สวัสดีค่าาาา วันนี้มาตามสัญญาหลังจากจบทริปฮานอย ซาปา ฮาลองเบย์ จะมารีวิวให้ฟังค่ะ
ตอนแรกเราวางแผนไปกับเพื่อนทั้งหมด 4 คน ญ ล้วน
ปรากฏว่าลองมาโพสชวนเพื่อนในพันทิปได้เพื่อนใหม่เพื่อนอีก 3 คนค่ะ
แพลนตอนแรกตามนี้ค่ะ
http://ppantip.com/topic/35420354 แต่เกิดaccident นิดหน่อยเลยต้องเลื่อนไฟต์ ถึงฮานอย 5 โมงเย็น
วันที่ 11 ส.ค ค่ะ รับกระเป๋าเสร็จสรรพก็เดินมารอรถเมย์สาย 86 สีส้ม เข้าเมืองฮานอยกันค่ะ จากสนามบินเข้าตัวเมืองราวๆ 40 นาทีค่ะ
ราคาตั๋วรถ 30,000 เวียดนามด่ง ประมาณ 47 บาทไทย นั่งรถเมย์สะดวก สะอาด ปลอดภัย
ไม่ต้องห่วงว่าจะสื่อสารกับคนเก็บตั๋วเก็บตังไม่ได้นะคะ อิ้งค์เขานี่คล่องปรือเลยค่ะ อีกอย่างมีไวไฟฟรี แรง บนรถเมย์ให้เล่นฟรีด้วยนะคะ
แน่นอนว่าต้องมีอัพลงอัพรูปและต้องใช้เนตใช่ไหมคะ ที่จริงสนามบินมีขายซิมเนตค่ะ แต่เรามาซื้อข้างนอก ซิมละ 50,000 + ค่าบัตรเติมเงินอีก 100,000 ด่ง ซึ่งจะถูกกว่าซื้อในสนามบิน 50,000 หรือ 80 บ.ค่ะ เราซื้อซิมของ Viettel เติมเงินเสร็จก็พิมพ์ข้อความว่า MIMAX1.5 ส่งไปที่ 191 รอข้อความตอบกลับที่ลงท้ายว่า Tran trong ก็เล่นเนตได้ไม่อั้นแล้วค่ะ แต่ถ้าใครสะดวกซื้อที่สนามบินเลยก็ได้นะคะ
กว่าจะเข้ามาถึงในตัวเมืองได้ก็หกโมงกว่าๆ เริ่มหิวกันแล้วแหละค่ะ พวกเราลงป้ายหน้าโรงแรม Meria ค่ะ ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติจะลงหน้าโรงละครฮานอยกัน เพราะเป็นใจกลางเมือง หาที่พักง่าย แต่พวกเรานั่งเลยมาอีกป้ายหนึ่งเพื่อจะมากิน Lẩu Thái เหล่ว ถาย ข้างๆโรงแรมมีเรียค่ะ และจะได้สะดวกต่อการเดินไปแลกตังทีถนนห่าจรุง Hà Trung ด้วยค่ะ ถนนนี้จะแลกตังไทยได้มากกว่าที่ธนาคาร ปกติเราแลกได้ประมาณ ̉640 ด่งต่อ 1 บาทค่ะ แต่วันนั้นเราไปดึกเลยแลกได้ 630 ด่งค่ะ มาที่มื้อแรกของพวกเรา คือ เหล่ว คล้ายสุกี้ ส่วนคำว่า ถ้าย หมายถึง ไทย ค่ะ มื้อแรกขอกินอาหารไทยเผ็ดๆก่อนกลัวไม่มีแรงค่ะ
หลังจากแลกตังทานข้าวเสร็จสรรพ 20.00 น. พวกเราก็เดินมาทานกาแฟกันที่สตาบัค นั่งพักเหนื่อย เปลี่ยนชุดนอนเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถนอนไปซาปากันค่ะ
ราคาสตาบัคที่นี่ก็เท่าๆกับที่ไทยค่ะ
หลังจากนั้นก็นั่งแท็กซี่หมดไป 30,000 ด่ง มาลงหน้าบริษัทรถ queen sapa bus ตั๋วรถนอนไปซาปานี้เราจองผ่านเว็บค่ะ ส่วนตังจ่ายก่อนขึ้นรถเลยค่ะ ราคาตั๋วไปกลับคนละ 400,000 ด่ง (625 บาท) ขึ้นรถ 22.00 น. ถึงซาปา 03.30 น. นอนบนรถแอร์เย็นสบายผ่านค่ะ
ก่อนขึ้นรถต้องถอดรองเท้าใส่ถุงดำรักษาความสะอาดกันนิดหนึ่ง
