กยศ. ปรับเกณฑ์กู้ ผู้กู้เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.00 เน้นกู้ให้ยาก จ่ายคืนง่าย
วัน 2 กันยายน 2014 นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายเกี่ยวกับการปล่อยกู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) นั้นให้เน้นกู้ให้ยาก จ่ายคืนง่าย
โดยในการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีมติเห็นชอบกำหนดมาตรการการและปรับหลักเกณฑ์การให้กู้ยืมกองทุน กยศ. ประกอบด้วย
1.หลักเกณฑ์การคัดกรองสถานศึกษา ที่จะจัดสรรเงินกยศ.ให้นักเรียนกู้ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค ต้องเปิดการเรียนการสอนมาแล้วอย่างน้อย 1 ปีการศึกษามีผลการรับรองคุณภาพจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพศึกษา(สมศ.)
และต้องมีโครงการที่มุ่งจิตอาสาที่มีประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ ส่วนระดับอนุปริญญาตรีและปริญญาตรีนอกจากจะต้องเปิดสอนมาอย่างน้อย 1 ปีการศึกษาและมีโครงการที่มุ่งจิตอาสาฯ แล้วหลักสูตรที่เปิดสอนต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ผ่านการประเมินของสกอ.ตลอดจนมีผลการรับรองจาก สมศ.ด้วย
2.หลักเกณฑ์การคัดกรองผู้กู้ยืมเงินในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายผู้ที่จะยื่นกู้จะต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นไม่น้อยกว่า 2.00 ระดับปวช. ปวท.และปวส.ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวเพราะต้องการส่งเสริมให้มีการเรียนสายอาชีพมากขึ้น ส่วนระดับอนุปริญญา/ปริญญาตรีต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายไม่น้อยกว่า 2.00 รวมทั้งต้องมีหลักฐานแสดงถึงการเข้าร่วมโครงการจิตอาสาด้วย
ส่วนผู้กู้รายเก่าที่จะเลื่อนชั้นปี หากจะกู้ต่อได้ต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 2.00 เช่นกันทุกภาคเรียน และยังต้องมีหลักฐานการเข้าร่วมโครงการจิตอาสาอย่างน้อย 1 กิจกรรมต่อภาคการศึกษา โดยต้องเข้าร่วมโครงการจิตอาสาไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมงต่อ 1 ภาคการศึกษา
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาในส่วนของผู้ที่กู้ยืมนั้นจะดูเฉพาะเรื่องรายได้เท่านั้นแต่ส่วนอื่นไม่ได้กำหนด เช่น เรื่องผลการเรียนเฉลี่ยสะสม เป็นต้น
สัดส่วนวงเงินให้กู้ยืมแก่สถานศึกษา ไว้ 4 ส่วน อาทิ กำหนดสัดส่วนจำนวนผู้กู้ที่มาชำระหนี้คืนไว้ 40% ซึ่งต่อไปหากสถานศึกษาใดมีการค้างชำระหนี้ของผู้กู้มากจะได้รับจัดสรรวงเงินให้กู้ยืมน้อยลงด้วย อีกทั้งยังได้กำหนดสัดส่วนจำนวนผู้กู้ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ต่อสายอาชีพไว้ในสัดส่วน 50: 50 และระดับอนุปริญญา/ปริญญาตรีสายวิทยาศาสตร์ต่อสายสังคมในสัดส่วน 50: 50 เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม กยศ.จะเริ่มใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวในปีการศึกษา 2558 เป็นต้นไป
ที่มา :
http://news.mthai.com/general-news/378935.html
--------------
เห็นด้วยไหมครับ?
ปล.ส่วนที่ใส่สปอย อันนี้เป็น comment ที่แบบ..เอ่อ พี่ครับ! ไม่การเมืองสักเรื่องจะได้ไหมเนี่ย?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อคติบังตา..บ้าคลั่งการเมืองจนสมองไปหมดแล้ว
.
เขาบอกเกรดต่ำกว่า 2.00 ห้ามกู้ กยศ. ก็ไปบอกว่าริดรอนสิทธิ์ ดูถูกคน
.
คือ..2.00 นี่มันเป็นอะไรที่ Basic มากเลยนะ เรียนๆ เล่นๆ ถ้าตกก็ซ่อมให้ครบ ให้เป็นเกรด 1 อย่าให้เหลือติด 0 ยังไงจบมาก็ไม่ต่ำกว่า 2.00 แน่ๆ
.
