สวัสดีค่ะทุกท่านที่หลุดเข้ามาอ่าน
พอดีว่าช่วงก่อนสงกรานต์ (ปี '58) ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปพักผ่อนต่างจังหวัดแบบเกร๋ๆ ภาพแน่นๆ เหมือนชาวบ้านชาวช่องกับเค้าบ้าง แล้วรู้สึกประทับใจกับที่พักมากๆๆๆ เลยอยากจะมารีวิวกระตุ้นต่อมอยากของคนที่มีรสนิยมการเที่ยวคล้ายๆ กัน เผื่อจะปักหมุดเก็บไว้เป็นโรงแรมใน wishlist ต่อไปนะค่ะ ฮุฮุ

ก่อนอื่นเลย ต้องบอกก่อนว่า จขกท เป็นทาสงานค่ะและไม่ค่อยไปเที่ยวไหน เวลาวันหยุดยาวๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกนั่งส่อง FB ชาวบ้านแล้วก็กรีดร้องในใจไปตามประสา แต่ครั้งนี้! เราปฏิญาณตนว่าจะไม่เป็นแบบนั้นอีก! เลยวางแผนกับแฟนตั้งแต่กลางปีที่แล้วว่าจะหยอดกระปุกกันเดือนละพัน ระหว่างที่เก็บตังค์ก็มีใช้ไปกับเรื่องกินบ้างอะไรบ้าง (บางที broke ก็ยืมมาใช้ก่อนก็มี เหอะๆ)

พอมาถึงช่วงเดือนมีนาฯ เราสองคนก็เริ่มมองหาพิกัดที่จะไปเที่ยวกัน ดูอยู่หลายที่ค่ะ แต่สุดท้ายมาจบที่สวนผึ้ง ราชบุรี ด้วยเหตุผลเดียวเลยจริงๆ คือ Villa Moreeda ส่วนตัว จขกท เป็นพวกคลั่งบ้านสไตล์ Loft / Industrial และฝันเฟื่องว่าสักวันหนึ่งอยากจะบ้านสไตล์น้ัน พอมาเจอสไตล์ที่พักของ Villa Moreeda ยิ่งกว่าเจอเนื้อคู่อีก! (เฟ่อร์ แต่จริง!) มันใช่ มันโดน มันดี บอกแฟนทันทีเลยว่าที่นี่แหล่ะ 555



ที่ Villa Moreeda เค้ามีห้องให้เลือกหลายสไตล์ ราคาก็ตามความใหญ่อลังค์ของประเภทห้อง (http://www.villamoreeda.com/) ถ้าจำไม่ผิด ช่วงที่ไปค่าเสียหายต่อคืนอยู่ที่ประมาณ 3,500 กว่าบาท และจองผ่านทาง agoda ค่ะ ส่วนแบบที่ จขกท เลือกพักคือประเภท Tiny Seabird แต่ถ้าจองผ่าน agoda จะไม่สามารถเลือกเจาะจงห้องได้ ได้แต่เขียน preference บอกไปว่าอยากพักห้องไหน แล้วก็ภาวนาว่าเค้าจะจัดให้เรา 5555 พอไปถึงที่พักถึงได้รู้ว่า โอ่ว! เราได้พัก 1 ในห้องที่ขอไปนี่ ซึ่งก็คือห้อง Rainbow Finch (ปลื้มมมมมมปลิ่ม) คงเพราะเป็นช่วง low season ด้วย คือ จขกท เลือกไปช่วงก่อนที่ชาวบ้านเค้าจะได้หยุดกันอ่ะค่ะ



สำหรับใครที่อยากดูบรรยากาศภายในห้อง + บรรยากาศโดยรอบแบบเต็มๆ กดตามไปที่ Link ของ YT เลยนะค่ะ พอดีภาพนิ่งไม่ได้ถ่ายไว้เลย



พอไปถึงบอกเลยว่า ชอบมว๊าาาาก ฟินนนนนนน คือมันใช่สไตล์ที่เราชอบ พนักงานก็น่ารัก เป็นกันเอง ยิ้มแย้ม friendly ที่พักตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 1 ไร่ แต่ไม่รู้สึกอึดอัดนะ (หรือจะเป็นเพราะไปตอนคนน้อยก็มิทราบ) ต้นไม้เยอะ และบรรยากาศชิลมาก เพราะมีแม่น้ำเล็กๆ ไหลผ่าน (ณ จุดที่พิมพ์อยู่ก็ยังฟินอยู่) ที่สำคัญที่นี่อยู่ติดกับ Scenery Resort & Farm เลยค่ะ ถ้าพักที่นี่สามารถเข้า Scenery ฟรีและมีรถกอล์ฟรับส่ง



