สวัสดีคะ วันนี้เราอยากมาแบ่งปันบทความที่เราได้อ่านมาและคิดว่าอาจมีประโยชน์สำหรับคนที่มีปัญหาในเรื่อง self-esteem
เราแปลมาจากเว็บของต่างประเทศอีกที ถ้าผิดพลาดหรือควรแก้ไขอะไรก็เม้นบอกได้คะ ^^
แหล่งที่มา www.tinybuddha.com

ความเชื่อมั่น 6 ประการเพื่อเอาชนะ low self-esteem
By Sumitha Bhandarkar
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณคือการสะท้อนกลับของสิ่งที่คุณเชื่อมั่นในตัวเอง เราไม่สามารถทำให้ระดับของการนับถือตัวเองให้ดีไปกว่านี้ได้ เราไม่สามารถทำให้ตัวเราเองเป็นมากกว่าสิ่งที่เราคิดเรามีคุณค่าเพียงใด” Iyanla Vanzant กล่าวไว้
คุณเป็นคนฉลาด ตลกขบขัน และเป็นคนดีอย่างแท้จริง
คุณมีความคิดที่สามารถแก้ปัญหาหลายอย่างที่คุณเห็นรอบตัวคุณ คุณสามารถให้ความเพลิดเพลินกับผู้คนด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจที่ทำให้พวกเขาปล่อยขำออกมาได้ คุณสามารถเป็นคู่ชีวิต พ่อแม่ หรือเพื่อนที่ยอดเยี่ยมได้เสมอ
แต่คุณมักไม่ได้มีชีวิตอยู่กับความเป็นไปได้นั้นเสมอ
มีบางอย่างรั้งคุณไว้
บางอย่างบอกคุณว่าความคิดของคุณไม่มีค่าพอกับการป่าวประกาศให้คนอื่นได้รับรู้ บางอย่างดึงคุณไว้ไม่ให้แบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจ บางอย่างหยุดคุณจากการให้ในสิ่งที่คุณมีอยู่และหยุดคุณจากทุกสิ่งที่คุณต้องการจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของคุณ
ถึงแม้ว่าคุณจะรู้ว่าคุณสามารถเป็นอะไรได้มากกว่านี้ ลึกข้างในคุณมีความรู้สึกที่กวนใจว่าคุณไม่มีคุณค่ากับความยิ่งใหญ่ รางวัล ความสนุกอย่างแท้จริง และความสุข
การนับถือตัวเองในระดับที่ต่ำกำลังรั้งคุณจากการใช้ชีวิตของคุณอย่างเต็มที่
ใครต้องทุกข์ทรมานกับการนับถือตัวเองต่ำมากกว่ากันระหว่าง คนขี้อาย กับ คนที่ชอบอยู่เป็นกลุ่ม
ฉันมักจะอยู่เป็นกลุ่ม เป็นคนเปิดเผย และชอบเข้าสังคมมาก ส่วนสามีของฉัน ในทางตรงข้ามกัน เขามักจะเงียบและเก็บตัวเสมอ
ตอนที่ฉันพบเขา ฉันเคยคิดว่าเขาเป็นคนขี้อายและอาจจะขาดความมั่นใจในการพูดในแบบที่ฉันทำ สิบห้าปีของการอยู่ด้วยกันได้ทำให้ฉันรู้ว่าฉันคิดผิดไปมากเหลือเกิน
ขณะที่ฉันมักจะสลับไปมาระหว่างขาดความมั่นใจกับความมั่นใจสูงเกินไป สามีของฉันมีความมั่นคงมาก ผิดปกติโดยสิ้นเชิง เขาไม่ได้ถูกกวนใจจากสิ่งที่ผู้คนพูดถึง การตัดสินใจของเขาไม่ได้ขึ้นกับสิ่งที่คนอื่นคิด เขาเห็นของคุณค่าของตัวเองมากเลยทีเดียวซึ่งไม่มีอะไรสามารถกระทบเขาได้เลย



