“Student Exchang” หรือ “โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน” เป็นโครงการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้มีประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากประเทศตัวเอง เช่นได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติ ได้ฝึกภาษา ได้ท่องเที่ยวและพบเจอเพื่อนใหม่ๆอีกด้วย เป็นระยะเวลา 1ปีการศึกษาหรือว่าประมาณ10เดือน ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า หาประสบการณ์แบบนี้ไมได้อีกแล้ว ดังนั้นน้องๆไม่ควรพลาด ต้องลองไปสอบคัดเลือกกันดูจ้า
โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนคือ?
โครงการศึกษาต่อต่างประเทศสำหรับเด็กอายุ 14 ถึง 18 ปี หรือในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย 3-5 นักเรียนจะได้พักอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ (Host family) และเรียนในโรงเรียนรัฐบาลท้องถิ่นในประเทศที่นักเรียนได้เลือกไว้ เป็นระยะเวลา 1 ปีการศึกษา ซึ่งนักเรียนสามารถเลือกประเทศที่จะไปเข้าร่วมโครงการได้ เช่น โครงการแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น ประเทศในโซนยุโรปเป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว ขึ้นอยู่กับโครงการที่น้องจะเข้าร่วมด้วยว่ามีประเทศเหล่านี้ให้ไปแลกเปลี่ยนด้วยหรือปล่าว
ค่าใช้จ่ายระหว่างโครงการ
การเดินทางไปกับโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนจะมีอัตราค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่างจากการเดินทางไปศึกษาเองเป็นอย่างมาก เพราะจะเสียเฉพาะค่าเข้าร่วมโครงการประมาณ 3-5 แสนบาท (แล้วแต่ประเทศ) ซึ่งเราจะกินอยู่ฟรีเพราะเราจะอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ แต่ถ้านักเรียนไปเรียนต่อต่างประเทศแบบไม่มีทุนแล้ว บอกได้เลยว่าค่าใช้จ่ายต่อ1ปีราคาจะเหยียดล้านบาททั้งนั้นเพราะว่าจะต้องออกค่าที่อยู่ ค่าเรียน ค่าอาหารเอง
ข้อดีของการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
1. ได้ฝึกพัฒนาตัวเอง การที่เราได้ไปใช้ชีวิตแลกเปลี่ยนอยู๋เมืองนอกจะทำให้เรามีความคิดและทัศนคติที่โตขึ้น พอนักเรียนกลับมา ผู้ปกครองจะกใจถึงความโตของเราอย่างแน่นอน เพราะเราไม่มีพ่อแม่คอยดูแล เราไปอยู่โน่นเราจะต้องพึ่งตัวเองเป็นด้วย
2. จะได้มีครอบครัวที่สองที่เรารัก แน่นอนว่า1ปีที่เราไปอยู่เราจะได้ความรักความผูกพันธ์ที่แน่นแฟ้นอย่างแน่นอน ก่อนกลับนักเรียนก้จะน้ำตาซึมเพราะไม่รู้ว่าเราจะได้มาเจอกันอีกทีเมื่อไหร่อีก T___T
3. พบเพื่อนใหม่จากทั่วทุกมุมโลก นอกจากเพื่อนที่โรงเรียนที่นักเรียนแลกเปลี่ยนไปแล้ว โครงการยังได้มีการจัดมีทติ้งระหว่างนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศต่างๆ จากทั่วโลกอีกด้วย
4. เรียนรู้ภาษาใหม่ๆ แน่นอนว่าสิ่งสำคัญในการเลือกไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนส่วนหนึ่งคือเรื่องภาษา เราสามารถเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ได้จากประเทศที่เราเลือกเข้าร่วมโครงการ ฝึกภาษาในชีวิตประจำวันจากโฮสแฟมิลี่ และเพื่อนในห้องเรียน เป็นวิธีการเรียนรู้ภาษาที่ดีที่สุดนั่นเอง
5. ได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แปลกใหม่ น้องจะได้รู้ว่าบนโลกนี้มันมีอะไรหลายๆอย่างที่น่าเรียนรุ้และค้นหาอยู่ตลอดเวลา การที่นักเรียนจะได้เจอผู้คนหลากหลายวัฒนธรรมจะทำให้ภายในอนาคตนักเรียนจะสามารถปรับตัวกับสถานการณ์ต่างและผู้คนได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ ยิ่งถ้าน้องได้ทำงานแล้ว จะมีประโยชน์มากในตรงนี้
