รถเปิดประทุนห้ามขึ้นทางด่วน

เรียนการทางพิเศษแห่งประเทศไทยและผู้เกี่ยวข้อง

เมื่อคืนวันที่14 สิงหาคม เวลาประมาณ23.40น. ผมขับรถมาสด้าMX5 เปิดประทุนปี2003เป็นรถที่นำเข้ามาจากตัวแทนจำหน่ายมาสด้าประจำประเทศไทย  โดยขับแบบเปิดหลังคาขึ้นทางพิเศษศรีรัชจากด่านยมราชมุ่งหน้าพระราม9ในช่องทางชำระเงินที่2(ช่องเงินสดเปิดบริการอยู่ช่องทางเดียว) โดยชำระค่าผ่านทางพิเศษเป็นเงินสดธนบัตรฉบับละ100บาท ขณะที่รอเงินทอน50บาทนั้นเจ้าหน้าที่ไม่ทอนเงินมาให้โดยถือในมือให้เห็นแล้วบอกว่า

"รถเปิดประทุนห้ามขึ้นทางด่วนครับ กรุณาปิดหลังคาก่อน"

ซึ่งผมเคยได้ยินจากในกลุ่มเรื่องที่เจ้าหน้าที่ห้ามมาครั้งหนึ่งซึ่งตอนนั้นคิดว่ารถพี่ในกลุ่มเค้าอาจจะแต่งไปเยอะเลยโดนเรียก แต่กับรถผมที่สภาพภายนอกเดิมๆทั้งคันท่อเงียบๆกริบใส่ล้อลายใหม่ขนาดเดิมโรงงานไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ปกติขับรถเข้าด่านตำรวจบ่อยก็ไม่เคยโดนเรียกตรวจสักครั้ง
อีกทั้งในเวบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย http://www.exat.co.th/ มีการระบุถึง
"ระเบียบเกี่ยวกับการจราจรในทางพิเศษ พ.ศ. ๒๕๕๕" http://www.exat.co.th/upload/default/admin/2013/11/52775ffaa7103.pdf
ซึ่งมีอยู่ข้อเดียวที่ระบุเกี่ยวกับหลังคา "(๙) รถซึ่งบรรทุกคนในกระบะท้าย โดยไม่จัดให้มีหลังคาปกปิดมิดชิดและที่นั่งสองแถวมั่นคงแข็งแรง อันอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สิน"

แต่รถผมเป็นรถสองที่นั่งมีเข็มขัดนิรภัย3จุดทุกที่นั่งและผมคาดตลอดการขับขี่แม้ในขณะที่ชำระค่าผ่านทางพิเศษ ไม่มีการบรรทุกอะไรเพิ่มเติมนอกจากหมอนเท้าแขนอันเดียว ตัวเบาะมีพนักพิงสูงกว่าหัวและมีโครงสร้างแข็งเป็นโรลโอเวอร์บาร์กันยุบในตัว รถรุ่นนี้ถูกนำไปขายทั่วโลกแต่กลับมีปัญหากับการขึ้นทางด่วนในประเทศไทย

เข้าใจว่าท่านเป็นธุรกิจที่ไม่ง้อลูกค้า(ขึ้นไปรถติดก็ไม่คืนเงิน) ดังนั้นผมขอเสนอสามทางเลือกคือ

1. หากมีการระบุห้ามรถเปิดประทุนในกฎหมายอื่นๆอยู่แล้วกรุณาปิดป้ายประชาสัมพันธ์ไว้บริเวณก่อนถึงด่านชำระเงิน อาจจะเป็นความผิดของผมเองที่หาข้อมูลไม่ครบ

2. ไปแก้ข้อกฎหมายห้ามกันเป็นทางการและประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกันหรือในเวบท่านก็ได้ ผมเชื่อว่าคนไทยหลายๆคนอ่านหนังสือเข้าใจ