มาถึงซาปาตี3 ครึ่ง คนขับรถก็บอกให้นอนรอบนรถต่อก่อน เช้ามาค่อยออกเที่ยว แต่พวกเราอยากเก็บของอาบน้ำเลยตัดสินใจนั่งแท็กซี่มารร.เลย ราคาแท็กซี่ที่นี่ถูกว่าไทยมากเราเลยไม่ได้จำว่าแต่ละครั้งเท่าไหร่ค่ะ แต่ละรอบ 50 60 บาทเองค่ะ พวกเราจองโรงแรม
Cosiana hotel sapa ใครสะดวกจองในอโกด้าก็ได้นะคะ แต่พอดีเราโทรจองแล้วจ่ายมัดจำครึ่งหนึ่งเลย ราคาห้อง 750,000 ด่ง
พันสองร้อยบาทไทย นอนได้สองคนค่ะ ถ้าสามคนเพิ่มอีก 200,000 ด่ง ประมาณ 300 บ. ตามจริงต้องเช็คอินเที่ยงค่ะ แต่เราขอเข้าที่พักก่อน จ่ายเพิ่มอีก 300,000 ด่งประมาณห้าร้อยบาท แต่ห้าร้อยบาทนี่คือหารห้าคนนะคะ บอกเลยว่าวิวห้องนี่ฟินมากกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว ฟินบรรยากาศที่ห้องพักแทบไม่อยากออกไปไหนเลยค่ะ ปล.ราคารวมอาหารเช้าแล้วนะคะ
วิวอีกห้องค่ะ โรงแรมและบ้านเรือนจะตั้งตามไหล่เขาลงมา ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบค่ะ
พอเข้าที่พักอาบน้ำเสร็จ พวกเราก็เตรียมตัวออกเดินทางไปพิชิตยอดเขาซานซีฟัง มีฉายาว่าหลังคาอินโดจีน ซึ่งสูงที่สุดในเวียดนาม 3,143 เมตร โดยการนั่งกระเช้าค่ะ ถ้าเดินขึ้นใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสองวันซึ่งพวกเรามีเวลาไม่พอค่ะ ไว้พรุ่งนี้จะมารีวิวการเดินทางไปพิชิตยอดเขาฟานซีฟังให้ฟังนะคะ
[CR] 5 วัน 4 คืน Hanoi - Sapa - Ha Long Bay
ตอนแรกเราวางแผนไปกับเพื่อนทั้งหมด 4 คน ญ ล้วน ปรากฏว่าลองมาโพสชวนเพื่อนในพันทิปได้เพื่อนใหม่เพื่อนอีก 3 คนค่ะ
แพลนตอนแรกตามนี้ค่ะ http://ppantip.com/topic/35420354 แต่เกิดaccident นิดหน่อยเลยต้องเลื่อนไฟต์ ถึงฮานอย 5 โมงเย็น
วันที่ 11 ส.ค ค่ะ รับกระเป๋าเสร็จสรรพก็เดินมารอรถเมย์สาย 86 สีส้ม เข้าเมืองฮานอยกันค่ะ จากสนามบินเข้าตัวเมืองราวๆ 40 นาทีค่ะ
ราคาตั๋วรถ 30,000 เวียดนามด่ง ประมาณ 47 บาทไทย นั่งรถเมย์สะดวก สะอาด ปลอดภัย
ไม่ต้องห่วงว่าจะสื่อสารกับคนเก็บตั๋วเก็บตังไม่ได้นะคะ อิ้งค์เขานี่คล่องปรือเลยค่ะ อีกอย่างมีไวไฟฟรี แรง บนรถเมย์ให้เล่นฟรีด้วยนะคะ แน่นอนว่าต้องมีอัพลงอัพรูปและต้องใช้เนตใช่ไหมคะ ที่จริงสนามบินมีขายซิมเนตค่ะ แต่เรามาซื้อข้างนอก ซิมละ 50,000 + ค่าบัตรเติมเงินอีก 100,000 ด่ง ซึ่งจะถูกกว่าซื้อในสนามบิน 50,000 หรือ 80 บ.ค่ะ เราซื้อซิมของ Viettel เติมเงินเสร็จก็พิมพ์ข้อความว่า MIMAX1.5 ส่งไปที่ 191 รอข้อความตอบกลับที่ลงท้ายว่า Tran trong ก็เล่นเนตได้ไม่อั้นแล้วค่ะ แต่ถ้าใครสะดวกซื้อที่สนามบินเลยก็ได้นะคะ
