ทำไมฝรั่งเศสถึงกลับมามีบทบาทหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ทำไมฝรั่งเศสถึงกลับมามีบทบาทหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งที่ยอมแพ้ ถูกเยอรมันยึดครอง
แล้วก่อนยอมแพ้ ก็เกือบทำให้พันธมิตรอย่างอังกฤษเสี่ยงจะเสียไพร่พลจนเกิดยุทธการดันเคิร์ค

แต่หลังสัมพันธมิตรบุกเบอร์ลิน เยอรมันยอมแพ้ ฝรั่งเศสกลับได้ยึดครองพื้นที่ในเยอรมันด้วย (ส่วนนี้ผมไม่ทราบบทบาทของฝรั่งเศสหลัง สหรัฐยกพลขึ้นบกที่นอมังดี ว่ามีส่วนในการบุกเยอรมันแค่ไหน ทางสหรัฐกับอังกฤษถึงให้เขตยึดครอง)

และ อุตสาหกรรมการบินของฝรั่งเศสกลับมายิ่งใหญ่อย่างรวดเร็ว  เช่น

-ตลาดเครื่องบินโดยสาร ก็มี แอร์บัส เป็นคู่แข่งกับโบอิ้งของสหรัฐ แบบไม้เบื่อไม้เมา

-ตลาดเครื่องบินรบ ก็มี มิราจ รุ่นต่างๆ  ของดันโซล ที่เป็นคู่แข่งลูกค้าสำคัญของ ทั้งเอฟ16 หรือเครื่องบินรบรุ่นอื่นๆ ของสหรัฐ เช่นกัน

ทั้งที่สมัยสงครามโลก ไม่มีเครื่องบินโดดเด่นเลย

เข้าใจว่าเคยเป็นมหาอำนาจมาก่อน แต่หลังสงครามโลกน่าจะบอบช้ำพอดู กับโดดเด่นกว่าอังกฤษด้วยซ้ำในเรื่องการส่งออกอาวุธ ดังที่กล่าวมา

หรือว่าเจอขุมทอง(องค์ความรู้)ตอนยึดครองเยอรมัน

ขอบคุณครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ทำไมฝรั่งเศสถึงได้เป็นสมาชิกถาวร UNSC

ฝรั่งเศส ถือเป็นความอับอายของประเทศในสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงถาวรแห่งสหประชาติและประชาคมโลกในช่วงต้นยุคสงครามเย็น (ในขณะ ณ ปัจจุบันนี้คงเป็น สหรัฐฯ)

ถ้าไม่มีอังกฤษมา Lobby ปธน.รูสเวลส์แห่งสหรัฐฯ และถ้ารูสเวลส์ไม่มาเสียก่อนในเวลาที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ฝรั่งเศสคงไม่ได้เข้ามาเป็น Big Five ใน UNSC เป็นแน่

เกี่ยวกับสาเหตุของการที่ฝรั่งเศสได้เข้าไปเป็น"Big Five" ในคณะมนตรีความมั่นคงถาวร(และมีสิทธิ Veto)

ว่ากันว่า.... ในตอนช่วงปี 1943 ที่ปธน.รูสเวลส์, สตาลิน, เชอร์ชิล และเจียง ไค เชค กำลังพูดถึง post-war world และองค์กรระหว่างประเทศ(UN)ที่จะเข้ามาแทนสันนิบาตชาติ....

อเมริกานั้นแสดงอาการที่อยากจะ"เตะ" หรือ"กีดกัน"ฝรั่งเศสออกไปจาก UNSC เลยเสียด้วยซ้ำในตอนแรก(เมื่อครั้งที่เชอร์ชิลพูดขึ้นมาลอยๆประมาณว่าอยากจะให้ฝรั่งเศสเข้าไปเป็น Big Five ใน UNSC) นอกจากนี้ทั้งอเมริกาและโซเวียตต่างเห็นพ้องตรงกันว่า จะไม่ให้สิทธิฝรั่งเศสในการเป็น"สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงถาวร"อีกด้วย (ในตอนนี่ปธน.รูสเวลส์ยังมีชีวิตอยู่นะ เหตุเพราะรูสเวลส์เกลียดชังฝรั่งเศสอยู่เป็นทุนเดิมไม่ว่าจะเป็นความไม่ร่วมมือของฝรั่งเศสใน Africaเหนือ, ความหน้าไว้หลังหลอกของนายพลต่างๆที่ให้ความช่วยเหลือเยอรมัน, และความดื้อดึงของชาร์ล เดอ โกล์) แต่อังกฤษ lobby เพราะลำพังอังกฤษไม่อาจจะที่จะสร้าง"เสถียรภาพ"ยุคหลังสงครามในยุโรปตะวันตกได้หากไม่มีฝรั่งเศส อังกฤษต้องการประเทศมหาอำนาจบนภาคพื้นทวีปยุโรปหลังสงครามโลกสิ้นสุด นั่นคือ ฝรั่งเศส นอกจากนี้ ฝรั่งเศสยังเป็นประเทศที่ถือได้ว่าเป็นมหาอำนาจที่มีอาณานิคมทั่วโลกมากมาย หากฝรั่งเศสได้เข้าไปเป็นสมาชิกถาวรของ UNSC ก็จะสามารถเพิ่มอิทธิพลของกลุ่มตะวันตกต่อโซเวียตในยุคหลังสงครามโลกได้

