#66 $$$$$ โต๊ะน้ำชาแฟนโรงพยาบาล ฿฿฿฿฿ AUG. 3 2016
ขอเชิญเพื่อนๆนักลงทุนและผู้ที่สนใจการลงทุนหุ้นในกลุ่มร.พ.มาสนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะ แบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเล่าประสบการณ์การลงทุนสู่กันฟัง
(โดยปกติจะ update วันพุธเช้า สัปดาห์ละครั้ง)
สถานการณ์ทั่วไป :
วานนี้ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 1% สัปดาห์นี้ต่างชาติซิ้อสุทธิน้อยลง ในขณะที่นักลงทุนสถาบันขายหนัก มีการขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงก่อนลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นี้ กลุ่มพลังงาน ธนาคาร สื่อสาร ฉุดตลาดร่วงแรงสองวันติดต่อกันเกือบ 30 จุด
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด OPEC ยังคงเพิ่มกำลังการผลิตและสหรัฐฯเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5
ธนาคารแห่งประเทศไทย.เผย ศก.ไทย ไตรมาส 2/59 เติบโตได้ดีกว่าไตรมาส 1/59 แต่ยังห่วงการส่งออกฟื้นตัวช้า ศก.ไทย ช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะดีขึ้น แม้จะมีปัจจัยความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นตามกำลังซื้อของครัวเรือนภาคเกษตรที่รายได้เริ่มกลับมาขยายตัวได้ หลังจากปัญหาภัยแล้งคลี่คลายและความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่องแม้จะชะลอลงบ้าง จากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายน เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย อินโดนีเซีย และตะวันออกกลาง มาเที่ยวไทยลดลง เนื่องจากตรงกับช่วงเทศกาลถือศีลอด
ตลาดหุ้นไทย มีผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีและมีความผันผวนของค่าเงินที่ต่ำ จึงมีความน่าสนใจต่อนักลงทุนต่างชาติ ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 4 ของโลก และหากเปรียบเทียบ YTD มีเม็ดเงินต่างชาติซื้อสุทธิประมาณ 1,940.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากที่สุดในประเทศกลุ่ม TIP เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3/59 จะได้รับปัจจัยหนุนจากการบริโภคภายในประเทศที่ดีขึ้น ทั้งจากสถานการณ์ภัยแล้งที่คลี่คลาย ทำให้รายได้เกษตรกรทยอยปรับตัวดีขึ้น รวมถึงจากการที่รัฐบาลพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและนักลงทุน ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ
วานนี้ ตลาดหุ้นจีนบวก 0.59% ตลาดหุ้นอินเดียลบ 0 .08 %
ตลาดหุ้นอเมริกาเฉลี่ยลบ 0.7% ตลาดหุ้นเยอรมันลบ 1.8. % S&P VIX + 7.48 %
Global Healthcare ลบ 0.17 % (ยังลบ 5.57 % จากต้นปี )
หุ้นในกลุ่มร.พ:
(update ทุกเย็นวันอังคาร)
สัปดาห์นี้ มีแรงขายหุ้นในกลุ่มร.พ.ออกมาค่อนข้างหนัก โดยเฉพาะร.พ.ขนาดใหญ่ BDMS BH
AHC ปิด 38.5
BCH ปิดที่ 12.5
BDMS ปิดที่ 21.6
BH ปิดที่ 175.5
CHG ปิดที่ 3.02
CMR ปิดที่ 5.45
EKH ปิดที่ 6.50
LPH ปิดที่ 10.0
M-CHAI ปิดที่ 285
NEW ปิดที่ 66
NTV ปิดที่ 51.75
RAM ปิดที่ 3200
SKR ปิดที่ 64.5
SVH ปิดที่ 362
TNH ปิดที่ 40
VIBHA ปิดที่ 3.0
VIH ปิดที่ 9.3
*ข่าวแนวทางแก้ไขปัญหาอัตราค่ายาและค่ารักษาพยาบาลเป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยให้เกิดความยุติธรรมกับผู้บริโภคและช่วยให้การบริหารจัดการของ ร.พ.เป็นระบบระเบียบ มีธรรมภิบาลและจริยธรรมเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลดีต่อทั้งผู้ใช้บริการและต่อร.พ.เอง ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว
(การลงทุนมีความเสี่ยง ข้อมูลที่สนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะกันไม่ถือว่าเป็นการชี้นำ ควรศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจโดยใช้วิจารณญาณของตนเองอย่างละเอียดถี่ถ้วน )
*Link เพลงในยูทูป เป็นไปเพื่อความบันเทิง เพื่อเผยแพร่ยกย่องในเกียรติคุณและคุณภาพของเพลง มิได้เป็นไปเพื่อธุรกิจการค้าหรือผลประโยชน์อื่นแต่อย่างใดทั้งสิ้น
* โต๊ะน้ำชาฯไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ราคาค่ารักษาพยาบาลและราคาหุ้นแพงเกินจริง มากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ แต่มุ่งส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารประสบการณ์ลงทุน เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยมีการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซื้อและขายถูกจังหวะ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
