เมื่อปลายเดือน มิ.ย. จขกท. มีโอกาสบริจาคเลือดสำเร็จเป็นครั้งแรก
(เคยพยายามบริจาคมาหลายครั้ง แต่มีปัญหาเหล็กต่ำ เลือดข้นไหลช้า ทำให้บริจาคไม่ได้)

ราว ๆ กลางเดือน ก.ค. จขกท ได้รับจดหมายจากกาชาดอเมริกา แจ้งว่า ผลแลปที่ทดสอบไวรัสตับอักเสบบี(anti-HBc) เป็นบวก
เขาเลยต้องทำการตรวจสอบเพิ่มเติม (คิดว่า เป็นตัว HBV PCR) ถึงผลออกมาเป็นลบ แต่ทางกาชาดก็เต้องแจ้งให้เราทราบ

การทดสอบที่กาชาดใช้ มัน sensitive มาก เลยอาจจะให้มีผลทดสอบออกมาเป็น  false reactive ได้
เพราะจากผลการทดสอบแบบ HBV PCR นั้น มันออกมาเป็นลบ
(ตรงนี้ จขกท ไม่มีความรู้ว่า HBV PCR คือการตรวจอะไรยังไง เข้าใจว่าเป็นการตรวจสอบที่ละเอียดขึ้น)
แต่ยังไงก็ตาม นโยบายของกาชาดคือ ถ้าเลือดมีผลเป็นบวกนี้ ต้องทิ้งเท่านั้น  
ไม่ว่าจะผลบวกจริงหรือบวกลวง ก็ตาม (เศร้าเลยนะเนี่ย เลือดตั้ง 1 pint)

อันนี้ ผลแลปที่ทางกาชาดส่งมาให้ที่บ้าน


เขาก็แนะนำให้ปรึกษาหมอ ให้นำผลแลปนี้ไปหาหมอด้วย  จขกท ก็ไม่รอช้า โทรนัดหมอเพื่อขอปรึกษาเรื่องนี้
พอได้เจอหมอ ก็ถามๆๆ คุยๆๆๆ  หมอดูผลแลปแล้วบอกว่า ฉันค่อนข้างมั่นใจนะว่ามันเป็นผลบวกลวง ๆ
เพราะผลการตรวจแบบ HBV PCR มันเป็นลบ การตรวจแบบนี้ มันตรวจถึงดีเอนเอของไวรัส
ถ้ามันเป็นลบก็ค่อนข้างมั่นใจล่ะ ว่าเธอไม่มีไวรัสตัวนี้หรอก แล้วเธอก็เล่าถึงเคสสาวนางหนึ่ง
ที่ตรวจเลือดแล้วได้ผล HIV เป็นบวก  แต่เป็นบวกลวง (false positive)  แต่กว่าผลเช็คซ้ำจะออกมา
แฟนหนุ่มของเธอก็ได้ตีจากเธอไปแล้ว  คิดดูสิว่ามันเศร้าแค่ไหน ...
เราพยักหน้าหงึก ๆ (แสดงว่าเรายังไม่โชคร้ายขนาดเธอคนน้น ใช่ไหมคะหมอ)


คือ ผลการตรวจสุขภาพเมื่อปีก่อน ค่า ALT จขกท. มีสูงกว่าปกตินิดหน่อยด้วย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่ปีนี้ยังไม่ได้ตรวจสุขภาพประจำปีเลย เพราะขี้เกียจ T_T
นี้ก็เลยเป็นสาเหตุให้ค่อนข้างกังวล เอ้ยย มีอะไรผิดปกติกะตับฉันหรือเปล่า??

สรุปว่า หมอเลยสั่งตรวจ Hep B/ค่าตับ/ค่าไต/น้ำตาลในเลือด
ได้ฉีดวัคซีน Hep B เข็มที่สามด้วย (สองเข็มแรก ฉีดตั้งแต่ปี 2011/12)
แล้วบอกว่า ถ้าหากผลออกมามันเป็นบวก ค่อยไปทำแบบ HBV PCR ล่ะกัน
ไม่อยากให้ทำทีเดียวรวด ​(ค่าตรวจมันแพง~หมอให้เหตุผล)


ผ่านไปเป็นอาทิตย์ เพิ่งได้รับผลทางจดหมายวันนี้  ผลคือ ปกติดี ทุกอย่าง...
พวกค่าตับ ไต ก็ทำงานปกติกันดี (จขกท ทานวิตามินเสริมหลายตัวอยู่เหมือนกัน)
โถ...นึกถึงเลือดหนึ่งถุงใหญ่ ที่ถูกกำจัดทิ้ง   ก็เข้าใจล่ะนะว่าเพื่อความปลอดภัยของผู้รับ
แต่ก็อดเสียดายไม่ได้ วันนั้นอุตส่าห์เตรียมตัวไปอย่างดี ทั้งดื่มน้ำ/ทานอาหาร ทั้งพักผ่อนให้พอ เพื่องานนี้โดยเฉพาะ


จขกท เองก็เคยรับเลือดจากคนอื่นมาเหมือนกัน เมื่อเกือบสิบห้าปีก่อนที่ต้องผ่าตัดด่วน
ก็เลยคิดอยากให้คืนบ้าง แต่รู้สึกว่า การบริจาคเลือดของ จขกท จะอุปสรรคเยอะเหลือเกิ๊นนนน ชักท้อแล้ว
เห็นคนอื่นเขาบริจาคกันทุกสองเดือน บริจาคกันแบบ ง่ายดาย ไม่มีอุปสรรคอะไรสักอย่าง
สงสัยงานนี้ต้องหันไปช่วยสังคมอย่างอื่นแทนซะล่ะ ทางนี้ท่าจะไม่รุ่ง เหอๆ