เหนื่อยจิตเพลียชีวิตคู่ จะอยู่หรือไป!! ควรทำอย่างไรเมื่อเขาเอาเเต่ใจ หรือว่าเราไม่ได้ดังใจเขา?

ดิฉันเเต่งงานมาเกือบ2 ปีเเล้วค่ะ เเละก็มีลูกน้อย 1 คน อายุ 1 ขวบ 3 เดือน

เเต่เชื่อไหมคะ ว่าสามีกับดิฉันไม่ได้อยู่ด้วยกันค่ะ เอาจริงๆ 2 ปีที่ผ่านมา ได้อยู่กับสามี จริงๆจังประมาณ 3 เดือน



เพราะว่าเราทำงานคนละประเทศค่ะ ด้วยความจำเป็นหลายๆประการของดิฉัน ทำให้เราไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างคนอื่นเลย

สามีของดิฉันเป็นชาวต่างชาติค่ะ (อังกฤษ) เเละ ก็เดินทางมาเยี่ยมดิฉันกับลูกบ้างปีละ 2 ครั้ง



เขานับว่าเป็นพ่อที่ดีมากค่ะ รักเเละห่วงใยลูก เเละพยายามช่วยเหลือมีส่วนร่วมในการเลี้ยงลูก เท่าที่เขาพอจะมีโอกาสได้ทำ ข้อนี้ดิฉันถือเป็นข้อดีมากที่สุดเท่าที่ดิฉันเห็นมาตลอดในชีวิตเเต่งงาน



สามีของดิฉันอายุ 40 ค่ะ เหล้าไม่ดื่มมาก ไม่เจ้าชู้หลังจากเเต่งงานเเล้ว ไม่ชอบอบายมุขทุกประการ เเต่มีข้อเสียที่ทำให้ดิฉันเเทบจะประสาทรับประทานคือ เขาเป็นคนเอาเเต่ใจอย่างมากถึงมากที่สุด ใจร้อนคือโกรธ เเละ หงุดหงิดง่าย เเถมเป็นคนคิดมากเเละขี้อิจฉาพอสมควร



นิสัยเเบบที่ว่ามานี่ บั่นทอนความสัมพันธ์บางๆของเราเเทบทุกวันค่ะ



ถ้าจะถามว่าดิฉันไม่รู้นิสัยของสามีก่อนเเต่งงานหรืออย่างไรดิฉันตอบอย่างไม่อายใครในโลกนี้ ว่าตอนคบดิฉันก็อาจรักชอบเขาอยู่บ้าง เเต่ไม่คิดถึงขั้นเเต่งงานเพราะว่า เพิ่งเริ่มชีวิตทำงาน ตอนคบกันก็ทะเลาะกันบ้าง เเต่ดิฉันก็ไม่ได้ใส่ใจ เเละ เขาก็ไม่ได้ "เยอะ" เหมือนทุกวันนี้ เขาขอดิฉันเพื่อใช่ชีวิตคู่ด้วยกัน เขาบอกว่าเพื่อเป็นหลักประกันว่าอย่างน้อยเขาจะได้ดูเเลรับผืดชอบเราได้เต็มที่ ตอนนั้นดิฉันดิฉันเพิ่งรู้ตัวว่าท้องด้วย เลยคิดว่า เขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เเละ ถ่าจะรักดิฉันจริง จึงตกลง

เราก็พยายาม สร้างชีวิตคู่ขึ้นมาจากการเเต่งงานเเบบไม่ค่อยพร้อม จนกระทั่งถึงวันนี้ ลุกอายุ ขวบกว่าเเล้ว ชีวิตคู่ก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล ทัศนคติของเราเกี่ยวกับชีวิตคู่เเทบจะเข้ากันไม่ได้ ดิฉันรักงาน เเละก็รักลูก ส่วนเขาดิฉันก็ยังรักอยู่ ส่วนเขาคิดว่าครอบครัวคือทุกสิ่งทุกอย่าง งานการช่างมัน เราต้องอุทิศชีวิตให้ครอบครัวเท่านั้น บางครั้งดิฉันรับงานนอกเสาร์อาทิตย์ เพื่อหารายได้เสริมบ้าง เขาก้ไม่พอใจ บอกว่า ทำไมไม่กลับบ้านไปดูลูก ทำไมไม่เป็นเเม่ที่ดี ดิฉันเจ็บใจมากกับคำนี้เพราะตลอดมา ดิฉันพยายามรักษาทั้งชีวิตครอบครัว เเละ หน้าที่การงานให้ไปด้วยกันได้ เหนื่อยค่ะ



