นิทานขนานโลก #ตอนสุดท้าย - นักเปลี่ยนโลก
ดินสอน้ำหมึก
ณ ตอนนี้ผมอยู่หน้าคอมเวลา เที่ยงคืนสิบสี่นาที
ถ้าใครได้ลองมองลอดผ่านช่องประตูห้องส่วนตัวของผม
ก็คงจะได้เห็น ภาพที่แสนจะประหลาดยิ่งนัก
ของสะสมที่ล้วนเกี่ยวข้องกับโลก
ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ บทความงานวิจัย ที่แทบจะมาจากทั่วทุกมุมโลก
ไม่เพียงแค่นั้น ขนาดโมเดลของโลก รวมไปถึงภาพถ่ายต่างๆ
ล้วนถูกแปะไว้ ราวกับเป็นวอลเปเปอร์ติดผนัง
ทุกคนในหอพักก็ล้วนได้เห็นจนเป็นภาพที่ชินตาไปเสียแล้ว
ที่น่าแปลกกว่าสำหรับหลายๆคนคือ
ผมมักจะบอกทุกคนที่มาถามถึงสิ่งที่ผมทำ
และผมก็บอกพวกเขาว่า ผมกำลัง
“เปลี่ยนโลก”
………………
………
…
ถ้าจะบอกว่า ผมเคยปั่นจักรยานรอบโลกมาแล้ว หลายๆคนคงเชื่อ
แต่หลายคนจะเชื่อใหม่ว่า
ผมเคยหามุมดีๆเพื่อจะเปลี่ยนรูปร่างของโลกให้กลายเป็น
“สี่เหลี่ยม”
ด้วยเหตุใดนั้นหรือ
คงต้องย้อนไปตอนเด็กในชั่วโมง….ศิลปะ
ผมยังจำรูปวาด ที่อาจารย์ให้วาดได้เป็นอย่างดี
มันผิดตรงไหนที่ผมจะวาดรูปโลกเป็นสี่เหลี่ยม
6/10
คะแนนที่อาจารย์แกล้งให้ดีใจเล่นๆเสียมากกว่า
ดูไอ้ป๋องสิ รูปธรรมดา
ไร้ซึ่ง
จินตนาการ
ดันได้คะแนนมากกว่าผมเสียอีก
พอถึงชั่วโมง….วิทยาศาสตร์
ผมไม่รอช้าที่จะ วิ่งกรูเข้าไปหาครูน้อย
“มันจะพอเป็นไปได้ไหมครับ
ที่ผมจะทำให้โลกเป็นสี่เหลี่ยม”
ครูลูบหัวแล้วยิ้มให้ ราวกับเอ็นดู
“สักวันเธอจะต้องเปลี่ยนโลกได้อย่างแน่นอน”
…………………………………….
……………………
……..
ใช้เวลาอยู่หลายปีทีเดียวที่พยายามตัดโลกเป็นสี่เหลี่ยม
เมื่อลองเปรียบเทียบภาพถ่ายจากหลายๆปีที่ผ่านมา
โลกก็ไม่เห็นจะเหลี่ยมขึ้นแต่อย่างใด
แน่นอน
ผมก็เริ่มท้อใจ
ผมเริ่มไม่เข้าใจว่าผมจะสามารถเปลี่ยนโลกนี้ได้อย่างไร
ภาพถ่ายรูปโลกที่ถูกถ่ายไว้ตลอดทุกเดือน ในระยะเวลาหลายปี
เตรียมจะถูกเผาทิ้ง
ราวกับเป็นบทภาพยนตร์ที่ตั้งไว้ เมื่อยามพระเอกท้อใจ
ช่วงเวลาที่มองภาพเหล่านั้น
ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้วว่าผมจะเปลี่ยนโลกใบนี้ได้เช่นไร
………………………………..
………………
…….
ทุกวันนี้ผมพยายามหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
ภาพถ่ายที่ไว้ใช้เปรียบเทียบโลกในทุกๆเดือน
ล้วนถูกแปะไว้ราวกับวอลเปเปอร์
ข้อมูลเรื่องสภาพแวดล้อมจากทั่วทุกมุมโลก ถูกส่งมาให้ผมเผยแพร่ไปสู่สาธารณะ
เพราะ “โลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว”
โดยที่ผมไม่รู้ตัว
โลกสี่เหลี่ยมคงเป็นเรื่องน่าขันไปเสียอีก
หากรู้ว่าโลกกำลังจะเปลี่ยนไปเกินกว่าเราจะจินตนาการได้
และเหตุนี้เอง
ผมจึงต้อง “เปลี่ยนโลก”
...............................................................................................................................................................................
