เวรกรรมของความรักมีจริง

เคยคิดมั้ยว่าวันนึงถ้าเราโดนแบบที่เคยทำร้ายคนที่เค้ารักเรามากๆเราจะรู้สึกยังไง
                                    กระทู้นี้ ผมขอแชร์ประสบการณ์ ระบายและฝากข้อคิดสำหรับคนที่มีคนรักที่ดีมากๆอยู่ข้างๆคุณ
                                ในขณะที่คุณอ่านกระทู้นี้อยู่ ไม่ว่าคุณจะอยู่คนเดียว อยู่กับเพื่อน อยู่กับแฟน หรืออยู่กับคนที่แอบชอบ
                                            ขอบอกเลยครับ อย่าทำร้ายความรู้สึกพวกเค้าเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวของคุณ

*****ขออภัย เรื่องที่จะเล่านี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับผมเองตลอดเวลา 5 ปีกับชีวิตมหาลัย จะใส่รายละเอียดให้มากที่สุด*****
         **** ไม่เพิ่มอรรถรสใดๆ เนื้อหาอาจยาวมาก จะให้จบในกระทู้เดียวครับ****

           เรื่องราวความรักของผม เริ่มตั้งแต่ตอนมหาลัยปีหนึ่ง  ผมติดมหาลัยรัฐด้วยคะแนนแอดหมื่นนิดๆ
     หลังจากผมเข้ามาได้ ผมก็ได้พบรักแรกในมหาลัย ผมจะแทนรักครั้งนี้ว่า A ผมจำได้แม่นเธอทักผมมาเพราะคิดว่าผมคือ
     เพื่อนในคณะอีกคนที่ดูดีกว่าผม แต่ด้วยเหตุการณ์เข้าใจผิดนี้ ทำให้เราได้คุยกันทุกๆวัน
     ผมก็นอนดึก เราคุยกันเริ่มจากแชท วิดีโอคอลกันงุ้งงิ้งทุกคืนเธอเป็นคนที่น่ารักมากครับ
     น่ารักจนผมคิดว่าผมได้สิ่งที่มีค่ามาก ทำให้ผมมีค่าในตัวเองมากขึ้น  โลกผมก่อนหน้านี้ค่อนข้างมืดดำ
     ความเห็นแก่ตัว หัวรุนแรง ก้าวร้าว เมื่อผมได้มาเจอ A เธอทำโลกของผมเปลี่ยนไป ผมได้พบโลกที่ไม่ต้องกลัวอันตรายใดๆ
     โลกที่มันน่าอยู่กว่าตอนเจอเธอ เธอเปลี่ยนมุมมองความคิดผม ผมเปลี่ยนไป ผมไม่เคยเจอคนแบบ A
     เราทั้งสองคนตัดสินใจคบกัน เดทแรกของเราคือการกินเหล้าและยาดอง
                       *(เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมสำหรับน้องๆปี1ทุกท่านเลยครับ อย่าเลียนแบบนะ แต่ถ้าเป็นอยู่แล้วก็ช่างมัน)*
     เป็นเดทที่ประทับตราตรึงในใจจนทุกวันนี้55555 หลังจากเราได้คบกัน
     เราใกล้ชิดกันมากขึ้น เราตัวติดกันมาก ผมเห่อ Aมากที่สุด ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ผมสามารถแชร์ปัญหาที่พบเจอขณะนั้นทุกๆเรื่อง
     ให้เธอและเธอก็รับฟังปัญหาทุกอย่างที่ผมเจอและช่วยผมทุกครั้ง เธอคือกำลังใจหลักๆรองจากครอบครัวผม
     เธอคือพลังที่ทำให้ผมสามารถใช้ชีวิตในมหาลัยได้ แค่ผมมีเธอ ผมแทบไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใครอีกเลย
     เธอเป็นผู้หญิงที่ยอมผมได้ทุกๆเรื่อง และผมก็ยอมรับทุกอย่างในตัวเค้าได้ ชีวิตรักของผมอย่างกับในละคร
     ได้มาพบคนที่รับได้ในข้อเสียเรา และชื่นชมในข้อดีของผม ต้นรักของเราเติบโตขึ้นทุกๆวัน
     เราพากันกินของอร่อยๆ ผมพาเธอขี่มอไซค์ไปเที่ยวในทุกๆที่ที่เค้าอยากไป ผมมีความสุขกับชีวิตมากๆ
     และผมก็เชื่อว่าเธอก็คงมีความสุขมากเช่นกัน เราทั้งคู่แสดงออกทางความรักได้ในทุกๆที่ ไม่ใช่เรื่องเซ็กส์นะครับ
    แต่เป็นการบอกรักกัน กอดกัน หอมกัน โดยที่เรามองว่ามันคือสิ่งที่ไม่เลวร้าย ทุกๆเทศกาลเราอยู่ด้วยกันเสมอ ไม่ว่าจะสิ้นปี
    เคาวน์ดาวน์ด้วยกัน เข้าพรรษาเวียนเทียนด้วยกัน ลอยกระทง ปล่อยโคมลอย เราทำกิจกรรมต่างๆด้วยกันเยอะมากๆ  
    ความรักเราดำเนินไปเรื่อยๆ เริ่มมีทะเลาะกันบ้าง มีปากเสียงกันบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากสันดารเดิมๆของผม
    ผมทำเธอร้องไห้บ่อยขึ้น และผมก็สามารถนอนหลับโดยปล่อยให้เธอน้องไห้เพียงลำพัง แต่ปัญหาแค่นี้สำหรับผม
    มันไม่ทำให้เราเลิกกันหรอกครับ ผมเริ่มเปิดใช้สกิลปาก พูดด้วยถ้อยคำเลวร้ายใส่เธอ
    แต่ก็แค่บางครั้ง ผมเริ่มกลับไปเกเร เพียงแค่เราคบกัน1ปี ผมก็เริ่มออกลายความเลว A ยังรับได้ที่ผมเป็นแบบนี้
    แม้เธอจะร้องไห้บ่อยขึ้น เราเริ่มพูดคุยเรื่องปัญหานี้กันบ่อยขึ้น คำถามเดิมๆซ้ำๆซากๆที่Aถามผม
  