กว่าจะเข้ามาถึงในตัวเมืองได้ก็หกโมงกว่าๆ เริ่มหิวกันแล้วแหละค่ะ พวกเราลงป้ายหน้าโรงแรม Meria ค่ะ ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติจะลงหน้าโรงละครฮานอยกัน เพราะเป็นใจกลางเมือง หาที่พักง่าย แต่พวกเรานั่งเลยมาอีกป้ายหนึ่งเพื่อจะมากิน Lẩu Thái เหล่ว ถาย ข้างๆโรงแรมมีเรียค่ะ และจะได้สะดวกต่อการเดินไปแลกตังทีถนนห่าจรุง Hà Trung ด้วยค่ะ ถนนนี้จะแลกตังไทยได้มากกว่าที่ธนาคาร ปกติเราแลกได้ประมาณ ̉640 ด่งต่อ 1 บาทค่ะ แต่วันนั้นเราไปดึกเลยแลกได้ 630 ด่งค่ะ มาที่มื้อแรกของพวกเรา คือ เหล่ว คล้ายสุกี้ ส่วนคำว่า ถ้าย หมายถึง ไทย ค่ะ มื้อแรกขอกินอาหารไทยเผ็ดๆก่อนกลัวไม่มีแรงค่ะ
หลังจากแลกตังทานข้าวเสร็จสรรพ 20.00 น. พวกเราก็เดินมาทานกาแฟกันที่สตาบัค นั่งพักเหนื่อย เปลี่ยนชุดนอนเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถนอนไปซาปากันค่ะ
ราคาสตาบัคที่นี่ก็เท่าๆกับที่ไทยค่ะ
หลังจากนั้นก็นั่งแท็กซี่หมดไป 30,000 ด่ง มาลงหน้าบริษัทรถ queen sapa bus ตั๋วรถนอนไปซาปานี้เราจองผ่านเว็บค่ะ ส่วนตังจ่ายก่อนขึ้นรถเลยค่ะ ราคาตั๋วไปกลับคนละ 400,000 ด่ง (625 บาท) ขึ้นรถ 22.00 น. ถึงซาปา 03.30 น. นอนบนรถแอร์เย็นสบายผ่านค่ะ
ก่อนขึ้นรถต้องถอดรองเท้าใส่ถุงดำรักษาความสะอาดกันนิดหนึ่ง
มาถึงซาปาตี3 ครึ่ง คนขับรถก็บอกให้นอนรอบนรถต่อก่อน เช้ามาค่อยออกเที่ยว แต่พวกเราอยากเก็บของอาบน้ำเลยตัดสินใจนั่งแท็กซี่มารร.เลย ราคาแท็กซี่ที่นี่ถูกว่าไทยมากเราเลยไม่ได้จำว่าแต่ละครั้งเท่าไหร่ค่ะ แต่ละรอบ 50 60 บาทเองค่ะ พวกเราจองโรงแรม Cosiana hotel sapa ใครสะดวกจองในอโกด้าก็ได้นะคะ แต่พอดีเราโทรจองแล้วจ่ายมัดจำครึ่งหนึ่งเลย ราคาห้อง 750,000 ด่ง พันสองร้อยบาทไทย นอนได้สองคนค่ะ ถ้าสามคนเพิ่มอีก 200,000 ด่ง ประมาณ 300 บ. ตามจริงต้องเช็คอินเที่ยงค่ะ แต่เราขอเข้าที่พักก่อน จ่ายเพิ่มอีก 300,000 ด่งประมาณห้าร้อยบาท แต่ห้าร้อยบาทนี่คือหารห้าคนนะคะ บอกเลยว่าวิวห้องนี่ฟินมากกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว ฟินบรรยากาศที่ห้องพักแทบไม่อยากออกไปไหนเลยค่ะ ปล.ราคารวมอาหารเช้าแล้วนะคะ
วิวอีกห้องค่ะ โรงแรมและบ้านเรือนจะตั้งตามไหล่เขาลงมา ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบค่ะ
พอเข้าที่พักอาบน้ำเสร็จ พวกเราก็เตรียมตัวออกเดินทางไปพิชิตยอดเขาซานซีฟัง มีฉายาว่าหลังคาอินโดจีน ซึ่งสูงที่สุดในเวียดนาม 3,143 เมตร โดยการนั่งกระเช้าค่ะ ถ้าเดินขึ้นใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสองวันซึ่งพวกเรามีเวลาไม่พอค่ะ ไว้พรุ่งนี้จะมารีวิวการเดินทางไปพิชิตยอดเขาฟานซีฟังให้ฟังนะคะ