[CR] ขจัดคราบฟันเหลืองจาก ชา กาแฟ ด้วยงบน้อยๆ แต่ได้ผลเกินคาด

สวัสดีค่ะเราชื่อ แอร์นะคะ ก่อนอื่นขอถามก่อนเลยว่าใครเป็น Coffee lover  เหมือนแอร์บ้าง ถ้ารู้ตัวว่าใช่ กระทู้นี้เหมาะกับคุณมากๆ เลยค่ะ

เพราะคราบชากาแฟ รวมถึงน้ำอัดลมที่เราดื่มทุกวันเป็นศัตรูตัวร้ายของฟันขาวๆ คราบพวกนี้จะเกาะอยู่ที่เคลือบฟัน และหินปูน (คือพอมีหินปูนคราบพวกนี้ก็จะทำให้หินปูนที่ว่าแย่แล้ว กลับเหลืองเข้าไปอีก ทำให้แย่ยิ่งกว่า) แต่งหน้ายังไง ทาปากสวยแค่ไหน แต่ถ้าฟันเหลืองก็ดูสวยไม่เสร็จอยู่ดี จะไปทำเลเซอร์ หรือฟอกสีฟันที่คลินิค หรือเอาน้ำยากลับมาทำที่บ้าน พอเห็นราคาก็หงายหลังตึงแล้ว (ตัดเรื่องการทำวีเนียร์ไปได้เลย เพราะราคาทำทั้งปากน่าจะเป็นแสน จุดนี้สู้ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ) บวกกับประสบการณ์ของน้องที่ออฟฟิศที่เคยไปฟอกสีฟัน บอกว่าทำมาแล้วจะเสียวฟันขั้นสุด ขนาดลมพัดเข้าปากก็เสียวฟันมากๆ ปวดไปถึงก้านสมอง (น้องมันก็พูดเว่อร์ไป) แล้ว ต้องกินยาแก้ปวดชนิดแรงอยู่หลายวัน แอร์ก็เลยพับโครงการฟอกสีฟันไว้ก่อน แล้วหันมาหาวิธีที่ไม่ต้องเจ็บตัวขนาดนั้น แต่จริงๆ แล้วเหตุผลสำคัญคือไม่อยากเสียเงินแพงๆ อ่ะแหละ

และแอร์ก็ใช้เวลาประมาณ 5 สัปดาห์ในการทดลองวิธีต่างๆ ที่ึคัดมาแล้วว่าน่าจะเยียวยาฟันเหลืองๆ ให้ขาวขึ้นได้ มาดูกันว่าแอร์ใช้วิธีไหนแล้วเวิร์คไม่เวิร์คยังไงบ้าง


สัปดาห์ที่1


ใช้เปลือกกล้วยและเนื้อกล้วยถูฟัน


ในเปลือกกล้วยและเนื้อกล้วยจะมีโพแทสเซียมและแคลเซียม สารเหล่านี้แหละที่จะมาทำให้ฟันเคลือบฟันของเราขาวขึ้นได้ นี่ก็เอาเปลือกกล้วยมาถูที่ฟัน 2-3 นาทีทุกเช้าและก่อนนอนเช่นเดิม แล้วล้างด้วยน้ำอุ่น

สิ่งที่รู้สึกในทันที : รู้สึกฟันสะอาด ตอนถูฟันจะรู้สึกฝาดๆ พอล้างน้ำเสร็จจะรู้สึกว่าฟันลื่นๆ ขึ้น
ผลที่ได้หลัง 1 สัปดาห์ :  รู้สึกว่าไม่ได้ทำให้ฟันขาวขึ้นเลย แค่ทำให้รู้สึกสะอาดขึ้นเพราะมันมีรสฝาดนี่แหละ


