เราจะเล่าการท่องเที่ยวเกาะพยามในหน้าฝนให้อ่านกัน

เราไปกันทั้งหมด 8 คน วันที่ 29-31 ก.ค. ช่วงที่เขาว่ามีมรสุมเลยล่ะ วันแรกขาไป บรรยากาศชื้นๆ หน่อย ฝนเพิ่งตกเสร็จ เราขึ้นเรือ 9.30 รีสอร์ทนจองไว้แล้ว 270/คน/เที่ยว speed boat ปกติจะ 350 บาทนะ



ภูเขาเต็มไปด้วยหมอกเลย ระหว่างทางจะเห็นเหยี่ยวออกหาอาหารด้วยนะ ระยะทางค่อนข้างไกล เราก็ว่านี่สมชื่อ เกาะพยามจริงๆ


นี่เป็นท่าเรือเกาะช้าง เขาจะแวะส่งคนก่อนจะไปเกาะพยาม

พอถึงเกาะ เรากับเพื่อนก็เช่ารถกัน ถ้ามีเกียร์ 150/คัน/วัน ออโต้ 200/คัน/วัน เช่าเยอะหน่อยมีลดนะ นี่เจ๊ลดให้ออโต้ 4 คันเหลือคันละ 150/คัน/วัน เราเช่า 2 วัน 300 บาท แต่จริงๆ ใช้ไป 3 แหละ 5555 น้ำมันก็ขวดละ 35-40 บาท เป็นตู้เติมก็มีนะ ทั้งทริปนี้เราเติมไป 1 ขวดกับอีก 20 บาทเติมกับตู้

เราพักที่ himmapan resort







พี่ที่รีสอร์ทใจดีมาก ปิ้งย่างได้ไม่คิดเพิ่มนะ ตอนเช็คเอ้าท์เขาลดราคาให้อีกแน่ะ สระน้ำลงได้ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดว่ายน้ำด้วย มีแมว 3 ตัว และน้องหมามาวนๆ






ช่วงที่เราไปน่ะ แทบไม่มีคนเลย ทั้งรีสอร์ทมีแค้รากับเพื่อน แล้วทั้งเกาะนับนักท่องเที่ยวได้เลยมั้ง รู้สึกเป็นเกาะส่วนตัวสุดๆ 5555 ขับรถสวนกันคือจำหน้าได้แล้ว มันเป็นช่วง low season เนอะ ที่นี่คือบางรีสอร์ทจะทิ้งร้างไปเลย แล้วค่อยกลับมาฟื้นฟูช่วง high season เอาล่ะ ไปที่ที่แรกที่เราไปเลย อ่าวเขาควาย -  หินทะลุ





เราก็ถ่ายรูปไม่ค่อยเยอะนะ วันนั้นมีแค่พวกแค่พวกเรานี่แหละ 5555 บรรยากาศค่อนข้างมืดฟ้ามัวฝน หาดดูไม่ค่อยเหมาะกับการเล่นน้ำเท่าไหร่ หินค่อนข้างเยอะ แล้วก็ถ้าจะดูพระอาทิตย์มาที่นี่นะ ถ้าถามคนที่นี่เขาจะบอกให้ไปอ่าวใหญ่ นี่ไปมาละ โดนภูเขาบัง 5555 ทางเข้าหาดนี้ยังถือว่าปกตินะ จอดรถแล้วเดินอีกนิดหน่อยก็ถึงหินทะลุแล้ว

อ่าวกวางปีบ ที่นี่คนบอกกันว่าสวยมาก ต้องจอกรถไว้แล้วเดินขึ้นเขา ระยะทาง 300 เมตร พกน้ำขวดเล็กๆ ไปก็ดี รีสอร์ทตรงนี้ปิดหมด เหมือนอยู่เกาะร้างเลย ระทึกไปอีกแบบ ตลอดสองข้างทางจะได้ยินเสียงลิงสลับกับนกเงือกล่ะ เหมือนพาตัวเองมาอยู่ในป่าดิบชื้น สูดอากาศให้เต็มปอด สดชื่นมาก






มาถึงแล้ว เราก็ว่าสวยจริงๆ นะ สงบ คนก็แนะนำให้มาเล่นน้ำที่นี่






วันนี้เราวางแผนกันจะทำปิ้งย่าง จะบอกร้านให้ ถ้าหันหลังให้ท่าเรือนะ เลี้ยวขวาตรงไปเรื่อยๆ เลยก่อนถึงสะพานข้ามไปวัด ร้านอยู่ขวามือ จะเขียนไว้ว่า มีปูม้าขาย ร้านนี้ล่ะ พี่คนขายใจดี แล้วปูสดมากๆ เขาไปจับจากในกระชังมาให้ตอนนั้นเลย โลละ 250 บาท เราสั่งไป 3 โล ขอลดได้มั้ย พี่บอกเอาเป็นว่าแถมให้แล้วกัน พี่เขาแถมให้เลยอีกกิโลนึง สรุปได้ไปสี่โล 5555 ส่วนร้านนึ่งปูก็ขับย้อนไปนะ อยู่ตรงข้ามร้านละมัย (เป็นร้านขายของชำ บางวันก็มีกุ้งมีหมึกขาย) รับนึ่งกิโลละ 100 พร้อมน้ำจิ้ม นี่เพื่อนเราต่ออีกเหลือโลละ 80 บาท ต่อไปซื้อกุ้งกัน ร้านขายอยู่ทางไปบลูสกายรีสอร์ท ร้านอยู่ขวามือ จะมีอุปกรณ์จับปลากับลังแช่เต็มไปหมด กุ้งตัวใหญ่นะ โลละ 250  





