สวัสดีครับ
ผู้สนใจเรื่องราวของประเทศเวียดนามหลายๆท่าน คงพอทราบดีอยู่แล้วว่า ปี ค.ศ. 1945 หรือ พ.ศ. 2488 นั้น หลังจากที่ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามโลกไม่นาน รัฐบาลของเวียดนาม นำโดยจักรพรรดิบ๋าวดั่ย ได้ประกาศสละราชสมบัติ มอบอำนาจและอาญาสิทธิ์ให้กับชายที่ชื่อว่า โฮจิมินห์ ให้ขึ้นเป็นผู้นำเวียดนาม แม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นการล้มล้างอำนาจของราชวงศ์ แต่ก็ถือว่าเป็นการประนีประนอมกันอย่างดี เพราะไม่มีเหตุท่าทีรุนแรงใดๆเลยแม้แต่น้อย ทั้งก่อนหน้า ขณะเกิด และหลังจากนั้น ตรงกันข้ามกับยุคที่จักรพรรดิบ๋าวดั่ยได้ขึ้นเป็นประมุขรัฐของเวียดนามใต้ ที่ได้มีการต่อต้านจักรพรรดิทั้งการประท้วง โฆษณาชวนเชื่อ และการลงประชามติให้เป็นสาธารณรัฐ ซึ่งมีการโกงเลือกตั้ง คือ มีจำนวนผู้เลือกโหวตให้เวียดนามใต้เป็นสาธารณรัฐ เกินกว่าจำนวนผู้ที่มีสิทธิ์ แต่ด้วยเหตุผลใดๆก็ตามแล้ว ก็ล้วนแต่เป็นจุดจบของระบอบจักรพรรดิในเวียดนาม ซึ่งในยุคนั้น เอเชียเหลือจักรพรรดิเพียงแค่ 2 พระองค์ คือ เวียดนาม และ ญี่ปุ่น
หากกล่าวถึงสมเด็จพระจักรพรรดิของราชวงศ์เหงียน ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของเวียดนามแล้ว ในปัจจุบัน สามารถแบ่งได้เป็น 2 สายหลัก คือ สายของเจี้ยนไท่หวัง (หรือสำเนียงเวียดนามคือ เกี้ยนท้ายเหวือง) กับ รุ่นไท่หวัง (หรือสำเนียงเวียดนามคือ ถวั่ยท้ายเหวือง) ซึ่งสายของจักรพรรดิบ๋าวดั่ย อยู่ในสายของเจี้ยนไท่หวัง ส่วนสายของรุ่ยไท่หวังที่อยู่รุ่นเดียวกับจักรพรรดิบ๋าวดั่ยนั้น คือ จักรพรรดิสุยเติน จักรพรรดิองค์ที่ 11 (พระราชชนกของจักรพรรดิบ๋าวดั่ย คือ จักรพรรดิขายดิ่ญ หรือที่คนไทยติดปากว่า จักรพรรดิกะเทย เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 12 ที่มันแปลกๆเพราะว่า คนเลือกคือฝรั่งเศส ที่เลือกตามใจตัวเอง มากกว่าตามลำดับสันตติวงศ์ที่แท้จริง เพราะพวกนี้ชอบจักรพรรดิเด็กหรือจักรพรรดิที่เข้าข้างพวกตนเอง จะได้เชิดง่ายๆ)
สมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟือง
สายที่จะกล่าวถึง คือสายของจักรพรรดิบ๋าวดั่ยโดยตรงครับ ตามประวัติเล่าว่าพระองค์มีพระราชโอรส-ธิดา และ พระชายาหลายๆคน ผมจะเรียงตามลำดับความสำคัญของพระชายาก่อน ตามด้วยลำดับการประสูติครับ
มกุฎราชกุมารบ๋าวลอง
มกุฎราชกุมารบ๋าวลองสมัยหนุ่ม
มกุฎราชกุมารบ๋าวลอง เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ของสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ยกับจักรพรรดินีนามเฟือง ทรงประสูติเมื่อวันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 1936 (พ.ศ. 2478 หากนับแบบเก่า) พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นมกุฏราชกุมารในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2481 หากนับแบบเก่า) พระองค์ยังเคยเสด็จในพระราชพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบทที่ 2 ด้วย ด้านชีวิตความรัก พระองค์เคยอภิเษกสมรสกับแม่ม่ายลูกติดชื่อว่า Thérèse Marie Delanne นักออกแบบภายใน ทรงสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนร็อช (Roches School) ในนอร์ม็องดี หลังจากนั้นจึงเสด็จไปศึกษาต่อทางด้านกฎหมายและวิทยาศาสตร์การเมือง ณ กรุงปารีส พระองค์ทรงเข้าร่วมในกองทหารต่างด้าว (French Foreign Legion) เป็นเวลา 10 ปี ก่อนเสด็จกลับกรุงปารีส และตลอดพระชนม์ชีพที่เหลือ ทรงทำอาชีพเกี่ยวกับวาณิชธนกิจ หรือการธนาคาร หลังการสวรรคตของสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย ทรงได้ขึ้นเป็นผู้นำราชวงศ์เหงียน แต่พระราชชนก รับสั่งไว้ว่า "อย่ายุ่งกับการเมืองในเวียดนามเด็ดขาด" พระองค์สิ้นพระชนม์ในวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ไร้พระราชโอรส-ธิดา
