์สุดท้ายของจขกท. รสชาตของการถูกน็อคบนเวทีนอกจากจะเจ็บปวดแล้ว ยังรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากด้วย