สงสัยจริงๆค่ะ ทำไมเวลาลูกค้าถามราคาแล้วทางเพจถึงบอกราคาไม่ได้ ต้องให้ทักในกล่องข้อความ

เราอยากได้กระเป๋าใหม่อยู่ เหมือนเฟสบุคจะรู้งาน โชว์แอดโฆษณากระเป๋ามาพอดี ก็เข้าไปดู สนใจตรงที่ไม่ติดโลโก้ คือไม่มีตรา ไม่มียี่ห้อ
เราอยากรู้ราคา คลิกตามไปดู มีแต่คนถามถึงราคากันเป็นสิบคนเลย แอดมินเพจก็ขยันตอบมาก บอกว่าให้ทักในกล่องข้อความเลย
ทำไมถึงบอกราคาเลยไม่ได้นะ เราก็เลยถามไปกึ่งประชดนิดๆ เพราะใจนึงก็อยากรู้ราคา อีกใจก็ปกติถ้าไม่บอกราคาเราก็ไม่ตามไปดูเลย ปล่อยผ่านตลอด
แต่คำตอบที่ได้คือ เป็นการคัคกรองลูกค้าที่สนใจจริงๆ ไม่รู้สินะ เราว่าถ้าบอกราคาไปเลยน่าจะคัดกรองลูกค้าได้ดีกว่ามั้ย
ทุกคนที่สนใจจริงๆก็จะเข้าไปถามรายละเอียดต่อ ว่าจะสั่งซื้อยังไง โอนยังไง ส่งยังไง

พอทางเพจตอบเราแบบนี้เราก็เลยตัดสินใจง่ายมากที่จะไม่สนใจเพจนี้อีกต่อไป
หรือเราถามได้น่าเกลียดเกินไปคะ เพราะเพจก็บล็อกเฟสเราไปเลยค่ะ เข้าไปดูที่โพสต์ถามไม่ได้แล้วด้วย



สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
มันก็ประหลาด+โง่นะผมว่า
แทนที่จะให้ลูกค้าสะดวกที่สุด ...... มันเรียนตำราเล่มไหน?
ความคิดเห็นที่ 20
ขอบมีเหตุผลครับ ผมจะยกตัวอย่างกรณีของคุณในตอนท้าย

1. คนที่บอกว่าเพราะเขาไม่อยากโดนคู่แข่งตัดราคานั้น ส่วนมากคิดไปเอง คือส่วนมากมโนไปเองว่าตั้งเป็นแบบนั้น  ไม่เคยเป็นแม่ค้า หรืออาจจะเคยเป็นแค่แม่ค้าพาร์ทไทม์ อยากบอกว่าส่วนน้อยเท่านั้นที่พ่อค้าแม่ค้าจะคิดแบบนั้น เพราะถ้าถ้าคู่แข่งอยากรู้ราคาอย่างแข็งขันจริง เขาก็แชทเข้าไปถามได้อยู่แล้ว มันไม่สามารถปิดบังอะไรได้มากมายหรอกครับ

2.ร้านค้าที่อยู่มานานและมีความตั้งใจค้า หลายๆร้าน ประสบการณ์ที่เขาค้าขายมา สั่งสมมา มันย่อมกลั่นกรอง เทคนิค แนวทาง นโยบายของเขามาแล้วครับ  ไม่ใช่ว่าเขาจะโง่หรือไม่รู้อะไรเลย เขารู้ครับว่าแบบไหนคือแบบที่ดีที่สุดสำหรับเขา และเขาก็ไม่ได้ซีเรียสที่จะปล่อยผ่านลูกค้าบางกลุ่ม

3.คุณไม่คิดที่จะปฏิสัมพันธ์พูดคุยกับคนขายก่อนเลยเหรอครับ คุณมุ่งแต่ราคา เทียบแต่ราคา แต่สินค้าทั้งหลายมันมีอะไรหลายอย่างซ่อนอยู่ เช่นคุณภาพสินค้า ชนิด ประเภท ขนาด สี ความเน๊ยบ รอยตำหนิ