กว่าฉันจะรู้ว่าการนับถือตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชอบอยู่เป็นกลุ่ม ชอบเข้าสังคมหรือขี้อาย โลกส่วนตัวสูง มันมาจากที่ที่ลึกกว่านั้นจากข้างในตัวคุณเอง
ดังนั้น ไม่มีวิธีแก้ไขที่รวดเร็วหรือยาวิเศษที่สามารถพัฒนาการนับถือตัวเองภายในข้ามคืน
ในอีกทางหนึ่ง หากคุณเชื่อมั่นที่จะปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง ไม่สนว่าสถานการณ์จะเป็นแบบไหน  คุณสามารถพัฒนาการนึกคิดของคุณเกี่ยวกับคุณค่าตัวเองได้อย่างมั่นคง
ฉันได้ใส่ทฤษฎีนี้ในการทดสอบมามากกว่าสองปีและเริ่มจะสังเกตถึงความสงบที่อยู่ลึกภายใน จากที่ที่ความนึกคิดถึงคุณค่าในตัวเองได้เผยออกมา
นี่คือการเชื่อมั่น 6 ประการที่ได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับฉัน
1.    เป็นตัวของตัวเอง หยุดการเสแสร้งเพื่อเอาใจคนอื่น คุณเคยได้ยินข้อคิดที่ว่า “คุณสามารถหลอกใครบางคนได้ตลอดเวลา และหลอกทุกคนได้ในบางครั้ง แต่คุณไม่สามารถหลอกทุกคนได้ทุกเวลา” การรู้ว่าสักวันคุณจะถูกเปิดเผยมันเป็นสิ่งที่ทำลายการนับถือในตัวเอง มันยากอย่างที่มันเป็นและเปราะบางอย่างที่คุณจะรู้สึก ล้มเลิกการเสแส้รงของคุณไป แค่เป็นตัวตนที่แท้จริง ตอนแรกความกลัวจะหมดอำนาจแต่ถ้าคุณจัดการที่จะผ่านความกลัวอย่างแรกและก้าวกระโดด มันจะรู้สึกอิสระมาก และความอิสระที่ปราศจากข้อแก้ไขหรือแสแสร้งจะก่อให้เกิดให้การนับถือตัวเองในทางที่ดีขึ้น
2.    เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ พูดโดยมีเจตนาถึงสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ เรามักจะตอบรับคำตกลงเพราะความกลัวต่อคนที่มีอำนาจหรือความกลัวของการทำลายความรู้สึกบางคนหรือความกังวลว่าเราจะทำให้ใครบางคนน้อยใจ แต่ทุกครั้งที่คุณตอบตกลงในสิ่งที่คุณไม่อยากทำ คุณจะจบลงด้วยการทำสิ่งที่ไม่เต็มใจนัก จากนั้นคุณก็ไม่มีความสุขกับสิ่งที่คุณพูดถึงสิ่งที่คุณไม่ต้องการ และคุณไม่มีความสุขที่คุณทำสิ่งนั้น งานที่คุณทำออกมาไม่จึงน่าดูเลย ทำลายนิสัยนั้นซะ แทนที่ด้วยการพูดสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ คุณไม่จำเป็นต้องหยาบคายเลยแค่หนักแน่นและเด็ดเดี่ยว พัฒนาความสามารถที่จะพูดสิ่งที่อยู่ในใจแบบสุภาพแต่มีความมั่นคงในบุคลิก และรักษาสัญญา จะช่วยเสริมสร้างการนับถือตัวเองให้มั่นคงขึ้นได้