เจ้าหญิงเฟืองมาย
เจ้าหญิงเฟืองมายในพระราชพิธีศพของพระราชชนก สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย
เจ้าหญิงเฟือง มาย ประสูติเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1937 (พ.ศ. 2480) ที่เมืองด่าหลัต ประเทศเวียดนาม เป็นพระราชธิดาองค์โตในสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย กับสมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟือง ในปี ค.ศ. 1947 (พ.ศ. 2490) สมเด็จพระจักรพรรดินีนาม เฟือง ได้เสด็จออกจากเวียดนามพร้อมพระโอรส-ธิดา มาที่ Château Thorens นอกเมืองกาน ประเทศฝรั่งเศส โดยได้ทรงศึกษาต่อในประเทศฝรั่งเศส และไม่เคยเสด็จกลับประเทศเวียดนามอีกเลย ในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1971 เจ้าหญิงเฟือง มาย ได้อภิเษกสมรสกับปีเอโตร บาโดลโย ดยุกที่ 2 แห่งแอดดิสอาบาบา และมาร์ควิสแห่งซาโบตีโน มีบุตร-ธิดาด้วยกัน 2 คนคือ ฟลาวีโอ บาโดลโย ดยุกที่ 3 แห่งแอดดิสอาบาบา และ มานูเอลา บาโดลโย เดย์ ดูกี เด แอดดิสอาบาบา ปัจจุบันพระสวามีสิ้นพระชนม์แล้วตั้งแต่ปี ค.ศ 1992 (พ.ศ. 2535) และทรงยังอยู่ในประเทศฝรั่งเศสอยู่
เจ้าหญิงเฟืองเลียน
เจ้าหญิงเฟืองเลียนในพระราชพิธีศพของพระราชชนก สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย
เจ้าหญิงเฟือง เลียน ประสูติเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1938 (พ.ศ. 2481) เป็นพระราชธิดาองค์รองในสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย กับสมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟือง ในปี ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) เจ้าหญิงเฟือง เลียนได้สมรสกับนายธนาคารชื่อแบร์นาร์ มอริส ซูแล็งในเมืองคอบิกยัก ประเทศฝรั่งเศส มีพระธิดา 2 คน ได้แก่ วาเลรี ซูแล็ง และการอลีน ซูแล็ง
เจ้าหญิงเฟืองซุง
เจ้าหญิงเฟืองซุงในพระราชพิธีศพของพระราชชนก สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย
เจ้าหญิงเฟืองซุง แห่งเวียดนาม ประสูติเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1942 (พ.ศ. 2485) เป็นพระราชธิดาองค์รองในสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย กับสมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟือง ปัจจุบันทรงประทับในฝรั่งเศส และยังไม่ได้อภิเษกสมรส
เจ้าชายบ๋าวทั้ง
เจ้าชายบ๋าวทั้งในพระราชพิธีศพของพระราชชนก สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย
เจ้าชายบ๋าวทั้ง ประสูติเมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1943 (พ.ศ. 2486) ที่เมืองด่าหลัต จังหวัดเลิมด่ง ประเทศเวียดนาม พระโอรสองค์สุดท้ายในสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย และสมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟือง โดยหลังจากที่มกุฎราชกุมารบ๋าวลอง ซึ่งเป็นพระเชษฐา (พี่ชาย) ของพระองค์ ได้สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ก็ได้อ้างสิทธิในพระราชบัลลังก์เวียดนามต่อจากพระเชษฐา ปัจจุบันทรงประทับในฝรั่งเศส และยังไม่ได้อภิเษกสมรส
