ทริปอยากเที่ยว แต่ไม่มีเวลา ไม่มีตัง ไม่มีแพลน
ปล.การเดินทางนี้ เป็นทริป 3วัน2คืน เราไปมาตั้งแต่เดือน เมษา 2015 หนึ่งปีกว่าๆ ผ่านไปอาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ก็เชื่อว่า คนที่มาเที่ยวหลังจากเราจะได้เห็นอะไรที่สวยเหมือนกัน หรือสวยมากกว่านี้ อย่าให้มันสวยน้อยลงไปกว่าเดิมเลย
มาเที่ยวกันก็ช่วยกันดูแล เพื่อที่คนมาทีหลังจะได้รู้ ว่าที่เราบอกว่ามันดี มันสวย มันสวยยังไงค่ะ
เราเดินทางในช่วงปลายเดือนเมษา เป็นช่วงต้นฤดูฝน ทริปนี้เดินทางโดย รถมอเตอร์ไซค์ สมาชิกร่วมทางมี 5คน และทุกคนเตรียมตัวมาลุยได้ทุกสภาพอากาศอยู่แล้ว
ลงเครื่องบินที่เชียงใหม่เสร็จก็ตรงไปร้านเช่ารถ เราได้จองรถไว้แล้ว 3คัน คือ
1. suzuki raider 150
2. honda pcx 150
3. yamaha grand filano 125
ถ้าไปคันนี้ น่าจะไม่พ้นโค้งแรกแน่ รถพร้อม หมวกพร้อม คนขี่พร้อม ก็ออกเดินทางได้
ออกเดินทาง สู่นอกเมือง จุดหมายปลายทางแห่งแรก คือไปหากาแฟชิคๆ ที่มีร้านอยู่บนต้นไม้ใหญ่
ขับรถมาไกลมาก จนแอบคิดว่านี่หลงทางหรือเปล่า ทำไมร้านนี้ถึงได้ไกลขนาดนี้ ขึ้นเขา ลงเขา ลูกแล้วลูกเล่า ก็ยังไม่ถึง
เราตามหาร้านกาแฟ ร้านหนึ่งที่ดังมากใน Social นั่นคือร้าน The Giant เป็นร้านกาแฟที่สร้างอยู่บนต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่มากๆ และเห็นวิวทิวทัศน์ที่เป็นภูเขาซ้อนกันไปมา ไกลไปสุดลูกหูลูกตา
เจอสะพานไม้ขนาดไม่ใหญ่ที่ทอดยาวไปสู่ร้าน
แต่ตอนนี้ได้ข่าวว่าทางร้านได้ขยายร้านออกไปตรงพื้นที่ด้านข้างแล้ว เพื่อเพิ่มโต๊ะให้รองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่หลั่งไหลมา นั่นก็คงเพื่อให้ทุกคนที่มาถึงแล้วได้มีที่นั่ง ไม่ไปแล้วต้องรอโต๊ะนานๆ
กินกาแฟนชื่นชมร้านและป่าเขาได้สักพัก ก็ออกเดินทางต่อ สู่บ้านแม่กำปอง
บ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่ที่ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
ตรงนี้เป็นปากทางเข้าหมู่บ้าน มุมนี้มองไปสวย เห็นบ้านเรือนเล่นระดับอยู่บนไหล่เขา แค่เห็นทางเข้าหมู่บ้าน ก็ร้อง “ว้าวววว” กันแล้ว
แล้วออกเดินทางกันต่ออีกนิด เข้าสู่หมู่บ้านแม่กำปอง
บ้านพักโฮมสเตย์ รวมข้าว2มื้อ คนละประมาณ500บาท มีเจ้าของบ้านดูแลเอาใจใส่ยังกะลูกกะหลาน
การที่เราจะได้นอนบ้านหลังไหนนั้น ขึ้นอยู่กับทางเค้าจะจัดให้นอน เราเลือกเองไม่ได้
เป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ที่มีการจัดการแบบเป็นระบบ เจ้าของบ้านจะได้เงินส่วนหนึ่ง และอีกส่วนที่เหลือจะเก็บเข้าสหกรณ์ เป็นเงินหมุนเวียนในชุมชนต่อไป