คนที่จบมาต่ำกว่า 2.00 คงมีแต่พวกที่ไม่สนใจอะไรเลย แม้แต่ครูตามแล้วตามอีกไปซ่อมมันก็ไม่สน แล้วจะโทษใคร?
.
เห้อ...
ปล.2 ถ้าจะเครียด ผมห่วงเรื่องกิจกรรมมากกว่า เด็กเรียนบางคนก็เรียนจริงๆ ไม่เอากิจกรรมนะครับ
เห็นด้วยไหม? ต่อไปจะกู้ กยศ. เกรดเฉลี่ยต้องมากกว่า 2.00 นะครับ + ร่วมกิจกรรมกับ ร.ร. ด้วย
วัน 2 กันยายน 2014 นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายเกี่ยวกับการปล่อยกู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) นั้นให้เน้นกู้ให้ยาก จ่ายคืนง่าย
โดยในการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีมติเห็นชอบกำหนดมาตรการการและปรับหลักเกณฑ์การให้กู้ยืมกองทุน กยศ. ประกอบด้วย
1.หลักเกณฑ์การคัดกรองสถานศึกษา ที่จะจัดสรรเงินกยศ.ให้นักเรียนกู้ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค ต้องเปิดการเรียนการสอนมาแล้วอย่างน้อย 1 ปีการศึกษามีผลการรับรองคุณภาพจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพศึกษา(สมศ.)
และต้องมีโครงการที่มุ่งจิตอาสาที่มีประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ ส่วนระดับอนุปริญญาตรีและปริญญาตรีนอกจากจะต้องเปิดสอนมาอย่างน้อย 1 ปีการศึกษาและมีโครงการที่มุ่งจิตอาสาฯ แล้วหลักสูตรที่เปิดสอนต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ผ่านการประเมินของสกอ.ตลอดจนมีผลการรับรองจาก สมศ.ด้วย
2.หลักเกณฑ์การคัดกรองผู้กู้ยืมเงินในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายผู้ที่จะยื่นกู้จะต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นไม่น้อยกว่า 2.00 ระดับปวช. ปวท.และปวส.ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวเพราะต้องการส่งเสริมให้มีการเรียนสายอาชีพมากขึ้น ส่วนระดับอนุปริญญา/ปริญญาตรีต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายไม่น้อยกว่า 2.00 รวมทั้งต้องมีหลักฐานแสดงถึงการเข้าร่วมโครงการจิตอาสาด้วย
ส่วนผู้กู้รายเก่าที่จะเลื่อนชั้นปี หากจะกู้ต่อได้ต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 2.00 เช่นกันทุกภาคเรียน และยังต้องมีหลักฐานการเข้าร่วมโครงการจิตอาสาอย่างน้อย 1 กิจกรรมต่อภาคการศึกษา โดยต้องเข้าร่วมโครงการจิตอาสาไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมงต่อ 1 ภาคการศึกษา
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาในส่วนของผู้ที่กู้ยืมนั้นจะดูเฉพาะเรื่องรายได้เท่านั้นแต่ส่วนอื่นไม่ได้กำหนด เช่น เรื่องผลการเรียนเฉลี่ยสะสม เป็นต้น
สัดส่วนวงเงินให้กู้ยืมแก่สถานศึกษา ไว้ 4 ส่วน อาทิ กำหนดสัดส่วนจำนวนผู้กู้ที่มาชำระหนี้คืนไว้ 40% ซึ่งต่อไปหากสถานศึกษาใดมีการค้างชำระหนี้ของผู้กู้มากจะได้รับจัดสรรวงเงินให้กู้ยืมน้อยลงด้วย อีกทั้งยังได้กำหนดสัดส่วนจำนวนผู้กู้ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ต่อสายอาชีพไว้ในสัดส่วน 50: 50 และระดับอนุปริญญา/ปริญญาตรีสายวิทยาศาสตร์ต่อสายสังคมในสัดส่วน 50: 50 เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม กยศ.จะเริ่มใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวในปีการศึกษา 2558 เป็นต้นไป
ที่มา : http://news.mthai.com/general-news/378935.html
--------------
เห็นด้วยไหมครับ?
ปล.ส่วนที่ใส่สปอย อันนี้เป็น comment ที่แบบ..เอ่อ พี่ครับ! ไม่การเมืองสักเรื่องจะได้ไหมเนี่ย?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล.2 ถ้าจะเครียด ผมห่วงเรื่องกิจกรรมมากกว่า เด็กเรียนบางคนก็เรียนจริงๆ ไม่เอากิจกรรมนะครับ