6. เราอยู่ในยุคAECแล้ว ดังนั้นภาษาอังกฤษจะสำคัญมาก สำเนียงเริ่มมีความสำคัญต่อการสัมภาษณ์งานอีกด้วย ดังนั้นเรียนโรงเรียนอินเตอร์กลับมาบ้านพูดภาษาไทย ก็อาจจะสู้คนที่ไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเลย
โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนในไทย
1. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS
เป็นเวลากว่า 65 ปี ที่โครงการ AFS หรือ American Field Service โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของเยาวชนที่เริ่มต้นมาจากประเทศอเมริกา แต่ปัจจุบันได้ขยายเครือข่ายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 50 ประเทศ ยกตัวอย่างเช่น แคนนาดา นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น เป็นต้นแต่นักเรียนจะไม่สามารถเลือกประเทศที่จะไปแลกเปลี่ยนด้วยได้ ต้องขึ้นอยู่กับคะแนนและการพิรจารณาหลายๆด้านของทางองค์กร โดยมีระยะเวลาในการไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน 1 ปีการศึกษา AFS เป็นองค์กรที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลกเลย เพราะว่าเป็นองค์กรที่อยู่มานานที่สุดเลยก็ว่าได้
เกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1.กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-5 หรือเทียบเท่า และต้องกำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาในประเทศไทย ยกเว้นการศึกษานอกโรงเรียนไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้
2.มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมสุดท้าย (GPA) ไม่ต่ำกว่า 2.30 และต้องไม่มีผลการเรียนติด 0, ร และ มส
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
https://www.afsthailand.org/
2. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน YES
YES ย่อมาจาก Youth Exchange and Study อีกหนึ่งโครงการแลกเปลี่ยนที่ได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษาเต็มจำนวนจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเปิดให้นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 4-6 สอบชิงทุนและทุนสมทบในโครงการ YES ได้
ประเทศที่เปิดให้เข้าร่วมโครงการ
สหรัฐอเมริกา, แคนาดา (ภาษาอังกฤษ-ฝรั่งเศส), นิวซีแลนด์ Full Fee, แอฟริกาใต้, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, จีน, ญี่ปุ่น, เดนมาร์ก, อิตาลี, ฟินแลนด์, นอร์เวย์, สวีเดน, เชค, อินเดีย, เอสโตเนีย (เดิมรัสเซีย), เม็กซิโก, โปรตุเกส และบราซิล
เกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1. กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-5 หรือเทียบเท่า และต้องกำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาในประเทศไทย สำหรับนักเรียนที่ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนได้เฉพาะแอฟริกาใต้เท่านั้น
2. มีผลการเรียนเฉลี่ย (GPA) 2.00 ขึ้นไป กรณีที่มีผลการเรียน 1 หรือ 0 ในรายวิชาใดก็ตามนักเรียนจะถูกตอบรับเข้าร่วมโครงการแบบมีเงื่อนไข
เกณฑ์การสอบ YES
YES จะใช้ข้อสอบ TYES ในการคัดเลือกเยาวชนทั่วประเทศจากทั้งหมดที่ร่วมสมัครสอบโดยพิจารณาจากผู้ที่สามารถทำคะแนนได้สูงสุด 100 คนแรก เมื่อผ่านแล้วจะมีการสอบสัมภาษณ์ 2 รอบเพื่อคัดเลือกนักเรียนที่เหมาะสมกับทุนในแต่ละประเภท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.yesthailand.org
3. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน MPLC