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา นี้คงจะเป็นตอนสุดท้ายของนิทานขนานโลก
นิทานขนานโลกเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม ปี 2554
เป็นช่วงเวลาที่ผมเริ่มเข้าปี 1 พอดี
ผมเริ่มต้นจาก blogspot ที่ใช้ชื่อบล็อกว่า “เขียนบนต้นไม้” จากนั้นก็ย้ายมา exteen โดยใช้ชื่อเดิม
จากนั้นพี่ชายผมก็เอามาลง pantip และ storylog
ราวกับเดินขนานอยู่บนโลกใบนี้ไปตามๆกัน หลายสิ่งหลายอย่างสอนผม ผมก็กลั่นออกมาเป็นนิทานให้ได้อ่าน ในช่วงเวลานั้น
แม้จะมีตอนที่ไม่ได้เยอะเท่าที่ควร ราวๆ 20 ตอน
ผมเชื่อว่าทุกคนมีฝันอันยิ่งใหญ่ แต่หลายครั้งหลายหน ราวกับว่ามันมีขนาดเกินตัวจนเรามองไม่เห็นในจุดเล็กๆ
ทำให้เรามองข้ามมันไป
พูดเช่นนี้ไปอาจจะพาลมองว่า ผมกลายเป็นคนที่หมดไฟ
จนไม่อาจจะมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ไปอีก
แท้จริงแล้วผมยังเชื่อมั่น และ ศรัทธาในเรื่องของ “ความหวัง” และ “ความฝัน” อยู่เสมอ
หากแต่เราต้องมี “สติ” อยู่ตลอดเวลาที่เราใช้ชีวิต นี้คือสิ่งที่อยากจะฝากเอาไว้
“เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ยังเดินขนานอยู่บนโลกใบนี้”
ดินสอน้ำหมึก
ปล 1. คิดถึงทุกคนที่เคยอ่าน “นิทานขนานโลก” ตั้งแต่ exteen จนถึง pantip นะครับ
คอมเม้น หรือ ส่งหลังไมค์ทักทายกันได้นะครับ
ขอบคุณที่ติดตามมาตั้งแต่คราวนู้นนะ
ปล 2. ยังไม่หยุดเขียนหรอกครับ แต่อาจจะเขียนอะไรใหม่ๆให้ได้อ่านกัน
รอติดตามกันนะครับ
^^
นิทานขนานโลก #ตอนสุดท้าย - นักเปลี่ยนโลก
ดินสอน้ำหมึก
ถ้าใครได้ลองมองลอดผ่านช่องประตูห้องส่วนตัวของผม
ก็คงจะได้เห็น ภาพที่แสนจะประหลาดยิ่งนัก
ของสะสมที่ล้วนเกี่ยวข้องกับโลก
ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ บทความงานวิจัย ที่แทบจะมาจากทั่วทุกมุมโลก
ไม่เพียงแค่นั้น ขนาดโมเดลของโลก รวมไปถึงภาพถ่ายต่างๆ
ล้วนถูกแปะไว้ ราวกับเป็นวอลเปเปอร์ติดผนัง
ทุกคนในหอพักก็ล้วนได้เห็นจนเป็นภาพที่ชินตาไปเสียแล้ว
ที่น่าแปลกกว่าสำหรับหลายๆคนคือ
ผมมักจะบอกทุกคนที่มาถามถึงสิ่งที่ผมทำ
และผมก็บอกพวกเขาว่า ผมกำลัง
“เปลี่ยนโลก”
………………
………
…
ถ้าจะบอกว่า ผมเคยปั่นจักรยานรอบโลกมาแล้ว หลายๆคนคงเชื่อ
แต่หลายคนจะเชื่อใหม่ว่า
ผมเคยหามุมดีๆเพื่อจะเปลี่ยนรูปร่างของโลกให้กลายเป็น
“สี่เหลี่ยม”
ด้วยเหตุใดนั้นหรือ
คงต้องย้อนไปตอนเด็กในชั่วโมง….ศิลปะ
ผมยังจำรูปวาด ที่อาจารย์ให้วาดได้เป็นอย่างดี
มันผิดตรงไหนที่ผมจะวาดรูปโลกเป็นสี่เหลี่ยม
6/10
คะแนนที่อาจารย์แกล้งให้ดีใจเล่นๆเสียมากกว่า
ดูไอ้ป๋องสิ รูปธรรมดา
ไร้ซึ่ง
จินตนาการ
ดันได้คะแนนมากกว่าผมเสียอีก
พอถึงชั่วโมง….วิทยาศาสตร์
ผมไม่รอช้าที่จะ วิ่งกรูเข้าไปหาครูน้อย
“มันจะพอเป็นไปได้ไหมครับ
ที่ผมจะทำให้โลกเป็นสี่เหลี่ยม”
ครูลูบหัวแล้วยิ้มให้ ราวกับเอ็นดู
“สักวันเธอจะต้องเปลี่ยนโลกได้อย่างแน่นอน”
…………………………………….
