Service Charge ควรเป็นความพึงพอใจของลูกค้าที่จะให้หรือไม่

ทุกวันนี้มีร้านอาหารใหม่ๆตามห้างเยอะมาก  เคยมั้ยครับที่เวลาไปใช้บริการร้านอาหารบางแห่งเป็นครั้งแรก  แล้วรู้สึกว่าการบริการก็ไม่ได้พิเศษอะไร หรือ ถึงขั้นแย่ด้วยซ้ำ สั่งอาหารก็ช้า  รออาหารก็ช้า  เก็บเงินก็ช้า  พนักงานเกี่ยงกันทำงานอย่างเห็นได้ชัด

แต่พอเวลาจ่ายเงิน กลับโดนบังคับให้ต้องจ่าย service charge 10% ของราคาอาหาร ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับร้านอาหารบางร้าน ที่ไม่ได้คิดค่าบริการนี้ กลับบริการได้ดีกว่ามากมาย

จะเป็นไปได้มั้ยว่า  ที่ภาครัฐจะออกกฎบังคับให้ร้านที่ต้องการเก็บค่าบริการส่วนนี้ ควรระบุช่วงจำนวนที่ลูกค้าพึงพอจ่าย เช่น  5 - 10 %  แทนที่จะบังคับเป็น 10% ทุกครั้ง

เพื่อเป็นการสะท้อนให้ผู้บริหารของร้านรู้จักปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวพนักงานเอง  ความล่าช้าของอาหารที่จะนำมาเสริฟหรือการคิดชำระเงิน  ความสะอาดภายในร้าน  โดยดูจากความพึงพอใจของลูกค้าในการให้

น่าจะเป็นวิธีดูการตอบรับของลูกค้าที่ดีกว่า  การรอให้ลูกค้าน้อยลงไปเรื่อยๆ เข็ดที่จะไม่เข้าไปอีก  แล้วก็คิดว่า เป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี  มีร้านแข่งเยอะ บลาๆๆๆ  แต่ทำไมบางร้านคนต้องต่อคิว และบางร้านกลับมีคนนั่งโหรงเหรง


สุดท้ายก็คงมีความเห็นแย้งว่า  ลูกค้าส่วนใหญ่ก็คงเลือกให้ที่ราคาต่ำสุด  ไม่ว่าจะบริการดีแค่ไหน หรือ  ถ้าบริการไม่ดีก็อย่าไปกินอีก  

ผมกลับคิดว่า  กลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการร้านอาหารตามห้างใหญ่ๆได้นั้น ล้วนต้องการการบริการที่ดี  และยินดีจ่ายเงินเพิ่มให้สมกับการบริการที่ได้รับ  ถือเป็นการให้กำลังใจในการทำงานของพนักงานในร้านทั้งหมดด้วยซ้ำ  และมันก็ไม่ได้มากกว่ากันสักเท่าไหร่เลย

หากค่าอาหารทั้งหมด  สองพันบาท  service charge ก็อยู่ระหว่าง 100 - 200 บาท  หากบริการดีประทับใจจริง  ผมก็ยินดีจ่ายที่สองร้อยบาท

แต่คิดว่าส่วนใหญ่บิลค่าอาหารน่าจะน้อยกว่านี้  หากอยู่ที่ 500 บาท  service charge ก็จะอยู่ที่ 25 - 50 บาท  ต่างกันเพียง 25 บาทเท่านั้น



อยากทราบว่า แต่ละร้านมีเหตุผลอะไรที่จะเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้า  ขณะที่บางร้านก็ไม่ได้เรียกเก็บ  ซึ่งร้านที่เรียกเก็บค่าบริการเหล่านี้ ควรทำสัญลักษณ์ที่หน้าร้านให้ลูกค้าทราบก่อนเข้าไปใช้บริการมั้ย  ไม่ใช่จะรู้ก็ตอนชำระเงิน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่