             "ทำไมผมไม่แคร์เธอ?"     "ผมไม่รักเธอแล้วเหรอ?"    "ทำดีกับเค้าบ้างไม่ได้เหรอ?"

    ผมก็พูดจริงบ้างไม่จริงบ้าง ตอบตัดรำคานไปทุกๆครั้ง แต่ผมกล้าพูดได้ว่า ผมรักเค้า แล้วก็เพิ่มเติมด้วยความผูกพัน
    ตลอด 1 ปี เกือบ 365 วัน A คือผู้หญิงที่ผมเจอคนสุดท้ายก่อนเข้านอน และเป็นคนแรกที่เจอตอนตื่นนอน
   ด้วยความดีเสมอต้นเสมอปลายกลายเป็นความเลวเสมอปลายท้ายเสมอต้น และด้วยการที่ผมเริ่มออกนอกลู่ทาง
    มีคุยกับผู้หญิงคนอื่นบ้าง ไม่แปลกที่เธอก็จะมีใครบ้าง


..............…….ขึ้นปี 2 ความทุกข์เริ่มคูณ2
     เราเริ่มมีความลับต่อกันมากขึ้น เรามีปากเสียงรุนแรงถึงขั้นเธอเริ่มลงไม้ลงมือกันบ่อยครั้งขึ้น ผมก็จะมีวิธีโต้ตอบ
     ป้องกันในแบบของผู้ชาย เช่น จับแขนเธอไว้ไม่ให้เธอตบ แต่ด้วยความโมโหขณะนั้น
     มันจึงมีแรงจับที่มากขึ้นจนกลายเป็นการบีบ ผมผลักเธอกระเด็นไปชนเตียง ล้มลงที่พื้นห้อง
     ผมที่เป็นคนร้อนอยู่แล้ว กับ A ที่ก็ร้อนเช่นกัน เราจึงโถมไฟใส่กันรุนแรงทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ณ ตอนนั้น
     หลายๆครั้งที่เกิดขึ้น คำถามที่ผมถามตัวเอง เรายังรักกันอยู่มั้ย?  
     แต่ปัญหาในขณะนั้นก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เราต้องเลิกกันหรอกครับ เรายังอยู่ด้วยกัน ร่วมทุกข์ ร่วมสุข
     ที่สร้างกันขึ้นมาเอง เราเป็นคู่ที่จะรักกันมาก และทะเลาะกันหนักมากก(ก.ไก่ 1ล้านตัว)
     เราไม่ค่อยยอมกันเหมือนตอนแรก ส่วนมากผมจะเป็นฝ่ายยอม เพื่อให้เรื่องยุติไวที่สุด
     แต่พอดีกันได้วัน สองวัน ผมก็จะเริ่มบั่นทอนความรู้สึกเธอ ทำร้ายความรู้สึกเธอ
     โดยไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งถ้าเค้าหายไป เราจะเสียใจมากแค่ไหน...