รีสอร์ทนี่มีถ่านให้ ก่อไฟให้ด้วย ใจดีไปอีก แล้วน้ำในห้องพักเขาเอาไปเติมให้นะถ้าหมด ไม่คิดเพิ่มด้วย ที่นี่จะปั่นไฟใช้เอง อากาศตอนกลางคืนแค่พัดลมก็หนาวแล้ว

วันที่ 30  
ฝนตกตั้งแต่ตี 5 หยุดตอน 9 โมง แล้วก็ตกอีกจนบ่ายสอง วันนี้ฝนตกหนักมาก เราตั้งใจว่าจะไปตามหานกเงือก เมื่อวานเจอที่วัด เลยจะมุ่งไปอีก ที่ร้านตุ๊กตา (ร้านอาหารแถวรีสอร์ท) เขาบอกว่า นกเงือกเยอะมาก จะมีตอนเช้าๆ 6 โมง 7 โมง แถวบ้านป้าเองก็เยอะนะ บางทีกินข้าวกันอยู่ บินมาจิกไปกินก็มี

วันนี้ขับรถตากฝนจ้า สนุกดี ฝนที่นี่สดชื่น จะได้กลิ่นดิน กลิ่นต้นไม้ สดชื่นมากจริงๆ แล้วก็ถึงวัด แวะไหว้พระ ก็เจอนกเงือกอีกจริงๆ









นกเงือกที่นี่ดูคุ้นกับคนมากๆ มาที่นี่จะเจอนกเงือกกับเหยี่ยวสลับกันไป เราว่าที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก อยากให้เป็นแบบนี้ไปตลอด

หาดคอกิว เป็นอีกจุดที่คนบอกว่าสวย ทางเข้าค่อนข้างไกลนะ แต่มีป้ายบอกไม่ต้องกลัวหลงเลย ต้องจอดรถแล้วเดินลงเขาไป สองข้างทางดอกไม้สวยดี นกเงือกบินผ่านหน้าไปด้วยตอนขับรถกลับ






เจอปลิงทะเล เพื่อนเราก็จับขึ้นมา เพื่อนเราเรียนสัตวแพทย์นะ รับรองความปลอดภัยของน้องปลิง เวลาปลิงตกใจจะพ่นน้ำออกมา พ่นมากๆ ตัวจะหดเหลือนิดเดียว พอศึกษาเสร็จเพื่อนเราก็ปล่อยสู่ที่เดิม แล้วปลิงทะเลจะอยู่ในน้ำนิ่งนะ หาดนี้หินค่อนข้างเยอะ ทางที่ขับมาเป็นทางขึ้นเขา เราจะเห็นสองข้างทางอย่างสวยเลยล่ะ




ตรงที่เราจอดรถจะมีรีสอร์ทอยู่ ตอนนี้กำลังก่อสร้าง เพื่อนเราก็ไปถามดูว่ามีน้ำขายไหม ลุงบอกว่า ไม่มีขายหรอก แต่มีให้กินนะ แล้วลุงก็ไปหยิบแก้วกับน้ำมาให้ น่ารักมาก

ลุงบอกว่ารีสอร์ทลุงนี่ก็ฝรั่งจองหมดแล้วเหลือหลังเดียว เปิดใช้ตุลา ช่วง high season คือ high จริงๆ ทุกรีสอร์ทเต็มหมด แต่ช่วงนี้เป็นช่วง low season ไม่มีใครเที่ยวกันหรอก ลุงก็บอกนะ เกาะพยามไม่น่าเที่ยวหรอกช่วงนี้ ^^

แต่เราว่านี่แหละ สบายสุดๆ ไม่ต้องแย่งกันใช้ไม่ต้องแย่งกันเที่ยว มีแค่เรากับธรรมชาติ แล้วผู้คนที่นี่ก็ใจดี

ไปต่อกันอีกที่ละมัยรีสอร์ท ตรงนี้เป็นจุดชมวิวของเกาะพยาม รีสอร์ทตั้งอยู่บนยอดเขาเลย คือเราไปกันนี่เหมือนไปบุกรุก 5555 ไม่มีคนเลย





ต่อไป blue sky resort ขี้เกียจบอกเยอะ แต่วิวสวยดี ลองไปนั่งกิน มีค่าเซอวิสอยู่นะ










ไปอ่าวใหญ่ตามคำบอกเล่าว่าดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ 5555 เขาบังไปอีก ที่นี่พระอาทิตย์ตก 6 โมงเย็นนะ ที่นี่คลื่นแรง มีคนมาเล่นเซิร์ฟด้วย


มื้อเย็นเราไปกินร้านที่เป้นเพิงกัน มีส้มตำ อาหารตามสั่ง โรตี โรตีนี่เด็ดจริงนะ 15 บาท อร่อย กรอบ เปิด 13.00-20.30


วันที่ 31
ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เราออกจากรีสอร์ทประมาณ 6 โมงนิดๆ ไปดูที่ท่าเรือตรงวัด ไม่ใช่ท่าเรือตอนขามานะ แต่ก็อยู่ระแวกเดียวกันแหละ







สีค่อนข้างเหมือนตอนเย็น เพราะมีเมฆฝน

ลองไปดูที่ blue sky ต่อ วิวดีจริงๆ ยอมตรงนี้ ไปดูเด็กเล่นน้ำ








ขากลับรีสอร์ทก็แวะใส่บาตร ร้านนี้มีเหนียวย่างอร่อย ห่อ 10 บาท ไส้กล้วย ไส้เผือก บางอย่างก็ไม่ได้ถ่ายรูปนะ อยากให้มาลองเอง เปล่าหรอกนี่บางทีลืม บางทีรีบ 5555
ไว้มาต่อนะ แฮ่กๆ