เวลา
$$$$$ โต๊ะน้ำชาแฟนโรงพยาบาล ฿฿฿฿฿ AUG. 3 2016
ขอเชิญเพื่อนๆนักลงทุนและผู้ที่สนใจการลงทุนหุ้นในกลุ่มร.พ.มาสนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะ แบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเล่าประสบการณ์การลงทุนสู่กันฟัง (โดยปกติจะ update วันพุธเช้า สัปดาห์ละครั้ง)
สถานการณ์ทั่วไป :
วานนี้ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 1% สัปดาห์นี้ต่างชาติซิ้อสุทธิน้อยลง ในขณะที่นักลงทุนสถาบันขายหนัก มีการขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงก่อนลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นี้ กลุ่มพลังงาน ธนาคาร สื่อสาร ฉุดตลาดร่วงแรงสองวันติดต่อกันเกือบ 30 จุด
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด OPEC ยังคงเพิ่มกำลังการผลิตและสหรัฐฯเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5
ธนาคารแห่งประเทศไทย.เผย ศก.ไทย ไตรมาส 2/59 เติบโตได้ดีกว่าไตรมาส 1/59 แต่ยังห่วงการส่งออกฟื้นตัวช้า ศก.ไทย ช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะดีขึ้น แม้จะมีปัจจัยความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นตามกำลังซื้อของครัวเรือนภาคเกษตรที่รายได้เริ่มกลับมาขยายตัวได้ หลังจากปัญหาภัยแล้งคลี่คลายและความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่องแม้จะชะลอลงบ้าง จากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายน เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย อินโดนีเซีย และตะวันออกกลาง มาเที่ยวไทยลดลง เนื่องจากตรงกับช่วงเทศกาลถือศีลอด
ตลาดหุ้นไทย มีผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีและมีความผันผวนของค่าเงินที่ต่ำ จึงมีความน่าสนใจต่อนักลงทุนต่างชาติ ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 4 ของโลก และหากเปรียบเทียบ YTD มีเม็ดเงินต่างชาติซื้อสุทธิประมาณ 1,940.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากที่สุดในประเทศกลุ่ม TIP เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3/59 จะได้รับปัจจัยหนุนจากการบริโภคภายในประเทศที่ดีขึ้น ทั้งจากสถานการณ์ภัยแล้งที่คลี่คลาย ทำให้รายได้เกษตรกรทยอยปรับตัวดีขึ้น รวมถึงจากการที่รัฐบาลพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและนักลงทุน ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ
วานนี้ ตลาดหุ้นจีนบวก 0.59% ตลาดหุ้นอินเดียลบ 0 .08 %
ตลาดหุ้นอเมริกาเฉลี่ยลบ 0.7% ตลาดหุ้นเยอรมันลบ 1.8. % S&P VIX + 7.48 %
Global Healthcare ลบ 0.17 % (ยังลบ 5.57 % จากต้นปี )
หุ้นในกลุ่มร.พ:
(update ทุกเย็นวันอังคาร)
สัปดาห์นี้ มีแรงขายหุ้นในกลุ่มร.พ.ออกมาค่อนข้างหนัก โดยเฉพาะร.พ.ขนาดใหญ่ BDMS BH
AHC ปิด 38.5
BCH ปิดที่ 12.5
BDMS ปิดที่ 21.6
BH ปิดที่ 175.5
CHG ปิดที่ 3.02
CMR ปิดที่ 5.45
EKH ปิดที่ 6.50
LPH ปิดที่ 10.0
M-CHAI ปิดที่ 285
NEW ปิดที่ 66
NTV ปิดที่ 51.75
RAM ปิดที่ 3200
SKR ปิดที่ 64.5
SVH ปิดที่ 362
TNH ปิดที่ 40
VIBHA ปิดที่ 3.0
VIH ปิดที่ 9.3
*ข่าวแนวทางแก้ไขปัญหาอัตราค่ายาและค่ารักษาพยาบาลเป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยให้เกิดความยุติธรรมกับผู้บริโภคและช่วยให้การบริหารจัดการของ ร.พ.เป็นระบบระเบียบ มีธรรมภิบาลและจริยธรรมเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลดีต่อทั้งผู้ใช้บริการและต่อร.พ.เอง ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว
(การลงทุนมีความเสี่ยง ข้อมูลที่สนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะกันไม่ถือว่าเป็นการชี้นำ ควรศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจโดยใช้วิจารณญาณของตนเองอย่างละเอียดถี่ถ้วน )
*Link เพลงในยูทูป เป็นไปเพื่อความบันเทิง เพื่อเผยแพร่ยกย่องในเกียรติคุณและคุณภาพของเพลง มิได้เป็นไปเพื่อธุรกิจการค้าหรือผลประโยชน์อื่นแต่อย่างใดทั้งสิ้น
* โต๊ะน้ำชาฯไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ราคาค่ารักษาพยาบาลและราคาหุ้นแพงเกินจริง มากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ แต่มุ่งส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารประสบการณ์ลงทุน เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยมีการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซื้อและขายถูกจังหวะ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
เวลา