นอกจากพระราชโอรส-ธิดาที่เกิดจากสมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟืองแล้ว ยังมีพระราชโอรส-ธิดา ที่เกิดจากพระสนมและพระชายาอีกอื่นๆอีก ได้แก่
เจ้าหญิงเฟืองถาว
เจ้าหญิงเฟืองถาว
เจ้าหญิงเฟืองถาว ประสูติเมื่อปี ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489) เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย และพระสนมฮหว่างเตี๋ยวลาน ปัจจุบันคาดว่า อาจจะประทับที่ฝรั่งเศส
ส่วนพระราชโอรส-ธิดาองค์อื่นๆก็ได้แก่ เจ้าหญิงเฟืองมิญ (1949-2012), เจ้าชายบ๋าวเอิน (ประสูติปี 1953), เจ้าชายบ๋าวฮหว่าง (1954 - 1955), เจ้าชายบ๋าวเซิน (1957 - 1987), เจ้าหญิงเฟืองตื่อ รวมทั้งพระราชโอรสลูกครึ่งฝรั่งเศส คือ ปาทริก เอดเวิร์ด บล็อก
ภาพรวม
กลุ่มพระราชโอรส-ธิดา ในพระราชพิธีศพของสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย จากขวาไปซ้าย:มกุฎราชกุมารบ๋าวลอง,เจ้าหญิงเฟืองมาย,เจ้าหญิงเฟืองเลียน,เจ้าหญิงเฟืองซุง และ เจ้าชายบ๋าวทั้ง
พระราชโอรส-ธิดา เกือบส่วนใหญ่ ต่างพึงพอใจใช้ชีวิตอย่างสามัญชน แต่บางครั้งก็จะออกมาพบปะกันในงานพิธีต่างๆ ตามคำสั่งเสียของสมเด็จพระจักรพรรดิได้กล่าวไม่ให้ลูกหลานยุ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ดังนั้นแล้ว ในปัจจุบัน เราจึงไม่ค่อยได้ยินชื่อของราชวงศ์เหงียนตามข่าวหรือตามอินเตอร์เน็ตแต่อย่างใด
*************************
กระทู้เก่าเกี่ยวกับราชวงศ์ลาว
http://ppantip.com/topic/35438382
กระทู้เกี่ยวกับราชวงศ์พม่า
http://ppantip.com/topic/35452376
เชื้อสายของจักรพรรดิบ๋าวดั่ย จักรพรรดิองค์สุดท้ายของเวียดนาม
ผู้สนใจเรื่องราวของประเทศเวียดนามหลายๆท่าน คงพอทราบดีอยู่แล้วว่า ปี ค.ศ. 1945 หรือ พ.ศ. 2488 นั้น หลังจากที่ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามโลกไม่นาน รัฐบาลของเวียดนาม นำโดยจักรพรรดิบ๋าวดั่ย ได้ประกาศสละราชสมบัติ มอบอำนาจและอาญาสิทธิ์ให้กับชายที่ชื่อว่า โฮจิมินห์ ให้ขึ้นเป็นผู้นำเวียดนาม แม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นการล้มล้างอำนาจของราชวงศ์ แต่ก็ถือว่าเป็นการประนีประนอมกันอย่างดี เพราะไม่มีเหตุท่าทีรุนแรงใดๆเลยแม้แต่น้อย ทั้งก่อนหน้า ขณะเกิด และหลังจากนั้น ตรงกันข้ามกับยุคที่จักรพรรดิบ๋าวดั่ยได้ขึ้นเป็นประมุขรัฐของเวียดนามใต้ ที่ได้มีการต่อต้านจักรพรรดิทั้งการประท้วง โฆษณาชวนเชื่อ และการลงประชามติให้เป็นสาธารณรัฐ ซึ่งมีการโกงเลือกตั้ง คือ มีจำนวนผู้เลือกโหวตให้เวียดนามใต้เป็นสาธารณรัฐ เกินกว่าจำนวนผู้ที่มีสิทธิ์ แต่ด้วยเหตุผลใดๆก็ตามแล้ว ก็ล้วนแต่เป็นจุดจบของระบอบจักรพรรดิในเวียดนาม ซึ่งในยุคนั้น เอเชียเหลือจักรพรรดิเพียงแค่ 2 พระองค์ คือ เวียดนาม และ ญี่ปุ่น
หากกล่าวถึงสมเด็จพระจักรพรรดิของราชวงศ์เหงียน ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของเวียดนามแล้ว ในปัจจุบัน สามารถแบ่งได้เป็น 2 สายหลัก คือ สายของเจี้ยนไท่หวัง (หรือสำเนียงเวียดนามคือ เกี้ยนท้ายเหวือง) กับ รุ่นไท่หวัง (หรือสำเนียงเวียดนามคือ ถวั่ยท้ายเหวือง) ซึ่งสายของจักรพรรดิบ๋าวดั่ย อยู่ในสายของเจี้ยนไท่หวัง ส่วนสายของรุ่ยไท่หวังที่อยู่รุ่นเดียวกับจักรพรรดิบ๋าวดั่ยนั้น คือ จักรพรรดิสุยเติน จักรพรรดิองค์ที่ 11 (พระราชชนกของจักรพรรดิบ๋าวดั่ย คือ จักรพรรดิขายดิ่ญ หรือที่คนไทยติดปากว่า จักรพรรดิกะเทย เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 12 ที่มันแปลกๆเพราะว่า คนเลือกคือฝรั่งเศส ที่เลือกตามใจตัวเอง มากกว่าตามลำดับสันตติวงศ์ที่แท้จริง เพราะพวกนี้ชอบจักรพรรดิเด็กหรือจักรพรรดิที่เข้าข้างพวกตนเอง จะได้เชิดง่ายๆ)
สมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟือง
สายที่จะกล่าวถึง คือสายของจักรพรรดิบ๋าวดั่ยโดยตรงครับ ตามประวัติเล่าว่าพระองค์มีพระราชโอรส-ธิดา และ พระชายาหลายๆคน ผมจะเรียงตามลำดับความสำคัญของพระชายาก่อน ตามด้วยลำดับการประสูติครับ
มกุฎราชกุมารบ๋าวลอง
มกุฎราชกุมารบ๋าวลองสมัยหนุ่ม
มกุฎราชกุมารบ๋าวลอง เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ของสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ยกับจักรพรรดินีนามเฟือง ทรงประสูติเมื่อวันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 1936 (พ.ศ. 2478 หากนับแบบเก่า) พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นมกุฏราชกุมารในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2481 หากนับแบบเก่า) พระองค์ยังเคยเสด็จในพระราชพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบทที่ 2 ด้วย ด้านชีวิตความรัก พระองค์เคยอภิเษกสมรสกับแม่ม่ายลูกติดชื่อว่า Thérèse Marie Delanne นักออกแบบภายใน ทรงสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนร็อช (Roches School) ในนอร์ม็องดี หลังจากนั้นจึงเสด็จไปศึกษาต่อทางด้านกฎหมายและวิทยาศาสตร์การเมือง ณ กรุงปารีส พระองค์ทรงเข้าร่วมในกองทหารต่างด้าว (French Foreign Legion) เป็นเวลา 10 ปี ก่อนเสด็จกลับกรุงปารีส และตลอดพระชนม์ชีพที่เหลือ ทรงทำอาชีพเกี่ยวกับวาณิชธนกิจ หรือการธนาคาร หลังการสวรรคตของสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย ทรงได้ขึ้นเป็นผู้นำราชวงศ์เหงียน แต่พระราชชนก รับสั่งไว้ว่า "อย่ายุ่งกับการเมืองในเวียดนามเด็ดขาด" พระองค์สิ้นพระชนม์ในวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ไร้พระราชโอรส-ธิดา
เจ้าหญิงเฟืองมาย
เจ้าหญิงเฟืองมายในพระราชพิธีศพของพระราชชนก สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย
เจ้าหญิงเฟือง มาย ประสูติเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1937 (พ.ศ. 2480) ที่เมืองด่าหลัต ประเทศเวียดนาม เป็นพระราชธิดาองค์โตในสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย กับสมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟือง ในปี ค.ศ. 1947 (พ.ศ. 2490) สมเด็จพระจักรพรรดินีนาม เฟือง ได้เสด็จออกจากเวียดนามพร้อมพระโอรส-ธิดา มาที่ Château Thorens นอกเมืองกาน ประเทศฝรั่งเศส โดยได้ทรงศึกษาต่อในประเทศฝรั่งเศส และไม่เคยเสด็จกลับประเทศเวียดนามอีกเลย ในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1971 เจ้าหญิงเฟือง มาย ได้อภิเษกสมรสกับปีเอโตร บาโดลโย ดยุกที่ 2 แห่งแอดดิสอาบาบา และมาร์ควิสแห่งซาโบตีโน มีบุตร-ธิดาด้วยกัน 2 คนคือ ฟลาวีโอ บาโดลโย ดยุกที่ 3 แห่งแอดดิสอาบาบา และ มานูเอลา บาโดลโย เดย์ ดูกี เด แอดดิสอาบาบา ปัจจุบันพระสวามีสิ้นพระชนม์แล้วตั้งแต่ปี ค.ศ 1992 (พ.ศ. 2535) และทรงยังอยู่ในประเทศฝรั่งเศสอยู่
เจ้าหญิงเฟืองเลียน