วันที่เราไปนั้น หมู่บ้านมีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่ม ต่างก็แยกไปนอนบ้านต่างๆ ตามที่เค้าจัดให้
เจ้าของบ้านที่เราไปพัก ยกบ้านชั้นสองให้เราทั้งชั้น มีสองห้องนอน มีห้องโถงใหญ่
ซึ่งแน่นอนว่า ต่างถิ่นไปแบบนี้……...เราทั้ง 5 คน ออกมานอนกองรวมกันข้างนอกค่ะ อากาศที่นี่พอตกค่ำแล้ว อากาศก็จะเย็นลง แต่ช่วงต้นฝน ยังไม่ได้หนาวมาก นอนสบายเหมือนเปิดแอร์ 18องศา
เราได้รับรู้วิถีของชุมชนนี้การพูดคุยกับเจ้าของบ้าน ก็ตอนที่เค้าทำกับข้าวให้กินนั่นแหละค่ะ ได้ข้อมูลมาเยอะเลย
อาหารที่ทางเจ้าของบ้านทำให้กิน คืออร่อยทุกอย่างจริงๆ น้ำพริกหนุ่ม หนังไก่ ไข่เจียว ผัดผัก บางทีก็อยู่ที่ดวงด้วยนะว่าบ้านที่เราได้พัก เจ้าของทำกับข้าวอร่อยไหม โชคเข้าข้างเรา บ้านนี้ทำกับข้าวอร่อย เป็นอาหาร 2มื้อ ที่อิ่มหนำสำราญเติมข้าวไปหลายจาน
ส่วนอีกมื้อหนึ่งเป็น ต้มยำ นำพริกอ่อง ผัดผัก และไข่เจียว อิ่มจุกกันถ้วนหน้า
กินอิ่มแล้วก็ออกเดินเที่ยวในหมู่บ้านเล่นกันค่ะ
ดูว่าเค้าอยู่อย่างไร ทำอะไร ค้าขายอะไร วัด น้ำตก ต้นไม้ ดอกไม้ เดินดูไปเรื่อยๆชิลๆค่ะ
หลังบ้านที่เราพัก มีทางเดินไปดูน้ำตก เป็นน้ำตกเล็กๆ มีลำธารไหลผ่านกลางหมู่บ้าน ดังนั้นโฮมสเตย์บางหลังจะติดน้ำตกเลย ไหลผ่านข้างบ้าน บรรยากาศดีมากๆ
อากาศก็กำลังเย็นสบาย ซื้นๆ เย็นๆจมูก ลำธารไหลผ่านเอื่อยๆ น้ำใสแจ๋ว
ดอกลำโพงเป็นดอกไม้ที่เราจะพบเห็นได้ทั่วไป ขึ้นดี ขึ้นดก ขึ้นทุกบ้าน ขึ้นตลอดทาง มีหลายสีด้วย เป็นดอกไม้ท้องถิ่น เหมือนเราเจอดอกเฟื่องฟ้า ดอกคุณนายตื่นสาย ตามบ้านในกรุงเทพ อะไรแบบนั้นแหละค่ะ
วัดกันธาพฤกษา (วัดแม่กำปอง) วัดเดียวในหมู่บ้าน สร้างมาในยุคเดียวกับการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของชุมชน ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมของภาคเหนือ
โดยมีพระอุโบสถตั้งอยู่กลางน้ำ ส่วนวิหารหลังเก่าเป็นไม้ทั้งหลัง หน้าจั่วหลังคาวัดแกะสลักจากไม้สักเป็นลวดลายแบบล้านนา (ช่วงสาระ แอบเปิดกูเกิ้ลมาค่ะ)
หลังคาวัด มีต้นแบบนี้ขึ้นคลุมทั้งหลังคา อาจเพราะอากาศที่เย็นและชื้นตลอดปี และอยู่ใกล้น้ำตก ไม่เฉพาะหลังคาวัด รูปปั้น รั้ว ราวจับ ทางเดิน ก็มีต้นนี้ขึ้นหมด ขนาดตามพื้นก็ยังขึ้นค่ะ
ถ่ายรูปหมู่กันสักรูป
ตื่นเช้ามา กินข้าว เก็บของ แวะเติมน้ำมันแล้วออกเดินทางกันต่อ
ร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีวิวมหาศาลมาก
ร้านชมนก ชมไม้ เป็นร้านกาแฟชื่อดังอีกร้านใน social ค่ะ