3. หากใช้ระเบียบเกี่ยวกับการจราจรในทางพิเศษฉบับเดิม กรุณานำพนักงานไปอบรมใหม่ หรือจัดหาคนบุคลากรที่อ่านหนังสือออกเข้าใจภาษาไทยมาทำงานแทนในตำแหน่งหน้าที่นี้ ผมเชื่อว่าคนที่มีศักยภาพสูงและว่างงานมีอยู่มากในตลาดแรงงาน

ผมหวังว่าคำแนะนำบริการนี้จะเป็นประโยชน์กับองค์กรของท่านและผู้ใช้บริการโดยทั่วไป ส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ชอบละเมิดกฎหมายแต่การที่เจ้าหน้าใช้อำนาจโดยไม่ระบุที่มาของกฎระเบียบนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย (การยื้อทอนเงินนี่เรียกกรรโชกทรัพย์ได้ไหม)

ปล.ปกติขี่มอไซค์เครื่อง1400ก็โดนห้ามวิ่งขวาขึ้นสะพานและลงอุโมงค์ พอหนีมาขับรถเปิดประทุนก็โดนห้ามขึ้นทางด่วน เมืองไทยชักอยู่ยากแล้วนะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เอ่อ... เค้าไม่ได้ประชาสัมพันธ์ ผมก็รู้ครับ
รถกระบะ ก็ด้วย ถ้าบรรทุกสินค้าไม่มีผ้าคลุม ขึ้นไม่ได้
กระบะ ถ้ามีคนนั่งหลัง ไม่มีหลังคา ขึ้นไม่ได้ แถมวิ่งถนนทั่วไปก็ผิด
ต่างๆ เหล่านี้ ผมว่า เค้าประกาศไปแล้วนะ

ในเมื่อเค้าบอกว่า ให้ปิดก่อน ก็ปิดสิครับ
กฏเพื่อความปลอดภัยของคนอื่น
ถ้ามีของปลิว แล้วคนอื่นหักหลบ มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
เราบอกว่า ก็ของปลิวไป ก็ช่างมัน แต่คันอื่น เค้าไม่ได้คิดแบบเรา
ความคิดเห็นที่ 4
อย่าดูที่ตัวอักษร แต่ควรเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ ที่ทราบมาวัตถุประสงค์คือ เขาต้องการที่จะป้องกันไม่ให้คนกระเด็นออกจากตัวรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น ยางแตก รถส่าย หรือแม้กระทั่งอาจมีหินปลิวมาโดนได้ รวมถึงของจะในรถเราอาจจะกระเด็นออกไปโดนรถคันอื่นและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เขาจึงกำหนดเช่นนั้น (ยกเว้นอุบัติเหตุรุนแรงจริงๆ ที่ทำให้ตัวรถฉีกขาด ที่อาจจะป้องกันไม่ได้) แม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้เขียนว่า รถเปิดประทุน แต่ก็น่าจะคล้ายๆ กับรถกระบะที่ไม่มีหลังคาแล้วให้คนนั่งที่ตอนหลัง จริงๆ ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่คนนั้นด้วยซ้ำไป ว่าเขาเข้าใจในหลักการและปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้องในการที่จะป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดกับผู้ที่อยู่ในรถ อย่าไปตำหนิเขาเลยครับ เราไม่รู้หรอกว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไร ในทางตรงข้ามถ้าเขายินยอมให้รถเปิดประทุนเข้าไป สมมติว่าไปเจอถนนลื่น รถเหวี่ยงไปมาทำให้คนกระเด็นออกจากรถ หรือมีหินกระเด็นมาโดนศีรษะผู้ขับจนเกิดอันตราย (ถ้ามีหลังคาก็จะช่วยป้องกันได้ระดับหนึ่ง) เจ้าหน้าที่คนนั้นก็อาจจะโดนร้องเรียนหรือถูกลงโทษว่า ปล่อยให้รถเข้ามาได้อย่างไร

ที่ผมเห็นบ่อยๆ คือ ปล่อยให้รถที่ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดให้เข้าไปในด่าน และตำรวจก็รอเรียกอยู่หลังด่าน นี่ต่างหากเป็นสิ่งที่ควรตำหนิ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่