จากปากคนเคยทำไซไลน์

สวัสดีค่ะชื่อฝ้าย ตอนนี้อายุ27ปีค่ะเอาหล่ะ แรงบัลดาลใจในการมาบอกเล่าก็คือ ข่าวที่กำลังดังตอนนี้ค่ะ และคอมเม้มมากมายค่ะ ขอเริ่มจากเรื่องของเราก่อนนะคะ ครอบครัวเรามีกัน 5 คน พ่อ แม่ ลูกอีก 3 เราเป็นพี่คนโต ตั้งแต่จำความได้เราโดนทุบตีอย่างหนัก หัวแตก เพราะหยิบของผิดพ่อโมโหตีเราจนหัวแตกเย็บไป8เข็มตอนนั้นอยู่อนุบาล3จำขึ้นใจค่ะต่อมาก็โดนตีธรรมดามาเรื่อยๆเรื่องเล็กๆน้อยๆ ป2. สอบได้ที่10 (บอกก่อนเรื่องที่โดนพ่อตีบ่อยสุดก็คือเรื่องเรียนถ้าสอบไมไ่ด้เลขตัวเดียวโดนแน่ๆ) วันนั้นพ่อไปเอาไม้ที่เขากำลังก่อสร้างมาตีเรามีตะปู จำได้ว่าตีไป20ทีเลือดงี้ไหลออกจากขาไม่หยุดแม่ก็ไม่กล้าห้ามขนาดย่าเข้ามาห้ามย่ายังโดนพ่อตีไปด้วยเลยหลังจากนั้นป.6 เราไปเที่ยวทะเลกับลูกพี่ลูกน้องโดยบอกแค่แม่แต่ไม่บอกพ่อพ่อกลับมากระทืบค่ะใช้คำว่ากระทืบทั้งกระทืบทั้งเหวี่ยงเราใส่ประตูรั่วบ้านจนพัง แล้วกระทืบซ้ำ ปากแตกกำเดาไหล ย่าเข้ามาห้ามก็โดนพ่อเตะ เราโดนแบบนี้มาบ่อยมากและน้องเราก็พอๆกันแต่จะน้อยกว่าน้องจะโดนเรื่องเรียนเหมือนๆกัน  หลังจากนั้นเราขึ้นม.1 พ่อเรามีเมียน้อยเราไปบอกแม่ พอพ่อรู้ว่าเราเป็นคนไปบอกพ่อลากเราไปกระทืบ ทั้งเตะเข้าเบ้าตาจนตาขาวมีแต่เลือด ฉีกเสื้อผ้าประจานเรา เรายกมือไหว้ขอร้องเขาก็ไม่หยุด จนแม่เข้ามาลากเราแล้วพาเรากับน้องหนีออกมา อย่าถามถึงสภาพจิตใจ ณ ตอนนั้นค่ะ แค่เวลาพิมนี้น้ำตาก็ไหลแล้ว พอมาอยู่กับแม่แม่ไม่สามารถส่งเราเรียนต่อได้ ชีวิตเราจึงจบอยู่ที่ม.1เท่านั้นตอนนั้นเรากับแม่ก็ดิ้นรนทุกอย่างเพื่อให้น้องๆได้เรียน (ส่วนพ่อก็มีเมียใหม่ไปไม่สนใจใยดีอะไรทั้งนั้น) เราไม่มีการศึกษางานก็ไม่ต้องถามถึงแม่กวาดขยะวันละ300 น้องสองคนต้องเรียนมีเงินไปโรงเรียนคนละ 20 บาท เราเริ่มจากการไปสมัครร้านคาราโอเกะให้เขานั่งล้วงนั่งอะไร หลังจากกลับมาบ้านทุกวันก็นั่งร้องไห้ แม่ก็บอกว่าให้ทน เราเลือกไมไ่ด้อีกแล้ว เราก็ทำเรื่อยๆจนชินคะ กลับมาก็เห็นน้อง ได้กินข้าวแม่กินข้าวก็สบายใจวันนั้นมีพี่ที่ทำงานติดต่องานไซไลน์ให้คือแปปงานมีหน้างานมารับตอนแรกบอกปฎิเสธไปค่ะ หลังจากนั้นสองสามวัน ค่าเทอมน้องๆมา แม่บอกจะให้น้องคนกลางหยุดเรียนเพื่อให้น้องคนเล็กได้เรียนต่อ น้องคนกลางร้องไห้เขามากอดเราแล้วหนูไม่ยอมพี่ฝ้ายช่วยหนูได้ไหม ตอนนั้นเราสงสารและเข้าใจน้องคนกลางมากๆ เราคิดอยู่สองสามวันเลยติดต่อกลับไปใหม่ตัดสินใจทำไซไลน์โดยที่ไม่บอกแม่ บอกแค่ว่ามีงานเสริมทำ  (รายละเอียดจาการทำนั้นขอไม่พูดถึงนะคะ)  พอเราได้เงินมาน้องเราก็ได้เรียนต่อทุกคนค่ะ เราก็รับงานไปเรื่อยๆ น้องเราได้เรียน ไม่ต้องอดแม่ได้กินดีอยู่ดี เราคิดว่า การทำงานแบบนี้เป็นที่รังเกียจของใครหลายคนเสียศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง แต่สำหรับเราศักดิ์ศรีกินไม่ได้ ถ้าเราห่วงศักดิ์ศรีแม่เราน้องเราก็จะอดไม่ได้เรียน เป็นปัญหาของสังคม แต่เรายอมที่จะเจ็บปวดอยู่คนเดียว เวลารับงานไม่ได้มีความสุขค่ะต้องกลั้นใจอดทนตีหน้ายิ้ม เพื่อจะเอาเงิน พอได้เงินทุกอย่างจบ เรานี้พอเสร็จงานอยากกลับบ้านไปหาแม่หาน้องทันที การรับเราไม่มีความสุขจริงๆ ทรมาณจิตใจ อยากหนีออกมาจากห้องแต่มันทำไม่ได้ แต่ก็นะเพื่อเงินค่ะ เราทำงานไซไลน์ไปเรื่อยๆเก็บเงินเปิดร้านกาแฟหน้าโรงเรียนให้แม่ส่วนน้องก็ทำงานที่7-11แล้วก็โลตัสส่งตัวเองเรียน ส่วนเราเลิกทำแล้วค่ะ เรามีแฟน(แฟนนี้ไม่ใช่ลูกค้าค่ะเจอกันที่อื่น) มีลูก2คนทำธุรกิจของที่บ้านแฟนค่ะ นี้เป็นเรื่องคร่าวๆของเรา ชีวิตเลือกไม่ได้มันใช้ได้กับแค่บางคนเท่านั้น อาชีพไซไลน์ ไม่ดีก็จริงแต่อาชีพนี้ไมไ่ด้ทำใครตาย(ยกเว้นพวกเลวๆที่จะเอาเชื้อไปติดคนอื่น) เราไมไ่ด้ไปขโมยของใคร (ยกเว้นพวกเมียน้อย) แต่กับน้องที่เป็นข่าว น้องหน้าตาดีกว่าพี่เยอะหุ่นดีและชีวิตน้องก็หรูกว่าพี่มาก น้องอย่าใช้คำว่าชีวิตเลือกไม่ได้เลยค่ะ อาชีพนี้สังคมก็ดูถูกกันมากพอแล้ว ยิ่งน้อยมาใช้ข้ออ้างแบบนี้เพื่อให้ตัวเองดูดี มันยิ่งน่ารังเกียจไปกว่าเดิม พอเถอะค่ะน้อง