……………………
……..
ใช้เวลาอยู่หลายปีทีเดียวที่พยายามตัดโลกเป็นสี่เหลี่ยม
เมื่อลองเปรียบเทียบภาพถ่ายจากหลายๆปีที่ผ่านมา
โลกก็ไม่เห็นจะเหลี่ยมขึ้นแต่อย่างใด
แน่นอน
ผมก็เริ่มท้อใจ
ผมเริ่มไม่เข้าใจว่าผมจะสามารถเปลี่ยนโลกนี้ได้อย่างไร
ภาพถ่ายรูปโลกที่ถูกถ่ายไว้ตลอดทุกเดือน ในระยะเวลาหลายปี
เตรียมจะถูกเผาทิ้ง
ราวกับเป็นบทภาพยนตร์ที่ตั้งไว้ เมื่อยามพระเอกท้อใจ
ช่วงเวลาที่มองภาพเหล่านั้น
ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้วว่าผมจะเปลี่ยนโลกใบนี้ได้เช่นไร
………………………………..
………………
…….
ทุกวันนี้ผมพยายามหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
ภาพถ่ายที่ไว้ใช้เปรียบเทียบโลกในทุกๆเดือน
ล้วนถูกแปะไว้ราวกับวอลเปเปอร์
ข้อมูลเรื่องสภาพแวดล้อมจากทั่วทุกมุมโลก ถูกส่งมาให้ผมเผยแพร่ไปสู่สาธารณะ
เพราะ “โลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว”
โดยที่ผมไม่รู้ตัว
โลกสี่เหลี่ยมคงเป็นเรื่องน่าขันไปเสียอีก
หากรู้ว่าโลกกำลังจะเปลี่ยนไปเกินกว่าเราจะจินตนาการได้
และเหตุนี้เอง
ผมจึงต้อง “เปลี่ยนโลก”
...............................................................................................................................................................................
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา นี้คงจะเป็นตอนสุดท้ายของนิทานขนานโลก
นิทานขนานโลกเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม ปี 2554
เป็นช่วงเวลาที่ผมเริ่มเข้าปี 1 พอดี
ผมเริ่มต้นจาก blogspot ที่ใช้ชื่อบล็อกว่า “เขียนบนต้นไม้” จากนั้นก็ย้ายมา exteen โดยใช้ชื่อเดิม
จากนั้นพี่ชายผมก็เอามาลง pantip และ storylog
ราวกับเดินขนานอยู่บนโลกใบนี้ไปตามๆกัน หลายสิ่งหลายอย่างสอนผม ผมก็กลั่นออกมาเป็นนิทานให้ได้อ่าน ในช่วงเวลานั้น
แม้จะมีตอนที่ไม่ได้เยอะเท่าที่ควร ราวๆ 20 ตอน
ผมเชื่อว่าทุกคนมีฝันอันยิ่งใหญ่ แต่หลายครั้งหลายหน ราวกับว่ามันมีขนาดเกินตัวจนเรามองไม่เห็นในจุดเล็กๆ
ทำให้เรามองข้ามมันไป
พูดเช่นนี้ไปอาจจะพาลมองว่า ผมกลายเป็นคนที่หมดไฟ
จนไม่อาจจะมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ไปอีก
แท้จริงแล้วผมยังเชื่อมั่น และ ศรัทธาในเรื่องของ “ความหวัง” และ “ความฝัน” อยู่เสมอ
หากแต่เราต้องมี “สติ” อยู่ตลอดเวลาที่เราใช้ชีวิต นี้คือสิ่งที่อยากจะฝากเอาไว้
“เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ยังเดินขนานอยู่บนโลกใบนี้”
ดินสอน้ำหมึก
ปล 1. คิดถึงทุกคนที่เคยอ่าน “นิทานขนานโลก” ตั้งแต่ exteen จนถึง pantip นะครับ
คอมเม้น หรือ ส่งหลังไมค์ทักทายกันได้นะครับ
ขอบคุณที่ติดตามมาตั้งแต่คราวนู้นนะ
ปล 2. ยังไม่หยุดเขียนหรอกครับ แต่อาจจะเขียนอะไรใหม่ๆให้ได้อ่านกัน
รอติดตามกันนะครับ
^^