เป็นโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า20ปี โดยมีอาจารย์ปูเป็นคนก่อตั้งและดูแลการทำงานทั้งหมด ข้อดีของโครงการนี้คือสามารถเลือกประเทศที่จะไปแลกเปลี่ยนได้ ไม่ต้องรอลุ้น มีตั้งแต่ สหรัฐอเมริกา, ประเทศในโซนUK(อังกฤษ สก็อตแลนด์ ไอร์แลน), แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, บราซิล, ฟินแลนด์, สวิซเซอร์แลนด์, จีน, นิวซีแลนด์, ออสเตรเรีย, นอร์เวย์ม แอฟริกาใต้ และอื่นๆอีกมากมาย อีกทั้งมีการดูแลจัดคอร์สความพร้อมให้กับนักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นระยะเวลา 1เดือน จะมีจัดกิจกรรมต่างๆเช่นงานพรอม สอนพูดหน้าชั้น วิชาประวัติศาสตร์อเมริกา การทำอาหาร เป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นโครงการอื่นๆแล้วจะไม่มีตรงนี้ให้ อาจจะมีการจัดค่ายแค่3-4วันเป็นต้น
เกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1. อายุตั้งแต่ 14-18ปี
2. มีผลการเรียนเฉลี่ย (GPA) 2.00 ขึ้นไป
ข้อสอบมี 3 พาร์ทคือ การฟัง การอ่านและข้อเขียนสั้นๆอีกสองข้อ เรียกว่าข้อสอบ ELTIS
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
http://www.mplclanguage.com/
3. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน SEA
Student Exchange Association (SEA) เป็นองค์กรเอกชนเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยทางโครงการได้จัดให้มีการแข่งขันสอบชิงทุนเป็นประจําทุกปี โดยล่าสุดจะเป็น SEA 2016 (รุ่น 8)
ประเทศที่รับสมัครเข้าร่วมโครงการ
สหรัฐอเมริกา, บราซิล, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, โปรตุเกส, สวีเดน, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, นอร์เวย์, แอฟริกาใต้, ญี่ปุ่น และจีน
เกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1. กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-5 หรือเทียบเท่า และต้องกำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาในประเทศไทย มีอายุระหว่าง 14-17 ปี สำหรับนักเรียนที่ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนได้เฉพาะแอฟริกาใต้เท่านั้น
2. มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมในช่วง 3 ปีการศึกษา (GPA) 2.50 ขึ้นไป
เกณฑ์การสอบ SEA
การสอบชิงทุนของ SEA จะต้องผ่านการสอบของ SEA คือ ข้อสอบปรนัยภาษาอังกฤษ100 ข้อ (Grammar 50 ข้อและ Reading 50 ข้อ) และการสอบสัมภาษณ์
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
http://seathailand.org/
5. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน EF
อีกหนึ่งโครงการที่ทุกคนอาจจะรู้จักกัน EF เป็นองค์กรการศึกษาเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีประสบการณ์กว่า 40 ปีในการจัดหลักสูตรภาษาและโครงการแลกเปลี่ยน รวมถึงโครงการทัศนะศึกษา จนถึงปัจจุบันมีนักเรียนกว่า 3 ล้านคนที่เคยเข้าร่วมโครงการกับ EF เพื่อให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสเดินทางไปใช้ชีวิตเป็นนักเรียนมัธยม ณ ต่างประเทศเป็นเวลา 1 ปี
ประเทศที่เข้าร่วมโครงการ
สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์
ระยะเวลาการรับสมัคร
สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่ 18 - 5 เดือนก่อนออกเดินทาง และดาวน์โหลดโบร์ชัวร์ได้ทางเว็บไซด์ฟรี ทางโครงการจะแจ้งกำหนดการสอบ ประมาณ 2-3 วันก่อนสอบ โดยจะแจ้งทาง Email
กฎเกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1. กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-5 หรือเทียบเท่า
2. มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมในช่วง 2 ปีการศึกษา (GPA) ไม่ต่ำกว่า 2.00 และเกรดเฉลี่ยทุกรายวิชาไม่ต่ำกว่า
การสอบ EF ต้องสอบข้อสอบ SLEP-Test ได้ไม่ต่ำกว่า 50 คะแนน สอบสัมภาษณ์ และผ่านการวัดระดับภาษาของ EF ตามเกณฑ์ที่ประเทศนั้นกำหนด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http:www.ef.co.th
6. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน YFU