4. facebook นั้นหลายๆร้านแค่ใช้เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์หรือโฆษณา บางครั้งใส่ราคาไปแล้วลูกค้าไม่สนใจดู  บางครั้งสินค้าหลากหลายเกินไปไม่สามารถจะใส่ราคาหรือรายละเอียดได้หมด  บางครั้งเขามีลิ้งค์ส่งตรงไปยังเว็บให้ไปดูราคาหลายคนก็ขี้เกียจกดเข้าไป เพราะใส่ราคาในเว็บมันดูง่ายกว่า การดูผ่านเฟสบุคมันจะค่อยๆโหลดขึ้นมา มันเสียเวลาและบางครั้งลูกค้าไม่รู้ว่ามันกำลังโหลดขึ้นมาให้รอก่อน  

การใส่ข้อความบางอย่าง อาจจะไม่สวย ไม่เหมาะ เมื่อทำโฆษณาผ่าน facebook  โฆษณาบางรูปแบบมันจำกัดจำนวนคำจำนวนข้อความ บางรูปแบบกำหนดจำนวนตัวอักษรบนภาพ  บางครั้งใส่ข้อความเยอะๆ ตัวหนังสือรายละเอียดสินค้าเยอะๆในโพสนั้นๆเพราะสินค้ามีหลายตัวเลือก ลูกค้าบางคนก็ไม่กด อ่านต่อ ไม่กด seemore  และถ้ามีอะไร รกๆเยอะๆตามหลักจิตวิทยามันอาจจะดูเลอะเทอะและไม่สะดุดตาผู้คนทั่วไป  เช่นยกตัวอย่าง ถ้าโฆษณาใน youtube ยาวๆหลายนาที คุณจะกด skip ข้ามมั้ย เพราะข้อมูลมันเยอะเกินไป ลูกค้าหลายๆคนเบื่อ ไม่ชอบ ไม่สะดุดตา  มันต้องสั้นๆกระชับได้ใจความ ถ้าสนใจก็ดำเนินการต่อ

5. ลูกค้าบางคนเน้นราคาอย่างเดียว เห็นร้านไหนถูกสุดในสินค้าคล้ายๆกันก็ซื้อเลย ไม่ได้สอบถามหรือมีปฏิสัมพันะ์อะไรกับคนขาย พอซื้อของไปแล้ว ของไม่ตรงในรูปบ้าง มีตำหนิบ้าง คุณภาพไม่ดีบ้าง และไม่สามารถจะเรียกร้องอะไรได้ เพราะลูกค้าที่ชอบไม่ปฏิสัมพันธ์กับแม่ค้า เมื่อมาเจอกับแม่ค้าที่ฉาบฉวยเอาราคามาล่อและไม่อยากปฏิสัมพันธ์อะไรกับลูกค้าเช่นกัน และบางครั้งคนขายก็ไม่รับผิดชอบอะไร หนีหายเอาง่ายๆเพราะเป็นค้าซื้อขายที่ฉาบฉวย

6.เมื่อเจอแม่ค้าหรือพ่อค้าที่อยากพูดคุยกับลูกค้า คุณน่าจะดีใจ หมายความว่าถ้าของมีปัญหาคุณก็สามารถพูดคุยปฏิสัมพันธ์กับเขาได้เช่นกัน เพราะเขาเองมีจริตที่ชอบพุดคุย ชอบแชท หรือสอบถามไปมากับลูกค้าอยู่แล้ว


สรุป พ่อค้าแม่ค้าเขาก็มีหัวใจไม่ใช่หุ่นยนต์ เขามีความคิดความรู้สึกและประสบการณ์ ลองคิดว่าเราเป็นเขาแล้วสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องมั้ย

ยกตัวอย่างในกรณีของคุณนั้น ที่แม่ค้าคนนั้นบอกว่าเพื่อคัดกรองลูกค้า ก็ถูกต้องอยู่แล้วครับ แสดงว่าเป็นร้านค้าที่มีประสบการณ์มืออาชีพและต้องการอยู่ในตลาดอย่างยาวนานและสบายใจ เพราะอะไรนั่นหรือ  ทำไมถึงบอกว่าเขาทำถูกที่คัดกรองลูกค้าและแล้วเขาคัดกรองลูกค้าได้จริงๆโดยยกกรณีศึกษาของคุณเป็นตัวอย่าง