สุดท้ายนี้ ใครอยากด่าเราก็รังเกียจเราก็เชิญ เราไม่สน สำหรับคนที่บอกว่า เป็นกระxxx เสียศักดิ์ศรี สำหรับเรา ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ค่ะ


เพิ่มเติมค่ะ เลิกทำไปหลายปีแล้วค่ะพอแม่มีอาชีพที่มั่นคงและน้องส่งตัวเองเรียนได้ ระหว่างทำเราไม่เคยใช้ของหรูหรือสบายเลยกินข้าวข้างทางเหมือนคนอื่นๆทั่วไป ปัจจุบันโทรศัพก็ยังใช้ของทรูอยู่เลยกระเป๋าใบละ20 ไม่เคยใช้ของแพง  ไม่ได้แก้ตัวแต่เรื่องจริงค่ะ แต่ไม่เป็นไรต่างคนต่างความคิดแค่อยากเล่าเรื่องที่มันอึดอัดอยู่ในใจบ้าง แค่นั้นเองเพราะมันไม่สามารถบอกให้ใครรู้ได้เรื่องแบบนี้ ขนาดแม่ยังไม่รู้เลยโกหกแม่ว่าเงินที่ให้แม่แฟนเราเป้นคนให้(ตอนนั้นไม่มีแฟนยังรับอยู่เลยโกหกไป) ขอบคุณที่เข้าใจและขอบคุณสำหรับข้อคิดที่ดีค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ถ้าคนที่เกิดมาไม่สวย หรือเกิดมาเป็นผู้ชาย ก็คงทำไซด์ไลน์ไม่ได้เหมือนคุณ แต่เค้าก็มีทางเลือกอื่นทำเพื่อให้อยู่รอดได้