องค์กรแลกเปลี่ยนเยาวชนที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดองค์กรหนึ่งของโลก ที่ได้รับการยอมรับ ก่อตั้งโดย Dr. Rachel Andresen ในปี ค .ศ.1951 YFU ย่อมาจาก Youth for Understanding องค์กรเอกชนด้านการศึกษาที่ไม่แสวงหาผลกำไร จนติดอันดับโปรแกรมศึกษาต่อต่างประเทศที่ดีที่สุด “Top 10 Study Abroad Programs” จากการสำรวจของ RateMyStudyAbroad.com ของประเทศอังกฤษ
ประเทศที่เข้าร่วมโครงการ
อีกหนึ่งองค์กรที่มีชื่อเสียงระดับโลก แน่นอนว่าจะต้องมีหลายประเทศที่ให้การสนับสนุนโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนของ YFU เป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, บราซิล, บัลแกเรีย, ชิลี, จีน, และอีก 35 ประเทศจากทั่วโลก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
http://www.yfuth.learning-inter.org/
7. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน IEE Thailand
โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนระดับมัธยมศึกษา
International Education Exchange (IEE, Thailand) สนับสนุนโดยองค์กรการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อเป็นตัวแทนเยาวชน ได้มีโอกาสเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นระยะเวลา 1 ปีการศึกษา
ระยะเวลาการรับสมัคร
โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน IEE Thailand High School Exchange in USA 2016 เป็นรุ่นที่ 10 จะเปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2558 และสอบวันที่ 6 มิถุนายน 2558
กฎเกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1. มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 18 ปี 6 เดือน กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2-5 ขณะเข้าร่วมโครงการ
2. มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPA) ในช่วง 3 ปีการศึกษา (ปี 2555 - ปี 2557 ) ไม่ต่ำกว่า 2.75 เกรดเฉลี่ยวิชาภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่า 3.00 และไม่มีวิชาใด ต่ำกว่า 2.00
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
http://www.ieethailand.com/
แนะนำโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนในประเทศไทย
โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนคือ?
โครงการศึกษาต่อต่างประเทศสำหรับเด็กอายุ 14 ถึง 18 ปี หรือในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย 3-5 นักเรียนจะได้พักอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ (Host family) และเรียนในโรงเรียนรัฐบาลท้องถิ่นในประเทศที่นักเรียนได้เลือกไว้ เป็นระยะเวลา 1 ปีการศึกษา ซึ่งนักเรียนสามารถเลือกประเทศที่จะไปเข้าร่วมโครงการได้ เช่น โครงการแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น ประเทศในโซนยุโรปเป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว ขึ้นอยู่กับโครงการที่น้องจะเข้าร่วมด้วยว่ามีประเทศเหล่านี้ให้ไปแลกเปลี่ยนด้วยหรือปล่าว
ค่าใช้จ่ายระหว่างโครงการ
การเดินทางไปกับโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนจะมีอัตราค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่างจากการเดินทางไปศึกษาเองเป็นอย่างมาก เพราะจะเสียเฉพาะค่าเข้าร่วมโครงการประมาณ 3-5 แสนบาท (แล้วแต่ประเทศ) ซึ่งเราจะกินอยู่ฟรีเพราะเราจะอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ แต่ถ้านักเรียนไปเรียนต่อต่างประเทศแบบไม่มีทุนแล้ว บอกได้เลยว่าค่าใช้จ่ายต่อ1ปีราคาจะเหยียดล้านบาททั้งนั้นเพราะว่าจะต้องออกค่าที่อยู่ ค่าเรียน ค่าอาหารเอง
ข้อดีของการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