...และอย่านับหรือคาดหวังกับสหรัฐอเมริกาว่าจะช่วยฟื้นฟู/สร้างเสถียรภาพให้กับยุโรปมากนักหลังสงคราม เพราะตอนรูสเวลส์ยังมีชีวิต รูสเวลส์ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะ "ดำรง" ทหารอเมริกันแม้แต่นายเดียวไม่ในทวีปยุโรปหลังสงครามสิ้นสุด แต่แนวคิดเรื่องความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจของอเมริกาต่อยุโรปก็มีการเกริ่นๆกันก่อนที่รูสเวลส์จะเสียชีวิตไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ซึ่งคล้ายๆกับแนวคิดของ ปธน.วิลสัน ว่ากันตามจริง  ...ในตอนแรกอเมริกาต้องการให้อังกฤษเป็นผู้รับผิดชอบในการฟื้นฟูยุโรปหลังสงครามด้วยตัวเอง รวมทั้ง "คาน" อำนาจและอิทธิพลของสหภาพโซเวียตด้วยหลังจากสหรัฐถอนทหารออกจากยุโรป ซึ่งเชอร์ชิลรู้ดีว่า อังกฤษไม่มีศักยภาพขั้นนั้นแน่ ดังเช่นกรณีในคาบสมุทรบอลข่าน กรีซ และประเทศตุรกี ที่เคยเป็นเชตอิทธิพลอังกฤษ(แต่อังกฤษถังแตก) สหรัฐฯเลยต้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือรัฐบาลกรีซและตุรกีทางด้านการเงินและการทหาร(ยุทโธปกรณ์)ในการต่อกรกับกลุ่มกบฎคอมมิวนิสต์ จึงเกิดเป็น "นโยบายปิดล้อม" หรือ "Containment Policy" สกัดกั้นอิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์

ณ ตอนนั้น อเมริกาและโซเวียตยังไม่มีความขัดแย้งกันเลยนะครับ รูสเวลส์มองโลกในบริบทของ Harmony (ความสงบสุข) ในขณะที่เชอร์ชิลค่อนข้างมองโลกแบบ Realist คือ มองเสถียรภาพของยุโรปแบบ Equilibrium หรือ Balance of power (ดุลแห่งอำนาจ) ส่วนสตาลินมองโลกและความมั่นคงในบริบท Hegemony ....จริงๆสตาลินเองก็ไม่ไว้ใจเชอร์ชิลมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแนวรบตะวันตกที่ค่อนข้างช้า(ในขณะที่สหรัฐฯรบเร้าอังกฤษให้บุกข้ามช่องแคบไปลุยกับเยอรมันในปี 1942 แต่อังกฤษเลือกที่จะอ้อมไปลุยกับเยอรมันในแอฟริกา, อิตาลี), ปฏิบัติการ Market Garden ที่ต้องการบุกยึดครองจุดยุทธศาสตร์(แคว้นรัวร์ และรวมทั้งเมืองสำคัญต่างๆ)ของเยอรมันก่องทัพโซเวียต, การที่อังกฤษรบเร้าไอเซนฮาวร์ให้ยึดเบอร์ลินก่อนกองทัพแดงรวมทั้งกรุงปราก, บูดาเปส ฯลฯ ความไม่ไว้วางใจของโซเวียตต่อกลุ่มประเทสทุนนิยมจึงเพิ่มขึ้น และทำให้ UNSC ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการสร้างเสถียรภาพของโลกมากนักในยุคสงครามเย็น (เหตุเพราะต่างคนต่างมีผลประโยชน์อยู่)

เชื่อแน่ว่า ถ้ารูสเวลส์ไม่มาเสียชีวิตกระทันหัน ณ ช่วงเวลาอันสำคัญทางประวัติศาสตร์ ผมมั่นใจว่า โลกของเราในยุคนี้อาจจะไม่ใช่โลกอย่างที่เรารู้จักกันเป็นแน่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่