ที่คนมาเที่ยวบ้านกำปองต้องแวะชมจุดชมวิวตรงนี้ ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง กาแฟสดทางร้านก็ขั้วเองค่ะ ลองมาชิมกันได้
จุดหมายถัดไปคือ
น้ำตกแม่กำปอง น้ำตกมีหลายชั้นมาก ชั้นนี้อยู่แถวล่างๆเลย สามารถไต่ขึ้นไปได้อีก แต่เราไม่ได้ไปจนสุดทางหรอก เพราะเวลาไม่พอ เดี๋ยวจะไปถึง น้ำพุร้อนแจ้ซ้อนเย็นเกินไป
กิ่วฝิ่น
จังหวัดจำปาง อยู่บนยอดเขาสูง เห็นวิวได้180องศา มองลงไปเห็นเขาข้างล่าง ยึกยักๆซ้อนกันไปมา สวยมาก
ถ่ายมายังไงก็ไม่สวยเหมือนไปดูเอง ดังสำนวน 10ปากว่า ไม่เท่าตาเห็น ถ้าผ่านมาก็มาแวะกันนะคะ สวยจริงๆ
แล้วเราก็ออกเดินทางต่อไป สู่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ไปนอนแช่ออนเซ็นกันดีกว่า
ถ้าชอบดูรูป หรืออยากรู้ว่าอีกสองวันไปเจออะไร ไปไหนมาบ้างก็ตามชมรีวิววันต่อไปได้ค่ะ
วันที่2 : ร้อนกายแต่ว่าเย็นใจ ที่บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน http://ppantip.com/topic/35485365
วันที่3 :"วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์" มหัศจรรย์แห่งศรัทธา http://ppantip.com/topic/35485442
ฝากเพจน้อยๆนี้ไว้ในอ้อมใจด้วยค่ะ
https://www.facebook.com/sandysohappy/
[CR] บิดสองล้อไปนอนโฮมสเตย์ ที่บ้านแม่กำปอง
ทริปอยากเที่ยว แต่ไม่มีเวลา ไม่มีตัง ไม่มีแพลน
ปล.การเดินทางนี้ เป็นทริป 3วัน2คืน เราไปมาตั้งแต่เดือน เมษา 2015 หนึ่งปีกว่าๆ ผ่านไปอาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ก็เชื่อว่า คนที่มาเที่ยวหลังจากเราจะได้เห็นอะไรที่สวยเหมือนกัน หรือสวยมากกว่านี้ อย่าให้มันสวยน้อยลงไปกว่าเดิมเลย
มาเที่ยวกันก็ช่วยกันดูแล เพื่อที่คนมาทีหลังจะได้รู้ ว่าที่เราบอกว่ามันดี มันสวย มันสวยยังไงค่ะ
เราเดินทางในช่วงปลายเดือนเมษา เป็นช่วงต้นฤดูฝน ทริปนี้เดินทางโดย รถมอเตอร์ไซค์ สมาชิกร่วมทางมี 5คน และทุกคนเตรียมตัวมาลุยได้ทุกสภาพอากาศอยู่แล้ว
ลงเครื่องบินที่เชียงใหม่เสร็จก็ตรงไปร้านเช่ารถ เราได้จองรถไว้แล้ว 3คัน คือ
1. suzuki raider 150
2. honda pcx 150
3. yamaha grand filano 125
ถ้าไปคันนี้ น่าจะไม่พ้นโค้งแรกแน่ รถพร้อม หมวกพร้อม คนขี่พร้อม ก็ออกเดินทางได้
ออกเดินทาง สู่นอกเมือง จุดหมายปลายทางแห่งแรก คือไปหากาแฟชิคๆ ที่มีร้านอยู่บนต้นไม้ใหญ่
ขับรถมาไกลมาก จนแอบคิดว่านี่หลงทางหรือเปล่า ทำไมร้านนี้ถึงได้ไกลขนาดนี้ ขึ้นเขา ลงเขา ลูกแล้วลูกเล่า ก็ยังไม่ถึง