เจ้าหญิงเฟืองเลียนในพระราชพิธีศพของพระราชชนก สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย
เจ้าหญิงเฟือง เลียน ประสูติเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1938 (พ.ศ. 2481) เป็นพระราชธิดาองค์รองในสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย กับสมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟือง ในปี ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) เจ้าหญิงเฟือง เลียนได้สมรสกับนายธนาคารชื่อแบร์นาร์ มอริส ซูแล็งในเมืองคอบิกยัก ประเทศฝรั่งเศส มีพระธิดา 2 คน ได้แก่ วาเลรี ซูแล็ง และการอลีน ซูแล็ง
เจ้าหญิงเฟืองซุง
เจ้าหญิงเฟืองซุงในพระราชพิธีศพของพระราชชนก สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย
เจ้าหญิงเฟืองซุง แห่งเวียดนาม ประสูติเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1942 (พ.ศ. 2485) เป็นพระราชธิดาองค์รองในสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย กับสมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟือง ปัจจุบันทรงประทับในฝรั่งเศส และยังไม่ได้อภิเษกสมรส
เจ้าชายบ๋าวทั้ง
เจ้าชายบ๋าวทั้งในพระราชพิธีศพของพระราชชนก สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย
เจ้าชายบ๋าวทั้ง ประสูติเมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1943 (พ.ศ. 2486) ที่เมืองด่าหลัต จังหวัดเลิมด่ง ประเทศเวียดนาม พระโอรสองค์สุดท้ายในสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย และสมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟือง โดยหลังจากที่มกุฎราชกุมารบ๋าวลอง ซึ่งเป็นพระเชษฐา (พี่ชาย) ของพระองค์ ได้สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ก็ได้อ้างสิทธิในพระราชบัลลังก์เวียดนามต่อจากพระเชษฐา ปัจจุบันทรงประทับในฝรั่งเศส และยังไม่ได้อภิเษกสมรส
นอกจากพระราชโอรส-ธิดาที่เกิดจากสมเด็จพระจักรพรรดินีนามเฟืองแล้ว ยังมีพระราชโอรส-ธิดา ที่เกิดจากพระสนมและพระชายาอีกอื่นๆอีก ได้แก่
เจ้าหญิงเฟืองถาว
เจ้าหญิงเฟืองถาว
เจ้าหญิงเฟืองถาว ประสูติเมื่อปี ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489) เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย และพระสนมฮหว่างเตี๋ยวลาน ปัจจุบันคาดว่า อาจจะประทับที่ฝรั่งเศส
ส่วนพระราชโอรส-ธิดาองค์อื่นๆก็ได้แก่ เจ้าหญิงเฟืองมิญ (1949-2012), เจ้าชายบ๋าวเอิน (ประสูติปี 1953), เจ้าชายบ๋าวฮหว่าง (1954 - 1955), เจ้าชายบ๋าวเซิน (1957 - 1987), เจ้าหญิงเฟืองตื่อ รวมทั้งพระราชโอรสลูกครึ่งฝรั่งเศส คือ ปาทริก เอดเวิร์ด บล็อก
ภาพรวม
กลุ่มพระราชโอรส-ธิดา ในพระราชพิธีศพของสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าวดั่ย จากขวาไปซ้าย:มกุฎราชกุมารบ๋าวลอง,เจ้าหญิงเฟืองมาย,เจ้าหญิงเฟืองเลียน,เจ้าหญิงเฟืองซุง และ เจ้าชายบ๋าวทั้ง
พระราชโอรส-ธิดา เกือบส่วนใหญ่ ต่างพึงพอใจใช้ชีวิตอย่างสามัญชน แต่บางครั้งก็จะออกมาพบปะกันในงานพิธีต่างๆ ตามคำสั่งเสียของสมเด็จพระจักรพรรดิได้กล่าวไม่ให้ลูกหลานยุ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ดังนั้นแล้ว ในปัจจุบัน เราจึงไม่ค่อยได้ยินชื่อของราชวงศ์เหงียนตามข่าวหรือตามอินเตอร์เน็ตแต่อย่างใด
*************************
กระทู้เก่าเกี่ยวกับราชวงศ์ลาว
http://ppantip.com/topic/35438382
กระทู้เกี่ยวกับราชวงศ์พม่า
http://ppantip.com/topic/35452376