คุณไม่ต้องมาอ้างว่าไม่มีทางเลือกหรอกครับ ทุกคนมีทางเลือกหมด แต่ทางเลือกของคุณก็คือขายศักดิ์ศรีเพื่อเงิน เพราะคุณคิดว่าศักดิ์ศรีกินไม่ได้ คุณคิดแบบนี้ได้ก็จบ ไม่ต้องไปซีเรียสอะไรมาก

แต่เท่าที่เห็นมา ส่วนใหญ่ไซด์ไลน์คือจะเป็นคนมีปมด้านศักดิ์ศรีนี่แหละ ซึ่งมันจะเป็นปมที่ลบไม่ได้ และเค้าจะกลัวอดีต กลัวจะมีคนรู้ ส่วนใหญ่ก็จะกลบปมด้วยการหาอะไรมาเพิ่มเติมตัวเอง เช่น ใช้ของแพงๆ ชีวิตหรูๆ ซึ่งสุดท้ายก็จะกลับเข้ามาวงจรอุบาทว์เหมือนเดิม
ความคิดเห็นที่ 21
เล่ามาชีวิตลำบากงั้นงี้ แต่เราเชื่อว่าถ้าเราเล่าชีวิตเรา มันลำบากกว่าคุณแน่นอน เพราะเราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เลย

ตอนเราท้องเพราะเป็นเด็กใจแตก ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว และเลี้ยงยายที่ดูแลเรามาจนเริ่มแก่ชรา เราก็ไม่เคยคิดจะขายตัวนะคะ

งานหลายๆที่ อย่างคาราโอเกะที่น้องว่า เราก็เคยทำมาหลายที่ แต่เราใช้สติปัญญาอันน้อยนิดที่มี ครุ่นคิดว่าทำยังไงให้รอดพ้นมือมาร ไม่ต้องให้เขามาล้วงมาจับของสงวนของเรา

หรือกระทั่งในบาร์ฝรั่งที่มีผู้หญิงขายตัว เราก็ทำมาแล้วโดยไม่ต้องขายตัว แถมได้เงินดีไม่ต้องเสี่ยงด้วย เพราะเราหากินโดยการรับเป็นล่ามระหว่างผู้หญิงกับลูกค้า รับแปลเมล ส่งเมล ที่สำคัญเพราะเราไม่ขายเลยไม่ไปแย่งลูกค้าเขา ทำให้เป็นที่รักของทุกๆบาร์ย่านนั้น

ช่วงไหนที่ไม่มีงานเพราะ ทำร้านคาราโอเกะแล้วเบื่อเพราะโดนบังคับขายหรือมาม่าซังไม่เรียกไปให้แขกเลือกเพราะเราไม่ให้แขกล้วง เราก็ออกไปรับจ็อบล้างจานร้านอาหารข้างทางบ้าง เสาร์อาทิตย์ไปอยู่อู่พ่นสีเป็นลูกมือเขาบ้าง หรือใครจ้างเสิร์ฟรายวันหรือขายของที่ไหนก็ไป

เราไม่เห็นต้องขายตัวเลยค่ะ เราเกิดมาจากสลัม ศักดิ์ศรีอะไรไม่มีอยู่แล้ว แต่เราไม่สามารถทนทำในสิ่งที่เราเกลียดได้ค่ะ