สัปดาห์ที่ 2


ใช้ผลสตรอเบอร์รี่ถูฟัน


ผลของสตรอเบอร์รี่จะมีกรดมาลิคเป็นส่วนประกอบช่วยให้ฟันดูขาวสว่างขึ้น และมีวิตามินซีที่ช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดคราบเหลือง จะใช้วิธีบดสตรอเบอร์รี่ 1-2 ลูก หรือจะผ่าสตรอเบอร์รี่ออกเป็นซีกๆ แล้วนำมาถูที่ฟันเบาๆ ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทุกเช้าและก่อนนอน

สิ่งที่รู้สึกทันที : คือมันจะอร่อย 555  ล้อเล่นค่ะ สิ่งที่รู้สึกทันทีคือมันจะเข็ดฟันนิดนึง และเพราะว่าเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวก็เลยรู้สึกว่ามันทำให้เข็ดฟัน แต่ก็สดชื่นเบาๆ นะ
ผลที่ได้หลัง 1 สัปดาห์ :  ฟันก็ไม่ได้ขาวขึ้นมาแบบเห็นชัดนะ แต่ก็รู้สึกว่ามันดูกระจ่างใสขึ้นมานิดหน่อย


สัปดาห์ที่ 3


ใช้ Baking soda ป้ายฟัน


ถ้าสังเกตให้ดี บนฉลากยาสีฟันที่ช่วยให้ฟันขาวมักมี Baking soda เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ฟันขาว  และช่วยปรับลดความเป็นกรดในช่องปากและกำจัดคราบได้ แล่วเราจะรอช้าอยู่ใย ก็เลยเอาเจ้า Baking Soda มาป้ายฟันทิ้งไว้ 5 นาที แล้วบ้วนปากทำความสะอาด แต่ต้องเตือนไว้เลยว่าไม่ควรถูกับฟัน เพราะจะทำให้เคลือบฟันถูกทำลาย ทำให้ฟันผุได้ง่ายนะคะ

สิ่งที่รู้สึกทันที : ฟันจะลื่นๆ และรู้สึกว่าสะอาดมากว่าวิธีอื่น แต่รสชาติจะฝาดๆ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ค่ะ
ผลที่ได้หลัง 1 สัปดาห์ : คราบหินปูนเหลืองๆ มีความเหลืองน้อยลง แต่เพราะ Baking Soda ถ้าใช้บ่อยๆ อาจทำลายเคลือบฟันได้ และกล้วว่าถ้าตกค้างจะเป็นอันตรายอะไรกับช่องปาก แอร์เลยคิดว่าหาวิธีอื่นน่าจะดีกว่าค่ะ


สัปดาห์ที่4


แปรงฟันด้วยยาสีฟันวิเศษนิยม


หันมาลองยาสีฟันวิเศษนิยมแบบผงที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าดีต่อสุขภาพปากและฟัน เพราะมีตัวยาสมุนไพรที่แก้อาการเสียวฟัน บำรุงเหงือก และก็มีคนบอกว่าสามารถนำไปเป็นสครับหน้าได้ด้วยแหละ แต่แอร์ยังไม่เคยลองนะคะ

สิ่งที่รู้สึกทันที : เพราะเป็นยาสีฟันอยู่แล้วก็เลยใช้อย่างสบายใจว่ามันจะไม่ทำลายเคลือบฟัน แต่จะติดที่รสชาติที่กลิ่นสมุนไพรค่อนข้างแรง ฉุนเลยแหละ แต่ก็ให้ความสดชื่นได้อยู่เหมือนกัน
ผลที่ได้หลัง 1 สัปดาห์ :  ฟันสะอาดลื่นนานขึ้นหลังจากแปรงฟัน และรู้สึกได้ว่าสีของฟันดูกระจ่างใสอยู่เหมือนตอนที่ใช้ Baking Soda แต่ไม่ค่อยโอเคกับกลิ่นสมุนไพรเท่าไรค่ะ และผงยาสีฟันมันจะชอบติดอยู่ตามซอกฟันอีกต่างหาก เลยยังคงคิดหาทางอื่นต่อไปค่ะ


