สวัสดีครับ!
กลับมาพบกับอีกครั้งกับผม iAmNickNicky ในครั้งนี้ผมจะมารีวิว Villa Moreeda บูติกรีสอร์ทแสนน่ารัก ซึ่งเป็นของคุณเสนาลิงนั่นเอง
สำหรับการเดินทางมายังรีสอร์ทนั้นไม่ยากเลยครับ สำหรับใครที่เคยมาเที่ยวที่ The Scenery Vintage Farm แล้ว รับรองไม่มีหลงแน่นอน เพราะ Villa Moreeda ก็อยู่ติดกันเลยครับ ถ้ามาจากทาง อ.สวนผึ้ง ก่อนถึง The Scenery จะมีซอยเล็กๆ ต้องสังเกตุนิดถึงครับ ไม่เช่นนั้นอาจจะเลยได้ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปสักเล็กน้อย จะเจอที่ตั้งของรีสอร์ทอยู่ทางขวามือครับ ^^
Cr.แผนที่จากเว็บไซต์ของทางรีสอร์ท
ศึกษาเส้นทาง เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปกันเลย Let's go ... !
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ก่อนเดินทางไปยัง อ.สวนผึ้ง แวะตัวเมืองราชบุรี ชิมก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่ม ร้านเด็ดร้านดังประจำจังหวัดกันก่อนครับ
อิ่มท้องแล้วก็เดินทางกันต่อ ระหว่างทางก็แวะที่นี่ครับ Moai Coffee ว่ากันว่าใครมาเที่ยวสวนผึ้งแล้วไม่ได้แวะถ่ายรูปที่ร้านนี้เหมือนมาไม่ถึงสวนผึ้ง (รึเปล่า?)
ทีนี้ก็มาถึง Villa Moreeda แล้ว อย่ามัวชักช้า...รีบตรงไปเช็คอินเข้าที่พักกันเลย ตรงจุดนี้คือ Lobby ของทางรีสอร์ท นั่งเช็คอินกันสบายๆ บรรยากาศชิวๆสบายๆครับ
หนึ่งในมุมถ่ายรูปสุดฮิตของรีสอร์ท ใครไม่ได้ถ่ายรูปที่มุมนี้ถือว่ามาไม่ถึงนะครับ ^^
จาก Lobby มองไปยังส่วนห้องพัก สำหรับห้องพักของผมในวันนี้จะเป็นห้องแบบ Big Bird ครับ ซึ่งห้องประเภทเดียวกันนี้ก็จะมีการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป เรียกได้ว่าทุกห้องของที่นี่ไม่มีห้องไหนซ้ำแบบกันเลย ในครั้งนี้ผมเลือกห้องที่มีชื่อว่า Fairy Pitta ห้องนี้จะตกแต่งอย่างไร มีอะไรเป็นจุดเด่นเดี๋ยวตามผมไปกันเลยครับ
เข้าห้องมาแล้ว
ก็จะเจอกับเตียงนอนและมุมนั่งเล่น
ห้อง Fairy Pitta นี้จะอยู่บนชั้น 2 นะครับ ลักษณะของห้องจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดไปกับลำธารด้านหน้าของตัวตึก อีกทั้งยังมีกระจกใสเปิดกว้างเกือบจะรอบด้าน ทำให้เห็นวิวต้นไม้และลำธารได้อย่างเต็มสายตาเลยทีเดียวครับ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของห้องนี้เลยนั่นก็คือเจ้าอ่างอาบน้ำดีไซด์สุดเท่ห์นี่หล่ะครับ อยากลงไปแช่เลยจริงเชียว
มุมนั่งเล่นน่ารักๆ