3.    อนุญาตให้ตัวเองทำผิดพลาดบ้างและตั้งมั่นว่าจะเรียนรู้จากความผิดพลาด
การตอบสนองต่อความผิดพลาดของคุณที่มีเท่ากับความสำเร็จจะนิยามตัวคุณเอง คุณสามารถกดดันตัวเองกับความล้มเหลวนั้นหรือคุณสามารถให้อนุญาตตัวเองได้ทำผิดพลาดและตั้งปฏิญาณไว้ว่าจะเรียนรู้จากมัน เผชิญหน้ากับมันซะ ไม่ว่าเส้นทางไหนที่คุณเลือกเดิน คุณจะยังคงทำผิดพลาดบ้างในชีวิต เส้นทางหนึ่งจะทำให้ความนับถือตัวเองแตกเป็นเสี่ยงๆ ส่วนอีกทางจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่แกร่งกว่าเดิม ขอให้คุณเลือกเอง
4.    รับผิดชอบการกระทำของคุณเอง
หลายครั้ง ในบางเรื่องหรือบางคนในชีวิตคุณ ด้วยเจตนาหรือไม่ได้ตั้งใจคุณจะทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ลง เมื่อมันเกิดขึ้น เลิกหาข้อแก้ตัวและยอมรับมันซึ่งเป็นผลกระทบจากสิ่งที่คุณตัดสินใจทำ เลิกเสียใจและจดจ่ออยู่กับการหาทางออก ขอให้เตรียมตัวเสมอที่จะพูดว่า “ขอโทษนะ” ตามด้วย “ฉันจะสามารถแก้ไขได้อย่างไร”  ทำให้แน่ใจว่าคุณได้พยายามอย่างจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาในทางที่ดีชอบสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนั้น มันต้องใช้ความมานะอย่างมากแต่มันเป็นการนับถือตัวเองที่ดีซึ่งมีรากฐานมาจากการรู้ว่าคุณมักจะทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
5.    ให้ความช่วยเหลือผู้อื่น
ไม่มีสมบัติ ชื่อเสียง ความสำเร็จ ความสวย ความฉลาด หรือความแข็งแกร่งใดที่สามารถให้ความรู้สึกอิ่มใจหรือเจตนาใดได้เหมือนกับคำว่า “ขอบคุณ” จากคนที่คุณช่วยเหลือ เมื่อคุณเลิกหมกมุ่นอยู่กับความกังวลใจของคุณ ความเศร้าโศกหรือละครน้ำเน่า และเริ่มมาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ด้วยบทบาทตัวละครในจักรวาลนี้ ความสำนึกถึงคุณค่าในตัวเองและความนับถือตัวเองจะถูกกำหนดขึ้นใหม่ เป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ให้ความช่วยเหลือเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณสามารถทำได้ คุณจะได้มากกว่าสิ่งที่คุณเคยคิดว่าคุณต้องการ
6.    ทุ่มเทกับสิ่งใดก็ตามที่คุณตัดสินใจจะทำ เลิกกังวลถึงการตัดสินใจของคุณ
ไม่ว่าเราจะทำบางอย่างหรือไม่ทำ เลิกคาดการณ์อนาคตของทางเลือกของคุณ ในกรณีที่ถ้าเกิดคุณต้องการชงน้ำชา อย่างแรกเรียนรู้วิธีชงชา จากนั้นรวบรวมส่วนผสมที่คุณต้องการ และลงมือชงชา อย่างห่วงว่ามันจะออกมาดีหรือไม่ อย่ากังวลว่าใครจะชอบมันไหม อย่ากังวลว่าคุณเหมาะจะชงชาหรือเปล่า อย่ากังวลถึงคนที่ชอบดื่มกาแฟ อย่างกังวลถ้าคุณจะชงชาอีกรอบ อย่ากังวลว่าคุณจะทำอะไรหลังจากชงชาเสร็จ และเมื่อคุณทำเสร็จ เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ต่อไป การกังวลอยู่ตลอดเวลาเกี่ยวกับทางเลือกของคุณเหมือนอย่างการชงชามันจะไม่เกิดผลดีกับตัวคุณ ชาหรือสิ่งต่างๆรอบตัวคุณเลย ทุ่มเทกับสิ่งที่คุณเลือกที่จะทำ

การนับถือตัวเองเป็นเครื่องวักว่าคุณคิดว่าคุณมีคุณค่าแค่ไหน อย่ามองหาการยืนยันจากใครก็ตาม ตั้งความคาดหวังถึงใครที่คุณควรเป็นและทำทุกอย่างที่คุณสามารถเพื่อมีชีวิตอยู่กับความคาดหวังเหล่านั้น คุณมีมันอยู่ข้างในตัวคุณเองแล้วเพื่อที่จะเป็นคนที่คุณภาคภูมิใจได้

สัญญากับตัวคุณเองและเป็นคนๆนั้นให้ได้!