สุดท้ายที่อยากจะบอกนะคะ เรามีลูก แต่เราก็เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย วันๆได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง บางวันไม่ได้นอนเลย ทำแบบนั้นอยู่สามสี่ปีเต็มๆ แต่ก็ผ่านมันมาได้ ทุกวันนี้แต่งงานมาสิบปี มีลูกเพิ่มอีกหนึ่ง และเรามีธุรกิจเล็กๆสองสามอย่างเป็นของตัวเอง เพราะเราใช้ประสบการณ์การทำงานที่ไม่ใช่แค่ "แก้ผ้า นอนอ้าขา" มาใช้ในการทำธุรกิจที่ผ่านมาเจ็ดปี จนกิจการเติบโตค่ะ
ความคิดเห็นที่ 20
คนเราต้นทุนชิวิตต่างกัน แต่เลือกทางเดินของชิวิตได้หลากหลายเช่นกัน การที่ จขกท.เลือกไปทำไซด์ไลน์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามรู้ตัวใช่มั๊ยครับว่าผิดไม่งั้นคงรับงานตั้งแต่แรกที่เค้าติดต่อมาแล้ว อย่างน้อยก็ยังดีครับที่รู้จักผิดชอบชั่วดี  ประสบการณ์ชิวิตตอนนั้นอาจจะน้อยเจ็บมาเยอะปวดมาเยอะเลยทำให้ต้องเลือกทางเดินแบบนั้นก็น่าสงสารอยู่   แต่เมื่อวันนึงผ่านมันมาได้แล้วก็ขอให้โชคดีครับ  แต่ขอร้องว่าอย่าได้ออกมาเรียกร้องขอความเห็นใจให้กับไซด์ไลน์เหมือนที่หลายคนทำตอนนี้นะครับ(ยกเว้นเรื่องเห็นใจที่ถูกถ่ายคลิปประจาน) เพราะยังไงทางสายนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องที่ควรส่งเสริมให้เด็กผู้หญิงผู้ชายไปทำกัน เห็นบางคนเชิดชูแป๋มมากจนแทบจะสร้างอนุสาวรีย์ให้แล้ว

อยากเรียนเก่งก็ต้องอ่านหนังสือตั้งใจเรียน ไม่ใช่เอาเงินซื้อเกรด
อยากรวยก็ต้องขยันทำงานเก็บเงิน ไม่ใช่จี้ปล้น
อยากผอมก็ต้องออกกำลังกายคุมอาหาร ไม่ใช่กินยาลดความอ้วน
อยากสวยก็ต้องดูแลตัวเอง ไม่ใช่ประโคมแต่ครีมผสมสารปรอท

เลือกได้ทั้งนั้นแหล่ะชิวิตน่ะ อยู่ที่ว่าจะเลือกแบบใหน
ความคิดเห็นที่ 11
เพราะ SL หาเงินง่ายไง สบายๆ แค่อ้าก็ได้เงินใช้แล้ว รังเกียจบอกตรงๆ งานมีเยอะแยะทำไมไม่ทำ ส่วนตัวแล้วทำงานส่งตัวเองเรียนกว่าจะมาถึงจุดๆนี้ได้ร้องไห้ไม่รู้กี่หน อย่าไปอ้างเลยว่าเพราะจน เพราะสันดานของพวกที่รักสบายมากกว่าถึงต้องยอมลดศักดิ์ศรีของตัวเองขนาดนี้ หรือคุณคิดว่าไม่จริง
ความคิดเห็นที่ 27
ขอเล่าเรื่องของเพื่อนละกันนะคะ
เพื่อนของพี่ไม่รู้จักพ่อและแม่ ไม่เคยเห็นหน้า
ถูกอากงเก็บมาเลี้ยงให้ช่วยเหลืองานที่บ้าน
ไม่มีสูติบัตร ไม่ได้เรียนหนังสือ
ถามอากงว่าแม่เป็นใครก็ไม่รู้บอกได้แค่ว่าอยู่เชียงใหม่
จนวันที่อากงเสียไปต้องกลายเป็นคนที่อยู่แต่ในบ้าน เพราะลูกหลานอากงไม่ให้ออกไปไหนเพราะล็อคบ้าน ไม่ให้เงินใช้ให้ทำงานบ้านกับช่วยเลี้ยงน้องตอนกลับมาจากโรงเรียน อาศัยลักจำความรู้ตอนน้องทำการบ้าน แอบเก็บสะสมเงินที่ขโมยทีละเล็กละน้อย แล้วขโมยกุญแจของน้องเพื่อหนีออกจากบ้านตอนอายุ 14 เพื่อออกไปตามหาแม่ที่เชียงใหม่แต่ก็ไม่เจอ แต่เพื่อนคนนี้ยังโชคดีที่มีคนคอยช่วยเหลืออยู่บ้าง พอมีหนทางก็ดิ้นรนทำมาหากินตลอด ทั้งไปช่วยขายของ เป็นเด็กเสิร์ฟ เก็บเงินได้เยอะแยะ จนตอนนี้มีกิจการเป็นของตัวเอง มีพี่ที่เค้าพอรู้จักก็ช่วยเหลือเรื่องบัตรประชาชนซึ่งตอนนี้เป็นบัตรสีขาวอยู่ และอีกไม่กี่ปีก็จะได้บัตรประชาชนว่าเป็นคนไทยโดยสมบูรณ์แล้ว
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ก็แค่อยากจะบอกว่า
ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำดีๆให้กับตัวเองได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่