มุมมินิบาร์...สำหรับที่นี่มินิบาร์ในตู้เย็นสามารถทานได้ฟรีหมดเลยครับ (ต้องขออภัยด้วยจริงๆครับ พอดีลืมถ่ายรูปมา แฮะๆ)
ด้วยกระจกขนาดใหญ่ ทำให้ไม่ว่าจากมุมไหนในห้องนี้ก็สามารถมองเห็นทั้งต้นไม้และลำธารได้ครับ
ลงมาสำรวจรอบๆรีสอร์ทกันสักนิด จากรูปจะเห็นห้อง Fairy Pitta ที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ด้วยครับ
สำหรับลำธารที่ไหลผ่านรีสอร์ทนี้ คือ ลำภาชี ช่วงที่ผมไปน้ำอาจจะยังไม่เยอะนะครับ แต่น้ำใสๆไหลเอื่อยๆ อีกทั้งตลอดสองฝั่งลำน้ำยังเต็มไปด้วยต้นไม้ ยิ่งทำให้รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ช่วงบ่ายๆหากใครกำลังมองหากิจกรรมแล้วหล่ะก็ ที่นี่เลยครับ The Scenery Vintage Farm ซึ่งอยู่ติดกันกับ Villa Moreeda ที่สำคัญแขกของ Villa Moreeda สามารถเข้าชมฟรีเลยครับ ทั้งนี้รีสอร์ทยังมีบริการรถกอล์ฟไปส่งและรับกลับอีกด้วยครับ (So Happy)
สำหรับใครที่อยากมาให้อาหารน้องแกะต้องไม่พลาดที่นี่เลยครับ แนะนำให้มาช่วงบ่ายแก่ๆสักหน่อย คนไม่ค่อยเยอะ แดดไม่ร้อนมาก และที่สำคัญน้องแกะทั้งฝูงนั้น จะเป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว ^^
บรรยากาศเงียบ สงบ ยามเย็น ณ The Scenery
มื้อเย็นผมใช้บริการที่ห้องอาหารของทางรีสอร์ท เมนูแนะนำคือเต้าหู้ดำผัดกระเพรา แต่เมนูนี้อาจจะไม่ค่อยถูกปากผมสักเท่าไหร่ แต่ที่เด็ดที่สุดต้องยกให้ปีกไก่ทอดน้ำปลาครับ อร่อยเด็ดจริงเชียว
อิ่มท้องแล้ว ก็กลับมาชมบรรยากาศห้องยามค่ำคืนกันครับ
เปิดไฟแล้วก็ทำให้ได้บรรยากาศต่างจากตอนกลางวันไปอีกแบบครับ ทั้งยังมีอ่างอาบน้ำใบสวยวางอยู่ไม่ห่างจากเตียง ยิ่งทำให้เพิ่มบรรยากาศความโรแมนติกมากขึ้นไปอีก
เตียงนอนที่รีสอร์ทแห่งนี้ ต้องขอบอกเลยว่านอนสบายดูดวิญญาณมากๆเลยครับ ทั้งนุ่ม ทั้งสบาย จนอยากยกกลับบ้านเลยทีเดียว ถัดออกไปในรูปก็จะเป็นมุมห้องน้ำครับ ทางซ้ายเป็นห้องอาบน้ำ ทางขวาเป็นห้องสุขา ที่สำคัญฝาสุขภัณฑ์ที่นี่เป็นแบบอัตโนมัติด้วยครับ ^^
แช่น้ำเพลินๆก่อนเข้านอนครับ บรรยากาศชวนโรแมนติกซะจริงเชียว ...
สำหรับอ่างใบนี้ ผมมีโอกาสได้คุยกับคุณเสนาลิง คุณลิงบอกว่าสั่งทำที่เชียงใหม่ ตีขึ้นรูปโดยช่างทำสลุงหลวงครับ
บรรยากาศยามค่ำคืน
ตื่นเช้ามาพร้อมกับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า อากาศที่นี่สดชื่นจริงๆ
แสงแดดยามเช้ากระทบกับสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ
[CR] iAmNickNicky พาเที่ยว Villa Moreeda สวนผึ้ง, ราชบุรี
สวัสดีครับ!