............................……….ปี3 กับมือที่3
     เรื่องเริ่มตั้งแต่ช่วงปิดเทอมใหญ่ ปี2 ขึ้นปี3 ซึ่งตอนนั้นมหาลัยได้ปรับเวลาเปิดเทอมให้พร้อมอาเซียน
     มันจึงเป็นการปิดเทอมที่นานถึง 6 เดือน ซึ่งตอนนั้นเราทั้งคู่ดรอปวิชาอังกฤษไว้ตัวนึง
     ซึ่งมันสามารถลงได้ในภาคเรียนซัมเมอรนี้ เธอตัดสินใจที่จะลงเรียน เราคุยกัน แต่ผมเลือกจะไม่อยู่เรียนกับเธอ
     ผมกลับบ้านและมาทำงานช่วงปิดเทอมยาว6เดือน เราแยกกันโดยที่เธอไม่ค่อยพอใจกับการตัดสินใจของผม
     ผมไม่สนใจครับ กลับบ้านชิวๆ ตอนนั้นผมยอมรับว่าเริ่มเบื่อเธอแล้วครับ แต่ผมก็ยังรักอยู่ เพียงแต่การที่เราใกล้กันมากๆนานๆ
     มันทำให้ผมอึดอัด(ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงเหตุการณ์นั้น) เมื่อผมกลับมาอยู่บ้าน ผมก็ไปสมัครโรงงานแถวบ้าน
     เป็นโรงผลิตแอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ผมก็ได้อยู่แผนกประกอบคอมแอร์
     ตอนนั้นเองเราก็เริ่มติดต่อกันน้อยลง เราทะเลาะกันหนักและบ่อย แต่ไม่มีการปรับความเข้าใจกัน
     จนเราตัดสินใจเลิกกัน (ซึ่งผมจำไม่ได้ว่าใครบอกเลิกใคร) ตอนนั้นผมเจอผู้หญิงคนนึงซึ่งเธอก็เป็นนักศึกษาเช่นกัน
     แต่อยู่มหาลัยที่อื่นขอเรียกแทนคนนี้ว่า B เราเริ่มคุยกัน สนิทสนมกัน จนมันเกิดเป็นความรัก ซึ่งผมมาคิดๆดูในตอนนี้
     ผมคิดว่าน่าจะเป็นความใคร่มากกว่า ผมแสดงความรัก ความทุ่มเทให้เธอเห็น ถ้าจะพูดให้ถูกก็คงเป็นการสร้างภาพขึ้นมา
     ลงทุนนั่งรถรับส่ง ไปสายเดียวกับเธอซึ่งมันคนละทางกับบ้านผม(บ้านผมไปทางชล บ้าน Bไปแปดริ้ว)
     ผมคอยเป็นห่วงเธอ มอบคำรักหวานซึ้งกินใจ จนสุดท้ายเธอตกลงคบกับผม ผมได้เธอมาครองสมใจ รออะไรล่ะครับออกลายสิ
     ตลอดเวลาจนผ่านไปได้เพียง 4 เดือน เราก็เลิกกัน เนื่องจากปัญหาที่ตัวผมไม่ดีพอจะรักษาใครไว้
     ปัญหาจากโรงงานปลดพนักงานชั่วคราวออก เราก็ ไม่ได้พบกันอีกเลย กลับไปที่ A เธอก็มีแฟนใหม่เป็นที่เรียบร้อย
     แต่ครับแต่ แต่เธอไม่ได้เลิกกัน A กับเขา รักกันดี จนเปิดเทอมผมกับ A ก็โคจรกลับมาพบกัน ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ
     ทำให้เราลงเรียนด้วยกันอีกครั้ง เราคุยกันว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแต่เราเจอกันทุกวัน สบตากัน เกิดเป็นภาพวันเก่าๆ
     ภาพเราจับมือกัน ภาพเรากอดกัน ภาพร้านอาหารที่ไปกินกันบ่อย ภาพความทรงจำตอนมีกันมันไหลผ่านเข้ามา
     อย่างกับในหนังครับ ผมขอเธอคืนดี ทำทุกๆวิธี เพื่อให้เธอเลิกกับแฟนใหม่แล้วกลับมาคบกัน
     แต่สิ่งที่เราทั้งสองทำคือเรากลับมาคบกันโดยที่ A ไม่ได้เลิกกับแฟนใหม่แต่ไม่เป็นปัญหาเพราะแฟนใหม่A อยู่กรุงเทพ
     เรื่องตอนแรกสนุกมาก แฮปปี้มาก เรารู้ทั้งคู่ว่าเรารักกัน แต่มันก็เป็นเพียงสิ่งที่เราอุปโหลกมันขึ้น  