1. ได้ฝึกพัฒนาตัวเอง การที่เราได้ไปใช้ชีวิตแลกเปลี่ยนอยู๋เมืองนอกจะทำให้เรามีความคิดและทัศนคติที่โตขึ้น พอนักเรียนกลับมา ผู้ปกครองจะกใจถึงความโตของเราอย่างแน่นอน เพราะเราไม่มีพ่อแม่คอยดูแล เราไปอยู่โน่นเราจะต้องพึ่งตัวเองเป็นด้วย
2. จะได้มีครอบครัวที่สองที่เรารัก แน่นอนว่า1ปีที่เราไปอยู่เราจะได้ความรักความผูกพันธ์ที่แน่นแฟ้นอย่างแน่นอน ก่อนกลับนักเรียนก้จะน้ำตาซึมเพราะไม่รู้ว่าเราจะได้มาเจอกันอีกทีเมื่อไหร่อีก T___T
3. พบเพื่อนใหม่จากทั่วทุกมุมโลก นอกจากเพื่อนที่โรงเรียนที่นักเรียนแลกเปลี่ยนไปแล้ว โครงการยังได้มีการจัดมีทติ้งระหว่างนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศต่างๆ จากทั่วโลกอีกด้วย
4. เรียนรู้ภาษาใหม่ๆ แน่นอนว่าสิ่งสำคัญในการเลือกไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนส่วนหนึ่งคือเรื่องภาษา เราสามารถเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ได้จากประเทศที่เราเลือกเข้าร่วมโครงการ ฝึกภาษาในชีวิตประจำวันจากโฮสแฟมิลี่ และเพื่อนในห้องเรียน เป็นวิธีการเรียนรู้ภาษาที่ดีที่สุดนั่นเอง
5. ได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แปลกใหม่ น้องจะได้รู้ว่าบนโลกนี้มันมีอะไรหลายๆอย่างที่น่าเรียนรุ้และค้นหาอยู่ตลอดเวลา การที่นักเรียนจะได้เจอผู้คนหลากหลายวัฒนธรรมจะทำให้ภายในอนาคตนักเรียนจะสามารถปรับตัวกับสถานการณ์ต่างและผู้คนได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ ยิ่งถ้าน้องได้ทำงานแล้ว จะมีประโยชน์มากในตรงนี้
6. เราอยู่ในยุคAECแล้ว ดังนั้นภาษาอังกฤษจะสำคัญมาก สำเนียงเริ่มมีความสำคัญต่อการสัมภาษณ์งานอีกด้วย ดังนั้นเรียนโรงเรียนอินเตอร์กลับมาบ้านพูดภาษาไทย ก็อาจจะสู้คนที่ไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเลย
โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนในไทย
1. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS
เป็นเวลากว่า 65 ปี ที่โครงการ AFS หรือ American Field Service โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของเยาวชนที่เริ่มต้นมาจากประเทศอเมริกา แต่ปัจจุบันได้ขยายเครือข่ายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 50 ประเทศ ยกตัวอย่างเช่น แคนนาดา นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น เป็นต้นแต่นักเรียนจะไม่สามารถเลือกประเทศที่จะไปแลกเปลี่ยนด้วยได้ ต้องขึ้นอยู่กับคะแนนและการพิรจารณาหลายๆด้านของทางองค์กร โดยมีระยะเวลาในการไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน 1 ปีการศึกษา AFS เป็นองค์กรที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลกเลย เพราะว่าเป็นองค์กรที่อยู่มานานที่สุดเลยก็ว่าได้
เกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1.กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-5 หรือเทียบเท่า และต้องกำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาในประเทศไทย ยกเว้นการศึกษานอกโรงเรียนไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้
2.มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมสุดท้าย (GPA) ไม่ต่ำกว่า 2.30 และต้องไม่มีผลการเรียนติด 0, ร และ มส
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.afsthailand.org/
2. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน YES
YES ย่อมาจาก Youth Exchange and Study อีกหนึ่งโครงการแลกเปลี่ยนที่ได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษาเต็มจำนวนจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเปิดให้นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 4-6 สอบชิงทุนและทุนสมทบในโครงการ YES ได้
ประเทศที่เปิดให้เข้าร่วมโครงการ