Complimentary Drink เป็นน้ำเก็กฮวยเย็นๆ ดับร้อน













ครัวที่นี่จะเปิดถึงสองทุ่มค่ะ ถ้าอยากทานอาหารเย็นก็สั่งไว้ก่อนได้ คืนแรกเราเลยเลือกทานที่ที่พัก เพราะบอกตรงๆว่าขี้เกียจออกไปซุ่มหากินเองข้างนอก 5555 มื้อนั้นสั่งผัดมักกะโรนี ยำคะน้ากุ้งสด แหนมผัดไข่ และข้าวสวยหนึ่งจาน ราคารวม 540 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) มือนี้ถือว่าอิ่ม อร่อย ง่วง หลับ จบไปหนึ่งวัน










อาหารเช้าจะมี 3 เซทเมนูให้เลือกค่ะ แต่ละวันจะผลัดเปลี่ยนไป เสิร์ฟช่วง 7.30 - 10.30 น.
- วันแรกเราสองคนเลือก ไข่กระทะ กับ เกี๊ยวน้ำ (รูปอาหารอยู่ใน YT) รสชาติอาหารถือว่าโอเคค่ะ ไม่ถึงกับอร่อยเหาะชวนชิม แต่รสชาติดี ในเซทจะมีจานหลักที่สั่งพร้อมของหวาน ผลไม้ และน้ำ บอกเลยว่าอิ่มลื้ม! จุกจนจะกลิ้งได้ (อาจเป็นเพราะปกติเราเป็นพวกกินมื้อเช้าน้อย)
- วันที่สองเลือก โจ๊กหมู กับ เกาเหลาเครื่องใน แฟนบอกว่าไม่คาวเลย อร่อย ส่วนโจ๊กจืดไปนิดนึงค่ะ เหมือนลืมใส่อะไรบางอย่าง





มุมทานอาหารเช้า ที่ชั้น 2 ของ Lobby
ช่วงที่ไปคนน้อยมาก มีไม่กี่ห้องที่พักอยู่ ตอนนั่งกินอาหารเช้าเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง มีแม่บ้านคอยมาถามว่ารับกาแฟมั้ย โอวัลตินมั้ย เติมน้ำมั้ย โอยยย นี่คงจะเป็นบรรยากาศที่เศรษฐีบ้านทรายทองเค้าได้สัมผัสกัน 555







มุมทานอาหารเย็น ที่ชั้น 3
วิวสวย บรรยากาศดี โรแมนติกฝุดดดด
สำหรับใครที่อยากดูหนัง ที่นี่เค้าก็มี DVD หนังให้ยืมดูค่ะ ^_^

วันสุดท้ายก่อนกลับ บังเอิญเจอกับคุณเสนาลิงพอดี เค้าบอกว่าที่นี่มีบริการ BBQ ไว้นั่งทานริมแม่น้ำด้วย น่าจะดีสำหรับใครที่ไปเป็นกรุ๊ปใหญ่ๆนะค่ะ แล้วก็สำหรับใครที่คิดจะไปเที่ยวสวนผึ้งช่วงหน้าร้อน แนะนำว่าอย่าใส่เสื้อดำนะค่ะ 555 เพราะแมลงหวี่จะชอบคุณมากกก ตามตอมเป็นว่าเล่น

ขอบคุณสำหรับท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ สรุปสั้นๆเลยละกันเน๊อะ
- ที่พัก บรรยากาศ การบริการ ความสะอาด: 5 ดาวววววดวงโตๆ
- อาหารเช้า อาหารเย็น : 4.5 ดาวววววววว
- ราคา ความคุ้มค่า : 5 ดาวววววววว (เพราะความชอบส่วนตัวล้วนๆ)


ปล. ภาพนิ่งใช้กล้อง SONY a5100 และ FUJI X-M1 ค่ะ
ภาพ VDO ใช้กล้อง SONY a5100 อย่างเดียว และตัดต่อโดย Premiere Pro
แต่งโดย VSCO app และบางรูปแต่งใน PS ค่ะ