ดิฉันทำงานต่างจังหวัดทางภาคอีสานค่ะ เพราะจำเป็นต้องไปใช้ทุนที่นั่น พ่อกับเเม่ของดิฉัน รับเลี้ยงดูหลานที่ กทม. ส่วนดิฉันพยายามขึ้นมาเยี่ยมเเทบทุกอาทิตย์ สามีได้เเต่สไกป์กับลุก ซึ่งเจอหน้าพ่อไม่กี่ครั้ง



ตอนนี้สามีดิฉันเริ่มออกอาการค่ะ เริ่มบ่นเเละกดดันขอให้ดิฉันลาออกจากงานไปอังกฤษ ดิฉันเข้าใจเขานะคะ ตอนเเรกขอว่าไว้ปีพศ 2561 ได้ไหมขอใช้ทุนให้เสร็จก่อน เขาก็ไม่ยอม ดิฉันก็ลดลงเหลือเป็นปีหน้ามกราคม เพื่อจะให้ทันเสร็จภาคการศึกษา ตอนเเรกเขาก็เหมือนจะยอม เเต่หลังๆนี่กดดันมากขึ้นๆๆ เหมือนจะให้ออกเดือนนี้เดือนหน้าให้ได้ ทนไม่ไหวเเล้วคิดถึงลูกเมีย



ดิฉันบอกว่าดิฉันเข้าใจ เเต่จะให้ทำไงคะ งานมันก็ทิ้งค้างไว้ไม่ได้ มันเป็นความรับผิดชอบ อธิบายก็เเล้วพูดดีก็เเล้ว หรือ ภาษาอังกฤษดิฉันมันเเย่ก็ไม่รู้เขายืนกรานกดดันจะเอาอย่างใจ ดิฉันปวดประสาทมากค่ะ เพราะคุยกันทีไรพูดถึงเเต่เรื่องนี้ๆอย่างเดียว คือว่าง่ายๆอ่ะค่ะ คือพูดไม่รู้เรื่องเเละไม่ฟังเหตุผลใดใดทั้งสิ้น เสาร์อาทิตย์ ดิฉันกลับมาเลี้ยงลุกที่ กทม เหนื่อยมากๆ เขาก็ยังกวนไม่เลิก พูดซ้ำๆวนไปวนมา ดิฉันเริ่มเบื่อที่จะคุย บางครั้งก็ทะเลาะกัน ดิฉันก็เก็บอารมณ์ไม่ไหวโวยวายใส่เขาก็มี



นอกจากเรื่องเอาเเต่ใจเเล้ว เขาเป็นคนขี้อิจฉาเเละขาดความมั่นใจในตัวเองด้วย เขาคิดมากกระทั่ง เพื่อยร่วมงานของดิฉันที่เป็นผู้หญิง เกย์ หรือใครๆก็ตามที่ดิฉันสนิทด้วย เขาจะไม่ชอบ พอรู้ว่าออกไปกับเพื่อนเขาจะพูดเหน็บเเนม ออกเเนวอิจฉาที่เพื่อนได้อยู่กับดิฉันเเละดิฉันมีความสุขดี ดิฉันเคยคิดว่าถ้าดิฉันลาออกไปเเล้วไปทำงานที่อังกฤษ เเละอาจเป็นงานที่มีตำแหน่งเงินเดือนดี มีเพื่อนร่วมงานต่างเพศ จะมีปัญหาเรื่องหึงหวงตามมาเเน่นอนเพราะเขามักจะคิดว่า ดิฉันจะไปหาคนอื่นที่พอใจมากกว่าเขา



ว่าง่ายๆคือ ดิฉันอึดอัดกับความสัมพันธ์เเบบนี้ค่ะ หลายครั้วที่เคยคุยกัน เหมือนเขาจะเข้าใจ เเต่ก็ทำเหมือนเดิมอีก สิ่งที่เป็นปัญหาชีวิตของดิฉันมาตลอดคือเรื่องนี้ เราพูดกันไม่เข้าใจ เขาจะเอาเเต่ใจเขาเพียงอย่างเดียว ขณะที่ดิฉันพยายามปรับเเล้ว จนกระทั่งเหนื่อยเพลียที่จะเคลียร์อะไรทั้งสิ้น อยากจะเลิกก็สงสารลูก สงสารสามีที่ยังรักลูกมาก



ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีค่ะ ทุกวันนี้ปิดมือถือไปแล้ว กลัวเป็นบ้าในที่ทำงานเพราะกดดันเเทบทุกวัน




ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่