สหรัฐอเมริกา, แคนาดา (ภาษาอังกฤษ-ฝรั่งเศส), นิวซีแลนด์ Full Fee, แอฟริกาใต้, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, จีน, ญี่ปุ่น, เดนมาร์ก, อิตาลี, ฟินแลนด์, นอร์เวย์, สวีเดน, เชค, อินเดีย, เอสโตเนีย (เดิมรัสเซีย), เม็กซิโก, โปรตุเกส และบราซิล
เกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1. กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-5 หรือเทียบเท่า และต้องกำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาในประเทศไทย สำหรับนักเรียนที่ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนได้เฉพาะแอฟริกาใต้เท่านั้น
2. มีผลการเรียนเฉลี่ย (GPA) 2.00 ขึ้นไป กรณีที่มีผลการเรียน 1 หรือ 0 ในรายวิชาใดก็ตามนักเรียนจะถูกตอบรับเข้าร่วมโครงการแบบมีเงื่อนไข
เกณฑ์การสอบ YES
YES จะใช้ข้อสอบ TYES ในการคัดเลือกเยาวชนทั่วประเทศจากทั้งหมดที่ร่วมสมัครสอบโดยพิจารณาจากผู้ที่สามารถทำคะแนนได้สูงสุด 100 คนแรก เมื่อผ่านแล้วจะมีการสอบสัมภาษณ์ 2 รอบเพื่อคัดเลือกนักเรียนที่เหมาะสมกับทุนในแต่ละประเภท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.yesthailand.org
3. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน MPLC
เป็นโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า20ปี โดยมีอาจารย์ปูเป็นคนก่อตั้งและดูแลการทำงานทั้งหมด ข้อดีของโครงการนี้คือสามารถเลือกประเทศที่จะไปแลกเปลี่ยนได้ ไม่ต้องรอลุ้น มีตั้งแต่ สหรัฐอเมริกา, ประเทศในโซนUK(อังกฤษ สก็อตแลนด์ ไอร์แลน), แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, บราซิล, ฟินแลนด์, สวิซเซอร์แลนด์, จีน, นิวซีแลนด์, ออสเตรเรีย, นอร์เวย์ม แอฟริกาใต้ และอื่นๆอีกมากมาย อีกทั้งมีการดูแลจัดคอร์สความพร้อมให้กับนักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นระยะเวลา 1เดือน จะมีจัดกิจกรรมต่างๆเช่นงานพรอม สอนพูดหน้าชั้น วิชาประวัติศาสตร์อเมริกา การทำอาหาร เป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นโครงการอื่นๆแล้วจะไม่มีตรงนี้ให้ อาจจะมีการจัดค่ายแค่3-4วันเป็นต้น
เกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1. อายุตั้งแต่ 14-18ปี
2. มีผลการเรียนเฉลี่ย (GPA) 2.00 ขึ้นไป
ข้อสอบมี 3 พาร์ทคือ การฟัง การอ่านและข้อเขียนสั้นๆอีกสองข้อ เรียกว่าข้อสอบ ELTIS
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.mplclanguage.com/
3. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน SEA
Student Exchange Association (SEA) เป็นองค์กรเอกชนเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยทางโครงการได้จัดให้มีการแข่งขันสอบชิงทุนเป็นประจําทุกปี โดยล่าสุดจะเป็น SEA 2016 (รุ่น 8)
ประเทศที่รับสมัครเข้าร่วมโครงการ
สหรัฐอเมริกา, บราซิล, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, โปรตุเกส, สวีเดน, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, นอร์เวย์, แอฟริกาใต้, ญี่ปุ่น และจีน
เกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1. กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-5 หรือเทียบเท่า และต้องกำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาในประเทศไทย มีอายุระหว่าง 14-17 ปี สำหรับนักเรียนที่ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนได้เฉพาะแอฟริกาใต้เท่านั้น
2. มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมในช่วง 3 ปีการศึกษา (GPA) 2.50 ขึ้นไป
เกณฑ์การสอบ SEA
การสอบชิงทุนของ SEA จะต้องผ่านการสอบของ SEA คือ ข้อสอบปรนัยภาษาอังกฤษ100 ข้อ (Grammar 50 ข้อและ Reading 50 ข้อ) และการสอบสัมภาษณ์