กลับมาพบกับอีกครั้งกับผม iAmNickNicky ในครั้งนี้ผมจะมารีวิว Villa Moreeda บูติกรีสอร์ทแสนน่ารัก ซึ่งเป็นของคุณเสนาลิงนั่นเอง
สำหรับการเดินทางมายังรีสอร์ทนั้นไม่ยากเลยครับ สำหรับใครที่เคยมาเที่ยวที่ The Scenery Vintage Farm แล้ว รับรองไม่มีหลงแน่นอน เพราะ Villa Moreeda ก็อยู่ติดกันเลยครับ ถ้ามาจากทาง อ.สวนผึ้ง ก่อนถึง The Scenery จะมีซอยเล็กๆ ต้องสังเกตุนิดถึงครับ ไม่เช่นนั้นอาจจะเลยได้ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปสักเล็กน้อย จะเจอที่ตั้งของรีสอร์ทอยู่ทางขวามือครับ ^^
Cr.แผนที่จากเว็บไซต์ของทางรีสอร์ท
ศึกษาเส้นทาง เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปกันเลย Let's go ... !
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ก่อนเดินทางไปยัง อ.สวนผึ้ง แวะตัวเมืองราชบุรี ชิมก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่ม ร้านเด็ดร้านดังประจำจังหวัดกันก่อนครับ
อิ่มท้องแล้วก็เดินทางกันต่อ ระหว่างทางก็แวะที่นี่ครับ Moai Coffee ว่ากันว่าใครมาเที่ยวสวนผึ้งแล้วไม่ได้แวะถ่ายรูปที่ร้านนี้เหมือนมาไม่ถึงสวนผึ้ง (รึเปล่า?)
ทีนี้ก็มาถึง Villa Moreeda แล้ว อย่ามัวชักช้า...รีบตรงไปเช็คอินเข้าที่พักกันเลย ตรงจุดนี้คือ Lobby ของทางรีสอร์ท นั่งเช็คอินกันสบายๆ บรรยากาศชิวๆสบายๆครับ
หนึ่งในมุมถ่ายรูปสุดฮิตของรีสอร์ท ใครไม่ได้ถ่ายรูปที่มุมนี้ถือว่ามาไม่ถึงนะครับ ^^
จาก Lobby มองไปยังส่วนห้องพัก สำหรับห้องพักของผมในวันนี้จะเป็นห้องแบบ Big Bird ครับ ซึ่งห้องประเภทเดียวกันนี้ก็จะมีการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป เรียกได้ว่าทุกห้องของที่นี่ไม่มีห้องไหนซ้ำแบบกันเลย ในครั้งนี้ผมเลือกห้องที่มีชื่อว่า Fairy Pitta ห้องนี้จะตกแต่งอย่างไร มีอะไรเป็นจุดเด่นเดี๋ยวตามผมไปกันเลยครับ
เข้าห้องมาแล้ว ก็จะเจอกับเตียงนอนและมุมนั่งเล่น
ห้อง Fairy Pitta นี้จะอยู่บนชั้น 2 นะครับ ลักษณะของห้องจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดไปกับลำธารด้านหน้าของตัวตึก อีกทั้งยังมีกระจกใสเปิดกว้างเกือบจะรอบด้าน ทำให้เห็นวิวต้นไม้และลำธารได้อย่างเต็มสายตาเลยทีเดียวครับ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของห้องนี้เลยนั่นก็คือเจ้าอ่างอาบน้ำดีไซด์สุดเท่ห์นี่หล่ะครับ อยากลงไปแช่เลยจริงเชียว
มุมนั่งเล่นน่ารักๆ