     จริงๆแล้วที่เหลืออยู่ตอนนั้นคงเป็นเพียงความผูกพันซะมากกว่า เมื่อมันเคยมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราไม่ไว้ใจกัน
     ชีวิตของเราตอนนั้นมีแต่ความหวาดระแวง ความไม่เชื่อใจกัน เราก็ทะเลาะกันด้วยปัญหาเดิมๆซ้ำๆบ่อยขึ้น
     แต่ด้วยวุฒิภาวะที่โตขึ้นตาม ทำให้เราทั้งสองเย็นชากันมากขึ้นบวกกับเธอยังมีแฟนของเธอ แต่เราก็ยังเลือกอยู่ข้างกัน
     ซึ่งตอนผมขึ้นปี 3 น้องผมก็เข้ามหาลัยเดียวกัน ผมจึงไม่ได้อยู่หอกับ A เราแยกกันอยู่
     แต่ก็ยังมีหลายครั้งที่ผมไปนอนกับเธอ ผมก็ต้องยอมเห็นเธอคุยกับแฟนของเธอ ผมเจ็บมาก
     ความรู้สึกตัวสำรองรอตัวจริงบาดเจ็บหวังจะลงเล่นแทน แต่มันก็เป็นอยู่ไม่นานครับ ผมก็กดดันเธอจนสุดท้ายเธอก็เลิกกับแฟนเธอ
     เราก็กลับมาคบกันอีกครั้ง ความรักของเราเริ่มดูเหมือนจะไปไม่รอดเลยครับ เพียงแต่เราพยายามยื้อมันไว้  
     และผมก็ไปทำงานเป็นเด็กเสริฟ์ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ตอนนั้นผมได้พบกับ C ซึ่งคนๆนี้แหละครับ.......
     "ที่ฟ้าส่งมาเพื่อลงโทษคนไม่ดีแบบผม" C ทำงานที่ร้านในตำแหน่งเด็กชงเหล้า เชียร์เบียร์
     น่าจะเรียกว่าพีอาร์ถ้าผมจำไม่ผิดคน5555 แรกพบสบตา ผมพูดได้เต็มปากผมชอบคนๆนี้  
     ผมขอไลน์และเริ่มคุยแบบที่ผ่านมา แต่ครับแต่ ไม่เป็นแบบที่คิดเลย
     เธอไม่อินกับที่สิ่งผมทำ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ครับ น้ำหยอดลงหินทุกวันหินมันจะไม่กร่อนมันเป็นไปได้ที่ไหนครับโผ้มมม
     ผมคุยกับเธอทุกวันซึ่ง C เป็นคนโลกส่วนตัวสูงเอามากๆ แต่ผมก็ทำทุกวิธีเพื่อเอาชนะใจเธอ  
     ผมเริ่มได้พื้นที่เพิ่มมากขึ้น เธอเริ่มรับรู้ถึงความรู้สึกดีๆที่ผมมีให้ จนผมตัดสินใจอยากจะคบกับ C
     แต่แล้วความมักง่ายของผมที่ไม่เคลียร์กับ A ให้ชัดเจน จนวันหนึ่ง A จับได้ว่าผมคุยกับคนอื่น
     เราทะเลาะกันหนักและสุดท้ายผมก็เลิกติดต่อกับ A ผมหันมาคุยกับ C คนเดียวเราเริ่มสนิทกันมากขึ้น เรานอนด้วยกัน
     อยู่ด้วยกันแต่แล้วพอผ่านมาสัก3เดือน A ก็กลับมาบวกกับ ปัญหาของ C ที่ยังซัมติงกับแฟนเก่า
     ผมจึงเลิกคุยกับ C และกับมาคบกับ A อีกครั้ง ความรู้สึกบอกเลยครับ ไม่เหมือนเดิมแน่นอน
     แต่ความรักความเสียสละของ A ที่ให้ผมมันเยอะมากครับ ผมคิดว่าผมไม่อยากทำร้ายคนๆนี้อีก

     ผมพยายามทำทุกๆวันให้มันดีที่สุด แต่สันดารยังไงมันก็คือสันดาร ผมก็ทะเลาะกันเหมือนเดิม
     จนถึงช่วงปิดเทอมใหญ่ปี3 หลังจากนี้ต้องมีการไปฝึกงาน ผมกับเพื่อนในกลุ่มคุยกันเราจะไปฝึกงานด้วยกัน
     มีเพียงแต่A ที่เลือกไปฝึกงานคนเดียว บันเทิงสิครับ ทะเลาะกันเรื่องที่ฝึกงานจนเธออธิบายเหตุผลว่า
     มีญาติอยู่ที่ฝึกงาน จึงต้องไปอยู่กับญาติเธอ ผมก็เข้าใจจึงไม่ว่าอะไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่