ในการค้าขายนั้น มีลูกค้าสองแบบ คือลูกค้าชั้นดีและลูกค้าชั้นเลว  กรณีของคุณคือลูกค้าชั้นเลว และเหมาะสมที่จะถูกบล๊อกและไล่ไปไกลๆ ซึ่งก็ได้ผลตามที่ร้านนั้นบอกต้องการคัดกรองคน เพราะเขาคัดกรองคุณออกไปแล้ว

ในหัวของแม่ค้าคนนั้นคิดแบบนี้ครับ
1.คุณมุ่งหวังแต่ดูราคาโดยไม่สนในรายละเอียดอื่นเท่าที่ควร  ลูกค้าแบบนี้ไม่สนใจรายละเอียดสินค้าไม่สนใจคุณภาพเป็นหลัก ดูแค่ราคา และมักจะทำให้เกิดเรื่องปวดหัวกับแม่ค้าตามมาทีหลัง เช่นเน้นของถูกที่สุด แต่เรื่องคุณภาพและความสวยงามคิดไปเองว่าต้องสุดยอด ไม่เข้าใจว่าคุณภาพสินค้าต้องตามราคาของมัน และเมื่อซื้อไปแล้วถ้าได้สินค้าที่ไม่เป็นแบบที่คิด จะโวยวายสร้างความปวดหัวและเสียเวลาให้คนขายสารพัด

2.ขนาดว่าร้านค้าทำลิ้งค์ไว้ให้แล้ว แค่กด แค่กดเท่านั้นเองแล้วแชทถาม มันยากกว่าที่คุณโพสหรือคอมเม้นท์หน้าเพจตรงไหน ขนาดมีกฏให้ทำ คุณยังไม่ทำตามกฏของร้าน แล้วลูกค้าแบบนี้แหละที่จะสร้างปัญหาสารพัดตามมาในภายหลัง เพราะไม่สนใจไม่ทำตามกฏของร้านตั้งแต่ต้น ทำตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล นี่คือการคัดกรองอย่างหนึ่ง คัดกรองลูกค้าที่เน้นตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลออกไป

3.นอกจากคุณไม่ทำตามกฏแล้ว   คุณยังไม่ได้ซื้อเลย นี่ขนาดยังไม่ได้ซื้อ เริ่มเรื่องมาก เริ่มยุ่งยาก เริ่มแขวะ เริ่มโพสใน pantip เริ่มประจาน คุณคิดดูว่าถ้าคุณซื้อสินค้าไปและสนใจแต่ราคา ถ้าเกิดคุณได้กระเป๋านั่นไปแล้วมีตำหนินิดหน่อย หรือมีอะไรไม่ตรงใจตามที่คุณคิดไว้ มันจะยิ่งโหดร้ายเลวร้ายขนาดไหนสำหรับร้านค้า(นั่นคือสิ่งที่ร้านค้าคิด)   คุณจะสร้างความปวดหัวให้เขาสักขนาดไหน  นี่ขนาดยังไม่ซื้อไม่ทำตามกฏที่แจ้งไว้อย่างชัดเจนแล้วซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆด้วย  ยังดราม่าขนาดนี้  แล้วยิ่งถ้าซื้อไปโดยไม่ได้ปฏิสัมพันธ์คุยรายละเอียดอะไรกันเท่าที่ควรเพราะเป็นคนไม่ชอบคุยไม่ชอบแท แล้วเกิดสินค้าคุณไม่พอใจคุณจะทำกับร้านของเขาขนาดไหน  