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://seathailand.org/
5. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน EF
อีกหนึ่งโครงการที่ทุกคนอาจจะรู้จักกัน EF เป็นองค์กรการศึกษาเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีประสบการณ์กว่า 40 ปีในการจัดหลักสูตรภาษาและโครงการแลกเปลี่ยน รวมถึงโครงการทัศนะศึกษา จนถึงปัจจุบันมีนักเรียนกว่า 3 ล้านคนที่เคยเข้าร่วมโครงการกับ EF เพื่อให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสเดินทางไปใช้ชีวิตเป็นนักเรียนมัธยม ณ ต่างประเทศเป็นเวลา 1 ปี
ประเทศที่เข้าร่วมโครงการ
สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์
ระยะเวลาการรับสมัคร
สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่ 18 - 5 เดือนก่อนออกเดินทาง และดาวน์โหลดโบร์ชัวร์ได้ทางเว็บไซด์ฟรี ทางโครงการจะแจ้งกำหนดการสอบ ประมาณ 2-3 วันก่อนสอบ โดยจะแจ้งทาง Email
กฎเกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1. กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-5 หรือเทียบเท่า
2. มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมในช่วง 2 ปีการศึกษา (GPA) ไม่ต่ำกว่า 2.00 และเกรดเฉลี่ยทุกรายวิชาไม่ต่ำกว่า
การสอบ EF ต้องสอบข้อสอบ SLEP-Test ได้ไม่ต่ำกว่า 50 คะแนน สอบสัมภาษณ์ และผ่านการวัดระดับภาษาของ EF ตามเกณฑ์ที่ประเทศนั้นกำหนด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http:www.ef.co.th
6. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน YFU
องค์กรแลกเปลี่ยนเยาวชนที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดองค์กรหนึ่งของโลก ที่ได้รับการยอมรับ ก่อตั้งโดย Dr. Rachel Andresen ในปี ค .ศ.1951 YFU ย่อมาจาก Youth for Understanding องค์กรเอกชนด้านการศึกษาที่ไม่แสวงหาผลกำไร จนติดอันดับโปรแกรมศึกษาต่อต่างประเทศที่ดีที่สุด “Top 10 Study Abroad Programs” จากการสำรวจของ RateMyStudyAbroad.com ของประเทศอังกฤษ
ประเทศที่เข้าร่วมโครงการ
อีกหนึ่งองค์กรที่มีชื่อเสียงระดับโลก แน่นอนว่าจะต้องมีหลายประเทศที่ให้การสนับสนุนโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนของ YFU เป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, บราซิล, บัลแกเรีย, ชิลี, จีน, และอีก 35 ประเทศจากทั่วโลก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://www.yfuth.learning-inter.org/
7. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน IEE Thailand
โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนระดับมัธยมศึกษา
International Education Exchange (IEE, Thailand) สนับสนุนโดยองค์กรการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อเป็นตัวแทนเยาวชน ได้มีโอกาสเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นระยะเวลา 1 ปีการศึกษา
ระยะเวลาการรับสมัคร
โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน IEE Thailand High School Exchange in USA 2016 เป็นรุ่นที่ 10 จะเปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2558 และสอบวันที่ 6 มิถุนายน 2558
กฎเกณฑ์สำคัญในการรับสมัคร
1. มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 18 ปี 6 เดือน กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2-5 ขณะเข้าร่วมโครงการ
2. มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPA) ในช่วง 3 ปีการศึกษา (ปี 2555 - ปี 2557 ) ไม่ต่ำกว่า 2.75 เกรดเฉลี่ยวิชาภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่า 3.00 และไม่มีวิชาใด ต่ำกว่า 2.00
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://www.ieethailand.com/