สัปดาห์ที่ 5


แปรงฟันด้วยยาสีฟันลดคราบเหลืองที่เกิดจากชา กาแฟ โดยตรง


หลังจากที่ผ่านไปหลายสิ่งอย่างก็ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร เลยไปเล็งๆ ยาสีฟันที่ดูแลปัญหาคราบฟันโดยตรงมา ก่อนลองคือหาข้อมูลทั้งในเนต ทั้งถามคนรอบข้าง แล้วก็เห็นคนแนะนำ Sparkle กันเยอะ เลยตัดสินใจซื้อ สูตรขจัดคราบจากชา กาแฟ มาลอง จริงๆ มีหลายสูตรเลยนะ แต่ที่เลือกสูตรนี้เพราะดูเหมาะกับ Coffee lover  อย่างเราสุดแล้ว และไม่น่าจะทำลายเคลือบฟันเหมือนการใช้ Baking Soda มาป้ายหรือขัดฟันโดยตรง ส่วนเรื่องของราคาก็ไม่ได้แพงอะไรมาก แอร์ซื้อมาจากฟู้ดแลนด์ อันนี้ขนาด 90 กรัม 121 บาทเอง (จริงๆ เห็นมานานแล้วนะ แต่ไม่ได้หยิบซักกะที 555)

สิ่งที่รู้สึกทันที : รสชาติโอเคนะ ไม่หวาน ไม่ซ่า ไม่ทำให้แสบปาก ฟองไม่เยอะเว่อ สามารถควบคุมฟองในปากไม่ให้หยดเลอะเทอะได้
ผลที่ได้หลัง 1 สัปดาห์ : สีของฟันดีขึ้นค่ะ ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าดูขาวกว่าที่คิดไว้ (คงเพราะไม่เคยคาดหวังกับยาสีฟันที่ช่วยให้ฟันขาวด้วยแหละ) ดูโอเคกว่าการใช้ Baking Soda นะ แต่ๆๆ ก็ไม่ได้ขาวสุดขีดเหมือนการฟอกสีฟันขนาดนั้นนะคะ และก็ตอนใช้แอร์รู้สึกว่าช่วยลดกลิ่นปากได้ด้วย ไม่ค่อยมีกลิ่นตุ่ยๆ ของกาแฟเหมือนแต่ก่อนแล้ว ถ้าถามว่าแล้วจะซื้อใช้ต่อมั้ย? ก็คงซื้อค่ะ เพราะหลังจากใช้ต่อเนื่องมาจนใกล้หมดหลอดแรก เริ่มเห็นสีฟันพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นค่ะ และตอนนี้ก็ใช้กันทั้งบ้านไปแล้ววว



สรุปค่ะ คือการใช้วิธีที่ต่างๆ ที่มาจากธรรมชาติ จริงๆ ก็สามารถช่วยให้สีฟันดูขาว กระจ่างใสขึ้นมาได้ ทั้งการใช้สตรอเบอร์รี่ถูฟัน และการใช้ Baking Soda ในการขัดฟัน แต่ก็เป็นวิธีที่ดูจะยุ่งยากไปหน่อย ด้วยความที่เป็นคนขยันค่ะเลยล้มเลิกไป 55 และหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองสุด คือ สะดวก ง่ายและได้ผล ถึงผลลัพธ์อาจจะไม่เท่าการฟอกสีฟันหรือเลเซอร์ที่คลินิก แต่ก็น่าพอใจในระดับนึงเลยค่า

ขอบคุณที่อ่านรีวิวจนจบนะคะ หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ให้กับคนที่งบน้อยแต่อยากได้สีฟันที่ดีกว่าเดิม แล้วพบกันในรีวิวครั้งต่อไปนะคะ ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   McGarrett Baking Soda, วิเศษนิยม, Sparkle Coffee and Tea
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่