มุมมินิบาร์...สำหรับที่นี่มินิบาร์ในตู้เย็นสามารถทานได้ฟรีหมดเลยครับ (ต้องขออภัยด้วยจริงๆครับ พอดีลืมถ่ายรูปมา แฮะๆ)
ด้วยกระจกขนาดใหญ่ ทำให้ไม่ว่าจากมุมไหนในห้องนี้ก็สามารถมองเห็นทั้งต้นไม้และลำธารได้ครับ
ลงมาสำรวจรอบๆรีสอร์ทกันสักนิด จากรูปจะเห็นห้อง Fairy Pitta ที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ด้วยครับ
สำหรับลำธารที่ไหลผ่านรีสอร์ทนี้ คือ ลำภาชี ช่วงที่ผมไปน้ำอาจจะยังไม่เยอะนะครับ แต่น้ำใสๆไหลเอื่อยๆ อีกทั้งตลอดสองฝั่งลำน้ำยังเต็มไปด้วยต้นไม้ ยิ่งทำให้รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ช่วงบ่ายๆหากใครกำลังมองหากิจกรรมแล้วหล่ะก็ ที่นี่เลยครับ The Scenery Vintage Farm ซึ่งอยู่ติดกันกับ Villa Moreeda ที่สำคัญแขกของ Villa Moreeda สามารถเข้าชมฟรีเลยครับ ทั้งนี้รีสอร์ทยังมีบริการรถกอล์ฟไปส่งและรับกลับอีกด้วยครับ (So Happy)
สำหรับใครที่อยากมาให้อาหารน้องแกะต้องไม่พลาดที่นี่เลยครับ แนะนำให้มาช่วงบ่ายแก่ๆสักหน่อย คนไม่ค่อยเยอะ แดดไม่ร้อนมาก และที่สำคัญน้องแกะทั้งฝูงนั้น จะเป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว ^^
บรรยากาศเงียบ สงบ ยามเย็น ณ The Scenery
มื้อเย็นผมใช้บริการที่ห้องอาหารของทางรีสอร์ท เมนูแนะนำคือเต้าหู้ดำผัดกระเพรา แต่เมนูนี้อาจจะไม่ค่อยถูกปากผมสักเท่าไหร่ แต่ที่เด็ดที่สุดต้องยกให้ปีกไก่ทอดน้ำปลาครับ อร่อยเด็ดจริงเชียว
อิ่มท้องแล้ว ก็กลับมาชมบรรยากาศห้องยามค่ำคืนกันครับ
เปิดไฟแล้วก็ทำให้ได้บรรยากาศต่างจากตอนกลางวันไปอีกแบบครับ ทั้งยังมีอ่างอาบน้ำใบสวยวางอยู่ไม่ห่างจากเตียง ยิ่งทำให้เพิ่มบรรยากาศความโรแมนติกมากขึ้นไปอีก
เตียงนอนที่รีสอร์ทแห่งนี้ ต้องขอบอกเลยว่านอนสบายดูดวิญญาณมากๆเลยครับ ทั้งนุ่ม ทั้งสบาย จนอยากยกกลับบ้านเลยทีเดียว ถัดออกไปในรูปก็จะเป็นมุมห้องน้ำครับ ทางซ้ายเป็นห้องอาบน้ำ ทางขวาเป็นห้องสุขา ที่สำคัญฝาสุขภัณฑ์ที่นี่เป็นแบบอัตโนมัติด้วยครับ ^^
แช่น้ำเพลินๆก่อนเข้านอนครับ บรรยากาศชวนโรแมนติกซะจริงเชียว ...
สำหรับอ่างใบนี้ ผมมีโอกาสได้คุยกับคุณเสนาลิง คุณลิงบอกว่าสั่งทำที่เชียงใหม่ ตีขึ้นรูปโดยช่างทำสลุงหลวงครับ
บรรยากาศยามค่ำคืน
ตื่นเช้ามาพร้อมกับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า อากาศที่นี่สดชื่นจริงๆ
แสงแดดยามเช้ากระทบกับสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