ร้านค้าเขารู้ เขารู้หลักจิตวิทยา ว่าลูกค้าที่เรื่องมากตั้งแต่ครั้งแรก จะนำพาเรื่องมากยุ่งยากและปวดหัวมาให้ยิ่งกว่าหลายเท่าในอนาคต ประสบการณ์เขามี  และคุณเองก็เรื่องมากตั้งแต่แรกเจอเลยทีเดียว คนค้าขายเขามีประสบการณ์ของเขา  นี่ขนาดยังไม่ได้ซื้อขายกันเพราะคุณไม่ทำตามกฏตั้งแต่แรกยังขนาดนี้ เขาคงมองภาพในอนาคตออกเลยว่าอนาคตจะขนาดไป เขาเลยบล๊อกคุณไปอย่างสบายๆใจเฉิบครับ  การคัดกรองคนมันได้ผลจริงครับไม่ใช่แค่การพูดลอยๆ อย่างน้อยวันนี้เขาก็คัดคนแบบคุณคือลูกค้าที่เขาไม่ต้องการออกไปหนึ่ง  

ร้านค้าหลายๆที่เขาเน้นความสบายใจในการทำงานด้วยครับ เพราะเขาอยากมีความสุขที่ั่ยงยืนไม่ใช่ฉาบฉวย ร้านค้าแบบนี้เขาไม่แคร์และไม่เสียใจกับการไม่ได้บริการลูกค้าบางประเภทแน่นอนครับ  ร้านของเขาไม่ใช่ขายวันนี้แล้วพรุ่งนี้ปิดร้าน  เน้นมีความสุขไปด้วยทำงานไปด้วย เลือกลูกค้าก็ไม่ต่างกับเลือกแฟน

อย่างไรก็ตามทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าและสถานที่ๆขายหรือประชาสัมพันธ์ด้วย

::: กระทู้นี้เขาหมายถึงมีลูกค้าบางคนต้องการซื้อขายผ่าน facebook นะครับ คนละเรื่องกับเว็บไซต์ หลายๆท่านเอาไปเทียบกับเว็บไซต์ซะงั้น เช่นเอาไปเที่ยบกับ amazon มันคนละเรื่องกัน ในเว็บไซต์มันต้องมีรายละเอียดและราคาเต็มที่อยู่แล้วครับ facebook แค่ช่องทางโฆษณาประชาสัมพันธ์เท่านั้น  แต่ใครที่เข้าใจว่า facebook คือช่องทางซื้อขายของโดยร้านค้านั้นไม่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์ของตัวเองก็โปรดระวังมิจฉาชีพกันด้วยนะครับ ตรงนี้ต้องสุ่มเสี่ยงกันเอาเอง:::
ความคิดเห็นที่ 10
เคยอินบ๊อกไปถามราคา แต่เราไม่ซื้อ เพราะราคาไม่ถูกใจ
กลับโดนแม่ค้าด่าซะงั้น หาว่าเราก่อกวนไม่มีเงินแล้วเผือกถามทำไมเสียเวลา หลังจากนั้นเราเข็ดร้านไหนต้องอิบ๊อกถามราคาเราปล่อยผ่านเลย
ความคิดเห็นที่ 18
ผมก็ทักไปถามราคานะแล้วก็มาโพสบอกคนอื่นเลยในคอมเม้น
ความคิดเห็นที่ 2
หลักๆ คือกลัวโดนคู่แข่งตัดราคาครับ

แต่ที่คุณทำก็น่าเกลียดไปครับ คุณจะปล่อยผ่านอยู่แล้วจะไปเม้นทำไม
แบบนี้มันเท่ากับไม่ปล่อยผ่านจริงนิ ยังมีตามมาแซะ คุณพูดอย่างแต่ทำอีกอย่าง ไม่ใช่คุณสมบัติของคนที่น่าคบหา เป็นผมผมก็บล็อคครับ

ร้านแต่ละร้านมีนโยบายของเขา ถ้าไม่พอใจก้ไม่ต้องไปยุ่งกับเขาสิครับ
คุณทำเหมือนกับว่าเขาต้องเปลี่ยนนโยบายเพียงเพื่อเอาใจคุณคนเดียว ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะซื้อหรือไม่ด้วยซ้ำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่