เราตามหาร้านกาแฟ ร้านหนึ่งที่ดังมากใน Social นั่นคือร้าน The Giant เป็นร้านกาแฟที่สร้างอยู่บนต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่มากๆ และเห็นวิวทิวทัศน์ที่เป็นภูเขาซ้อนกันไปมา ไกลไปสุดลูกหูลูกตา
เจอสะพานไม้ขนาดไม่ใหญ่ที่ทอดยาวไปสู่ร้าน
แต่ตอนนี้ได้ข่าวว่าทางร้านได้ขยายร้านออกไปตรงพื้นที่ด้านข้างแล้ว เพื่อเพิ่มโต๊ะให้รองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่หลั่งไหลมา นั่นก็คงเพื่อให้ทุกคนที่มาถึงแล้วได้มีที่นั่ง ไม่ไปแล้วต้องรอโต๊ะนานๆ
กินกาแฟนชื่นชมร้านและป่าเขาได้สักพัก ก็ออกเดินทางต่อ สู่บ้านแม่กำปอง
บ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่ที่ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
ตรงนี้เป็นปากทางเข้าหมู่บ้าน มุมนี้มองไปสวย เห็นบ้านเรือนเล่นระดับอยู่บนไหล่เขา แค่เห็นทางเข้าหมู่บ้าน ก็ร้อง “ว้าวววว” กันแล้ว
แล้วออกเดินทางกันต่ออีกนิด เข้าสู่หมู่บ้านแม่กำปอง
บ้านพักโฮมสเตย์ รวมข้าว2มื้อ คนละประมาณ500บาท มีเจ้าของบ้านดูแลเอาใจใส่ยังกะลูกกะหลาน
การที่เราจะได้นอนบ้านหลังไหนนั้น ขึ้นอยู่กับทางเค้าจะจัดให้นอน เราเลือกเองไม่ได้
เป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ที่มีการจัดการแบบเป็นระบบ เจ้าของบ้านจะได้เงินส่วนหนึ่ง และอีกส่วนที่เหลือจะเก็บเข้าสหกรณ์ เป็นเงินหมุนเวียนในชุมชนต่อไป
วันที่เราไปนั้น หมู่บ้านมีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่ม ต่างก็แยกไปนอนบ้านต่างๆ ตามที่เค้าจัดให้
เจ้าของบ้านที่เราไปพัก ยกบ้านชั้นสองให้เราทั้งชั้น มีสองห้องนอน มีห้องโถงใหญ่
ซึ่งแน่นอนว่า ต่างถิ่นไปแบบนี้……...เราทั้ง 5 คน ออกมานอนกองรวมกันข้างนอกค่ะ อากาศที่นี่พอตกค่ำแล้ว อากาศก็จะเย็นลง แต่ช่วงต้นฝน ยังไม่ได้หนาวมาก นอนสบายเหมือนเปิดแอร์ 18องศา
เราได้รับรู้วิถีของชุมชนนี้การพูดคุยกับเจ้าของบ้าน ก็ตอนที่เค้าทำกับข้าวให้กินนั่นแหละค่ะ ได้ข้อมูลมาเยอะเลย
อาหารที่ทางเจ้าของบ้านทำให้กิน คืออร่อยทุกอย่างจริงๆ น้ำพริกหนุ่ม หนังไก่ ไข่เจียว ผัดผัก บางทีก็อยู่ที่ดวงด้วยนะว่าบ้านที่เราได้พัก เจ้าของทำกับข้าวอร่อยไหม โชคเข้าข้างเรา บ้านนี้ทำกับข้าวอร่อย เป็นอาหาร 2มื้อ ที่อิ่มหนำสำราญเติมข้าวไปหลายจาน
ส่วนอีกมื้อหนึ่งเป็น ต้มยำ นำพริกอ่อง ผัดผัก และไข่เจียว อิ่มจุกกันถ้วนหน้า
กินอิ่มแล้วก็ออกเดินเที่ยวในหมู่บ้านเล่นกันค่ะ
ดูว่าเค้าอยู่อย่างไร ทำอะไร ค้าขายอะไร วัด น้ำตก ต้นไม้ ดอกไม้ เดินดูไปเรื่อยๆชิลๆค่ะ
หลังบ้านที่เราพัก มีทางเดินไปดูน้ำตก เป็นน้ำตกเล็กๆ มีลำธารไหลผ่านกลางหมู่บ้าน ดังนั้นโฮมสเตย์บางหลังจะติดน้ำตกเลย ไหลผ่านข้างบ้าน บรรยากาศดีมากๆ
อากาศก็กำลังเย็นสบาย ซื้นๆ เย็นๆจมูก ลำธารไหลผ่านเอื่อยๆ น้ำใสแจ๋ว
ดอกลำโพงเป็นดอกไม้ที่เราจะพบเห็นได้ทั่วไป ขึ้นดี ขึ้นดก ขึ้นทุกบ้าน ขึ้นตลอดทาง มีหลายสีด้วย เป็นดอกไม้ท้องถิ่น เหมือนเราเจอดอกเฟื่องฟ้า ดอกคุณนายตื่นสาย ตามบ้านในกรุงเทพ อะไรแบบนั้นแหละค่ะ
วัดกันธาพฤกษา (วัดแม่กำปอง) วัดเดียวในหมู่บ้าน สร้างมาในยุคเดียวกับการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของชุมชน ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมของภาคเหนือ
โดยมีพระอุโบสถตั้งอยู่กลางน้ำ ส่วนวิหารหลังเก่าเป็นไม้ทั้งหลัง หน้าจั่วหลังคาวัดแกะสลักจากไม้สักเป็นลวดลายแบบล้านนา (ช่วงสาระ แอบเปิดกูเกิ้ลมาค่ะ)
หลังคาวัด มีต้นแบบนี้ขึ้นคลุมทั้งหลังคา อาจเพราะอากาศที่เย็นและชื้นตลอดปี และอยู่ใกล้น้ำตก ไม่เฉพาะหลังคาวัด รูปปั้น รั้ว ราวจับ ทางเดิน ก็มีต้นนี้ขึ้นหมด ขนาดตามพื้นก็ยังขึ้นค่ะ
ถ่ายรูปหมู่กันสักรูป
ตื่นเช้ามา กินข้าว เก็บของ แวะเติมน้ำมันแล้วออกเดินทางกันต่อ
ร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีวิวมหาศาลมาก ร้านชมนก ชมไม้ เป็นร้านกาแฟชื่อดังอีกร้านใน social ค่ะ
ที่คนมาเที่ยวบ้านกำปองต้องแวะชมจุดชมวิวตรงนี้ ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง กาแฟสดทางร้านก็ขั้วเองค่ะ ลองมาชิมกันได้
จุดหมายถัดไปคือ น้ำตกแม่กำปอง น้ำตกมีหลายชั้นมาก ชั้นนี้อยู่แถวล่างๆเลย สามารถไต่ขึ้นไปได้อีก แต่เราไม่ได้ไปจนสุดทางหรอก เพราะเวลาไม่พอ เดี๋ยวจะไปถึง น้ำพุร้อนแจ้ซ้อนเย็นเกินไป
กิ่วฝิ่น
จังหวัดจำปาง อยู่บนยอดเขาสูง เห็นวิวได้180องศา มองลงไปเห็นเขาข้างล่าง ยึกยักๆซ้อนกันไปมา สวยมาก
ถ่ายมายังไงก็ไม่สวยเหมือนไปดูเอง ดังสำนวน 10ปากว่า ไม่เท่าตาเห็น ถ้าผ่านมาก็มาแวะกันนะคะ สวยจริงๆ
แล้วเราก็ออกเดินทางต่อไป สู่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ไปนอนแช่ออนเซ็นกันดีกว่า
ถ้าชอบดูรูป หรืออยากรู้ว่าอีกสองวันไปเจออะไร ไปไหนมาบ้างก็ตามชมรีวิววันต่อไปได้ค่ะ
วันที่2 : ร้อนกายแต่ว่าเย็นใจ ที่บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน http://ppantip.com/topic/35485365
วันที่3 :"วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์" มหัศจรรย์แห่งศรัทธา http://ppantip.com/topic/35485442
ฝากเพจน้อยๆนี้ไว้ในอ้อมใจด้วยค่ะ https://www.facebook.com/sandysohappy/